Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หุ้นแต่ละตัวที่ ซื้อ   ตั้งแต่ต้นปี 51

ขาดทุนหนักสุดคนละกี่ %  ครับ    ขอเป็นหุ้นพื้นฐาน นะครับ


ที่แน่ๆ ที่ลงหนักสุด ช่วงนี้ คือ    TR     UEC     SNC


ขอเพื่อนร่วม อุดมการณ์  หน่อยครับ

หรือว่า  VI ขาดทุน ไม่เป็น





ของผมขาดทุนไปแล้ว  20 %

ยังไงถึงเป็น vi ครับ

โอกาสขาดทุน
ระยะสั้นเกิดขึ้นได้เสมอครับ

แต่ถ้าระยะยาวแล้วขาดทุนก็มีหลายสาเหตุ  ประเมินมูลค่าหุ้นผิดไป ,คนยังไม่ค่อยรู้จักทำให้ราคาไม่ขึ้น ฯลฯ

... เขียน:ยังไงถึงเป็น vi ครับ

ถามผมได้ไง ผมไม่ใช่คนแถวนี้

vichit เขียน:

ถามผมได้ไง ผมไม่ใช่คนแถวนี้

vichit
Regular


Joined: 17 Jun 2007
Posts: 1453

:lol:

vichit เขียน:

ถามผมได้ไง ผมไม่ใช่คนแถวนี้

อ้าว  แล้วเป็นคนแถวไหนล่ะ  แถวหน้า  หรือแถวหลัง
เอาเงินปันผลที่ได้  นำไปลบต้นทุนคงจะดูดีขึ้น

(ขาดทุนหรือกำไรเป็นเรื่องทำมะดา
เหมือนหุ้นไม่ขึ้นมันก็ลง  แกล้งปลอบใจ)

ไม่ต้องขายสิครับ ไม่ขายก็ไม่ขาดทุน แฮ่ๆ



ไม่ได้กวนนะครับ ...แต่ว่าถ้าซื้อตอนที่มี MOS พื้นฐานยังดี ก็ไม่เห็นต้องไปกังวลเลยนิครับ.. จะทำผลตอบแทนรายไตรมาสแข่งกับใครๆ ไปทำไม ไม่ได้เป็น Fund manager  


ช่วงนี้ผมลองศึกษาดูพอร์ตของคุณ นิติ ที่พี่ครรชิตใจดี สรุปมาให้ดู ผมว่าน่าจะได้แนวคิดVI นะครับ ถ้าผมดูไม่ผิด Bat-3k แกถือ495,100 หุ้นตั้งแต่ราคา60 -->49 -->68--> 73  เป็นเวลา 4 ปี แกถือขาดทุนทางตัวเลขข้ามปีเลยนะครับ คิดว่าเข้าใจถูกนะครับ เพราะจำนวนหุ้นไม่เปลี่ยนเลย นอกจากซื้อๆขายๆเก่งมาก กับมาจำนวนเท่าเดิมตลอด แต่ผมไม่คิดอย่างงั้นนะ....นี่ยังไม่รวมปันผลนะครับ

คุณ vichit เน้นลงทุนแต่หุ้น top views ใน web นี้ทั้งนั้นเลย

Value Stock ของ VI คนนึงไม่จำเป็นต้องเป็น Value Stock ของอีกคนนึงนี่ครับ
ไม่งั้น VI ทุกคนก็คงมีหุ้นเหมือนกัน ซื้อพร้อมกัน ขายพร้อมกัน แล้วก็รวยเหมือนกัน

สี่เดือนกับการขาดทุน 20% นี่สำหรับผมเฉยๆ เจอบ่อยๆ คำถามที่ผมถามตัวเองทุกครั้งว่า นี่เป็นบริษัทที่ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่การลง 20% เป็นโอกาสที่ดีในการซื้อเพิ่ม

บริษัทที่ใช่ ถ้าเอาแบบตีโฮมรันเลย ก็คงเหมือน ปูนใหญ่ ที่ถือไปเรื่อยๆ ปันผลต่อปีสูงกว่าราคาทุนทีซื้อ ราคาตลาดสูงกว่าราคาที่ซื้อเป็นหลายๆเด้ง ผลตอบแทนต่อปี เป็นเลขสองหลัก

ถ้าเอาแบบของฝรั่งนี่เยอะมาก microsoft walmart pfizer พวกที่เป็นที่หนึ่งในธุรกิจ และเป็นที่หนึ่งไปเรื่อยๆและเรื่อยๆ

ซึ่งการได้เจอหุ้นแบบนี้ ยากมากๆ ธุรกิจต้องใช่ ผู้บริหารต้องใช่ และถ้าใช่แล้ว จะเห็นเลยว่า ราคาหายไปแค่ 20% นี่เล็กน้อยมาก

แต่ผมไม่ใช่ vi นะ

กระทู้น่าสนใจ น่าสนใจ ตรงขาดทุนเพราะอะไร

อยากทราบรายละเอียด นอกจากคำว่า vi

เช่น ตอนซื้อราคาเท่าไร ซื้อ pe เท่าไร ทำไมซื้อตอนนั้น แล้ว หลังจากนั้นเป็นอย่างไร ทำไมขาดทุน

