หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 4:31 am
โดย awev
ผมไม่เคยสนใจเรื่องหุ้นมาก่อน จนมาวันนึงไปสะดุดตาที่หนังสือ  เริ่มจาก 0 มารวย 10 ล้าน เลยลองซื้อมาอ่านดู แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่ามันไกลตัวเกินไปกับการมีเงิน 10 ล้าน คิดว่าชั่วชีวิตนี้หาได้ 1 ล้านก็เป็นเพียงแค่ฝันที่มันเกินจะเอื้อมแล้ว อ่านไปอ่านมาในหนังสือแนะนำให้ นำเงินที่มีอยู่ไปจัดการยังไงให้มันมีผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากธนาคาร คือการซื้อหุ้น ซึ่งผมเกิดมาในครอบครัวที่เรียกได้ว่ายากจนเลย พ่อผมถีบสามล้อส่งผมเรียนจนจบได้ แต่พอผมมีงานทำผมกลับไม่สามารทำให้พ่อแม่สบายได้ จนบัดนี้พ่อผมยังหยุดทำงานไม่ได้ เพราะผมมีรายได้ไม่มากพอจะเลี้ยงท่านให้สบายได้ ลำพังตัวผมเงินเดือน 5000 ก็เลี้ยงตัวเองได้แล้ว แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก ยังมีคนเบื้องหลังที่เราต้องดูแล ไม่อยากรอให้ถึงวันพ่อแม่ผมเสียก่อน ถ้าวันนั้นเรามีฐานะดีขึ้นแล้ว ไปทำบุญให้ไม่รู้ท่านจะได้รับรึเปล่า ผมจึงต้องหาหนทางพอ ได้ดูช่อง Money Channal ได้เห็นคุณ ลูกอีสาน คุณyoyo คุณkiri คุณ blue blood คุณลูกอีสานได้พูดถึงการข้ามชนชั้น ด้วยหุ้น ผมจึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง พึ่งเริ่มศึกษาได้ประมาณ 3 อาทิตย์ ครับ แต่ไม่รู้จะจับต้นชนปลายตรงไหน ซื้อหนังสือมาอ่านหลายเล่ม แต่ก็ไม่เข้าใจ เพราะผมไม่เข้าใจสเตปการเริ่ม  ผมไม่รู้ว่าหนังสือที่ผมซื้อมามันอยู่ระดับไหนแล้ว เหมือนจะเรียนคณิต แต่อาจจะไปซื้อหนังสือสอนสมการ ป6 มา ทั้งที่เรายัง บวกลบคูณหารเลขพื้นฐานยังไม่เป็นเลย แต่ไปเอาหนังสือที่สอนสมการยากๆมาอ่าน มันเลยเกิดการ งงๆ แต่ถ้าหนังสือเล่มนี้ไปอยู่ในมือ เด็ก ป6 เค้าจะเข้าใจเพราะเค้ามีพื้นฐานที่จำเป็นก่อนมาอ่านแล้ว ด้วยเหตุนี้ผมเลยมาถามท่านเกจิทั้งหลายเป็นแนวทาง
1. ผมควรเริ่มต้นตรงไหนก่อนครับ
2. ควรศึกษาใช้เวลาเท่าไหร่ครับโดยประมาณ และสังเกตุยังไงครับว่าเราพร้อมแล้ว
3. ถ้าจะเริ่มการซื้อผมควรมีเงินเท่าไหร่ครับ  (ถามเผื่อไว้ครับ จะได้สะสมเงินไปด้วย)
ขอบคุณมากครับ

Re: คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 8:09 am
โดย beammy
[quote="awev"]ผมไม่เคยสนใจเรื่องหุ้นมาก่อน จนมาวันนึงไปสะดุดตาที่หนังสือ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 8:10 am
โดย beammy
ไม่ใช่เกจิ แต่อยากตอบ ไม่ว่ากันนะครับ  :8)  ...

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 9:55 am
โดย krisy
เราเริ่มได้ครึ่งปีกว่าค่ะ จากคนที่ไม่รู้อะไรเลยและมีทัศนคติว่าหุ้นคือการพนันและหมดตัวได้ง่ายกว่ากำไร

1. ผมควรเริ่มต้นตรงไหนก่อนครับ
- เราเริ่มจากการทำความเข้าใจความรู้เบื้องต้นในตลาดก่อนค่ะ อ่านจากในเวป set.or.th ฟรี ตรงความรู้นักลงทุนจะมีข้อมูลเยอะเลย อ่านแล้วจะได้เข้าใจกลไก และภาษาที่เค้าใช้กันตลาด พูดภาษาเดียวกันก่อน ให้รู้ว่าหุ้น warrant เครื่องหมาย XD, XR คืออะไรก่อนค่ะ
- อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนเบื้องต้น พวกคัมภีร์หุ้น หุ้นห่านทองคำ เราเปิดๆดู เนื้อหาจะเป็นแนวแนะนำการลงทุน สอนดูงบการเงิน เราไม่ได้อ่านนะคะ เพราะเราจบบัญชี เรียนบริหารมาแล้วด้วย ก็เลย skip ได้
- อ่านพวกหนังสือเชิงกลยุทธ์ เช่นตีแตก ดีมากมากเลย เราเพิ่งได้อ่านเพราะเพิ่งพิมพ์ออกมาใหม่ หนังสือพวกนี้มีเยอะค่ะ ลองยืนอ่านดูเลือกเล่มที่เราอ่านรู้เรื่องมากที่สุดมาอ่านก่อน
- เล่น port จำลองใน settrade.com หรือ pantip ก็ได้
- อ่านข่าวจากเนทค่ะ

