Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

http://www.posttoday.com/newsdet.php?se ... &id=235934
ลดซิลลิงดับร้อนหุ้นต่ำบาท

โพสต์ทูเดย์ ตลาดหลักทรัพย์พบวิธีดับร้อนหุ้นเก็งกำไร ลดซิลลิง-ฟลอร์หุ้นต่ำกว่า 1 บาท เหลือ 30% แก้ลำ บจ.ชอบแตกพาร์สร้างราคา

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (บอร์ด) กล่าวว่า คณะกรรมการมีมติเห็นชอบในหลักการให้ปรับช่วงราคาซื้อขาย จากเดิม 10 ชั้น เหลือ 8 ชั้น และลดช่วงราคาสำหรับหุ้นราคา 50 บาทขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ช่วงราคาในแต่ละชั้นลดลง


นอกจากนี้ คณะกรรมการยังเห็นชอบในหลักการการปรับราคาสูงสุด (ซิลลิง) และราคาต่ำสุด (ฟลอร์) เป็นไม่เกิน 30% จากราคาปิดวันก่อน สำหรับหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 1 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงราคาของหุ้นอื่นๆ


ทั้งนี้ ปัจจุบันหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 1 บาท สามารถขึ้น-ลงได้ 100%


นายสุทธิชัย กล่าวว่า คณะกรรมการมีมติปรับช่วงราคา ก็เพื่อจะช่วยลดต้นทุนในการซื้อขายของผู้ลงทุน เพิ่มสภาพคล่อง และมีส่วนลดความผันผวนของราคา รวมทั้งยังเป็นแนวทางที่มีความใกล้เคียงกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับช่วงราคาให้แคบลง


การปรับช่วงราคาในครั้งนี้ จะเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดทุนไทย ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย นายสุทธิชัย กล่าว


คณะกรรมการยังให้ความเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์การส่งคำสั่งแบบกลุ่มตะกร้าหุ้น หรือ Basket order ซึ่งเป็นเครื่องมือในการบริหารพอร์ต หรือทำกำไรจากส่วนต่างของราคา โดยเห็นชอบให้เพิ่มเติมหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขาย และผ่อนปรนเกณฑ์ด้านราคา และอนุญาตให้ส่งคำสั่ง ณ ราคาเปิด (ATO) และคำสั่ง ณ ราคาปิด (ATC) ได้


อย่างไรก็ตาม การปรับหลักเกณฑ์ทั้งหมดดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์จะรับฟังความเห็นของที่ประชุมสมาชิกก่อนประกาศใช้ต่อไป


ที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายแห่งนิยมใช้การเปลี่ยนแปลง (แตกพาร์) มูลค่าหุ้นเหลือ 1 บาท หรือ 0.10 บาท กระตุ้นให้เกิดแรงเก็งกำไรหรือสร้างราคาหุ้น


ล่าสุดบริษัท ยานภัณฑ์ (YNP) มีข่าวการแตกพาร์จาก 5 บาท เป็น 1 บาท แถมแจกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น (วอร์แรนต์) เช่นเดียวกับ บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง (ML) จะแตกพาร์ จาก 1 บาท เป็น 0.10 บาท และแจกวอร์แรนต์ ส่งผลให้ราคาหุ้นทั้งสองคึกคัก ส่วนบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ที่แตกพาร์จาก 1 บาทเป็น 0.10 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. เป็นต้นไป
-----------------------------------------------------------------------------

น่าจะกำหนดบังคับ ให้แตกพาร์ต่ำสุดได้แค่ 1 บาทเท่านั้น
ที่ต่ำกว่า 1 ก็ให้รวมกลับมาเป็น 1 บาทให้หมด
ที่ต่ำกว่า 10 ก็ให้แตกเป็น 1 บาทให้หมด

ให้มีแต่ พาร์ 10 กับ พาร์  1 บาทก็พอ

เดียวนี้ราคาพาร์มั่วไปหมด ดูสิ มั่วจริงๆ
0.10 , 0.25 , 0.40 , 0.50 , 0.70 , 1 , 2 , 3 , 3.7
4 , 5 , 5.15 , 5.68 , 6 , 8.25 , 8.80 , 10

เห็นด้วยกับเฮียครรชิตอย่างยิ่งครับ มั่วมาก ๆ เดี๋ยวนี้

ตลาดหุ้นเมกาเขามีข้อกำหนดเลยครับ หุ้นที่ราคาต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นเวลานานพอสมควร จะถูกบังคับกลาย ๆ ให้ reverse-split (คือรวมหุ้นนั่นแหละ) ให้ราคามันสูงกว่าเกณฑ์ เข้าใจว่าตอนนี้คือหุ้นละเหรียญ ไม่งั้นโดยถอด