หากเล่ารายละเอียดได้จะดีมากครับ

vichit เขียน:หุ้นแต่ละตัวที่ ซื้อ   ตั้งแต่ต้นปี 51

ขาดทุนหนักสุดคนละกี่ %  ครับ    ขอเป็นหุ้นพื้นฐาน นะครับ


ที่แน่ๆ ที่ลงหนักสุด ช่วงนี้ คือ    TR     UEC     SNC


ขอเพื่อนร่วม อุดมการณ์  หน่อยครับ

หรือว่า  VI ขาดทุน ไม่เป็น


ของผมขาดทุนไปแล้ว  20 %

พี่ vichit เคยเอา Valuation ของหุ้นเหล่านี้กลับมา Review ใหม่มั้ยครับ
ว่าที่เราประเมินไว้นั้นมัน over เกินไป หรือว่า มันควรจะเป็นอย่างงั้นจริงๆ
หรือว่ามันมีปัจจัยบางอย่างที่เปลี่ยนไปจากที่เราคิด เราเข้าใจบริษัทจริงๆมั้ย
ที่สำคัญ ราคาที่ซื้อมันมี MOS หรือไม่

ผมว่า ถ้า review แล้ว มันควรจะเป็นอย่างที่เราคิด ผมว่าไม่มีอะไรต้องกลัวครับ

ถ้าไม่เป็นการรบกวน หรือ ละลาบละล้วง พี่ vichit เอามาให้เพืื่อนๆช่วยกัน review ในนี้ก็ดีนะครับ

ถ้าเป็น vi แล้วขาดทุน
พี่ลองเปลี่ยนชื่อดูครับ
ชื่อพี่ต้องห้ามนำหน้าด้วย V กับ I ครับ    :)



(ขออนุญาตแซวเล่นนะพี่)

[quote="อาฮุย"]ถ้าเป็น vi แล้วขาดทุน
พี่ลองเปลี่ยนชื่อดูครับ
ชื่อพี่ต้องห้ามนำหน้าด้วย V กับ I ครับ

เอา vi ออกก็เสร็จสิเนี่ย แซวเล่นนะครับ

ปีนี้ผมลบลงไปต่ำสุดประมาณ 20% ของต้นปี ...
ปัจจุบันพลิกฟื้นกลับมาเป็นบวกประมาณ 20% แล้วเช่นกัน...
เป็น vi หรือจะเล่นหุ้นที่ vi hitๆ ก็ขาดทุนได้ครับ ถ้าตัดสินใจผิด
อย่างหุ้นที่พี่ vichit เขียนมา 3 ตัว ผมเองก็โดนไป 2 ตัวเหมือนกัน  :lol:
ทำเอาเจ็บไม่น้อย  :8)

ปีนี้เจอไป -30%
ปีที่แล้วเจอไป -60%
ปีก่อนหน้าโน้นเจอไป -50%

นี้คือ ส่วนที่ขาดทุนจริง

เอา vi ออกก็เสร็จสิเนี่ย

มาขำมุขพี่ pho ครับ   คิดได้ไงเนี่ย แซวเ่ล่นขำๆไม่ว่ากันนะ

หุ้น 2 ใน 3 ตัว  กำลังเดินทาง มุ่งหน้าสู่ เหวนรก

แล้วจะหาทาง ปีนกลับขึ้นมา ยังไงล่ะเนี๊ย


ระยะทาง พิสูจน์ม้า

กาลเวลา (ติดหุ้น)  พิสูจน์ VI   พันธุ์แท้  (หรือเปล่า)

ลองคิดว่าลงทุนทำธุรกิจอยู่สิครับ อย่าคิดว่าแค่ซื้อหุ้น

จะเห็นอะไรอีกเยอะ  :8)  ...

มาเป็นเพื่อนร่วมด้วย ตั้งแต่ต้นปี ยังขาดทุนเหมือนกัน

แต่ชินแหล่ะ แล้วก้อได้ปันผลมาปลอบใจหน่อย เฮ้ยยย

ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียวววว

อีกตัว ที่ดิ่งเหวนรก มาก่อนหน้านี้    TASCO  

คิดยังไงครับ กับหุ้นตัวนี้

ณ. ราคา  16.7  น่าซื้อ หรือน่าขายครับ

ผมว่าระยะสั้นก็ต้องมีขึ้นลงบ้าง
vi เหมือนวิ่งมาราธอนนะ
เป้าหมายมันอีกยาว พยายามมีความสุขกับชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ทีละก้าว
อย่าก้าวยาวเพราะเดี๋ยวจะพลาดล้ม
รักษาแรงและยืนระยะให้นานที่สุด

พวกเราสู้.... สู้ๆๆ

ปีนี้ยังไม่ขาดทุน แต่ก็ทำเอาเซ็งเหมือนกัน

อ่าน นสพ. คอลัมนิสต์ เขียนแซวว่า เราได้นักโต้วาที มาเป็นผู้นำ .. หุหุ เหงื่อตกเลย

OutOfMyMind เขียน:ผมว่าระยะสั้นก็ต้องมีขึ้นลงบ้าง
vi เหมือนวิ่งมาราธอนนะ
เป้าหมายมันอีกยาว พยายามมีความสุขกับชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ทีละก้าว
อย่าก้าวยาวเพราะเดี๋ยวจะพลาดล้ม
รักษาแรงและยืนระยะให้นานที่สุด

เห็นด้วยนะครับ

ถ้าเห็นหุ้นราคาลง
ลองกลับไปตรวจสอบดู สาเหตุที่เราซื้อหุ้น
กลับไปดูปัจจัยพื้นฐานต่างๆว่าเป็นอย่างไร

ราคาในตลาดบางครั้งก็สูง หรือ ต่ำเกินไป เพราะเค้าเป็น Mr.Market

มีความสุขในการลงทุนครับผม  :D

tr snc uec เป็นหุ้นที่คนในเวบ ไทยวิซื้อ

หุ้นอะไรก็ไม่ใช่หุ้น วิ ถ้าซื้อมาแพงเกินไป

แพงไม่แพงมีสองส่วนประกอบคือ กำไรที่ บริษัททำได้ กับพีอีที่มวลชนให้

เห็นด้วยกับพี่ atsu (ที่ลูกน่ารักมากจนผมอยากมีลูก)  ที่ว่าหุ้นบางตัวต้องซื้อตอนที่ยังไม่ดัง

uec นี่ผมซื้อตอน 9 บาทก่อนแตกพาร์ เพราะ มีเงินสดอยู่อีก เกือบ 3 บาทต่อหุ้น แล้วผมคาดว่ากำไรปีนั้นน่าจะได้สองบาท ผมเลบถือว่าผมซื้อที่ พีอี 3 เลยกำไร

แต่ก็เป็นบทเรียนผมเหมือนกันว่าขายช้าเกินไป ถ้าขายช่วงก่อนหรือหลังแตกพาร์ใหม่ๆ คงได้เงินมากกว่านี้เยอะ ตัวนี้ลักษณะงานเป็น oem ผมปล่อยให้พีอีไปเกิน 20 เท่าแล้วยังไม่ขายได้ยังไง โง่จริงๆ

ผมเลยได้ข้อคิดมาอีกอย่างคือ หุ้นสั้นอย่าถือยาว หุ้นยาวอย่าถือสั้น

สำหรับผมนะ ถ้าซื้อถึงแม้คำนวณ MOS ไม่ดีพอ พอซื้อมันลงไปมาก ถ้าเรามั่นใจในกิจการ ผมไม่ขายเลย จนมันขึ้นมาหามูลค่าที่มันเป็น พอขายไปก็ไม่เคยขาดทุนเพราะเราถือจนมันเลยกลับไปทุกที จริงๆแล้วเราอาจต้องทำใจลืมราคาที่ซื้อมาไปบ้าง ไม่ต้องไปดูมันบ่อยๆ ลืมพอร์ตไปก่อนก็ได้ แต่ถ้าตัวที่เรามั่นใจว่าดีจริง ผมก็ซื้อเพิ่มอีก ...
ผมเองขอตอบเพราะก็ยังไม่เก่งในแนวคำนวณนัก แต่ก็อาศัย ความใจเย็น ประสบการณ์ในอดีต และก็การศึกษาหุ้นตัวที่จะซื้อค่อนข้างดี (ขอใช้ค่อนข้างเพราะบางทีก็ไม่ดี) บางทีดูจนตัวนั้นมันขึ้นไปจนเกินราคาที่ต้องการ ก็หลายตัวอยู่...เอาว่าเป็นกำลังใจให้ครับ...

VI ถ้าเก่งจริง ขาดทุนก็เเค่ระยะสั้นนะผมว่า

ซื้อกับขาย มันคงต้องมีอันใดอันหนึ่งที่ยาก ถึงจะทำกำไรได้ครับ
มันจะง่ายไปทั้งสองขาได้ยังไง ไม่งั้นคนก็กำไรกันทุกคนสิครับ

ถ้าคุณซื้อยาก (หมายถึงวิเคราะห์ก่อนคนอื่น เจอก่อน ซื้อก่อน) เวลาขายก็จะง่ายมาก เพราะกำไรทุกราคา จะมากจะน้อยเ่ท่านั้นเอง

ถ้าคุณซื้อง่าย (คือซื้อตามชาวบ้าน) เวลาขาย ก็คงต้องตั้งใจหน่อย ถึงจะทำกำไรได้ หุ้นที่คุยกันในนี้ ถ้าราคาวิ่งแล้ว ก็คือหุ้นซื้อง่าย ถ้าซื้อแล้ว ก็เหมือนเผือกร้อน ที่ต้องติดตามใกล้ชิด จนกว่ามันจะเย็นกำลังดี

ตัวผมเอง ชอบซื้อยาก ขายง่ายมากกว่า สบายใจดี