2. ควรศึกษาใช้เวลาเท่าไหร่ครับโดยประมาณ และสังเกตุยังไงครับว่าเราพร้อมแล้ว
- เราทำความเข้าใจประมาณ 2-3 เดือนสำหรับการหุ้นเบื้องต้น (เผอิญเราไม่มีปัญหาเรื่องงบการเงิน) รวมถึงการหา website ข่าว เวบบอร์ด และ link ที่มีประโยชน์เอาไว้ใช้งาน เคยหลงทางจะไปอยู่ก๊วนเวบปั่นหุ้นมาแล้ว แบบเอาเงินเราไปหมุนอย่างนั้นค่ะ
- พร้อมไม่พร้อม เป็นความคิดของแต่ละคน ต้องถามใจ แต่เราว่าเมื่อไหร่ฟังที่เค้าคุยในเวบพอรู้เรื่องก็พอใช้ได้แล้วนะคะ เราเปิดพอร์ทจริงได้ประมาณ 1 เดือนเองค่ะ เพราะเล่นแบบจำลองแล้วไม่ตื่นเต้น  :lol: ขี้เกียจและไม่ตื่นตัว
- ตลาดหุ้นการศึกษาไม่มีจบสิ้นนะคะ คุณต้องพร้อมทุกวัน เพราะโอกาสจะมาเรื่อยๆ อยู่ที่ว่าวางแผนดีแค่ไหน ทุกวันนี้เรายังต้องเรียนอีกเยอะ เพราะบางทีก็ไม่รู้ว่าเค้าคุยไรกัน นอกจากนี้ปล่อยโอกาสดีดีไปเยอะมาก  :cry:

3. ถ้าจะเริ่มการซื้อผมควรมีเงินเท่าไหร่ครับ  
- เห็นเค้าเริ่มกัน 5000 ก็มีนะคะ แต่ออมไว้ลงทุนก็ดีกว่าอยู่แล้ว ตอนนี้เราพอร์ทไม่ใหญ่เหมือนกันค่ะ เลยซื้อได้ไม่กี่ตัวก็เต็มวงเงิน แต่ยังไม่ใส่เงินเพิ่ม เพราะยังลงทุนไม่เป็น เอาให้เชี่ยวกว่านี้ แล้วค่อยใส่เพิ่มค่ะ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 3:24 pm
โดย PERFECT LUCKY
ใจเย็นๆ  อยากรวยให้ช้าๆ แต่มั่นคงหน่อยนะครับ (สังเกตได้ว่า ยิ่งอยากรวยเร็ว ยิ่งจนเร็ว เพราะ จะเสี่ยงทำอะไรขาดความยั้งคิดมาก)

หลักการ ก็หาในเวปนี้ เวปกระทิงคุณค่า  ฯลฯ มีมากมายครับ

แต่สิ่งที่ต้องบ่มเพาะ คือ ประสบการณ์ครับ หลายๆ ครั้งที่เลือกหุ้น คิดว่าดีแล้ว ถูกแล้ว ยังลงอีก จะจัดการกับความเครียด ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อขายอย่างไร  

หลายๆ ครั้ง หุ้นขึ้นไปไม่ขาย แล้วลงมา ทำยังไง ซื้อสัดส่วนเงินกี่บาท ในพอร์ตของหุ้นแต่ละตัวดี

ประสบการณ์พวกนี้ จำเป็นต้องอาศัยเวลาครับ

แนะนำอีกอย่าง ขอความรู้จากคนเก่งๆ ในเวปนี้ เช่น คุณ Mon Money ,คุณหมอ สามัญชน คุณ ลูกอิสาน  นริส yoyo ฯลฯ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณ awev จะประสบความสำเร็จจากการลงทุน อย่าง "มีความสุข" นะครับ  เชียร์คุณขาดใจเลยครับ :D

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 3:31 pm
โดย Glaxo
เอาใจช่วยครับ ขยันเข้าไว้ครับ

คิดแบบสร้างภาพว่ารายการ มันนีทอร์คเชิญเราไปคุยเรื่องว่าทำไมเราประสบความสำเร็จทั้งที่เริ่มจากเงินไม่มากสิครับ
คิดมันทุกวันเดี๋ยวรวยเอง (คิดแบบ THE SECRET)


ผมเองก็ไม่เก่งแต่อยากตอบครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 11:14 pm
โดย oatty
อันดับแรกที่สำคัญจริง ๆ คือ ใฝ่รู้ ครับ อ่านให้เยอะ ๆ ผมเองอ่านคอลัมน์ของ ดร.ใำนหนังสือพิมพ์เกือบสามปี ก่อนจะเริ่มนำเงินมาลงทุน
ค่อย ๆ สะสม ลงทุนให้สมกับเงินที่มี พอดีกับความรู้ของเรา
หมั่นทำความดีด้วยครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 26, 2008 11:47 pm
โดย KB
เป็นกำลังใจให้ครับ แม้คนเราเกิดมาจะได้รับโอกาสที่ไม่เท่ากัน แต่ว่าความพยายามที่มากพอ ก็สามารถสร้างโอกาสดีๆ ให้กับเราได้ อาจจะได้ใช้เวลาและความพยายามมากกว่าหน่อย แต่ผมว่ามันคุ้มค่า ถ้าเราไม่เริ่มที่จะเปลี่ยนเราจะรอรุ่นลูกเรา รุ่นหลานเราหรือ พยายามเปลี่ยนตั้งแต่รุ่นเราไปเลยดีกว่า

1. แนะนำเริ่มจากอ่านหนังสือครับ เพราะลงทุนน้อยผลตอบแทนสูง หนังสือที่แนะนำสำหรับเริ่มต้นเลย ผมแนะนำหนังสือชื่อ บทเรียนจากนักลงทุนระดับโลก หนังสือเล่มนี้จะไม่เน้นวิธีการเท่าไหร่ แต่จะเน้นแนวความคิดในการลงทุน ประวัติของนักลงทุนระดับโลกหลายๆ คน เล่มนี้อ่านง่ายครับสนุกด้วยเลยเหมาะสำหรับเริ่มต้น อีกเล่มนึงที่อยากแนะนำก็คือหุ้นห่านทองคำ หนังสือของตลาดหลักทรัพย์ เล่มนี้ก็อ่านแล้วเข้าใจง่าย หนังสือเล่มต่อๆ จากนี้ผมคิดว่าคุณจะเริ่มจับทางได้แล้วว่าแบบไหนเหมาะ แค่ลองอ่านบทนำกับสารบัญคุณก็จะเลือกได้ อยากให้คุณศึกษาหลักการให้แน่น ต่อไปจะประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับตัวคุณได้เอง