เรียนพี่ ครรชิต
บ้าง case ของพี่นี้ ไม่ใช่การแตกพาร์ครับ
เป็นการลดพาร์ เพื่อล้างขาดทุนสะสม ราคา 5.15 บาท ตัวนี้ของ KTB


พวกที่แตกต่ำกว่า 1 บาทเริ่มปีที่แล้วนี่เองครับ
ตัวแรก เป็น UMS ที่แตก 0.50 บาท
ตัวที่สอง UEC แตก 0.25 บาท
แล้วก็เริ่มมีพวกที่แตกเป็น 0.10 บาท ตัวนี้เริ่มปีครับ

อันนี้คือเท่าที่ผมรู้มาน่าครับ
ส่วนราคาอื่นต้องไปค้นข้อมูลดูครับ

จะแตกหรือจะลดก็แล้วแต่
น่าทำให้เป็น 1 บาทเท่านั้น หรือไม่ก็เป็น 10 บาทเท่านั้น

ครรชิต ไพศาล เขียน:จะแตกหรือจะลดก็แล้วแต่
น่าทำให้เป็น 1 บาทเท่านั้น หรือไม่ก็เป็น 10 บาทเท่านั้น

เห็นด้วยครับ

ค่อนค่างจะเห็นด้วยกับพี่ครรชิตครับ ตอนนี้รู้สึกมั่วไปหมดแล้ว -*- บางตัวก็กะลดพาร์เพื่อปั่นราคาอย่างเดียวเลย

เป็นสูตรเลยก็ว่าได้ แจกวอร์ลากขึ้น ลดพาร์ให้จำราคาไม่ได้ให้ดูเหมือนราคาต่ำๆ แล้วก็ลากไปเชือด

เห็นด้วยกับพี่ครรชิตครับ พาร์มั่วๆ คำนวณยาก จำยากด้วย

ประเด็นของลดพาร์เพราะต้องการปันผลนั้น
ผมน่าสนับสนุนน่าครับ มันเกิดประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นโดยตรงที่ได้ปันผลจากการดำเนินงานของกิจการ เร็วกว่าที่ต้องรอกำไรจากการดำเนินกิจการมาล้าง
หากว่ารอการดำเนินงานของกิจการมาล้างนี้ หลายตัวในปัจจุบันไม่สามารถปันผลให้เราได้แน่นอน เพราะ ขาดทุนตอนต้มยำกุ้งนี้เป็นหมื่นล้าน

แตกพาร์เพราะราคามันสูงเกินกำลังซื้อไป มันก็ควรจะดูเป็น Case by case ไป อันนี้ที่สนับสนุนเช่น SCC PTTEP พวกนี้

ส่วนที่ไม่น่าสนับสนุน คือ พวก IFEC UMS UEC พวกนี้

บ้างครั้ง ในเรื่องเดียวกันก็จริงแต่ต้องมองให้ออกว่ามันกำลังทำอะไรอยู่
ไม่ใช่ว่าสรุปเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด เพราะ ทุกเรื่องมันมีข้อยกเว้น
มีสิ่งดีหรือไม่ดีเสมอ ต้องมองความจริงตรงกับความจริง จะได้ดูว่ามันคืออะไร

ดูราคาพาร์ไปเทียบกับอะไรหรือครับ ตอบประเด็นนี้ให้ด้วย
เพราะ ทุกบริษัทตอน IPO มาสูงกกว่าราคาพาร์ทั้งนั้น
มีเพียงคนไม่กี่คนที่ซื้อหุ้นได้ในราคาพาร์ (คือตอนจัดตั้งบริษัท)
นอกเสียจากว่า เกิดแบบต้มยำกุ้ง

การแตกพาร์จนเกินพอดี จะทำให้รายย่อยที่เน้นดูการเคลื่อนไหวของราคาเป็นเกณฑ์ซื้อ
งงงวยเหมือนแมลงต้องแสงไฟ และถูกลากพาตามไปง่าย ยิ่งคนแก่ๆที่ไม่ลงรายละเอียดแล้วยิ่งเสี่ยงครับ

miracle เขียน:ประเด็นของลดพาร์เพราะต้องการปันผลนั้น
ผมน่าสนับสนุนน่าครับ มันเกิดประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นโดยตรงที่ได้ปันผลจากการดำเนินงานของกิจการ เร็วกว่าที่ต้องรอกำไรจากการดำเนินกิจการมาล้าง
หากว่ารอการดำเนินงานของกิจการมาล้างนี้ หลายตัวในปัจจุบันไม่สามารถปันผลให้เราได้แน่นอน เพราะ ขาดทุนตอนต้มยำกุ้งนี้เป็นหมื่นล้าน

