หน้า 1 จากทั้งหมด 1

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 14, 2008 10:13 pm
โดย LOSO
"กรีนสแปน"ชี้จุดเลวร้ายที่สุดของศก.สหรัฐผ่านไปแล้ว

อลัน กรีนสแปน เผย จุดเลวร้ายที่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐผ่านพ้นไปแล้ว

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : (14มิ.ย.) นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด บอกต่อที่ประชุมเศรษฐกิจละตินอเมริกาเมื่อวันศุกร์ผ่านทางวีดีโอประชุมทางไกลจากสหรัฐว่า จุดเลวร้ายที่สุดของวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐได้ผ่านพ้นไปแล้ว และมีความเป็นไปได้น้อยลงที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง

เมื่อเดือนที่แล้ว นายกรีนสแปนได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ว่า เขาเชื่อว่า มีความเป็นไปได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ความคิดเห็นล่าสุดของกรีนสแปน เป็นไปในทิศทางเดียวกับความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนที่เชื่อว่า เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐ จะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แม้จะมีวิกฤตสินเชื่อบ้านและราคาน้ำมันพุ่งสูง โดยสหรัฐเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยครั้งหลังสุดเมื่อปี 2544 ซึ่งหมายถึงการที่เศรษฐกิจไม่ขยายตัวเป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน

รัฐบาลสหรัฐระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ในอัตรา 0.9 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าการคาดการณ์ ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวที่ 0.6% เท่ากับไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว

http://www.bangkokbiznews.com/2008/06/1 ... 267097.php

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 14, 2008 10:15 pm
โดย LOSO
ภาษาปะกิด ..............


Greenspan Says Markets Show `Pronounced Turnaround' (Update3)

By Andres R. Martinez and Steve Matthews

June 13 (Bloomberg) -- Former Federal Reserve Chairman Alan Greenspan said that financial markets, roiled by the collapse of the subprime-mortgage market, have shown a ``pronounced turnaround'' since March.

``The worst is over in the financial crisis or will be very soon,'' the former Fed chairman said in remarks via satellite today to a conference in Mexico City. ``There is a reduced possibility of a large, intense recession.'' He added that he has a ``sense'' that tax rebates have helped retailers.

Greenspan's remarks echo the assessment of Fed Chairman Ben S. Bernanke this week, who said that the danger of a ``substantial downturn'' in the economy had receded. Economists surveyed by Bloomberg News this month indicated a smaller likelihood of a recession compared with May.

Greenspan also offered a measure for telling when the markets have returned to normal.

``We will learn that this crisis has come to an end'' once the gap between the London Interbank Offered Rate and the overnight index swap rate narrows past 25 basis points, near where it was on Aug. 8, he said. A basis point is 0.01 percentage point.

Crisis Measure

Libor is a benchmark rate for loans between banks, while the so-called OIS rate is a measure of what traders expect for the Fed's benchmark rate. The spread between three-month Libor and the equivalent maturity OIS rate was about 69 basis points today, down from a high for the year of 90 basis points in April. It averaged about 19 basis points over the past five years.

The spread is ``unlikely'' to reach the lows of Aug. 8 and earlier because ``risk was very heavily underpriced'' at the time, Greenspan said in a subsequent telephone interview.

The financial crisis deepened in August when European banks acknowledged their vulnerability to rising delinquencies on American subprime mortgages and some funding markets seized up, forcing Countrywide Financial Corp., the biggest U.S. mortgage lender, to tap credit lines with banks.

Greenspan added that rebate checks that are intended to stimulate consumption are bringing about increased sales. ``There is a sense it is buoying the retail market,'' adding the U.S. economy has shown a ``remarkable resilience.''

A government report yesterday showed that retail sales in May rose 1 percent, twice as much as economists had forecast, as consumers spent the federal tax rebates from a fiscal stimulus plan. U.S. gross domestic product grew at a 0.9 percent annualized pace in the first quarter, capping off the weakest six months in five years.