2. เวลานานแค่ไหน ไม่เท่ากับว่าเรารู้แค่ไหน ควรจะศึกษาให้รู้หลักการ รู้วิธีการ วิธีคิด วิเคราะห์เป็น และผมคิดว่าไม่ต้องรอให้พร้อมครับ คุณสามารถเริ่มต้นได้เริ่ม แต่เริ่มต้นจากน้อยๆ ก่อน การลงทุนจริงผมว่าให้ประสบการณ์และบทเรียนที่น่าจดจำไม่น้อยไปกว่าเรียนรู้จากหนังสือเลยครับ

3. เริ่มจากหลักหมื่นก่อนครับ ผมคิดว่าคงไม่มากและไม่น้อยเกินไปสำหรับการเริ่มต้น

Re: คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2008 2:40 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="awev"]1. ผมควรเริ่มต้นตรงไหนก่อนครับ
2. ควรศึกษาใช้เวลาเท่าไหร่ครับโดยประมาณ และสังเกตุยังไงครับว่าเราพร้อมแล้ว
3. ถ้าจะเริ่มการซื้อผมควรมีเงินเท่าไหร่ครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2008 11:07 pm
โดย Little Boy
เวลาที่คนรอบข้างผมเข้ามาถามว่าให้เค้าอ่านเล่มไหนก่อนหลังดี สนใจจะลงทุนในหุ้น ผมจัดให้ดังนี้
1. ตีแตก (ดร.นิเวศน์)
2. เคล็ดลับเซียนหุ้นพันธ์แท้ (ดร.นิเวศน์)
3. เทคนิคพิชิตหุ้น (ดร.นิเวศน์)

ผมจัด 3 เล่มนี้ให้ไปอ่านก่อนทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่หลังอ่านจบก็จะพูดจาภาษาหุ้นกับผมเริ่มรู้เรื่องแล้ว  แล้วผมก็แนะนำต่อโดยให้เข้ามาอ่านกระทู้ ตระแกรงร่อนหุ้นของที่นี่ และเล่มอื่นๆ เสริมเข้าไป ใครที่ไม่รู้เรื่องบัญชีก็แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการอ่านงบครับ ลองดูนะครับขอให้ประสบความสำเร็จครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 28, 2008 12:21 am
โดย Ryuga
สวัสดีครับ ขอให้ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยมีเงินมีทอง  :welcome:
พี่ Glaxo เขียน:เอาใจช่วยครับ ขยันเข้าไว้ครับ

คิดแบบสร้างภาพว่ารายการ มันนีทอร์คเชิญเราไปคุยเรื่องว่าทำไมเราประสบความสำเร็จทั้งที่เริ่มจากเงินไม่มากสิครับ
คิดมันทุกวันเดี๋ยวรวยเอง (คิดแบบ THE SECRET)


ผมเองก็ไม่เก่งแต่อยากตอบครับ
นึกถึงพี่ดูดีมากเลยครับ  :rofl:  :rofl:  :rofl:

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=32440

newbie

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 28, 2008 10:38 am
โดย OhYes
http://edu.tsi-thailand.org/index.php?o ... Itemid=203

have to enter this website ler kub ... learning about investment basis kub

ive been learning for a month eng kub 555+

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 28, 2008 11:34 am
โดย ลูกอิสาน
เห็นคุณ awev เริ่มลงทุนเงินไม่มาก
ผมนึกถึงกระทู้นึงที่เคยแนะนำสำหรับนักลงทุนเงินน้อย ตามนี้ครับ

กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

แต่จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ระดับนึงแล้วครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์บ้าง



สำหรับคนที่เริ่มจากศูนย์ ความเชื่อ ความหวัง ความศรัทธา เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ผมนึกถึงบทกวีบทนึง เอาไว้ปลอบประโลมใจเวลาท้อแท้ครับ..

เมื่อเริ่มสู้นั้น มันมืดยิ่งกว่ามืด
ครั้นยืนหยัดยาวยืด มืดค่อยหาย
พอมองเห็นลางลาง อยู่ทางปลาย
ชัยชนะขั้นสุดท้าย ไม่เกินรอ
..



เป็นบทกวีปลุกใจของคุณเปลี้อง วรรณศรี แกนนำพรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทยครับ ผมอ่านเจอตอนเรียนมหาลัย 15 ปีที่แล้ว นำมาเขียนติดไว้ข้างฝาในห้องเช่ารังหนูแถวกิ่งเพชร เอาไว้สร้างพลังใจ เพราะตอนนั้นชีวิตไม่มีสินทรัพย์อะไรเลย  :oops:

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 28, 2008 5:01 pm
โดย chaiwat_tra
อ่านแล้วซึ้งจังเลยครับ ...
ผมก็เป็นมือใหม่ ที่อยากจะข้ามชนชั้น เหมือนกันครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 28, 2008 7:27 pm
โดย awev
ขอบคุณทุกท่านมากเลยครับ ทุกคำแนะนำผมจะยึดถือไว้เป็นแนวทางและแรงบรรดาลใจ จะไม่ยอมแพ้โชคชะตา ถ้ายังไม่ตายซะก่อน ขอบคุณมากเลยครับพี่น้องทุกท่าน :D

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 29, 2008 4:13 am
โดย Coin Flipper
การลงทุนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ แต่การลงทุนไม่จำเป็นต้องในหุ้นเท่านั้น

