Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เช่น หุ้นขึ้นแรงติดกันหลายวัน ควรหาจังหวะที่มันปรับฐานจะได้ราคาถูกลงมาหน่อย อะไรแบบนี้ครับ

ตามหลักการแล้วไม่ได้ดูจังหวะครับ แต่จะซื้อหรือไม่จะเปรียบเทียบสิ่งที่เราได้มา กับสิ่งที่เราจ่ายไปว่าคุ้มรึเปล่า โดยพิจารณาจากพื้นฐานของธุรกิจ ในแนวความคิดที่ว่าเรากำลังซื้อกิจการหนึ่งๆ ราคาที่เราซื้อควรมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยระดับหนึ่งเพื่อป้องกันการขาดทุน

ถ้าตลาดปกติ ก็ไม่ต้องดูมากครับ แต่ช่วงนี้ ต้องคอยดูครับ

KB เขียน:ตามหลักการแล้วไม่ได้ดูจังหวะครับ แต่จะซื้อหรือไม่จะเปรียบเทียบสิ่งที่เราได้มา กับสิ่งที่เราจ่ายไปว่าคุ้มรึเปล่า โดยพิจารณาจากพื้นฐานของธุรกิจ ในแนวความคิดที่ว่าเรากำลังซื้อกิจการหนึ่งๆ ราคาที่เราซื้อควรมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยระดับหนึ่งเพื่อป้องกันการขาดทุน

เห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์ครับ

bluecode เขียน:เช่น หุ้นขึ้นแรงติดกันหลายวัน ควรหาจังหวะที่มันปรับฐานจะได้ราคาถูกลงมาหน่อย อะไรแบบนี้ครับ

รู้จังหวะ กะ โชคช่วย มันมีเส้นบางขั้นอยู่นิดเดียวนะ
อยากให้จับจุดถูกได้ตลอดจัง

อย่างเมื่อวาน svi พื้นฐานดี มัน floor แบบฝืนๆ
เลยซื้อกลับมา เปิดมาเช้าวันนี้มีคนให้ราคาบาทหนึ่ง
เราพอใจแล้ว เลยขายให้เค้าไป ถ้าลงมาจากที่เราขาย
ก็คงซื้อกลับใหม่ค่ะ

อิเล็คตัวนี้ น่าสนใจอีกแล้ว

โค ตะระสำคัญเลยครับ ลงทุนปี38ยังสู้คนที่ลงทุนปี41ไม่ได้เลยครับ
จังหวะเวลาสำคัญมากกำไรขาดทุนต่างกันแม้ซื้อต่างกันแค่24ชม
คิดให้ดีก่อนซื้อบริษัทนั้นสำคัญแต่จังหวะที่เข้าซื้อก็สำคัญ
:lol:  :lol:

เล่นแบบ vs ต้องดูครับ
เล่นแบบ vi คงไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก

แต่เปนผม ก้อดู ผมชอบทั้งสองอย่าง

จริงๆเรื่องถ้า้คิดให้ดีๆจะพบว่ามันขึ้นอยู่กับหลักการลงทุนของเรานะครับ

ถ้าเรายึดมั่นในหลักการของ VI แล้วเรื่องพวกนี้อาจจะไม่สำคัญเลยก็ได้ครัีบ

แต่ถ้าเรามีความยืดหยุ่นหรือไม่ยึดติดกับหลักการใดหลักการหนึ่งมากเกินไป

เน้นปรับเปลี่ยนพอร์ตไปตามสถานการณ์ ผมว่าเรื่องจังหวะการลงทุนก็อาจจะเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกันครับ

แต่ปัญหาคือ เราจะคาดการณ์สถานการณ์ หรือ อนาคตได้อย่างไร

ดังนั้น ส่วนตัวผมจึง ไม่ค่อยสนใจเรื่องจังหวะครับ แต่สนใจว่าหุ้นที่จะลงทุน
มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น(ที่ผมประเมินได้) หรือยังมากกว่า

 :roll:

ผมรู้ว่าเสื้อยี่ห้อ Jaspal ดีครับ เนื้อผ้าดี ตัดเย็บดี ทน แต่ราคาแพง
แถมยังมียี่ห้ออื่นๆดีๆเหมือนกันมากมายที่น่าใช้

ทุกๆช่วงจะมีช่วง Sale บางครั้งมี Super Sale ครับ นี่คือจังหวะที่เราจะสามารถซื้อเสื้อผ้าดีๆใส่ในราคาถูกครับ

บางครั้งซื้อตอน Sale อ่าวแต่อีกวันดันเป็น Super Super Sale ก็ตัวใครตัวมันแหละครับ แต่ก็เอาน่า ยังไงก็ได้ของถูกแล้ว มีถูกว่าอีกก็ต้องพอใจแหละครับ จะซื้อมาใส่เพิ่มก็ไม่ว่ากันนะครับ

bluecode เขียน:เช่น หุ้นขึ้นแรงติดกันหลายวัน ควรหาจังหวะที่มันปรับฐานจะได้ราคาถูกลงมาหน่อย อะไรแบบนี้ครับ

ขอทราบเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจจะซื้อหุ้นช่วงนี้ได้ไหมครับ

ผมรู้ว่าเสื้อยี่ห้อ Jaspal ดีครับ เนื้อผ้าดี ตัดเย็บดี ทน แต่ราคาแพง
แถมยังมียี่ห้ออื่นๆดีๆเหมือนกันมากมายที่น่าใช้

ทุกๆช่วงจะมีช่วง Sale บางครั้งมี Super Sale ครับ นี่คือจังหวะที่เราจะสามารถซื้อเสื้อผ้าดีๆใส่ในราคาถูกครับ

บางครั้งซื้อตอน Sale อ่าวแต่อีกวันดันเป็น Super Super Sale ก็ตัวใครตัวมันแหละครับ แต่ก็เอาน่า ยังไงก็ได้ของถูกแล้ว มีถูกว่าอีกก็ต้องพอใจแหละครับ จะซื้อมาใส่เพิ่มก็ไม่ว่ากันนะครับ

agree

โดยส่วนตัวผมคิดว่าจังหวะในการลงทุนมีความสำคัญพอๆกับความรู้ในเรื่องการลงทุนครับ

ผมว่า "จังหวะการลงทุน กำหนดความสำเร็จไปกว่าครึ่งครับ" ไม่ว่าจะ VI หรือ VS  ถ้าเราไม่รีบร้อนเกินไป และคอยมองหาโอกาศจาก Mr.Market ผมว่านี่คือ MOS หนึ่งตัวที่สำคัญเลยครับ

ผมว่าสำคัญมากที่สุดเลยครับ
จังหวะการเข้าซื้อสำคัญกว่า การจะซื้อหุ้นตัวไหนอีกครับ  เช่น  Live ptt pttep Kbank bbl ttw อื่นๆ ไม่ว่าหุ้นตัวไหนถ้าเข้าซื้อถูกจังหวะก็มีกำไรได้ ไม่ใช่น้อย เช่นเมื่อ 4 วันก่อน ptt วันที่ 11 อยู่ที่ 141 แล้ววันที่ 13 ก็ขึ้นมา 177 ได้ 36 บาทเห็นๆ เช่น tta เพื่อนผมซื้อ 12.xx วันที่ 11 มันกะจะเก้บยาว แต่มันดันขึ้นมา 15.xx วันที่ 13 เพื่อนมันปล่อยเลยครับ ได้กำไรมาเพียบเลย

ถึงจะซื้อหุ้นดี พื้นฐานดี เข้าผิดก็ จ่ายต้นทุนแพงขึ้น เช่นเราจะซื้อ หมื่นหุ้น ถ้าถูกจังหวะเช่น ต่างจากที่เราจะซื้อ 3 บาท เราก็ประหยัดเงินไป 3หมื่นบาทเลย แต่ถ้าเราซื้อมากกว่านั้นหล่ะซักแสนหุ้น 3 แสนเลยนะครับ

ผมเจอมากับตัวแล้วครับ เข้าซื้อที่ 80 ตอนนี้เหลือ 60 บาท  ซื้อเฉลี่ยตามรายทางมาเรื่อยๆจนได้ 6x ถ้าใครมีเงินซื้อเฉลี่ยก็ดีไปครับ ถ้าดูจังหวะเป็นก็จะประหยัดเงินไปได้พอสมควรครับ

สำหรับผม ไม่ค่อยได้สนใจจังหวะในการเข้าซื้อและขายเท่าไร
เพราะเนื่องจากซื้อและขายแต่ละตัว (แต่ละครั้ง) ก็งาบหรือทุบ
เพราะไม่มีสภาพคล่องเท่าไรเลย
เหนื่อยมากสำหรับการซื้อที่ และเหนื่อยอีกสำหรับตอนขาย

เลยไม่ค่อยได้สนใจจังหวะเท่าไร
มีเวลาไปดูภาพของบริษัท และ ภาพของศก หรือ ภาพของสมาคม หรือ กูรูทางด้านศศ มาบอกมากล่าวว่า ตอนนี้เป็นเช่นไรมากกว่า

ผมคิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนที่เราคาดหวังด้วยนะครับ

ถ้าเราคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 10%

เช่นตอนนี้หุ้น a ราคา 10บาท ให้เงินปันผล 1 บาท

ที่ราคา 10 บาทเราก็ทยอยซื้อได้แล้วครับ

ถ้าราคาหุ้นลงมาอีก แล้วซื้อเพิ่ม เราก็ได้ผลตอบแทนเทียบกับเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูแนวโน้มของบริษัทด้วยนะครับ ว่ามีความสามารถที่จะจ่ายเงินปันผล ได้ไม่น้อยกว่าเดิมรึป่าว ?

ผมว่าถ้า vi คงไม่ดูจังหวะเข้าซื้อนะครับ...

แต่สุดท้ายก็วัดกันที่ "ผลตอบแทน" อยู่ดีอะครับ

vi แล้วไง ถ้าได้ผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่า ไม่ vi ก็ได้  :oops:

จังหวะการเข้าซื้อก็สำคัญนะครับ

ระยะสั้น ก็ได้ราคาที่เราพอใจ เช่น วันนี้หุ้นลงทั้งกระดาน ตัวที่เราเล็งไว้พลอยลงมาด้วย โดยที่พื้นฐานไม่เปลี่ยน ราคาก็เหมาะสม ซื้อวันนี้ได้ของถูกอีกหน่อย

 ภาพยาว เช่น คนลงทุนวันนี้ กับ คนที่ลงทุนไปแล้วเมื่อ ก่อน crisis USA ก็ต้องมีต้นทุนต่างกันแน่นอนครับ ทั้งๆที่หุ้นบางตัวพื้นฐานไม่เปลี่ยนเลย แบบนี้เรียกมา super sale

 จังหวะก็สำคัญตอนนี้หล่ะครับ แต่คงไม่มากไปกว่าพื้นฐาน