หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 29, 2008 12:50 pm
โดย ปรัชญา
ผมว่ามีการเอาเปรียบด้านเทคนิค  กันไม่น้อย

ยิ่งกว่าการเข้าคิวถือใบจอง  ที่ต้องไปเข้าแถว

เพราะการกรอกข้อมูลทางคอมฯ
การเปิดรับข้อมูล
การไม่เปิดช่องของข้อมูล
การเดินทางของข้อมูล

และลูกค้าต่างจังหวัด
ใครมีแง่คิด  มุมมองมาแชร์กันครับ

Re: การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 29, 2008 1:23 pm
โดย ก้อนหิน
ปรัชญา เขียน:ผมว่ามีการเอาเปรียบด้านเทคนิค  กันไม่น้อย

ยิ่งกว่าการเข้าคิวถือใบจอง  ที่ต้องไปเข้าแถว

เพราะการกรอกข้อมูลทางคอมฯ
การเปิดรับข้อมูล
การไม่เปิดช่องของข้อมูล
การเดินทางของข้อมูล

และลูกค้าต่างจังหวัด
ใครมีแง่คิด  มุมมองมาแชร์กันครับ
มันอยู่ที่ทาง บริษัท หรือ under writer เค้าจะตั้งกฏในการ Random ครับ ในการ Random แต่ละครั้งใช้กฏไม่เหมือนกันครับ

อย่างบางบริษัท เ้ค้าจะมีการจำกัดวงเงิน จำกัดจำนวนใบจอง

เข้าใจว่าของ ESSO ไม่มีนะครับ ทำให้คนที่ส่งใบจองจำนวนมาก แล้วก็ด้วยวงเงินเยอะก็จะได้เปรียบกว่าครับ

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 29, 2008 1:37 pm
โดย ปรัชญา
มีคนที่รู้จักประมาณ30คน  
จองตั้งแต่หลักพัน  ถึงหลักแสน  ไม่มีใครมีชื่อติดเลยสักคน
ทั้งที่   BBL  KTB
มันแปลกดีครับ

เคยคุยกันว่าเข้าตลาดหาก10บาทราคาจอง  ปันผล1บาท
ตามที่หนังสือพิมพ์ลงข่าว  โอ้ผลตอบแทน10%
ท่าทางจะได้ทั้งเงินปันผล  และส่วนต่างราคา
ผมจองแค่1พันหุ้น  ก็ไม่ได้เหมือนกัน

ซดแต่น้ำแห้ว
(มีคนบอกว่าเปลี่ยนชื่อจากแห้ว  มาเรียก  สมหวังแล้วนา)

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 29, 2008 1:51 pm
โดย ปรัชญา
ก้อนหิน เขียน:คือ ผมว่าการ limit ใบจอง กับ จำนวนนี่มีผลมากนะครับ เทียบกับ กฏการ Random ของ Top นี่โอกาส จะกระจายสู่มือรายย่อยสูงกว่าเยอะเลย

ผมเคยเจอ  หุ้นที่เปิดให้เข้ารับฟังข้อมูลจากบริษัท
แล้วถ้านักลงทุนเข้าฟัง  จะได้หุ้นจองกันคนละ200หุ้น

ผมว่าถ้าทำแบบนั้นได้ก็น่าจะดีกว่า


ขอเสนอไอเดีย
แบบเปิดพบประชาชน  ทั้ง4ภาค
ภาคละรับหุ้นจองได้1000คน  ค่าร่วมรับฟังคนละ200บาท
มีสิทธิ์จองหุ้น  500-1000หุ้น  

ประชาขนอยากได้  ก็ไปรับหนังสือชี้ชวน

แต่ที่เห็นจองผ่านแบ๊งค์  กรอกข้อมูลใส่คอมพิวเตอร์
ใครมีพวก  ใครเป็นคนพิเศษ  ก็ใส่ข้อมูลไว้ต้นๆ
คนไม่สำคัญ  ไม่มีคนรู้จักเอาไว้ท้ายๆ
เทคนิค  อำนวยความสะดวก  อีกเยอะแยะ



มันไม่โปร่งใส  มั้งครับ

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 29, 2008 2:19 pm
โดย krisy
random ในกล่องมืดๆใบหนึ่ง ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น น่าจะตุกติกทางเทคนิคได้นะคะ