ผมอยากให้ลองมองอีกมุมนึง ถ้าคุณหาความรู้ในวิชาชีพตัวเอง พยายามทำผลงานจนเลื่อนขั้น หรือเปลี่ยนงานเพื่อเงินเดือนมากขึ้น ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนมากทีเดียว

จากที่คุณบอกเงินเดือน 5000 ถ้าคุณสามารถทำให้เงินเดือนเป็น 6000  ก็จะได้ปีล่ะ 12000 บาท

สมมติถ้าพอร์ทขนาด 20000 การที่เพิ่มเงินเดือน 12000 เปรียบเสมือนได้ผลตอบแทน 60% เลยน่ะ

แค่อยากให้พัฒนาตัวเองในงานที่ทำ อย่าทุ่มเวลาทั้งหมดกับการเล่นหุ้น ที่คุณเห็นเป็นส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุน แต่ยังไงก็เริ่มศึกษาหาความรู้ในหุ้นไว้ เพราะผมเชื่อว่า เล่นหุ้นแบบเน้นคุณค่า ระยะยาวยังไงก็ได้กำไร

ยังไงก็ขอให้ประสบความสำเร็จครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความฝันเหมือนคุณ

ฝันให้ไกลถึงดวงจันทร์ ถ้าพลาดพลั้งก็ยังอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว

ป.ล. อ่าวไม่ได้ตอบคำถามเลยนี่หว่า ออกทะเลซะงั้น

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 29, 2008 9:18 am
โดย ...
เห็นด้วยกับพี่ Coin Flipper ครับ

นอกจากลงทุนในหุ้นแล้ว เราก็ควรที่จะไม่ลืมลงทุนในความรู้ ลงทุนในสุขภาพ และลงทุนในความรักไปด้วยนะครับ
เพราะเมื่อถึงวันนั้นที่เราสามารถข้ามชนชั้นไปได้แล้ว แต่สุขภาพกลับย่ำแย่ หรือไม่มีใครอยู่รอบข้างเราเลย เงินที่หาได้มาจะมีประโยชน์อันใด  :|

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 29, 2008 11:01 am
โดย ellevoid
Coin Flipper เขียน:การลงทุนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ แต่การลงทุนไม่จำเป็นต้องในหุ้นเท่านั้น

ผมอยากให้ลองมองอีกมุมนึง ถ้าคุณหาความรู้ในวิชาชีพตัวเอง พยายามทำผลงานจนเลื่อนขั้น
หรือเปลี่ยนงานเพื่อเงินเดือนมากขึ้น ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนมากทีเดียว

จากที่คุณบอกเงินเดือน 5000 ถ้าคุณสามารถทำให้เงินเดือนเป็น 6000  ก็จะได้ปีล่ะ 12000 บาท

สมมติถ้าพอร์ทขนาด 20000 การที่เพิ่มเงินเดือน 12000 เปรียบเสมือนได้ผลตอบแทน 60% เลยน่ะ

แค่อยากให้พัฒนาตัวเองในงานที่ทำ อย่าทุ่มเวลาทั้งหมดกับการเล่นหุ้น ที่คุณเห็นเป็นส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุน
แต่ยังไงก็เริ่มศึกษาหาความรู้ในหุ้นไว้ เพราะผมเชื่อว่า เล่นหุ้นแบบเน้นคุณค่า ระยะยาวยังไงก็ได้กำไร

ยังไงก็ขอให้ประสบความสำเร็จครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความฝันเหมือนคุณ

ฝันให้ไกลถึงดวงจันทร์ ถ้าพลาดพลั้งก็ยังอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว

ป.ล. อ่าวไม่ได้ตอบคำถามเลยนี่หว่า ออกทะเลซะงั้น
ที่พี่ตอบคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดแล้วครับ ลองดูตัวอย่างคนเหล่านี้ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงนะครับ
Gates เป็นเจ้าของกิจการ, Buffet เล่นหุ้น, Welch เป็นลูกจ้าง, Drucker เป็นครู ฯลฯ
นี่คือผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของแต่ละแขนง พวกเค้ารู้ว่าตัวเค้าเหมาะกับอะไร ควรจะทำอะไร แล้วก็ลงทุนทำในสิ่งนั้นอย่างจริงจัง
(หลายคนข้างต้นนั้นไม่ได้เล่นหุ้นนะครับ)

คนที่ประสบความสำเร็จมีน้อยเพราะคนพวกนี้รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร แต่คนส่วนใหญ่ (ที่ล้มเหลว) ไม่รู้
แต่ละคนมีความคิด, ความสามารถ, มุมมองต่อชีวิต, ประสบการณ์ ฯลฯ ที่แตกต่างกันครับ
ดังนั้นต้องหาตัวเองให้เจอก่อน ต้องรู้ให้ได้ว่าอะไรที่เราทำได้ดี อะไรที่เราชอบทำ และโลกชอบอะไร(ที่เราทำ)
ถ้าหาเจอและลงทุนในสิ่งนั้น ก็จะพบหนทางสู่อิสรภาพทางการเงินเองครับ

ปล. มีอิสรภาพทางการเงิน คือ มีเงินไว้ใช้จ่ายเพียงพอในยามแก่ใช่รึเปล่าครับ ? ถ้าใช่ key factor คืออะไรล่ะครับ?  :wink:

อย่าทำเพราะทางมันง่าย แต่จงทำเพราะทางมันใช่

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 11:42 am
โดย awev
เหตุผลที่ผมสนใจหุ้น เพราะผมทำงานใช้เวลาจนหมดไปแทบจะ 24 ชม. แล้วครับ ทำงานประจำ 9.00 น- 20.00น  พอเลิกงานประจำก็ไปขายของตลาดนัดต่อ 20.00น-23.00น  เก็บของกลับถึงบ้าน24.00น กินข้าวอาบน้ำอ่านหนังสือเล็กน้อย นอนตี 2 เป็นวัฏจักรอย่างงี้มาเป็นปี ผมหาทางเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย ผมลดจนไม่รู้จะลดยังไงแล้ว เหลือแต่ที่บ้านจะใช้เทียนแทนไฟฟ้า  :D  ผมใช้เงินวันละ 40 บาท เที่ยงที่ทำงานเลี้ยงข้าว เย็นกินเอง  เช้าไม่กิน
ผมจึงคิดว่าถ้าผมต้องการรายได้มากกว่านี้ ผมก็คงต้องทำงานให้มากกว่านี้ แต่มันชนเพดานแล้วครับ คือไม่สามารถทำได้มากกว่านี้แล้ว ผมจึงได้คิดว่าถ้าเราเอาเงินไปทำให้มันเกิดรายได้ขึ้นมาอีกช่องทางนึง มันก็จะทำให้มีเงินเข้ามาเพิ่มอีกทาง ถึงมันจะน้อยตามเงินทุนที่มีน้อยหรืออาจจะขาดทุนมันก็น่าจะลองดู ถ้าเราลองเรายังมีลุ้นว่าจะมีโอกาสได้ แต่ถ้าไม่ลุ้นก็คือโอกาสเป็นศูนย์ ไม่ได้หวังว่าจะรวย แต่หวังแค่ว่าถ้าเรามีเงินเก็บบ้าง ตอนพ่อแม่ตัวเราเองเจ็บป่วยจะได้ไม่ลำบาก ต้องไปยืมเงินคนอื่นเสียดอกร้อยละ 10-20 เหมือนนิทานอีสป ที่มดหาอาหารเก็บไว้ แต่ตั๊กแตนไม่หา พอฤดูหนาวมาเยือนก็ไม่มีอาหาร เพราะฤดูมันเป็นธรรมชาติที่เลี่ยงไม่ได้ ตัวเราเองก็เช่นกันเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องกิน ต้องอยู่ ต้องเจ็บป่วย ตราบใดที่ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ยังไงเงินก็เป็นปัจจัยที่จำเป็น ผมก็ใช้ชีวิตแบบพอเพียง แต่ตอนนี้ที่กำลังหาเพราะมันไม่เพียงพอในอนาคต เมื่อก่อนตอนแม่ผมเป็นสาวๆ ทองคำบาทละ 400 ตอนนี้ หมื่นสามกว่า ในอนาคตเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไงมีเงินสะสมไว้ก็อุ่นใจ
เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะสร้างโอกาสได้ตัวเองได้  สู้ตาย  :x

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 12:10 pm
โดย krisy
อืม ช่วงระหว่างเก็บหอมรอมริบ ก็ลงทุนในความรู้ไปก่อนนะคะ ตลาดไม่หนีไปไหน เปิดทุกวันและรออยู่เสมอ เราเองก็ยังไม่เจอหุ้นที่ถูกใจเลย

แต่เราก็ว่า ลงทุนในสุขภาพด้วยนะคะ ครูที่สอนสมาธิบอกว่า บุญที่เรามี มีทั้งบุญเก่ามาแต่กำเนิด และบุญที่สร้างในชาตินี้ บุญเก่าเนี่ยเช่น เกิดมาครบ 32 สุขภาพแข็งแรง พวกนี้ใช้หมดแล้วหมดเลย เพราะงั้นต้องถนอมมันหน่อย ตอนเช้าทานอะไรสักหน่อยก็ดีนะคะ

ปล. มีคนบอกเราว่า อยากได้เงินเดือนเพิ่มให้เปลี่ยนงาน เพื่อนเราเปลี่ยนก็ได้มากกว่างานเก่า (ไม่งั้นก็ไม่ออก  :lol: ) ลง resume ในพวกเวปหางานสิค่ะ มี e-mail มาแจ้งงานใหม่เราทุกวันเลย เผื่อได้โอกาสขยับฐานเงินเดือน

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 01, 2008 4:57 pm
โดย bmw2681
[quote="..."]เห็นด้วยกับพี่ Coin Flipper ครับ

นอกจากลงทุนในหุ้นแล้ว เราก็ควรที่จะไม่ลืมลงทุนในความรู้ ลงทุนในสุขภาพ และลงทุนในความรักไปด้วยนะครับ
เพราะเมื่อถึงวันนั้นที่เราสามารถข้ามชนชั้นไปได้แล้ว แต่สุขภาพกลับย่ำแย่ หรือไม่มีใครอยู่รอบข้างเราเลย เงินที่หาได้มาจะมีประโยชน์อันใด

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 01, 2008 8:27 pm
โดย Sittipan.tvi
มีนิทานชาดกว่าด้วยความฉลาดในการสร้างฐานะมาฝากกันครับ
ลิงค์ข้างล่างเป็นการตูนอ่างง่ายสนุกครับ

http://www.kalyanamitra.org/chadok/mixc ... k5013.html

          นิทาน แปลว่า เหตุเป็นเครื่องมอบให้ซึ่งผล, มูลเค้า, เรื่องเดิม, สมุฏฐาน
         ชาดก แปลว่า ประวัติการทำความดีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีมาในชาติก่อน ๆ
        นิทานชาดก   มิใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อสอนคุณธรรม แต่นิทานชาดก  คือ  เรื่องในอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ที่พระองค์ทรงแสดงแก่พระภิกษุในโอกาสต่าง ๆ บางครั้งก็เพื่อแสดงภูมิหลังของผู้ที่พระองค์ต้องการแสดงธรรมให้ฟัง บางครั้งก็เพื่ออธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

         ผู้ที่อ่านนิทานชาดก หรือนิทานธรรมะ จึงควรอ่านอย่างพิจารณา และนำหลักธรรมที่ได้ไปใช้เป็นคุณประโยชน์ แก่ตนเองและผู้อื่น  ส่วนความเพลิดเพลินจากนิทานธรรมะนั้น ถือว่าเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น  จึงจะนับว่าได้รับ ประโยชน์จากนิทานชาดก หรือนิทานธรรมะที่พระองค์ทรงแสดงไว้ให้แล้วอย่างแท้จริง  




จุลลกเศรษฐีชาดก  ว่าด้วยความฉลาดในการสร้างฐานะ

http://84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=270004


    ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในเมืองพาราณสี ในแคว้นกาสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลเศรษฐี เจริญวัยแล้ว ได้รับตำแหน่งเศรษฐีได้ชื่อว่า จุลลกเศรษฐี จุลลกเศรษฐีนั้นเป็นบัณฑิต ฉลาดเฉียบแหลม รู้นิมิตทั้งปวง. วันหนึ่ง จุลลกเศรษฐีนั้นไปสู่ที่บำรุงพระราชา เห็นหนูตายในระหว่างถนน คำนวนนักขัตฤกษ์ในขณะนั้นแล้ว กล่าวคำนี้ว่า กุลบุตรผู้มีดวงตา คือปัญญา อาจเอาหนูตัวนี้ไปกระทำการเลี้ยงดูภรรยา และประกอบการงานได้
    กุลบุตรผู้ยากไร้คนหนึ่งชื่อว่า จูฬันเตวาสิก ได้ฟังคำของเศรษฐีนั้น แล้วคิดว่า ท่านเศรษฐีนี้ไม่รู้ จักไม่พูด จึงเอาหนูไปขายในตลาดแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นอาหารแมว ได้ทรัพย์กากณึกหนึ่ง จึงซื้อนํ้าอ้อยด้วยทรัพย์หนึ่งกากณึกนั้น แล้วเอาหม้อใบหนึ่งตักนํ้าไป เขาเห็นพวกช่างดอกไม้มาจากป่า จึงให้ชิ้นนํ้าอ้อยคนละหน่อยหนึ่ง แล้วให้ดื่มนํ้ากระบวยหนึ่ง พวกช่างดอกไม้เหล่านั้นได้ให้ดอกไม้คนละกำมือแก่เขา.
    แม้ในวันรุ่งขึ้น เขาก็เอาค่าดอกไม้นั้น ซื้อนํ้าอ้อยและนํ้าดื่มหม้อหนึ่ง ไปยังสวนดอกไม้ทีเดียว พวกช่างดอกไม้ได้ให้ กอดอกไม้ที่เก็บไปแล้ว ครึ่งกอแก่เขาในวันนั้นแล้วก็ไป ไม่นานนัก เขาก็ได้เงิน ๘ กหาปณะ โดยอุบายนี้
    ในวันมีฝนเจือลมวันหนึ่ง ไม้แห้งกิ่งไม้ และใบไม้เป็นอันมาก ในพระราชอุทยาน ถูกลมพัดตกลงมาอีก คนเฝ้าอุทยานไม่เห็นอุบายที่จะทิ้ง เขาไปในพระราชอุทยานนั้น แล้วกล่าวกะคนเฝ้าอุทยานว่า ถ้าท่านจักให้ไม้และใบไม้เหล่านั้นแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจักนำของทั้งหมด ออกไปจากสวนนี้ของท่าน คนเฝ้าอุทยานนั้นรับคำว่า เอาไปเถอะ นาย. จูฬันเตวาสิกจึงไปยังสนามเล่นของพวกเด็กๆ ให้นํ้าอ้อย ให้ต้นไม้และใบไม้ทั้งหมด ออกไปโดยเวลาครู่เดียว ให้กองไว้ที่ประตูอุทยาน. ในกาลนั้น ช่างหม้อหลวงเที่ยวหาฟืนเพื่อเผาภาชนะดินของหลวง เห็นไม้และใบไม้เหล่านั้นที่ประตูอุทยาน จึงซื้อเอาจากมือของจูฬันเตวาสิกนั้น. วันนั้น จูฬันเตวาสิกได้ทรัพย์ ๑๖ กหาปณะ และภาชนะ ๕ อย่างมีตุ่มเป็นต้น ด้วยการขายไม้.
    เมื่อมีทรัพย์ ๒๔ กหาปณะ จูฬันเตวาสิกนั้นจึงคิดว่า เรามีอุบายนี้ แล้วตั้งตุ่มนํ้าดื่มตุ่มหนึ่งไว้ ในที่ไม่ไกลประตูพระนคร บริการคนหาบหญ้า ๕๐๐ คนด้วยนํ้าดื่ม. คนหาบหญ้า แม้เหล่านั้นกล่าวว่า สหาย ท่านมีอุปการะมากแก่พวกเรา พวกเราจะกระทำอะไรแก่ท่าน (ได้บ้าง). จูฬันเตวาสิกนั้นกล่าวว่า เมื่อกิจเกิดขึ้นแก่เรา ท่านทั้งหลายจักกระทำ แล้วเที่ยวไปข้างโน้นข้างนี้ ได้กระทำความสนิทสนม โดยความเป็นมิตรกับคนผู้ทำงานทางบก และคนทำงานทางน้ำ
    คนทำงานทางบกบอกแก่จูฬันเตวาสิกนั้นว่า พรุ่งนี้ พ่อค้ามาจักพาม้า ๕๐๐ ตัวมายังนครนี้. นายจูฬันเตวาสิกนั้นได้ฟังคำของคนทำงานทางบกนั้นแล้ว จึงกล่าวกะพวกคนหาบหญ้าว่า วันนี้ ท่านจงให้หญ้าแก่เราคนละกำ และเมื่อเรายังไม่ได้ขายหญ้า ท่านทั้งหลายอย่าขายหญ้าของตนๆ คนหาบหญ้าเหล่านั้นรับคำแล้ว นำหญ้า ๕๐๐ กำ มาลงที่ประตูบ้านของจูฬันเตวาสิกนั้น. พ่อค้าม้าไม่ได้อาหารสำหรับม้าในพระนครทั้งสิ้น จึงให้ทรัพย์หนึ่งพันแก่จูฬันเตวาสิกนั้น แล้วถือเอาหญ้านั้นไป.
    แต่นั้นล่วงไป ๒-๓ วัน สหายผู้ทำงานทางนํ้าบอกแก่จูฬันเตวาสิกนั้นว่า เรือใหญ่มาจอดที่ท่าแล้ว. จูฬันเตวาสิกนั้นคิดว่า มีอุบายนี้. จึงเอาเงิน ๘ กหาปณะไปเช่ารถ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยบริวารทั้งปวง แล้วไปยังท่าเรือด้วยยศใหญ่ ให้แหวนวงหนึ่งเป็นมัดจำแก่นายเรือ ให้วงม่าน นั่งอยู่ในที่ไม่ไกล สั่งคนไว้ว่า เมื่อพ่อค้าภายนอกมา พวกท่านจงบอก โดยการบอกประวิงไว้สามครั้ง. พ่อค้าประมาณร้อยคนจากเมืองพาราณสีได้ฟังว่า เรือมาแล้ว จึงมาโดยกล่าวว่า พวกเราจะซื้อเอาสินค้า. นายเรือกล่าวว่า พวกท่านจักไม่ได้สินค้า พ่อค้าใหญ่ในที่ชื่อโน้น ให้มัดจำไว้แล้ว พ่อค้าเหล่านั้นได้ฟังดังนั้น จึงมายังสำนักของจูฬันเตวาสิกนั้น. คนผู้รับใช้ใกล้ชิด จึงบอกความที่พวกพ่อค้าเหล่านั้นมา โดยการบอกประวิงไว้สามครั้ง ตามสัญญาเดิม. พ่อค้าประมาณ ๑๐๐ คนนั้น ให้ทรัพย์คนละพัน เป็นผู้มีหุ้นส่วนเรือกับจูฬันเตวาสิกนั้น แล้วให้อีกคนละพันให้ปล่อยหุ้น ได้กระทำสินค้าให้เป็นของตน จูฬันเตวาสิกถือเอาทรัพย์สองแสน กลับมาเมืองพาราณสี คิดว่า เราควรเป็นคนกตัญญู จึงให้ถือเอาทรัพย์แสนหนึ่งไปยังที่ใกล้จุลลกเศรษฐี.
   
