หน้า 1 จากทั้งหมด 1
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 5:35 pm
โดย IWILLBEVI
ผมจำได้ว่าเคยเข้ามาดุและติดตาม ข่าวคราวของเวป VI ในช่วงแรกตั้งแต่ปี2003 และชอบในแนวคิด และคำแนะนำของพี่ๆ น้องๆ ชาว VI ทุกคน ที่นี่เป็นสังคมแห่งความรู้จริงๆ
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยได้เป็น VI จริงๆสักที แถมช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาก็ฝากเงินให้กับแฟนไปเล่นหุ้น เสียหายไปหลายล้านบาท
ทุกวันนี้ไม่รู้สึกเสียดายเงิน แต่เสียดายเวลา ที่ผ่านไปที่ไม่สามารถสร้างความมั่งคั่ง และความมั่นคงให้กับครอบครัวได้ดีพอ ทั้งๆที่ผมมีความเข้าใจและทักษะในเรื่องของการวิเคราะห์ธุรกิจ อย่างดี วันนี้ได้กลับเข้ามาดูเวป VI อีกครั้งก็รู้สึกชื่นใจที่เห็นการเติบโตของสังคมที่นี่ที่ช่วยเหลือแนะนำกันอย่างพี่น้อง
ก็ไม่เป็นไรครับ พลาดแล้วก็เริ่มต้นใหม่ได้ ในช่วงวัย 40ปี แต่ผมมีเป้าหมายในการลงทุนครั้งนี้อย่างชัดเจน และมีวินัยกับตัวเองสูงขึ้น เพราะอยากให้ครอบครัวสบาย และมีอิสรภาพทางการเงินในช่วงวัย 50 ต้นๆ ผมอยากขอคำแนะนำจากพี่ๆ น้องๆ ชาว VI ช่วยแนะนำ สัดส่วนการลงทุน และ การจัด Port แนว VI ที่ช่วยให้ผมสามารถเข้าใกล้เป้าหมายดังกล่าวได้ดีขึ้น เพราะไม่อยากพลาดรอบสอง
อายุปัจุบัน 40 ปี
อยากเกษียณที่ 50 ปี และไปเป็นนักลงทุนเต็มตัว ต้องการReturn ที่ 10% แบบทบต้น
ในตอนนี้ มีเงินลงทุนเต็มตัว ปราศจากหนี้สิน 10 ล้านบาท ต้องการ Return ที่ 15%-20% แบบทบต้น
ผมเป็นคนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงสูง และมีความรู้ในเชิงวิเคราะห์ที่ดีระดับหนึ่ง แต่ความรู้จริงในเรื่อง VI ยังเป็นศูนย์ แต่ผมตั้งใจอย่างมากที่จะใช้ช่วงเวลาลงทุน 10 ปี จากนี้ไป ด้วยเงินลงทุน 10 ล้านบาทอย่างมีสติ ด้วยความรู้แนว VI อย่างแท้จริง ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ขอบคุณมากครับสำหรับทุกคำแนะนำ
I-WILL-BE-VI
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 5:46 pm
โดย newbie_12
ขออนุญาตแนะนำนะครับ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก
แต่ ลองไปหาหนังสือตีแตก ของ dr นิเวศน์มาอ่านก่อนครับ แนว dr นิเวศน์ น่าจะตรงกับ requirement ของคุณเลยครับ หลังจากนั้นก็หนังสือของ dr นิเวศน์ ที่รวมบทความทุกๆอาทิตย์ มีหลายเล่ม แต่มันจะไม่ได้เป็นเรื่องยาวแบบตีแตกนะครับ
หลังจากนั้นก็ลองอ่านข้อมูลในกระทู้ตะแกรงร่อนดูครับ
แล้วสมาชิกในนี้ที่ใจดี แล้วก็เขียนบรรยายได้ดี อ่านแล้วเข้าใจง่าย คือของคุณลูกอิสานครับ
ลองหาดูนะครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 5:49 pm
โดย IWILLBEVI