จริงๆถ้าจองแบบ first in first out ใครไปก่อนก็ทราบไปเลยว่าได้หรือเปล่า หรือตอนนี้เราจองเป็นตัวสำรองอยู่ น่าจะแฟร์กว่า ราคาค่อยว่ากันอีกที เพราะทุกคนก็ทราบราคาเพดานกันอยู่แล้ว

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 29, 2008 3:09 pm
โดย ก้อนหิน
ลำดับการจองไม่มีผลต่อการ Random นะครับ
แล้ว code ที่ใช้ในการ Random ก็ผ่านการ audit จาก กลต ครับ

แต่ การที่จะให้การกระจายของการ Random ดีก็อยู่ที่เกณที่ทางบริษัทที่จะต้องการกระจายหุ้นส่งเข้ามาครับ

อย่างของ ESSO เค้ามีเกณแค่ ขั้นต่ำ 2000 หุ้นเองครับ ดังนั้น ยิ่งจองเยอะยิ่งได้เปรียบครับในกรณีนี้

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 01, 2008 7:59 pm
โดย ปรัชญา
เจอผู้เอาเปรียบแล้ว

มอร์แกนฯฮุบหุ้นเอสโซ่

โพสต์ทูเดย์ — มอร์แกนสแตนเลย์กวาดไอพีโอเอสโซ่เกือบครึ่ง ทุ่ม4,500 ล้านบาทซื้อหุ้นกว่า 13% ผงาดถือหุ้นใหญ่อันดับสองแซงคลัง ให้คำมั่นไม่ขายหุ้นออก 1 ปี

รายงานข่าวจากบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ ESSO เปิดเผยถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ หลังการเสนอขายให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 930,416,600 หุ้น ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัท มอร์แกนสแตนเลย์ (Morgan Stanley & Co. International PLC) จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 แทนกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ มอร์แกนฯ เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 13.50% เพราะจองซื้อหุ้นไอพีโอจำนวน 456.74 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นเม็ดเงินทั้งสิ้น 4,567.40 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการซื้อหุ้นประมาณ 50% ของปริมาณหุ้นที่เสนอขายไอพีโอทั้งหมดกว่า 930 ล้านหุ้น

ขณะที่กลุ่มบริษัทในเครือของ เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 แต่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 65% หรือ 2,199.16 ล้านหุ้น จากเดิมที่ถืออยู่ 87.50% จำนวน 2,283.75 ล้านหุ้น

ส่วนกระทรวงการคลังถือหุ้นอันดับ 3 มีหุ้นเหลือ 253.75 ล้านหุ้น หรือ 7.50% จากก่อนหน้าที่ถือจำนวน 326.25 ล้านบาท หรือ 12.50%

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มบริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอส ชัวรันส์ หรือเอไอเอ จองซื้อหุ้นรวม 29.99 ล้านหุ้น หรือถือหุ้นประมาณ 0.88% และยังมีกองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาวซื้อจำนวน 3.5 ล้านหุ้น ธนาคารออมสินซื้อ 2.66 ล้านหุ้น

บริษัท เอสโซ่ แจ้งว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ไม่นับรวมกระทรวงการคลัง ให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจะไม่นำหุ้นจำนวนดังกล่าวออกจำหน่ายเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นเอสโซ่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (6 พ.ค. 2551)

นอกจากนี้ ยังได้ตกลงกับมอร์แกนสแตนเลย์ ในฐานะผู้ซื้อรายแรก (Initial Purchaser) ว่าจะไม่ขายหุ้นออกมาในช่วง 360 วัน นับจากวันที่มีการส่งมอบเงินค่าขายหุ้นในครั้งนี้แก่บริษัท และกระทรวงการคลัง (Closing Date)

ด้านตลาดหลักทรัพย์ประกาศ รับหุ้น ESSO เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.นี้ โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ ประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ESSO ประกาศจะจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 1 บาท จากกำไรสุทธิปี 2550 ซึ่งคาดว่าจะจัดประชุมคณะกรรมการภายใน 1 เดือนนับจากวันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

สำหรับมอร์แกนฯ ซึ่งเข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 456.74 ล้านหุ้น ก็จะได้รับเงินปันผลทันที 456.74 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกำไรที่อาจจะได้รับจากส่วนต่างราคาหุ้นเมื่อเข้าตลาด