แตกพาร์เพราะราคามันสูงเกินกำลังซื้อไป มันก็ควรจะดูเป็น Case by case ไป อันนี้ที่สนับสนุนเช่น SCC PTTEP พวกนี้

ส่วนที่ไม่น่าสนับสนุน คือ พวก IFEC UMS UEC พวกนี้

บ้างครั้ง ในเรื่องเดียวกันก็จริงแต่ต้องมองให้ออกว่ามันกำลังทำอะไรอยู่
ไม่ใช่ว่าสรุปเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด เพราะ ทุกเรื่องมันมีข้อยกเว้น
มีสิ่งดีหรือไม่ดีเสมอ ต้องมองความจริงตรงกับความจริง จะได้ดูว่ามันคืออะไร

เห็นด้วยครับ

การแตกพาร์เป็นการสร้างราคาหุ้นเป็นอย่างดี
ดู UMS ลากไป 50 บาท ก่อนแตกพาร์
UEC ลากไป 40 บาทก่อนแตกพาร์
ตอนนี้มีคนติดดอยเพียบ
ส่วน VI คงขายทิ้งไป ตั้งแต่ราคาโอเว่อร์แล้ว
ตอนนั้น UMS แพงกว่า BANPU
UEC แพงกว่า PTT
ปั่นกันเข้าไป โดยกองทุน SC......

หุ้นราคาต้ำกว่า 1 บาทจะมีลิ่งที่ 30%
แล้วหุ้น 0.01 บาทจะวิ่งไป 0.02 ยังไงล่ะครับ
คิดเล่นๆนะ แต่ถ้าเกิดว่ากฏออกมาแล้ว แล้วดันลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ คงจะพิลึกดี

เราคงได้เห็นราคาหุ้นต่ำสุดแค่ 0.03 บาท เพราะลงจากนี้แค่ 0.01 บาท ก็เกิน 30% แล้ว

ถ้าไม่กำหนด ลดพาร์แตกพาร์อยู่แค่ 1 บาท
แล้ว SET ยังปล่อยให้บริษัทแตกพาร์ เพื่อปั่นราคาหุ้นต่ำลงไปต่ำถึง 0.1 บาท

SET ต้องแก้ระบบการซื้อขายใหม่ ให้ใช้จุดทศนิยมเป็น 4 หลักไปเลย
หุ้นที่ ราคา 0.0100 บาท ก็ลิ่งได้ที่ 0.01300 พลอร์ที่ 0.0070

เพราะพวกที่พาร์ต่ำๆ กำไรน้อย
ตอนนี้ EPS ก็ต้องดู ทศนิยมหลักที่สามหลักที่สีแล้ว
ดูที่หลักที่สองจะเห็นแต่ .00


ทางที่ดีผมว่ากำหนดห้ามแตกพาร์ต่ำกว่า 1 บาท

จำได้ว่า ตอน SET เปิดแรกมีปัญหาการซื้อขายมาแล้วครั้งหนึ่ง
กับบริษัทอะไรจำไม่ได้ ติดเงือนไขเพดาน บวกลบไม่เกิน 10%
แต่หุ้นตัวนี้ ราคาปิดมัน 0.99 บาทต่อหุ้น ทำให้ ไม่สามารถซื้อขายได้
เพราะ ถ้าราคา 0.98 บาทต่อหุ้น ก็ลบเกิน10%
ถ้าหากราคา 1 บาทต่อหุ้น ก็บวกเกิน 10%

อันนี้คือปัญหาแรกที่เจอ เมื่อครั้ง 20 กว่าปีก่อน

ต่อมา เจอปัญหาลดทุนหรือหุ้นราคา 0.01 บาท ทำให้เมื่อเป็นราคา 0.02 บาทต่อหุ้น บวกเกิน 30% ทำให้ซื้อขายไม่ได้
อันนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว

ปัจจุบัน เจอปัญหาว่า พาร์แตกลงมาในเขตที่ ซื้อขาย +100% ได้
ทำให้ราคามันผันผวนมาก จึงดักนิสัยกันไปต่อไป