ขอบคุณครับ หนังสืออ.นิเวศน์ ก็อ่านมาหลายเล่มแล้วครับ สงสัยต้องกลับไปอ่านรอบที่ 3 อีกครั้งจะได้ตีแตกสักที
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 6:31 pm
โดย topgun
อ่านมากๆ และอย่าใจร้อน รอคอยราคาที่เหมาะสม แล้วค่อยลงทุน ขอให้ประสบความสำเร็จครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 6:41 pm
โดย Likhit
ลงทุนในหุ้นง่ายกว่าทำธุรกิจเยอะ overhead ก็น้อย ภาษีcapital gain ก็ไม่ต้องเสียเชื่อผมเถอะ เป้าที่คุณตั้งไว้ไม่ได้ยากเกินกว่าจะทำไม่ได้ ให้กำลังใจครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 30, 2008 6:42 pm
โดย Glaxo
ผมเหมือนพี่แหละครับ เข้ามาดูwebช่วง ปี 2003 ช่วงแรกไม่ได้สมัครสมาชิคด้วย ตอนนั้นยึดแนวอาจารย์นิเวศน์ แต่มาตะบะแตกตอนได้มาเยอะ ก็เลยเข้ามาดูเป็นพักๆ ไม่จริงจังอะไร พึ่งมาสำนึกเมื่อปีที่แล้ว
ผมเองมีความรู้น้อยนิดก็อาศัยอ่านเกี่ยวกับแนวนี้มากๆครับ แล้วมันจะซึมไปอัตโนมัติ
ว่าไปแล้ว vi มันเหมือนปรัชญาครับ พี่ลองไปดูในกระทู้เก่าๆก็จะได้แนวคิดที่หลากหลายมากครับ
ไม่รู้ว่าพี่เคยทำขายตรงหรือเปล่า ซึ่งทั้งวันเราจะไปเจอแต่เรื่องที่ทำให้เสียกำลังใจเช่น ขายไม่ได้ เค้าถึงต้องมีประชุมตอนเย็นเพื่อเสริมสร้างกำลังใจไงครับ
ที่นี้การเข้า web นี้บ่อยๆหรืออ่านหนังสือแนว vi ก็เหมือนกับการปรับความคิดเราแหละครับ เพื่อไม่ให้เราได้เผลอไปมุ่งแนวอื่น
สรุปคือ อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็น หนังสือ บทความ งบการเงิน สุดท้ายคืออดทนครับ
ส่วนผมก็พยายามฝึกอยู่เหมือนกันครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 31, 2008 9:31 am
โดย SEHJU
[quote="Glaxo"]ผมเหมือนพี่แหละครับ เข้ามาดูwebช่วง ปี 2003 ช่วงแรกไม่ได้สมัครสมาชิคด้วย ตอนนั้นยึดแนวอาจารย์นิเวศน์ แต่มาตะบะแตกตอนได้มาเยอะ ก็เลยเข้ามาดูเป็นพักๆ ไม่จริงจังอะไร พึ่งมาสำนึกเมื่อปีที่แล้ว
ผมเองมีความรู้น้อยนิดก็อาศัยอ่านเกี่ยวกับแนวนี้มากๆครับ แล้วมันจะซึมไปอัตโนมัติ
ว่าไปแล้ว vi มันเหมือนปรัชญาครับ พี่ลองไปดูในกระทู้เก่าๆก็จะได้แนวคิดที่หลากหลายมากครับ
ไม่รู้ว่าพี่เคยทำขายตรงหรือเปล่า ซึ่งทั้งวันเราจะไปเจอแต่เรื่องที่ทำให้เสียกำลังใจเช่น ขายไม่ได้
Re: นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 31, 2008 12:41 pm
โดย Rocker
[quote="IWILLBEVI"]ผมจำได้ว่าเคยเข้ามาดุและติดตาม ข่าวคราวของเวป VI ในช่วงแรกตั้งแต่ปี2003 และชอบในแนวคิด และคำแนะนำของพี่ๆ น้องๆ ชาว VI ทุกคน ที่นี่เป็นสังคมแห่งความรู้จริงๆ
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยได้เป็น VI จริงๆสักที แถมช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาก็ฝากเงินให้กับแฟนไปเล่นหุ้น เสียหายไปหลายล้านบาท
ทุกวันนี้ไม่รู้สึกเสียดายเงิน แต่เสียดายเวลา ที่ผ่านไปที่ไม่สามารถสร้างความมั่งคั่ง และความมั่นคงให้กับครอบครัวได้ดีพอ ทั้งๆที่ผมมีความเข้าใจและทักษะในเรื่องของการวิเคราะห์ธุรกิจ อย่างดี
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 31, 2008 7:03 pm
โดย kotaro
พี่ IWILLBEVI
ผมก็เริ่มสนใจหุ้น และศึกษาในเว็บนี้มาก็ร่วม 6 ปีแล้ว
แต่ก็เหมือนกัน คือ ยังไม่รู้สึก เป็น VI ครับ
มากกว่านั้นอีก คือไม่มีความมั่นใจเลยว่า จะหาหุ้นที่ดี สร้างผลตอบแทนสูงๆ ทำยังไง
แต่ หกปีที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่า หุ้นที่ซื้อแล้ว จะไม่ขาดทุนง่ายๆ เหมือนวันแรกๆครับ ไม่ซื้อหุ้นเพราะแค่มีคนบอกว่าน่าซื้อ
และไม่ตื่นเต้นเวลาซื้อและเวลาขาย ไม่คาดหวังกับหุ้นมาก เหมือนวันแรกๆ
และไม่ฝากอนาคตเพราะหุ้นอย่างเดียว
คนเรามีความถนัดกันคนละด้าน ผมเพียงคิดว่า การจะสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัว หรือความอยากมีอิสรภาพทางการเงิน โดยหวังจากการลงทุนในหุ้นอย่างเดียว นั้นอันตรายครับ โดยเฉพาะเวลาอายุมากขึ้นเรื่อยๆ
ลองมองหาอย่างอื่นทำด้วยสิครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 31, 2008 9:21 pm
โดย Linzhi
ค่อย ๆ ศึกษาครับ
ผมไม่แน่ใจ แต่คิดว่าอายุก็ค่อนข้างมีผลต่อการลงทุน การเรียนรู้ รูปแบบการวิเคราะห์เหมือนกัน
ดังนั้น
ผมแนะนำได้เรื่องหนึ่ง คือ หุ้นใน Thaivi อาจจะไม่เหมาะกับทุกช่วงอายุครับ :lol:
อีกเรื่องคือ คงต้องเน้นอ่านแนวคิดเยอะ ๆน่ะครับ หนังสือพวก One up wall street, หรือหนังสือของ ดร.นิเวศน์ น่าจะเหมาะกับพี่ครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 01, 2008 1:00 pm
โดย IWILLBEVI
ดร นิเวศน์ ก็เริ่มอายุ เท่าพี่ เงินลงทุนก็เท่ากัน
แต่อาจต่างตรงที่ สมัยนั้นหลังcrisis หุ้นถูกและดีเยอะมาก
ผมเชื่อว่าพี่ ทําำได้นะครับ10ปี ได้ึ6-9เท่า ทบต้น 20-2905%
ก็จะได้เงิน 60-90 ล้าน
ขอ ถามกลับนะครับ
เงินจํานวนนี้่ พอ สําหรับพี่ หรือ ยัง
ตอบคุณ Rocker พี่ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมาก จาก 10 ล้านบาท ได้เป็น 60 ล้านบาทในอีก 10 ปีข้างหน้า ก็ดีมาก และเพียงพอกับความต้องการแล้วครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 01, 2008 7:52 pm
โดย DarkBot
ผมเองก็ถือว่าเป็นมือใหม่ และยังไม่ได้เป็นVI ในเบื้องต้นก็มีแนวทางตามนี้คับ
1. ศึกษา ลองทำ ทบทวน (ยังไม่รู้หรือไม่มั่นใจก็จำกัดการ ฝึกฝนไปก่อน)
2. อดทน (มันคงคล้ายกะคำว่า อย่าใจร้อนมั๊ง)
3. มุ่งมั่น (มะใช่เพ้อฝัน แล้วก้มหน้าก้มตาทำ อย่างที่ใจต้องการนะ)
4. กลับไปอ่าน ข้อ 1.
ส่วนตัว สนับสนุนแนวทาง VI และขอเป็นกำลังใจให้คับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 01, 2008 8:09 pm
โดย กระทิงแดง
เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
ผมมองว่าการลงทุนนั้น อยู่กับเราขั่วชีวิตครับ
อายุ 60-70 ปีก็ยังมีความสามารถในการลงทุนครับ
อย่างที่พี่หมอสามัญชนเคยบอกผม "ถ้าเรามีความรู้ และความเข้าใจในการลงทุน ขาดทุนยากครับ"
ฉนั้น มาค่อยๆสร้าง wealth กันดีกว่าครับ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 12:40 am
โดย miracle
อ่านสโลแกนข้างล่างดูครับ
มันคือคำตอบของโจทย์นี้ครับ
ทุกอย่างเริ่มทำแล้ว ต้องไม่มีคำว่าสายเกินไป
แต่ทำแล้วมันสำริดผลหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ผมต้องบอกว่ายินดีกับ จขกท ที่เริ่มทำมันแล้ว
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 8:46 am
โดย sommul
ผมว่าเริ่มวันนี้อาจจะดีกว่า เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วก็ได้ครับ เพราะได้ตกผลึกความคิด รวมทั้งได้เสียเงินไปเรียบร้อยแล้ว
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 5:05 pm
โดย IWILLBEVI
เคยได้ยินมาว่า ถ้าพอร์ทเล็ก ต่ำกว่า 3 ล้านบาท อาจต้องมีกลยุทธ์เลือกลงทุนหุ้นประเภท Growth stock ไว้บางส่วนเพื่อให้พอร์ทเติบโตได้เร็วขึ้น โดยอาจมีกันเงินส่วนหนึ่งไว้ เพื่อซื้อหุ้น VI อย่างเดียว ไม่ทราบมีคำแนะนำดีๆอะไรบ้างครับที่จะลงทุนในหุ้น ประเภท Growth stock และมีตัวไหนเข้าข่ายที่น่าสนใจในช่วงนี้ครับ ผมมอง TFD NVL ว่าน่าสนใจ ช่วยวิจารณ์ได้ครับ :?:
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 5:08 pm
โดย หมีบึงกุ่ม
ฮะๆๆ อ่านกระทู้นี้แล้วอิจฉาผู้ตั้งกระทู้
ผมเชื่อว่ามีหลายๆ คนที่เหมือนผมคือแวะเวียนมาหาความรู้ + ข้อมูลลงทุนในที่นี้ แล้วยังไม่มั่นใจเลยว่าอายุ 40 จะมีเงินเย็นถึง 10 ล้านไหม
หากคุณนับหนึ่งแล้วผมจะนับติดลบเท่าไรดีหว่า
เอ...ทำให้นึกได้ว่าเมื่อกี้เหมือนผ่านตากระทู้ คิดว่าเราแย่แล้วยังมีคนแย่กว่าอีกอะไรนี่ล่ะ
อยากบอกว่าเริ่มต้นนี่ไม่ได้แย่เลยนะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จรวย ๆ
แล้วอย่าลืมว่ามีเงินไม่จำเป็นต้องรีบซื้อนะครับดูให้แน่ๆ ก่อนเข้า จังหวะดีๆ หาปีละครั้งก็เกินพอครับ ดูอย่างหุ้นฮอตบางตัว ซื้อตอนนี้ทุนต่ำกว่าเซียน และคนรีบซื้อตามเซียน หลายคนเลยครับ...อิอิ...เย้าตัวเองเล่นด้วยน่ะครับติดกับเขาเหมือนกัน
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 5:49 pm
โดย IWILLBEVI
ไม่อยากให้เข้าใจผิดนะครับว่ามีเงินเย็นๆ 10 ล้านบาทตอนนี้ ผมหมายความว่า Net worth ตอนนี้เอามาทั้งหมดลงในหุ้น (ขายสินทรัพย์ออกด้วย เพื่อถือเป็นเงินสดไว้รอลงทุน) หักเงินสำรองเป็นค่าใช้จ่าย 10 เดือน ก็ตกประมาณ 10 ล้านบาท ค่อนข้างเสี่ยงพอสมควร ถึงอยากใช้เวลาศึกษา และขอคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากเพื่อนๆในเวป เพราะพลาดรอบนี้ กระทบความเป็นอยู่แน่ๆ และไม่อยากพลาดเป็นครั้งที่สอง ขอบคุณทุกคำแนะนำดีๆ ครับ :P
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 5:53 pm
โดย pavilion
อยากมีเงินลงทุน 10 ล้านตอนอายุ 40 มั่งจัง :)
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 6:29 pm
โดย noooon010