บริษัท เอสโซ่ ตั้งราคาขายหุ้นที่ 10 บาท จากช่วงราคาเบื้องต้น 9-13 บาท โดยจะต้องซื้อหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู) จำนวน 84.5 ล้านหุ้น คืนเอ็กซอน โมบิลฯ เมื่อบริษัทเข้าตลาด

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 01, 2008 10:49 pm
โดย MindTrick
ปรัชญา เขียน:เจอผู้เอาเปรียบแล้ว

มอร์แกนฯฮุบหุ้นเอสโซ่

โพสต์ทูเดย์ — มอร์แกนสแตนเลย์กวาดไอพีโอเอสโซ่เกือบครึ่ง ทุ่ม4,500 ล้านบาทซื้อหุ้นกว่า 13% ผงาดถือหุ้นใหญ่อันดับสองแซงคลัง ให้คำมั่นไม่ขายหุ้นออก 1 ปี

รายงานข่าวจากบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ ESSO เปิดเผยถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ หลังการเสนอขายให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 930,416,600 หุ้น ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัท มอร์แกนสแตนเลย์ (Morgan Stanley & Co. International PLC) จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 แทนกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ มอร์แกนฯ เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 13.50% เพราะจองซื้อหุ้นไอพีโอจำนวน 456.74 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นเม็ดเงินทั้งสิ้น 4,567.40 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการซื้อหุ้นประมาณ 50% ของปริมาณหุ้นที่เสนอขายไอพีโอทั้งหมดกว่า 930 ล้านหุ้น

ขณะที่กลุ่มบริษัทในเครือของ เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 แต่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 65% หรือ 2,199.16 ล้านหุ้น จากเดิมที่ถืออยู่ 87.50% จำนวน 2,283.75 ล้านหุ้น

ส่วนกระทรวงการคลังถือหุ้นอันดับ 3 มีหุ้นเหลือ 253.75 ล้านหุ้น หรือ 7.50% จากก่อนหน้าที่ถือจำนวน 326.25 ล้านบาท หรือ 12.50%

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มบริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอส ชัวรันส์ หรือเอไอเอ จองซื้อหุ้นรวม 29.99 ล้านหุ้น หรือถือหุ้นประมาณ 0.88% และยังมีกองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาวซื้อจำนวน 3.5 ล้านหุ้น ธนาคารออมสินซื้อ 2.66 ล้านหุ้น

บริษัท เอสโซ่ แจ้งว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ไม่นับรวมกระทรวงการคลัง ให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจะไม่นำหุ้นจำนวนดังกล่าวออกจำหน่ายเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นเอสโซ่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (6 พ.ค. 2551)

นอกจากนี้ ยังได้ตกลงกับมอร์แกนสแตนเลย์ ในฐานะผู้ซื้อรายแรก (Initial Purchaser) ว่าจะไม่ขายหุ้นออกมาในช่วง 360 วัน นับจากวันที่มีการส่งมอบเงินค่าขายหุ้นในครั้งนี้แก่บริษัท และกระทรวงการคลัง (Closing Date)

ด้านตลาดหลักทรัพย์ประกาศ รับหุ้น ESSO เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.นี้ โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ ประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ESSO ประกาศจะจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 1 บาท จากกำไรสุทธิปี 2550 ซึ่งคาดว่าจะจัดประชุมคณะกรรมการภายใน 1 เดือนนับจากวันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

สำหรับมอร์แกนฯ ซึ่งเข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 456.74 ล้านหุ้น ก็จะได้รับเงินปันผลทันที 456.74 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกำไรที่อาจจะได้รับจากส่วนต่างราคาหุ้นเมื่อเข้าตลาด

บริษัท เอสโซ่ ตั้งราคาขายหุ้นที่ 10 บาท จากช่วงราคาเบื้องต้น 9-13 บาท โดยจะต้องซื้อหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู) จำนวน 84.5 ล้านหุ้น คืนเอ็กซอน โมบิลฯ เมื่อบริษัทเข้าตลาด
ซื้อเยอะขนาดนั้น จะเรียกว่าเอาเปรียบคงไม่เต็มปากนะ

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 6:22 am
โดย abscisic
ผมจองไปสองใบจองที่ bbl ได้หมดเลยนะครับ
ผมไม่มีเส้นสายหรือรู้จักใครทั้งสิ้น ไปรอที่แบงค์คนแรกเลยด้วยซ้ำ พอเปิดปุป โดนคนอื่นวิ่งแซงเฉยเลย กว่าจะได้กรอกข้อมูลเกือบคิวที่สิบ
ผมว่ามันอยู่ที่ดวงนะ ผมมีความรู้สึกลึกๆ อยู่ก่อนจองแล้วว่าต้องได้