    ลำดับนั้น จุลลกเศรษฐีจึงถามจูฬันเตวาสิกนั้นว่า ดูก่อนพ่อ เธอทำอะไรจึงได้ทรัพย์นี้.

    จูฬันเตวาสิกนั้นกล่าวว่า ข้าพเจ้าตั้งอยู่ในอุบายที่ท่านบอก จึงได้ทรัพย์ภายใน ๔ เดือนเท่านั้น แล้วบอกเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่หนูตายเป็นต้นไป

    ท่านจุลลกมหาเศรษฐีได้ฟังคำของจูฬันเตวาสิกนั้น แล้วคิดว่า บัดนี้ เรากระทำทารกเห็นปานนี้ให้เป็นของเรา จึงจะควร จึงให้ธิดาของตนผู้เจริญวัยแล้ว กระทำให้เป็นเจ้าของทรัพย์ทั้งสิ้น

    เมื่อท่านเศรษฐีล่วงลับไปแล้ว จูฬันเตวาสิกนั้นก็ได้ตำแหน่งเศรษฐี ในนครนั้น. ฝ่ายพระโพธิสัตว์ก็ได้ไปตามยถากรรม.

   พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นตรัสพระธรรมเทศนานี้ ทรงเป็นผู้ตรัสรู้พร้อมยิ่งทีเดียว ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า

    บุคคลผู้มีปัญญารู้จักใคร่ครวญ ย่อมตั้งตนได้ด้วยทรัพย์อันเป็นต้นทุน แม้มีประมาณน้อย เหมือนคนก่อไฟกองน้อย ให้เป็นกองใหญ่  ฉะนั้น.

    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนานี้อย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จุลลปันถกอาศัยเราแล้ว ถึงความเป็นใหญ่ในธรรม ในเพราะธรรมทั้งหลาย ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนก็อาศัยเรา จึงถึงความเป็นใหญ่ในโภคะ แม้เพราะโภคะทั้งหลาย แล้วตรัสเรื่อง ๒ เรื่อง สืบอนุสนธิกัน
แล้วทรงประชุมชาดก ว่า

         จูฬันเตวาสิกในกาลนั้น ได้เป็น พระจุลลปันถก ในบัดนี้

         ส่วนจุลลกมหาเศรษฐีในกาลนั้น ได้เป็น เราผู้ตถาคต แล.


รายละเอียดของหน่วยเงินที่ใช้ ในเรืองเศรษฐีผู้รวยด้วยหนูตายเพียงตัวเดียว    
    ***กากณึก ใช้เทียบมูลค่าสิ่งของเท่าชิ้นเนื้อที่กาจะพาบินไปได้ ...
    ***1 กหาปณะ = 20 มาสก = 4 บาท

ผมขอถามเพื่อนๆ ว่า จากเงิน 1 กากณึก ภายในเวลา 4 เดือน
นายจูฬนเตวาสิก สามารถทำให้กลายเป็นเงิน 200,000 กหาปณะ
เขาได้รับผลตอบแทนทบต้นเท่าไรครับ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ awev ครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 05, 2008 9:16 am
โดย sunrise
เป็นกำลังใจให้เช่นกัน

ผมมีแนวคิดอย่างนึงครับ

ผมคิดว่าทำงานมากไปก็ไม่ดี เอาเวลามานั่งคิดหาวิธีที่จะเพิ่มรายได้บ้าง
หรือลองคุยกับคนอื่นๆที่เค้ามองต่างมุม เผือว่าจะเจออะไรได้เร็วขึ้นครับ
ตั้งใจทำงานก่อนละกันนะ ผมสร้างฐานะของผมด้วยการทำงานครับ

แล้วสุดท้าย หุ้นเป็นตัวเร่งในส่วนของเงินช่วยทำงาน  :D

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 05, 2008 9:25 am
โดย Diablo
ถ้าสมมติให้ว่า กากณึก คือ 1บาท
4 เดือน ได้ 8 แสนบาท
้ท่ากับผลตอบแทนทบต้น เดือนละ ~ 3000% ครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 05, 2008 12:55 pm
โดย samahara
ขออนุญาตยืมพระธรรมเทศนาที่คุณ Sittipan.tvi นำมาไว้เตือนตนเองครับ โดนใจจริงๆ
ขอคุณครับ.

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 3:08 pm
โดย inovation
ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่ดีเลยครับ เราอยู่ในสถานะเดียวกัน
เพียงแต่ผมโชคดีกว่าพี่มาก

โชคดีตรงที่ผมได้โอกาสเรียนสูง ๆ จากเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา
จนตอนนี้พึ่งเรียนจบและเริ่มทำงานได้ไม่นาน

ผมเองก็สนใจการลงทุนมาก แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้ตัวว่ายังไม่พร้อม

อาจารย์ที่สอน เขาบอกว่าถ้าคิดจะลงทุนต้องมีเงิน"เย็น"
ซึ่งหมายถึงเงินที่หากเราไม่มีแล้วก็ไม่เดือนร้อนอะไร

ซึ่งผมเห็นด้วยเพราะจะทำให้เวลาเราต้องขาดทุนจากการลงทุน
เราจะไม่เสียดายเพราะเราได้ "ทำใจไว้แล้ว"

ซึ่งผมก็คาดได้ว่าส่วนใหญ่แล้วคนที่พึ่งเริ่มต้นในการลงทุน
มักจะขาดทุนก่อนเนื่องจากยังมี "ความไม่รู้ที่เราเองก็ยังไม่รู้" อยู่

ดังนั้นสิ่งที่ผมพอจะแนะนำได้ คือให้ศึกษา เรียนรู้ให้มากที่สุดก่อน
และในระหว่างนั้นก็เริ่มเก็บเงิน และหากมองเห็นทางลงทุนอื่น
ที่ตนพอจะทำได้ใช้ทุนน้อยและ "ไม่มีความเสี่ยง" หรือเสี่ยงน้อยที่สุด
ก็ทำดูครับ

อาจจะประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้เรื่องการลงทุนแบบ VI
ไปใช้ก็ได้ครับ เพราะจริง ๆ แล้วมันไม่จำกัดอยู่แค่ หุ้น

และถ้ามีเรื่องไหนไม่แน่ใจอยากได้คนปรึกษา มาโพสได้ที่นี่เลยครับ
ผมว่าทุกคนที่นี่เต็มใจ ช่วยเหลือครับ  :D

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 7:31 pm
โดย tunwa_p
แนะนำ web นี้ให้ครับ
www.tsi-thailand.otg สมัครเป็นสมาชิกฟรี แล้วเข้าเรียน e-learining มีความรู้มากมายให้ศึกษา  ค่อยๆเรียนไปทีละบท เบื้องต้นก็อยากให้ทราบว่าการลงทุนมีกี่รูปแบบ ผลตอบแทนที่จะได้รับที่ควบคู่กับความเสี่ยง เทคนิค กลยุทธ์เป็นแบบไหน

ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่หายไปไหน(ไม่รู้จะทำไรก่อนดี ก็เปิดบัญชีเอาเงินฝากโบรกเกอร์ รับดอกเบี้ยไปก่อนก็ได้นะครับ ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์แต่เบิกถอนได้ตลอด แต่ไม่ทันที )

ก่อนจะตัดสินใจลงทุนแบบไหน ขอให้เข้าใจตัวเองก่อนว่ามีความเข้าใจในรูปแบบการลงทุนแบบนั้นๆ แค่ไหน ยอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน(ความไม่รู้ คือ ความเสี่ยง)

ว่างๆก็เข้ามาอ่านกระทู้ใน web thaivi นี้ดีนะครับ จะได้แนวคิดต่างๆมากมาย ที่เราอาจคาดไม่ถึง จะได้เปิดตาเปิดใจให้กว้าง เพื่อนๆที่นี้เป็นคนที่มีน้ำใจแบ่งปันกันทั้งนั้นครับ

ทิ้งท้ายนะครับ แบ่งเวลาให้ตัวเองกับครอบครัวบ้างนะครับ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพ(สุขภาพมีค่ากว่าที่จะตีราคาได้นะครับ)

ขอให้ VI จงเจริญ
:roll:  :roll:  :shock:  :shock:

Re: คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2008 12:24 pm
โดย Stock Broker
[quote="awev"]
1. ผมควรเริ่มต้นตรงไหนก่อนครับ
2. ควรศึกษาใช้เวลาเท่าไหร่ครับโดยประมาณ และสังเกตุยังไงครับว่าเราพร้อมแล้ว
3. ถ้าจะเริ่มการซื้อผมควรมีเงินเท่าไหร่ครับ

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2008 12:33 pm
โดย Stock Broker
awev เขียน: ถึงมันจะน้อยตามเงินทุนที่มีน้อยหรืออาจจะขาดทุนมันก็น่าจะลองดู ถ้าเราลองเรายังมีลุ้นว่าจะมีโอกาสได้ แต่ถ้าไม่ลุ้นก็คือโอกาสเป็นศูนย์
มองในมุมนึง มันคล้ายๆ กับคนที่หวังรวยจากการซื้อหวยนะครับ
การลงทุนต่างจากซื้อหวย ตรงที่ "ความเสี่ยงจากการลงทุนเราจำกัดได้ด้วยความรู้"

คุณลูกอีสาน พูดถึงการข้ามชนชั้น โดนใจ แต่ไปไม่ถูก

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 01, 2008 10:04 pm
โดย SEHJU
พี่ลูกอีสานน่าจะเขียนหนังสือซักเล่มนะครับ

ประสบการณ์ของพี่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนท่านอื่นมากๆ..