[quote="IWILLBEVI"]ไม่อยากให้เข้าใจผิดนะครับว่ามีเงินเย็นๆ 10 ล้านบาทตอนนี้ ผมหมายความว่า Net worth ตอนนี้เอามาทั้งหมดลงในหุ้น (ขายสินทรัพย์ออกด้วย เพื่อถือเป็นเงินสดไว้รอลงทุน) หักเงินสำรองเป็นค่าใช้จ่าย 10 เดือน ก็ตกประมาณ 10 ล้านบาท
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 03, 2008 11:05 am
โดย chatchai
ถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องหลักการลงทุน ลองอ่านกระทู้เก่าๆ ในห้อง คลังกระทู้คุณค่า ครับ มีประโยชน์มากทีเดียว
Re: นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 03, 2008 1:49 pm
โดย vivitawin
IWILLBEVI เขียน: เพราะไม่อยากพลาดรอบสอง
ตอนนี้เอามาทั้งหมดลงในหุ้น (ขายสินทรัพย์ออกด้วย เพื่อถือเป็นเงินสดไว้รอลงทุน) หักเงินสำรองเป็นค่าใช้จ่าย 10 เดือน ก็ตกประมาณ 10 ล้านบาท
จากข้อมูล คือ อยากจะลงทุนหุ้นด้วยเงิน10ล้าน
และไม่อยากพลาดรอบสอง รอบแรก แฟนโดนหุ้นเล่นไปหลายล้าน
ถ้ามี 10 ล้าน ลงหุ้นหมดเลย ตั้งแต่แรก เสี่ยงมากครับแม้ว่าจะแนว VI
และศีกษาอย่างดีมาก่อน หรือ มานานแล้ว
เพราะ
1. คุณไม่เคยลงทุนแนวนี้ด้วยตัวเองเลย
2. VI ใช่ว่าขาดทุนไม่เป็น และไม่ได้รับประกันว่าจะไม่เจ๊ง
3. ถ้าคุณคิดจะลงทุนแล้วต้องมาให้คนอื่นช่วยแนะนำ สัดส่วนการลงทุน
การจัดพอร์ตแนว VI แสดงว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะลงเงินทั้งหมดในหุ้น
เริ่มแต่น้อยๆก่อนดีกว่าครับ มี 10 ล้าน ผมว่า อย่างมาก2ปีแรกไม่ควรลงเกิน 5 ล้าน น่าจะดีกว่า
แล้วถ้ามีประสบการณ์เก่งขึ้นจริงๆแล้ว ค่อยเพิ่มทีหลัง ไม่สายหรอกครับ
เงินสดที่อยู่กับเราต้นมันไม่ลดนะครับอย่างดีก็โดนเงินเฟ้อเล่นงาน
แต่ถ้าลงหุ้นทั้งหมดแล้วไม่เป็นอันตรายมาก เครียดด้วย
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 03, 2008 3:45 pm
โดย kk-rich
ส่วนตัวแล้วผมว่าจุดเริ่มต้นนั้นไม่สำคัญเท่ากระบวนการ ตามหลักปรัชญาเต๋าบอกว่าทุกสิ่งล้วนมีต้นกำเนิดมาจากความว่างเปล่า ระเบิดประทัดกับระเบิดนิวเคลียร์หรือแม้กระทั่งบิ๊กแบงที่ให้กำเนิดจักรวาล ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นแตกต่างกันมากนัก แต่ผลลัพธ์นั้นแตกต่างกันมากเพราะกระบวนการที่เป็นตัวขับเคลื่อน และทุกสิ่งล้วนมีจุดจบที่ความว่างเปล่าเช่นกัน แต่ก่อนถึงจุดจบของสิ่งต่างๆ คุณค่าของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นก็จะไม่เท่ากัน
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 03, 2008 3:55 pm
โดย beammy
EQ สูงพอที่จะเป็น Value Investor หรือยังครับ
ผมเห็นคนหลายคนขายหุ้นดีๆ ออกไป เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า ราคามันลง เท่านั้นเอง
คนที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนแบบ Under-Value มีมากครับ
แต่คนที่รวยเป็นกอบเป็นกำจากการลงทุนแบบนี้ ผมเข้าใจว่ามีไม่ถึง 1 ใน 10 ของ Value Investor ทั้งหมด (นับเฉพาะในไทยก้อพอครับ)
และการลงทุนแบบนี้ เป็นการฝืนธรรมชาติของคนด้วยนะครับ
ทำให้ "คนทั่วไป" ใช้วิธีนี้แล้วไม่ได้ผล
ขึ้นซื้อ ลงขาย
ลงซื้อ ขึ้นขาย
เห็นชัดครับ กลยุทธ์ง่ายๆ แต่ฝืนธรรมชาติจริงๆ
เป้าหมายผมอยู่อีกหลายสิบปีข้างหน้าครับ ว่าแต่ พี่พร้อมที่จะเดินไปกับผม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ลดลง ไหมครับ
ถ้าพร้อม
ยินดีต้อนรับครับ :8) ...
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 04, 2008 1:54 am
โดย Coin Flipper
ขอเกรินก่อนว่าผมก็ไม่ได้เป็น VI เต็มตัว เรื่องแนว VI เดี๋ยวให้เซียนในบอร์ดช่วยล่ะกัน แต่ผมจะขอจัดพอร์ทให้พี่คร่าวๆ
จากที่อ่าน profile ของพี่ ผมพอสรุปได้ว่า อายุ 40 ทำงานประจำ (เดาเอา เพราะบอกว่าจะเกษียณ)
ถ้าทำงานประจำ ควรลงทุนพวกกองทุน LTF RMF ด้วย เพราะช่วยประหยัดภาษี อายุเท่านี้ มีเงินเก็บเหลือขนาดนี้ คงได้เงินเดือนเยอะ ถ้าภาษีอยู่ขั้น 30% ส่วนที่เอาไปลงกองทุนก็เหมือนกับได้กำไรแล้ว 30% ดังนั้นก็ลงทั้งสองกองให้หมด 1 ล้านต่อปีไปเลย คุ้มสุดๆ กองทุนเดี๋ยวนี้เก่งๆก็เยอะ ชนะตลาดทุกปี
เงิน 10 ล้านไม่ควรลงทุนในหุ้นหมด เพราะอายุ 40 โอกาสแก้ตัวมีน้อย ถึงจะเป็นเงินเย็นก็เหอะ แต่ถ้าเงินส่วนนี้หายไปจะมีผลต่อชีวิตหลังเกษียณมาก
ตอนนี้อยากให้แบ่งลงทุนในหุ้นแค่ 10 % ก็พออย่าให้เกิน เมื่อสะสมความรู้ในหุ้นแล้ว ค่อยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนไปเรื่อยๆ ตามความมั่นใจ และความรู้ที่เพิ่มขึ้น เป็น 20 30 40 แล้วแต่
แต่ยังไงก็ไม่อยากให้ลงในหุ้น 100% ขนาด VI เก่งๆยังพลาดได้ ถ้าเกิดเหตุการไม่คาดคิด ซึ่งอาจเป็นไปได้น้อย แต่ก็ไม่คุ้มที่จะเสี่ยง
สุดท้ายอยากฝากว่า ผลตอบแทนของ port จะขึ้นกับการเลือกชนิดของหลักทรัพย์ มากกว่า การเลือกหลักทรัพย์ว่าจะลงตัวไหน
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 05, 2008 9:06 am
โดย sunrise
แนะนำอย่างนี้ครับ
1. จะลงทุนหุ้นต้องรู้จักมูลค่าของมันก่อน ถ้าซื้อขายไม่รู้มูลค่า ชนะตลาดยาก
2. ลงน้อยๆ แต่ต้องเป็นเงินจริง จนมั่นใจ ความมั่นใจไม่ควรมาเร็วมากนัก ผมว่าต่ำกว่า 2 ปี ยังไม่ควรมั่นใจแม้ผลตอบแทนดี ( หมายถึงชนะ index นะ) เพราะอาจเป็น just by luck
3. ใช้เหตุผลให้มาก ใช้อารมณ์ให้น้อย ผมเชื่อว่าประสบการณ์จะค่อยๆช่วยเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในตรงนี้ (ดูได้จากการลงทุนในช่วงแรกๆ ทีเงินน้อยๆ นี่แหละ)
4. ศึกษาหาความรู้ให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถคุยกับเพือนๆ นักลงทุนแบบเป็นผู้ให้ได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละครับ ผมว่าพร้อมจริงๆ สำหรับสนาม
เนื่องจากพี่อายุ 40 ซึ่งไม่ได้เยอะ แต่ว่าก็ไม่ใช่วัยที่จะเสี่ยงได้เหมือนน้องๆ อายุน้อยๆ ที่เงินเก็บยังน้อยกว่ารายได้ในอนาคตมาก ดังนั้นผมอยากให้มั่นใจจริงๆ ถึงลงทุนในหุ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ถึงคุณ coin flipper ครับผม
เข้าใจว่าเรียนทางด้านการเงินแน่นอน เพราะมีความรู้จริงๆ
ผมกลับมองว่า equity premium puzzle เป็นสิ่งที่มีมานานและ เป็นที่พิสูจน์แล้วนะครับว่า
ถ้าลงทุนติดต่อกันนานเกินกว่า 10 ปีขึ้นไป การลงทุนในหุ้น ให้ผลตอบแทนสูงสุด เมื่อเทียบกับเงินสด หรือ bonds แม้แต่ใช้ risk adjusted แล้ว
ดังนั้นผมคิดว่าการที่จะลงทุนในหุ้นต่อให้เป็น 100 % ก็ได้ครับ แต่ต้องมั่นใจว่า เป็นการลงทุนแบบทบต้นที่นานพอ
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 05, 2008 11:30 am
โดย Radio
ผมเห็นด้วยกับคุณ Coin Flipper ครับว่าเราไม่ควรใช้เงินในครอบครัว
ลงทุนในหุ้น 100% เพราะพวกเราไม่ใช่เซียน ผมเคยถาม ปรมาจารย์
ของชาว Thai VI ว่าท่านลงเงินทั้งหมดในหุ้น 100%หรือไม่ ท่านตอบ
ว่าลง 100% เฉพาะที่เป็นเงินส่วนของท่าน ส่วนของภรรยาไม่ได้ยุ่งด้วย
นับหนึ่งเมื่อเริ่ม 40
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 05, 2008 11:16 pm
โดย Coin Flipper
ถึงคุณ coin flipper ครับผม
เข้าใจว่าเรียนทางด้านการเงินแน่นอน เพราะมีความรู้จริงๆ
ผมกลับมองว่า equity premium puzzle เป็นสิ่งที่มีมานานและ เป็นที่พิสูจน์แล้วนะครับว่า
ถ้าลงทุนติดต่อกันนานเกินกว่า 10 ปีขึ้นไป การลงทุนในหุ้น ให้ผลตอบแทนสูงสุด เมื่อเทียบกับเงินสด หรือ bonds แม้แต่ใช้ risk adjusted แล้ว
ดังนั้นผมคิดว่าการที่จะลงทุนในหุ้นต่อให้เป็น 100 % ก็ได้ครับ แต่ต้องมั่นใจว่า เป็นการลงทุนแบบทบต้นที่นานพอ
ผมไม่ได้เรียนการเงินครับ แต่อาศัยอ่านหนังสือเยอะ
ผมรู้ทฤษฏีเยอะ แต่ก็ไม่ค่อยได้ทำตามเท่าไรหรอก ผมเห็นด้วยกับพี่ sunrise ตัวผมมีเงินเท่าไรก็ลงหุ้นหมด อาจเป็นเพราะความชอบส่วนตัวด้วยครับ
แต่ยากขยายความนิดนึงเดี๋ยว จขกท จะเข้าใจผิดแล้วอาจหมดเนื้อหมดตัวได้ ที่บอกว่าผลตอบแทนสูงสุดเมื่อกับแบบอื่น คือผลตอบแทนของดัชนีทั้งตลาดนะ หรือดัชนี SET นั่นแหละ (ทางทฤษฎีกลุ่มหลักทรัพย์ตลาดเป็นกลุ่มที่ดีที่สุด) ถ้าอยากได้ผลตอบแทนเหมือนตลาด ก็ต้องกระจายการลงทุนให้ใกล้เคียงตลาดนะครับ หรือซื้อ TDEX ก็ได้ ถ้าถือแค่สอง-สามตัว แล้วเลือกผิดตัว แม้จะ 10 ปีก็อาจขาดทุนได้
ปล. ทฤษฎีก็คือทฤษฎี อย่าไปเชื่อมาก แต่ก็ควรรู้เป็นพื้นฐาน สุดท้ายแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่การประยุกต์ของตัวเรา ไม่ใช่ในตำรา