ในข่าวก็บอกไว้ชัดเจนน่าครับ พวกที่ ต่ำกว่า 0.10 บาทต่อหุ้น จะบวกหรือลบได้100% แต่พวกที่มากกว่าหรือเท่ากับ 0.10 บาทต่อหุ้น ได้แค่ 30%

หวังว่ากระดาษไม่ต้องเพิ่มเลขศูนย์ต่อท้ายตอนแสดง กำไรต่อหุ้นน่าครับ
ซึ่งที่ US มีปัญหาว่า แสดงเลขหลักไม่ได้เพราะ บริษัทของคุณบัฟเฟต มันเกินหลักพันที่แสดงไว้บนกระดาน
แต่ประเทศไทย บนกระดาน แสดงหลักทศนิยมไม่พอ

yoyo เขียน:หุ้นราคาต้ำกว่า 1 บาทจะมีลิ่งที่ 30%
แล้วหุ้น 0.01 บาทจะวิ่งไป 0.02 ยังไงล่ะครับ
คิดเล่นๆนะ แต่ถ้าเกิดว่ากฏออกมาแล้ว แล้วดันลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ คงจะพิลึกดี

อืมจริงค่ะ

งั้นถ้าออกกฏนี้มา ต่ำบาทห้ามลิ่งเกิน 30%

งั้นราคาหุ้นที่จะถูกล๊อคโดยอัตโนมัติคือ ห้ามลงต่ำกว่า 0.04 บาท
ไม่งั้นจะไม่สามารถวิ่งขึ้นได้อีก  

:lol: 0.04-30%=0.028 ...ซึ่งกรณีนี้จะสิ้นสุดการลงของวันได้แค่ที่ราคา 0.03
:lol: 0.03+30%=0.039 ...ราคา0.03 ไม่สามารถวิ่งกลับขึ้นมาได้อีก เพราะบวก30%แล้วไม่ถึง 0.04

เหมือนขึ้น SP ตัวเองอัตโนมัติ :lovl:

วิธีแก้ที่พี่ครรชิตเสนอคือ ต้องเล่นกันด้วยทศนิยม 4 ตำแหน่งไปเลย
แต่ดูแล้วจะยิ่งแตกละเอียดกันเข้าไปใหญ่ เพราะหุ้นราคาต่ำสุดในตลาดจะเป็น 0.0001 บาท :lol:
แล้วปัญหามาอีก คือเมื่อการลงไปถึง 0.0003 บาท ก็จะไม่สามารถวิ่งขึ้นได้ เพราะ+30%แล้ว ก็ยังไม่เต็มหน่วยทศนิยมตำแหน่งที่ สี่(=0.00039) ดังนั้นคงต้องแก้ที่ เลื่อนขยายอีกเป็นทศนิยมห้าตำแหน่ง ...และจะวนอย่างนี้เรื่อยๆไป จนกระทั่งไม่อาจกำหนดเพดานทศนิยมได้...

ดังนั้น ในกรณีนี้ เมื่อต้องการออกกฏต่ำบาทห้ามลิ่งเกิน 30%
ย่อมต้องตามมาด้วยการ
...กำหนดราคาฟลอร์ของราคาหุ้น จากเดิมที่ต่ำสุดคือ 0.01บาท เป็น 0.04 บาท ...หรือ..
...ไม่กำหนดอั้นราคาต่ำ 0.04 บาท ใครอยากต่ำก็ช่วยไม่ได้ ขังลืมตัวเองไปแล้วกัน  :lol: เป็นการบีบผู้ถือหุ้น ให้ไปบีบผู้บริหาร ให้เรียกประชุมลงมติเพื่อรวมหุ้น ให้ราคากลับมายืนเหนือ 0.04 บาทเป็นอย่างน้อย

คงน่าจะเกิดมิติใหม่ในวงการเทรดหุ้น
คือ ทุบง่าย ปั่นยาก

และอาจจะเกิดแนวใหม่ขึ้นมาคือ
ใครอยากคิดเอาบริษัทออกจากตลาด ก็ทุบลุกเดียวลงไปกองเลย
ทุบๆๆๆ "ยิ่งถ้าไม่มีกำหนดราคาต่ำสุดที่ 0.04 บาทไว้" ยิ่งทุบๆๆๆให้หลุด 0.04 บาทเลย แล้ว ผู้ที่อยากฮุบบริษัทก็รับซื้อดองไว้เลยแต่ผู้เดียว