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 7:59 am
โดย ปรัชญา
MindTrick เขียน: ซื้อเยอะขนาดนั้น จะเรียกว่าเอาเปรียบคงไม่เต็มปากนะ
ถ้าไม่เป็นหลวงพ่อโกยขนาดนั้น
เหลือไว้ให้ประชาชนคนไทย  ก็จะได้กันอีกหลายร้อยคนนะครับ
ไม่รู้ว่ากองทุยเป็นผู้มีพระเดชพระคุณท่วมหัวท่วมหางขนาดไหน

ที่ว่าจองเข้าคิวคนแรก  นะเหรอครับ

ขนาดอยู่ต่างจังหวัดเขาจองใส่ข้อมูล(กรอกไว้ก่อนเปิดระบบ)
แล้วถึงเวลาเปิดระบบ  ยังไม่ได้เลย

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 9:01 am
โดย ก้อนหิน
ปรัชญา เขียน: ถ้าไม่เป็นหลวงพ่อโกยขนาดนั้น
เหลือไว้ให้ประชาชนคนไทย  ก็จะได้กันอีกหลายร้อยคนนะครับ
ไม่รู้ว่ากองทุยเป็นผู้มีพระเดชพระคุณท่วมหัวท่วมหางขนาดไหน

ที่ว่าจองเข้าคิวคนแรก  นะเหรอครับ

ขนาดอยู่ต่างจังหวัดเขาจองใส่ข้อมูล(กรอกไว้ก่อนเปิดระบบ)
แล้วถึงเวลาเปิดระบบ  ยังไม่ได้เลย

การ Random ลำดับการเข้าจองก่อนหรือหลัง ไม่มีผลครับพี่ปรัชญา

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 9:56 am
โดย ปุย
จอง + แรนด้อมยังไง ได้หุ้นตั้งครึ่งนึง 456 ล้านหุ้นครับ
โห ไม่แฟร์เลย

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 10:17 am
โดย ก้อนหิน
ปุย เขียน:จอง + แรนด้อมยังไง ได้หุ้นตั้งครึ่งนึง 456 ล้านหุ้นครับ
โห ไม่แฟร์เลย

เค้าไม่กำหนด Max อะไรเลยอะครับพี่ปุย

ถ้ามีใครจอง 1000 ล้านหุ้น 100 ใบจอง โอกาสได้เยอะมากๆมีอยู่แล้วครับ
(ตัวเลขสมมตินะครับ)

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 10:23 am
โดย ปุย
ใครเป็นอันเดอร์ไรท์ครับ

ถ้ามีสถาบันต้องการมากขนาดนี้
น่าจะแยกส่วนขายให้ สถาบันไปเลย
ตามหลัก ก็น่าจะได้ราคาที่สูงกว่านี้
หรือไม่เอาแบบเสนอราคา bid กันเลย
เหมือนที่เคยได้ยินว่า GOOG ใช้

มาเดาๆกันดีกว่า วันแรก ราคาจะเปิด ปิดสักเท่าไร

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 10:28 am
โดย ก้อนหิน
ปุย เขียน:ใครเป็นอันเดอร์ไรท์ครับ

ถ้ามีสถาบันต้องการมากขนาดนี้
น่าจะแยกส่วนขายให้ สถาบันไปเลย
ตามหลัก ก็น่าจะได้ราคาที่สูงกว่านี้
หรือไม่เอาแบบเสนอราคา bid กันเลย
เหมือนที่เคยได้ยินว่า GOOG ใช้

มาเดาๆกันดีกว่า วันแรก ราคาจะเปิด ปิดสักเท่าไร
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็น Phatra นะครับ
จริงๆไม่รู้ว่าเค้าตั้งใจให้รายใหญ่ได้ประโยชน์หรือป่าวนะครับ

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 10:30 am
โดย ปรัชญา
ปุย เขียน:ใครเป็นอันเดอร์ไรท์ครับ

ถ้ามีสถาบันต้องการมากขนาดนี้
น่าจะแยกส่วนขายให้ สถาบันไปเลย
ตามหลัก ก็น่าจะได้ราคาที่สูงกว่านี้
หรือไม่เอาแบบเสนอราคา bid กันเลย
เหมือนที่เคยได้ยินว่า GOOG ใช้

มาเดาๆกันดีกว่า วันแรก ราคาจะเปิด ปิดสักเท่าไร
ประกาศจ่ายปันผล1บาท  เท่ากับ10เปอร์เซ็นต์  ของราคาIPO

13  บาท  นักลงทุนก็จะยังสนใจซื้อ
มอแกนก็ขายได้กำไรทันที

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 11:02 am
โดย ply33
พี่ปรัชญาครับ

เมื่อก่อนผมก็คิดแบบพี่ ว่าไปจองก็คงไม่ได้เพราะคนมีเส้นมันก็คงเอาไปหมดแล้ว มันต้องไม่แฟร์ต่อรายย่อย(รายละเอียด)อย่างผมแน่ๆ

แต่สมัยนี้ผมว่าต่างจากเมื่อก่อนครับ กลตเอง ตลาดหลักทรัพย์เอง ก็จับตาดูอยู่แล้วครับ

ที่สำคัญวันจอง(เพื่อนๆบอก)ไปจองได้จริงๆไม่มีเต็ม ไม่เหมือนตอน ปตท โน้น ไปนอนรอกันตั้งแต่เช้ามือ พอเริ่มเปิดโต๊ะจองไป หนึ่งนาที บอกว่าเต็มแล้ว ยังงั้นคงไม่แฟร์จริงๆครับ

สำหรับเรื่องที่ MORGAN หรือสถาบันอื่นๆได้หุ้นเยอะ ผมยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ขอเช็คข่าวอีกทีครับ แต่เบื้องต้นหุ้น IPO จะแยกกันระหว่าง สถาบันกับรายบุคคลนะครับ เพราะฉะนั้นคงไม่มีการเอาเปรียบมั้งครับ เพราะแยกจำนวนกันชัดเจนอยู่แล้ว

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 11:39 am
โดย ปรัชญา
ไม่ได้ซีเรียต  เรื่องได้หุ้นไม่ได้หุ้นหรอกครับ  ชวนคุยกันครับ

ผู้รับประกันการจัดจำหน่าย  
กลัวขายไม่หมดก็ตกลงกันภายในให้กองทุนอยู่แล้ว

ภายในบริษัทก็มีผู้อุปการคุณ  ต้องตอบแทนขายหุ้นให้ทุกยุคทุกสมัย

เขาไม่ได้สนใจรายย่อยอย่างจริงจังหรอก  ผมคิดเอง  เออเองครับ

การที่กองทุนได้เยอะก็เป็นปกติ  
แบบ  ปตท.รัฐมนตรีก็ต้องได้มาก
คงไม่เอ่ยชื่อนามสกุลนะครับ
ลองค้นกันดูก็ได้  

แต่ตบแต่งกันอย่างสวยหรูดูตลาดทุนโปร่งใส
สำหรับผมมองสีเท่าๆ

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 11:41 am
โดย ply33
บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) เปิดเผยในสรุถปข้อสนเทศ เกี่ยวกับ
โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลังจากขายไอพีโอ ดังนี้

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่                ณ วันที่ 30 เดือน เมษายน พ.ศ. 2551

.                                                      หลัง IPO                          ก่อน IPO
.                                                       ร้อยละของทุน                      ร้อยละของทุน
                       ชื่อ                    จำนวนหุ้น           ชำระแล้ว         จำนวนหุ้น             ชำระแล้ว
1.    กลุ่มผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทย่อย                 2,199,166,700           65.00     2,283,750,000              87.50
     และ/หรือบริษัทในเครือของ
     เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น
2.    Morgan Stanley & Co.                  456,749,900           13.50             -                    -
     International PLC
3.    กระทรวงการคลัง                        253,750,000            7.50           326,250,000            12.50
4.    อยุธยา อลิอันซ์ ซี. พี. ประกัน               15,500,000           0.46                -                -
     ชีวิต จำกัด (มหาชน)
5.    American International
     Assurance Company Limited
     - AIA D-PLUS                          13,636,400            0.40                -                    -
6.    American International
     Assurance Company Limited
     - APEX                                 8,181,800            0.24                -                    -
7.    American International
     Assurance Company Limited
     - Tiger                                8,181,800              0.24              -                   -
8.    บัวหลวง หุ้นระยะยาว                      3,350,000              0.10              -                   -
9.    สุชน สิมะกุลธร                           2,776,500              0.08              -                   -
10.   ธนาคารออมสิน                           2,666,100              0.08                   -                   -
.               รวม                      2,963,959,200             87.60       2,610,000,000               100.0

หมายเหตุ : ผู้ถือหุ้นลำดับที่ 1 ไม่นับรวมหุ้นที่ให้ยืมเพื่อการจัดสรรส่วนเกิน
84,583,300 หุ้น โดยจะได้รับคืนทั้งจำนวนภายใน 30 วันหลังจากที่หุ้นของบริษัท
เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์  ทั้งนี้ ภายหลังการได้รับหุ้นคืนผู้ถือหุ้นลำดับที่ 1
จะถือหุ้นทั้งสิ้น 2,283,750,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 67.50 หรือร้อยละ 65.85 ของ
ทุนชำระแล้ว กรณีผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน หรือ ใช้สิทธิซื้อหุ้น
เพิ่มทุน ตามลำดับ
ผู้ถือหุ้นลำดับที่ 2 (Morgan Stanley & Co. International PLC) เป็นผู้ซื้อ
หุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchaser) รับซื้อจำนวน 456,749,900 หุ้น หรือ
ประมาณร้อยละ 13.5 ของทุนชำระแล้วผู้ถือหุ้น
--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~



มาแล้วครับ

MORGAN STANLEY  ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับสองจริงๆครับ  456,749,900 หุ้น 13.50% แน่ะ  :shock:

MOF เหลือ 7.5%

AIA ถือรวม 30 ล้านหุ้น 0.88%

AACP, BBL, Bank ออมสิน ด้วย ครับ

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 11:44 am
โดย ปรัชญา
ขอบคุณครับ  ข้อมูลรวดเร็วทันใจ  จริงๆ  น้องply33

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 11:47 am
โดย bankniti
ปรัชญา เขียน:
ถ้าไม่เป็นหลวงพ่อโกยขนาดนั้น
เหลือไว้ให้ประชาชนคนไทย

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 3:30 pm
โดย ply33
อ๋อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ

เข้าใจแล้วครับพี่ ที่เห็นว่าเป็นชื่อ MORGAN STANLEY นั้นเพราะว่า

MORGAN STANLEY เป็นผู้ UNDER WRITER ให้กับ นักลงทุนต่างชาติครับ

บริษัทไม่ได้ซื้อเองนะครับ
เท่าที่ทราบ MORGAN จะต้องใส่เป็นชื่อเค้าไว้ หนึ่งวันในวันแรกครับ เป็นกฎหมายเหมือน กลต บ้านเราน่ะครับ (ไม่แน่ใจเรื่องระยะเวลานะครับ)

ย้ำอีกครั้ง บริษัทไม่ได้ซื้อเอง แต่เป็นการ Under Writer ให้ครับ

Phatra เป็น Under Writer ในประเทศไทย แต่ Morgan เป็น Under Writer ในต่างประเทศครับ

ขอบคุณครับ  :8)

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 3:37 pm
โดย ply33
เอ๋ ดังนั้นผู้ถือหุ้นใหญ่จะเป็น

1. EXXON       65.00 %
2. MOF             7.5   %
3. AIA (รวม)      0.88 %
4. AACP            0.46 %
5. BBL              0.1   %
6. ออมสิน         0.08  %
7. สุชน             0.08  %  :?:  :?:

รวม                 87.60  % ครับ ไม่รวม Green Shoe นะครับ

ที่น่าสนใจคือ คุณ สุชน สิมะกุลธร เป็นใครกันครับ ได้หุ้นตั้ง 2,776,500 หุ้น หรือ จองไป 27.7765 ล้านบาท แน่ะ  :shock:

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 4:26 pm
โดย ปุย
[quote="ply33"]

ที่น่าสนใจคือ คุณ สุชน สิมะกุลธร เป็นใครกันครับ ได้หุ้นตั้ง 2,776,500 หุ้น หรือ จองไป 27.7765 ล้านบาท แน่ะ

การแลนด์ด้อมหุ้น คุณว่ามีการเอาเปรียบกันได้แค่ไหน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 02, 2008 4:40 pm
โดย chode
http://news.utcc.ac.th/content/view/755/16/
อันนี้ นามสกุล สิมะกุลธร
นายสุรพร  สิมะกุลธร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เมื่อปี 2005