KSL แจก warrant
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 30, 2008 6:56 pm
KSL แจก warrant ฟรีแต่ค่าแปลงสิทธิประมาณ 17 บาท ใครช่วยวิเคราะห์หน่อยครับว่าเค้าทำอะไร ตอนนี้ราคาตลาดแค่ 13.6 ทำไมราคาแปลงสิทธิตั้ง 17บาทครับ
เว็บบอร์ดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้น วีไอ แนวทางลงทุน คลังความรู้หุ้นวีไอ แหล่งรวมนักลงทุนหุ้นวีไอที่ใหญ่ที่สุด พร้อมรับสมาชิก VIP มีหมวดลงทุน ร้อยคนร้อยหุ้น คอมเม้นและข้อมูลดีๆ จากนักลงทุนเน้นคุณค่าผู้มีประสบการณ์ ข้อมูล Oppday ของหุ้นวีไอ
https://v3.thaivi.org/
อันนี้เป็นเหตุผลของการแจก W ครับหลักทรัพย์ KSL
แหล่งข่าว KSL
หัวข้อข่าว แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
วันที่/เวลา 28 มี.ค. 2551 13:56:00
วันที่ 28 มีนาคม 2551
เรื่อง แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
เรียน กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัท
ครั้งที่ 2/2551 ในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2551 มีมติที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ดังต่อไปนี้
1. พิจารณาและอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ โดยเสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
ประธานเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
สามัญของบริษัท ("ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ") จำนวนไม่เกิน 155,000,000 หน่วย โดยเสนอ
ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัททั้งจำนวน ใน[b]สัดส่วน 10 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดง
สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท 1 หน่วย (ถ้ามีเศษหุ้นให้ปัดทิ้ง) ในราคาหน่วยละ 0 บาท[/b]
(ศูนย์บาท) ทั้งนี้ ลักษณะสำคัญเบื้องต้นของใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ดังกล่าว ตลอดจน
การขออนุมัติมอบหมายอำนาจ ปรากฏตามเอกสารแนบ 1
ที่ประชุมพิจารณาแล้วอนุมัติตามที่ประธานเสนอ พร้อมทั้งเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พิจารณาอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ และการมอบหมายอำนาจต่อไป
2. พิจารณาและอนุมัติการลดทุนจดทะเบียน โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำ
ออกจำหน่าย และการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4. เพื่อให้
สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
ประธานชี้แจงต่อที่ประชุมว่า เพื่อการพิจารณาเกี่ยวกับการเพิ่มทุนต่อไป จึงต้องเสนอ
ให้ที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การลดทุนจดทะเบียนจาก [1,600,000,000] บาท เป็น [1,550,000,000] บาท
โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน [50,000,000] หุ้น
มูลค่าหุ้นละ [1] บาท
(2) การแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4. เรื่องทุนจดทะเบียน
เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน โดยให้ยกเลิกข้อความเดิมและให้ใช้
ข้อความดังต่อไปนี้แทน
["ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 1,550,000,000 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยห้าสิบล้านบาท)
แบ่งออกเป็น 1,550,000,000 หุ้น (หนึ่งพันห้าร้อยห้าสิบล้านหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 1,550,000,000 หุ้น (หนึ่งพันห้าร้อยห้าสิบล้านหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น ( - หุ้น)"]
ที่ประชุมพิจารณาแล้วอนุมัติตามที่ประธานเสนอ พร้อมทั้งเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พิจารณาอนุมัติต่อไป
3. พิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท และการแก้ไขเพิ่มเติม
หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน
ประธานเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,550,000,000 บาท เป็น 1,705,000,000 บาท โดยการ
ออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 155,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
(2) การแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4. เรื่องทุนจดทะเบียน เพื่อให้
สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยให้ยกเลิกข้อความเดิมและให้ใช้ข้อความ
ดังต่อไปนี้แทน
["ข้อ 4. ทุนจดทะเบียนจำนวน 1,705,000,000 บาท (หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าล้านบาท)
แบ่งออกเป็น 1,705,000,000 หุ้น (หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าล้านหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 1,705,000,000 หุ้น (หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าล้านหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น ( - หุ้น)"]
ที่ประชุมพิจารณาแล้วอนุมัติตามที่ประธานเสนอ พร้อมทั้งเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พิจารณาอนุมัติต่อไป
4. พิจารณาและอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ของบริษัท
ประธานเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน
155,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญ
แสดงสิทธิฯ ของบริษัทที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามที่ได้รับอนุมัติในวาระอื่น ๆ
ที่ประชุมพิจารณาแล้วอนุมัติตามที่ประธานเสนอ พร้อมทั้งเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พิจารณาอนุมัติต่อไป
5. พิจารณาและอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการใช้
สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
ประธานเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในกรณีที่
สิ้นสุดระยะเวลาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตาม
วาระอื่น ๆ หากไม่มีการใช้สิทธิไม่ว่าด้วยเหตุใดอันเป็นผลให้มีหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้เพื่อ
รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ดังกล่าวเหลืออยู่ให้จัดสรรหุ้นส่วนที่เหลือ
เสนอขายให้แก่นักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงไม่เกิน 35 ราย และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
ตามประกาคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนอนุมัติ
มอบหมายให้คณะกรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท หรือบุคคลที่
คณะกรรมการ หรือกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทมอบหมาย มีอำนาจดังต่อไปนี้
(1) เสนอขายหรือขายหุ้นสามัญที่เหลือดังกล่าวไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่ง
อาจจะออกเสนอขายหรือขายครั้งเดียวเต็มจำนวน หรือแบ่งจำนวนเพื่อเสนอขาย
หรือขายเป็นคราวๆ ไป
(2) กำหนด และ/หรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดหรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการเสนอขาย
หรือขายหุ้น เช่น ราคา ระยะเวลา วิธีการ ตลอดจนรายละเอียดหรือเงื่อนไขอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหรือขายหุ้นดังกล่าว
(3) ดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องได้ทุกประการเพื่อให้การจัดสรรและเสนอ
ขาย หรือขายหุ้นสามัญที่เหลือจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ดังกล่าว
สำเร็จลุล่วง
ที่ประชุมพิจารณาแล้วอนุมัติตามที่ประธานเสนอ พร้อมทั้งเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญ และการมอบหมายอำนาจต่อไป
6. กำหนดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 ในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.
2551 สถานที่ อาคาร เค.เอส. แอล. ทาวเวอร์ ชั้น 17 เลขที่ 503 ถนนศรีอยุธยา
แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เวลา 10.00 น. โดยกำหนดให้มี
ระเบียบวาระการประชุมดังต่อไปนี้
วาระที่ 1 พิจารณารับรองรายงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551
วาระที่ 2 พิจารณารับรองการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติลดทุนจดทะเบียน
วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
วาระที่ 5 พิจารณาจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิฯของบริษัท
วาระที่ 6 พิจารณาจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการใช้สิทธิของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิฯที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
วาระที่ 7 เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
ทั้งนี้คณะกรรมการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วม
ประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2551 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
(นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)
เอกสารแนบ 1
ลักษณะสำคัญเบื้องต้นของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
ของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1
ประเภทของหลักทรัพย์ : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท น้ำตาล
ขอนแก่น จำกัด
(มหาชน) ครั้งที่ 1
ชนิด : ระบุชื่อผู้ถือ และสามารถโอนเปลี่ยนมือได้
จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ : ไม่เกิน 155,000,000 หน่วย
ออกและเสนอขาย
วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ : ภายใน 6 เดือน หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หรือภายในระยะเวลาที่ได้รับผ่อนผันจากสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งต้องไม่เกิน 12 เดือนนับเเต่วันที่สำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เเจ้งผลการอนุญาต
อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ : 2 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
ราคาเสนอขายต่อหน่วย : หน่วยละ 0 บาท (ศูนย์บาท)
วิธีการเสนอขายใบสำคัญ : เป็นการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิเสนอขายให้แก่
แสดงสิทธิ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุด
ทะเบียนผู้ถือหุ้น ในวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น
สามัญของบริษัท เพื่อสิทธิในการรับใบสำคัญแสดงสิทธิ
ซึ่งคณะกรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท
หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ หรือ
กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท จะกำหนดต่อไป
ภายหลังจากที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายใบสำคัญแสดง
สิทธิจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์ ในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญเดิม
ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในกรณีที่มีเศษของหุ้นสามัญเดิมเหลือจากการคำนวณ
ตามอัตราส่วนการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
ให้ปัดเศษหุ้นส่วนที่เหลือทิ้งทั้งจำนวน
จำนวนหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้ : 155,000,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท)
เพื่อรองรับการใช้สิทธิตาม คิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว
ใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งหมดของบริษัท จำนวน 1,550,000,000 หุ้น
ณ วันที่ 31 มกราคม 2551
อัตราการใช้สิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยมีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ
ใหม่ของบริษัท ได้ 1 หุ้น (เว้นแต่กรณีมีการปรับอัตรา
การใช้สิทธิตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ)
ราคาการใช้สิทธิที่จะซื้อ : [b]17 บาท ต่อหุ้น เว้นแต่กรณีมีการปรับราคาการใช้สิทธิ[/b]
หุ้นสามัญ ตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ
ระยะเวลาเสนอขาย : ภายใน 6 เดือน หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หรือภายในระยะเวลาที่ได้รับผ่อนผันจากสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งต้องไม่เกิน 12 เดือนนับเเต่วันที่สำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เเจ้งผลการอนุญาต
ระยะเวลา และเงื่อนไข : ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญ
การใช้สิทธิ แสดงสิทธิครั้งแรกได้หลังหนึ่งปีนับแต่วันที่ออก
ใบสำคัญแสดงสิทธิ ("วันเริ่มใช้สิทธิ") โดยวัน
กำหนดการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ คือ วันทำ
การสุดท้ายของเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และ
ธันวาคม ภายหลังจากวันเริ่มใช้สิทธิ ตลอดอายุของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิ ("วันกำหนดการใช้สิทธิ") และวัน
กำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายจะตรงกับวันครบกำหนด
ระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในกรณีที่วันกำหนดการใช้สิทธิตรงกับวันหยุดทำการ
ของบริษัท ให้เลื่อนวันกำหนดการใช้สิทธิดังกล่าวเป็น
วันทำการถัดไป ในกรณีที่วันกำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
ตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทให้เลื่อนวันกำหนดใช้
สิทธิครั้งสุดท้ายดังกล่าวเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหน้า
วันกำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้ายดังกล่าว ทั้งนี้ การใช้สิทธิ
ครั้งสุดท้ายต้องมีระยะเวลาให้แสดงความจำนงการใช้
สิทธิดังกล่าวไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้ง
สุดท้าย โดยให้คณะกรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลง
นามของบริษัท หรือบุคคลที่คณะกรรมการ หรือ
กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทมอบหมายเป็น
ผู้พิจารณากำหนดการใช้สิทธิครั้งแรก และการใช้สิทธิ
ครั้งสุดท้ายต่อไป
ทั้งนี้ ในกรณีที่สิ้นสุดระยะเวลาใช้สิทธิตามใบสำคัญ
แสดงสิทธิดังกล่าว หากมีใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวนที่
เหลือจากการใช้สิทธิ บริษัทจะดำเนินการยกเลิก
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่เหลืออยู่ทั้งจำนวน
ตลาดรองของใบสำคัญ : บริษัทจะนำใบสำคัญแสดงสิทธิไปจดทะเบียนเป็น
แสดงสิทธิ หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย
ตลาดรองของหุ้นสามัญที่ : บริษัทจะนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ
เกิดจากการใช้สิทธิแปลง ในครั้งนี้ไปจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน
สภาพ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น : 1. ด้านการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิออก
เสียง (Control Dilution)
ผลกระทบต่อสัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิออกเสียง
ผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของ
สัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิออกเสียง ในขณะออก
และเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิเนื่องจากเป็นการ
เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตาม
สัดส่วนการถือหุ้น อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้สิทธิ
ซื้อหุ้น ครบถ้วนตามใบสำคัญแสดงสิทธิโดยบุคคล
อื่นที่ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดิมทั้งจำนวนจะทำให้สัดส่วน
การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมลดลงเท่ากับร้อยละ
9.09
2. ด้านการลดลงของราคาหุ้น (Price Dilution)
ผลกระทบเมื่อมีการออกและเสนอขายใบสำคัญ
แสดงสิทธิ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ราคาตลาดของหุ้นจะ
ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากราคาใช้สิทธิสูงกว่า
ราคาตลาด (Out of Money) ทั้งนี้ราคาปิดของหุ้น
ที่ซื้อขายกัน ณ วันที่ 27 มีนาคม 2551 เท่ากับ
13.50 บาทต่อหุ้น (1 วันทำการก่อนวันที่
คณะกรรมการบริษัทมีมติ) อย่างไรก็ตาม ราคา
ตลาดที่จะใช้ในการคำนวณผลกระทบต่อราคาหุ้น
(Price Dilution) คือ ราคาปิด ณ วันปิดสมุด
ทะเบียนพักการโอนหุ้น (XR)
3. ด้านการลดลงของส่วนแบ่งกำไร (EPS Dilution)
ผลกระทบต่อส่วนแบ่งกำไร เมื่อมีการออกและ
เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
จะทำให้กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานของบริษัทลดลง
ประมาณร้อยละ 9.09 เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น
ขั้นพื้นฐาน สำหรับปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม
2550 ที่ 835.86 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.54 บาท
ต่อหุ้น
เงื่อนไขการปรับสิทธิ : บริษัทจะดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตรา
การใช้สิทธิตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ เมื่อเกิด
เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ตามประกาศคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 13/2547
เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขาย
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ออกใหม่และหุ้นที่ออก
ใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ ลงวันที่
9 กุมภาพันธ์ 2547 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในกรณีของการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินนั้น จะมีการ
ปรับสิทธิเมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดเกินกว่า
อัตราร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และ
สำรองตามกฎหมายแล้วของงบการเงินรวมของบริษัท
สำหรับการดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใด ๆ ตลอด
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ
เงื่อนไขอื่น ๆ : หลักเกณฑ์ ข้อกำหนด เงื่อนไข จำนวน และ
รายละเอียดอื่นๆ ของใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมทั้งเหตุให้
ต้องออกหุ้นใหม่เพื่อรองรับการปรับราคาการใช้สิทธิ
และ/หรืออัตราการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ระยะเวลาเสนอขาย วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้อยู่
ในดุลยพินิจของคณะกรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลง
นามของบริษัท หรือบุคคลที่คณะกรรมการ หรือ
กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทมอบหมายเป็นผู้มี
อำนาจในการพิจารณากำหนดตามที่เห็นสมควรและ
มอบหมายนอกจากนี้ ให้คณะกรรมการ กรรมการผู้มี
อำนาจลงนามของบริษัท หรือบุคคลที่คณะกรรมการ
หรือ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทมอบหมาย
เป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการขออนุญาตออกและ
เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และการนำใบสำคัญแสดงสิทธิเข้าจดทะเบียนต่อตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งมีอำนาจในการ
กำหนดหรือแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด
เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออก
และเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อให้การขอ
อนุญาตเป็นไปตามกฎหมายและ/หรือประกาศของ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้มีอำนาจพิจารณาไม่
ดำเนินการเสนอขาย ยกเลิกการเสนอขาย หรือขอผ่อน
ผันระยะเวลาการเสนอขาย ตามที่เห็นสมควร หรือ
เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ ตลาดเงิน หรือ
ตลาดทุน ตามแต่กรณี
สาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะจะย้ายโรงงานน้ำตาลนิวksl ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี
หลักทรัพย์ KSL
แหล่งข่าว KSL
หัวข้อข่าว บริษัทย่อยลงทุนเพิ่ม
วันที่/เวลา 28 มี.ค. 2551 13:40:00
บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)
503 อาคาร เค เอส แอล ทาวเวอร์ ชั้น 9
ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
28 มีนาคม 2551
เรื่อง การลงทุนในโครงการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลขนาด 14,000 ตันอ้อยต่อวัน โรงงานเอทานอล
ขนาด 200,000 ลิตรต่อวัน โรงไฟฟ้าขนาด 45 MW โรงงานปุ๋ยที่ประเทศไทย
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL) ขอแจ้งให้ทราบว่า ตามที่บริษัทย่อยได้รับ
อนุญาตจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ย้ายและขยายกำลังการผลิตโรงงานน้ำตาลเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม
2550 ภายหลังจากที่มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและความเสี่ยงต่างๆ ในรายละเอียดแล้ว
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2551 มีมติให้บริษัทย่อยลงทุนใน
(1) โครงการโรงงานน้ำตาลขนาด 14,000 ตันอ้อยต่อวัน
(2) โรงงานเอทานอลขนาด 200,000 ลิตรต่อวัน
(3) โรงไฟฟ้าขนาด 45 MW
(4) โรงงานผลิตปุ๋ย
โดยมีรายละเอียดของรายการดังต่อไปนี้
1. วันเดือนปี ที่ทำรายการ : ปี 2551 - ปี 2553
2. คู่สัญญาที่ทำรายการ :
ผู้ซื้อ : บริษัทย่อย ของ น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)
ผู้ขาย : บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL) และบริษัทย่อย
(รายการดังกล่าว ไม่เข้าข่ายรายการที่เกี่ยวโยงกัน สืบเนื่องจากไม่มีบุคคลที่เกี่ยวโยง
กันของบริษัทจดทะเบียน ถือหุ้นในบริษัทย่อยเกินกว่า 10% ในบริษัทย่อย)
บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักร บริษัทผู้รับเหมาติดตั้ง และบริษัทขนส่ง
3. ประเภทและขนาดของรายการ :
รายการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลขนาด 14,000 ตันอ้อยต่อวัน 1 โรง โรงงานเอทานอลขนาด
200,000 ลิตรต่อวัน 1 โรง โรงไฟฟ้าขนาด 45 MW 1 โรง และโรงงานผลิตปุ๋ย 1 โรง ที่จังหวัด
สระแก้ว หรือ จังหวัดกาญจนบุรี มูลค่าลงทุนในการก่อสร้างโรงงาน ประมาณ 4,300 ล้านบาท
ซึ่งครอบคลุมถึง มูลค่าเครื่องจักร งานโยธา งานโครงสร้าง งานติดตั้ง งานขนย้าย และ
สิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเดินเครื่องจักร
ขนาดของรายการดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 27.50 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น
จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มกราคม 2550 (มูลค่าสินทรัพย์รวม เท่ากับ 16,365 ล้าน
บาท) เมื่อรวมรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทและบริษัทย่อยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มีขนาด
รายการรวมมากกว่าร้อยละ 15.0 จึงเข้าข่ายรายการตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
หลักเกณฑ์ วิธีการ การเปิดเผยเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน
ซึ่งบริษัท จะรายงานและเปิดเผยรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ทันที และจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน
21 วันนับแต่วันแจ้งตลาดหลักทรัพย์
4. เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดมูลค่าการลงทุน
มูลค่าการลงทุน เป็นไปตามราคาตลาดหรือตามราคาที่ตกลงกันในแต่ละรายการ โดยเทียบเคียง
กับราคากลางที่ประมาณการของบริษัท
5. แหล่งเงินทุนที่ใช้
มาจากเงินทุนของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ส่วนเงินกู้ยืมมาจาก
สถาบันการเงิน และการออกตราสารหนี้
6. ประโยชน์ที่เกิดแก่บริษัทจดทะเบียน
เป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจโรงงานน้ำตาล โรงงานเอทานอล โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า และ
โรงงานปุ๋ย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ฯ
7. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการมีมติเห็นชอบในการลงทุนดังกล่าว ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจหลัก
ของบริษัท
8. ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบ / หรือกรรมการของบริษัทที่แตกต่างจากความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการบริษัท
- ไม่มี -
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)