หรือกรณีไม่ต้องว่าจะเอาออกจากตลาดหรอก แค่ว่าอยากครอบงำราคาหุ้นก็ทำแบบเดียวกัน
คือ ทุบให้หลุด 0.04 แล้วรับไว้เองเป็นเสียงข้างมาก แล้วหลังจากนั้นบีบประชุมผู้ถือหุ้น ลงมติรวมหุ้น ให้ยืนเหนือ 0.04 จากนั้นเมื่อหุ้นส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดอยู่ในมือ(เพราะต่ำ0.04 นลท.รายอื่นโดยเฉพาะรายย่อย ย่อมไม่กล้าเสี่ยงรับไว้)

ทีนี้พอสามารถครอบครองจำนวนหุ้นมากมายไว้ในมือ ในราคาที่ต่ำเรียบร้อยแล้ว
การที่ "ปั่นยาก" จะกลับกลายมาเป็น "ปั่นง่าย" อีกครั้ง

 :evil:  :evil:

ราคาพาร์คงไม่เกี่ยวอะไร

วันนี้พึ่งจะมี พาร์ 4.9338 เข้ามานี่  :8)

ผมไม่ถือสาเรื่องพวกนี้นะครับ :lol: เพราะถ้าเราไปกำหนดให้บริษัทต้องกันกำไรไว้เสมอแบบหุ้นปันผลแทนที่จะแตกพาร์ บริษัทก็จะจ่ายเงินปันผลได้ลดลง

แต่เห็นด้วยกับอาจารย์แพรนดี้ครับ เพราะการแตกพาร์ต้องสอดคล้องกับราคาซื้อขายในกระดานด้วยที่ไม่ควรให้ต่ำเกินไป หุ้นราคาต่ำเกินก็จับรวมหุ้นซะ

อันนี้เป็นตัวอย่างของตลาดหุ้นที่พัฒนาไปมากกว่าเราเยอะ ผมคิดว่าจะแตกเท่าไหร่ก็แตกไปเถอะครับแต่ต้องเหมาะสมกับมูลค่ากิจการนะ ไม่ใช่แตกไปปั่นหุ้น  

BRKA ของคุณปู่บัฟ พาร์ 5 เหรียญ ไม่ยอมแตกซักที BA ก็ราคาพาร์พอๆ กัน
พี่ยักษ์ AIG พาร์ 2.50 เหรียญ
GM พี่รถยนต์ป่วย พาร์ 1.67 เหรียญ
XOM บริษัทมูลค่าตลาดสูงสุดของโลก พาร์ 1 เหรียญ
MO หุ้นผู้ทำลายคำกล่าว "จะสูงกว่านี้อีกได้อย่างไร" พาร์ 0.33 เหรียญ
DD น้อง Dupont พาร์ 0.30 เหรียญ
KO น้องน้ำดำฉ่ำชื่นใจ พาร์ 0.25 เหรียญ
AXP น้องบัตรหรูหรา พาร์ 0.20  เหรียญ
พี่ยักษ์ GE พาร์ 0.06 เหรียญ
HD คนรักบ้าน PFE ยาหั้งตำ พาร์ 0.05 เหรียญ
DIS, HPQ, MCD, MRK, WMT พวกนี้ล้วนเคยเป็นหุ้นโตระเบิดมา ปัจจุบัน พาร์ 0.01 เหรียญ
INTC - microprocessor พาร์ 0.001 เหรียญ

เด็ดสุด คือเล็กๆ และนุ่มนิ่ม ===> MSFT พาร์ 0.00000625 เหรียญ  :8)

พี่ฉัตรชัย เขียน:บริษัทไหนมีราคาต่ำกว่า 1 บาท  ให้รวมหุ้นให้ราคาตลาดเกิน 1 บาท

บริษัทไหนมีราคาเกิน 100 บาท  ให้แตกหุ้นให้มีราคาตลาดต่ำกว่า 100 บาท

ดีไหมครับ

ไม่ดีครับ เป็นการจำกัดสิทธิมนุษยชน  ที่จริงไม่ต้องไปทำอะไรวุ่นวายครับ แบบใหม่ที่ออกมานี่ก็ดีแล้วเพราะหากราคาหุ้นหลุด 0.04 บาท เมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่า บริษัทนั้นจะถูกบีบให้รวมหุ้นเองโดยอัตโนมัติ

อุ๊ย พลาด  :oops:  XOM เป็นหุ้นที่ไม่มีพาร์ครับ  พาร์ = 0.0000000000    เหรียญ  :oops: