Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

วันนี้มีหลายบริษัทหันมาผลิตโซลาร์เซลล์ขาย  เช่น solar AKR  และบางบริษัทนอกตลาดที่ไม่อยู่ใน SETและ MAI

เนื่องจากนโยบายสนับสนุนภายในประเทศ ยังไม่ชัดเจน  แต่บริษัทก็ยังลงทุนด้วยเห็นโอกาสของการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ  เช่น เยอรมันนี สเปน อิตาลี เป็นต้น

อยากทราบความเห็นของชาว VI ต่อการลงทุน ในหุ้นกลุ่มนี้ ครับ

ก็สนอยู่ แต่แค่ติดตามดูให้ชัดก่อน

ประเด็นที่ผมกลัวคือโรงงาน solar ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก กลัว sun rise effect

อีกอย่างถ้า technology เปลี่ยนสายการผลิตที่ลงทุนไปแล้วอาจจะมี efficiency หรือ productivity อาจสู้โรงงานใหม่ ๆ ไม่ได้

Techonlogy ผลิตแบบพิมพ์ลงบนแผ่นบางๆ ได้เร็วๆ เยอะๆ  จะทำให้การผลิตแบบเก่าตกยุคไปหรือเปล่า   ผลิตภัณฑ์มีหลายแบบ  ประสิทธิภาพไม่เท่ากัน  เทคโนโลยี่ก็ก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ  ผู้ผลิตไทยจะอยู่รอดได้อย่างไร ？

มีข่าวหนึ่งถ้าจำไม่ผิด ว่า ออสเตรเลียพึ่งคิดค้น solar cell ที่ให้พลังงานมากกว่าเดิมหลายเท่าครับ ไม่รู้ของไทยจะตามทันหรือปล่าวนะครับ

ถ้าแนวโน้ม พัฒนา จนใช้กันแพร่หลาย แบบมีทุกครัวเรือน
อันนี้น่าสนใจแน่นอนครับ

แต่ ณ ปัจจุบัน ขอคิดดูก่อน
เพราะแม้จะได้กระแสพลังงานทดแทนยุคน้ำมันแพง
แต่เทคโนโลยียังไม่นิ่ง ล้าสมัยได้ตลอดเวลา เหนื่อยครับ

ที่ผมเคยได้ยินจากเพื่อนที่ทำด้านนี้อยู่คือ การพัฒนาพลังงานทดแทน(ลม แสงแดด) ในตอนนี้ รัฐยังต้องให้การสนับสนุนอยู่ เรื่อง ภาษีส่วนคืน ราคารับซื้อ ฯลฯ แต่มีความคืบหน้าน้อยมาก ไม่เหมือนในต่างประเทศ ที่มีการรณรงค์และออกกฏหมาย(ผลักดันโดยองค์กรด้านโลกร้อน)มารองรับ

ดูเหมือนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในเมืองไทย ก้อมีกรมพัฒนาพลังงาน   การไฟฟ้าต่างๆ รวมทั้งโรงไฟฟ้า  ไม่มีใครอยากออกหน้าเป็นเจ้าภาพจริงจัง ทั้งที่มีรูปแบบจากหลายประเทศในอียู ให้เดินตาม แต่ก้อกลัวว่าโครงสร้างราคาค่าไฟไม่เหมือนกัน ถ้า(ช่วย)ให้มากไป บริษัทจะได้กำไรเยอะ (การไฟฟ้าฯ หรือ ปตท.จะกำไรลดลง) จึงเหมือนจะให้ความช่วยเหลือแบบทดลอง(เพิ่ม)ยาทีละน้อย

บริษัทที่เริ่มธุรกิจด้านนี้จึงต้องล้มลุกคลุกคลานอีกระยะ อาศัยกำไรจากธุรกิจเดิมมาประคองตัว

คงต้องรอให้ราคาน้ำมันดิบวิ่งเลย สองร้อยก่อน ครับ จึงจะน่าสนใจ

investment biker เขียน:ก็สนอยู่ แต่แค่ติดตามดูให้ชัดก่อน

ประเด็นที่ผมกลัวคือโรงงาน solar ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก กลัว sun rise effect
อีกอย่างถ้า technology เปลี่ยนสายการผลิตที่ลงทุนไปแล้วอาจจะมี efficiency หรือ productivity อาจสู้โรงงานใหม่ ๆ ไม่ได้

หมายถึงเพิ่มทุนเหรอครับ ??

metro เขียน: หมายถึงเพิ่มทุนเหรอครับ ??

ใช่ครับ

ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น  ผมก็เห็นเช่นเดียวกันว่า พลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นพลังงานที่แพงมาก และไม่น่าคุ้มการลงทุน  แต่เหตุไฉนจึงมีบางบริษัทกล้าลงทุนด้วยเงินมหาศาล  เลยไม่ทราบว่าเขาเห็นช่องทางโอกาสอย่างไร ที่เราไม่รู้...มีใครรู้บ้างครับขอความรู้ด้วยครับ

มองในแง่ดีบ้าง

* solar cell เป็นอุตสาหกรรมทีโตเร็วมาก ประมาณ 20% ต่อปีมาร่วม 30 ปีแล้ว

* ตอนนี้ demand มีมากกว่า supply โรงงาน AKR เพิ่งจะสร้างเสร็จก็มี order เต็มกำลังการผลิตแล้ว

* เป็นอุตสาหกรรมที่นักลงทุนชอบ กองทุนต่างประเทศก็ชอบ ถ้าจะ raise fund น่าจะทำได้ไม่ยาก

* barrier of entry สูง นอกจากเงินลงทุนมหาศาล ในเมืองไทยคนที่มีความรู้ด้านนี้มีไม่กี่คนเอง

delta ก็มีทำโซล่าเซลนะครับ
http://www.delsolarpv.com/index.asp

เล่นกันอยู่แค่ 2 ตัว

akr

เก็บพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปของไฮโดรเจนโดยใช้สนิมเหล็กและน้ำ

ทีมนักวิจัยจาก ÉCOLE POLYTECHNIQUE FÉDÉRALE DE LAUSANNE หรือ EPFL ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้พัฒนาระบบการกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปของไฮโดรเจนซึ่งเป็นพลังงานสะอาดไว้ใช้ในยามที่ไม่มีแสงแดด โดยอาศัยวัสดุที่มีราคาไม่แพงและง่ายต่อการพัฒนากระบวนการผลิตไปสู่การขยายกำลังการผลิตให้สูงขึ้นได้ง่าย อันจะนำไปสู่การพัฒนากระบวนการผลิตไฮโดรเจนจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งสูตรเฉพาะที่ทีมงานเลือกใช้คือ น้ำและโลหะออกไซด์ เช่น เหล็กออกไซด์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ สนิมเหล็ก นั่นเอง
แนวคิดในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นไฮโดรเจนนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษาวิจัยในเรื่องดังกล่าว โดยมีการพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์ที่อาศัยหลักการ Photoelectrochemical หรือ PEC ซึ่งเป็นเทคนิคในการผลิตไฮโดรเจนจากน้ำได้โดยตรง สำหรับอุปกรณ์ต้นแบบที่สร้างขึ้นมีหลักการทำงานคือนำเซลล์แสงอาทิตย์แบบสีย้อม (Dye-sensitized Solar Cell) มาใช้ร่วมกับสารกึ่งตัวนำจำพวกออกไซด์ โดยอิเล็กตรอนที่เกิดขึ้นในระบบมีหน้าที่ในการแตกโมเลกุลของน้ำและให้อะตอมของออกซิเจนและไฮโดรเจนมารวมตัวกันเป็นโมเลกุล
ทีมงานได้พัฒนาต่อยอดโดยมุ่งเน้นในเรื่องของการลดต้นทุนซึ่งเดิมทีเทคโนโลยี PEC ที่พัฒนาขึ้นมานั้นมีประสิทธิภาพที่ 12.4% แต่มีราคาสูงถึง 10,000 ดอลลาร์ต่อพื้นผิว 10 ตารางเซนติเมตร จึงได้มีการนำเหล็กออกไซด์ที่มีราคาถูกกว่ามาประยุกต์ใช้งาน ซึ่งปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพต่ำอยู่ที่ประมาณ 1.4-3.6% หากแต่มีศักยภาพที่จะพัฒนาไปสู่ประสิทธิภาพ 10% ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีต้นทุนเพียง 80 ดอลลาร์ต่อตารางเมตรเท่านั้น

ตอนนี้อุตสาหกรรมผลิตโซลาเซลล์โดยภาพรวมมัน overcapacity ไม่ใช่หรอครับ โดยเฉพาะจีน ที่พร้อมจะทุ่มตลาด (ต้นทุนต่ำมากเพราะทำ vertical integration ตั้งแต่ ingot เลย) ลองเช็คดูดีๆ ถ้าพูดถึงเรื่อง demand โปรเจคประมูลพลังงาน solar ทั่วโลกก็ลดน้อยไปเยอะมาก โดยเฉพาะ developed markets ที่ประมูลไปแล้วก็กำลังเจอปัญหาความไม่แน่นอนในการเชื่อมต่อกับ national grid เพราะคนรับซื้อ (รัฐบาล) ต้อง subsidy เยอะหรือไม่ก็ต้องขึ้นค่าไฟ ขณะที่เจอแรงกดดันรอบด้าน สรุป ไม่น่าสนใจ

เหมือนคำถามคำตอบ ยังปนๆกันระหว่าง solar module กับการทำ solar farm อะคับ

การผลิต แผงขาย คงน่าสนใจน้อยเพราะ เรื่อง raw mat ซึ่งเป็น rare earth
แข่งกับจีนลำบาก ไม่นับการสนับสนุนใดๆจากรัฐบาล
จีนก็มี rare earth มากสุด (อาจจะมากกว่าindia)
และมี logistic cost ต่ำสุด แม้ว่าปัจจุบัน เทคโนโลยี
ของ silicon จะดีขึ้นมาก เอาที่เหลือใช้มาใช้มาทำได้
ลดเรื่อง raw mat shortage ได้ดีขึ้น
ไหนจะเรื่องมาตรฐาน และการรับประกัน
track record การใช้งาน
ฟังจาก spcg จะรู้ว่า คนปล่อยกู้จะเขี้ยวพอสมควรในการเลือกผู้ผลิตแผง


ส่วน solar farm แล้วแต่คนจะมองคับ
ใครจะบอกได้ว่า อีก 10ปี จะเกิดอะไรขึ้น
แต่ในกลุ่ม clean energy solarfarm
ก็กระทบสิ่งแวดล้อมน้อยสุด มลพิษน้อยสุด
ลม นี่ นังต้องระวังเรื่องเสียง
ในชายฝั่งอเมริกา ที่ไปตั้งกัน
เริ่มมีปัญหาต่อ ความกดอากาศตามธรรมชาติบ้างแล้ว