Food Prices

At the same time, Greenspan said rising food prices have had a ``devastating'' effect on Mexico and globally. He said he believes speculation has contributed to the rise in oil and food prices, while declining to forecast oil prices.

Greenspan's comments compare to his view in February that the odds of a recession were ``50 percent or better'' and that the slump could be deeper than the previous two contractions.

Defaults on subprime mortgages in the U.S. have triggered a worldwide credit crunch, with banks and financial institutions reporting $391 billion in writedowns and losses stemming from bad debt.

The persistent slump in the housing market is putting ``major downward pressure'' on the economy, said Greenspan, who served as Fed chairman from August 1987 to January 2006.

He said housing remains a ``critical problem'' and financial markets may not recover fully until home prices stabilize, ``perhaps by the end of the year.''

The former chairman reiterated his view that there will be a test of the Fed's independence in the next few years as inflation accelerates.

Fed policy makers will have to put ``increasing pressure'' on money supply to combat inflation, and ``as a result you will see interest rates rising,'' he said.

http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... voNdOw5mrg

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 14, 2008 11:24 pm
โดย poppo
ไม่กลัวตกรถหรอกครับพี่ loso

เพราะเต็มพอร์ทตลอดเวลาอยู่แล้ว

แต่กลัวจะกำลังนั่งอยู่ในรถที่มันกำลังตกเขาน่ะสิครับ

น้ำมันวิ่งอย่างนี้ อีกเดี๊ยวก็ 200usd/barrel แล้ว

พอร์ทผมไม่มีพลังงาน และพลังงานทดแทนเลยครับ :cry:  :cry:

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 14, 2008 11:56 pm
โดย miracle
มันไม่ใช่ที่ US แต่ตอนนี้กลัวเป็นแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
:)

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 25, 2008 12:39 am
โดย สวนหย่อม
อ่านข่าวนี้แล้วนึกถึงกระทู้นี้ ขอขุดขึ้นมาหน่อยนะครับ

ปธ.เฟดยอมรับ ศก.สหรัฐใกล้พัง นลท.เชื่อ อัศวินม้าขาวมีจริง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 สิงหาคม 2551 15:44 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น


ปธ.เฟด ยอมรับ ศก.สหรัฐเข้าสู่จุดอันตราย แนะจับตาตลาดการเงินที่กำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญที่สุด และอาจต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวด ในประวัติศาสตร์ ผจก.กองทุนเอไอจีฯ เชื่ออัศวินม้าขาวมีจริง คาดสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หลายแห่งพ้นวิกฤตได้
     
      วันนี้ (23 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็คสัน โฮล โดยกล่าวยอมรับว่าพายุทางการเงินในประเทศสหรัฐ ยังไม่บรรเทาลง ความปั่นป่วนในตลาดทำให้เกิดการท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งทางเศรษฐกิจ เท่าที่เขาเคยจำความได้ ทั้งนี้ เฟดกำลังทำงานหลายด้านเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด พร้อมระบุว่าความพยายามของธนาคารกลางในอันที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการลดดอกเบี้ย ต้องยากลำบากขึ้นเพราะเงินเฟ้อพุ่ง แต่เฟดก็ยังคาดว่า แรงกดดันเงินเฟ้อจะบรรเทาลงเมื่อการขยายตัวลดลง
     
      นายเบอร์นันกี เชื่อว่าวิกฤตเงินเฟ้อของสหรัฐ น่าจะคลี่คลายลงได้ ในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า และเตือนผู้บริหารระดับนโยบายให้รีบดำเนินการหากพบว่า ราคาที่ปรับตัวขึ้นนี้ไม่ได้ชะลอตัวลงในระยะกลาง โดยค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลง น่าจะทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับปานกลาง
     
      ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดมุ่งมั่นในการสร้างเสถียรภาพด้านราคาในระยะกลาง และจะดำเนินการหากเห็นว่าจำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว สำหรับอัตราดอกเบี้ยนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อพิจารณาจากแรงกดดันด้านราคาที่สูงขึ้น โดยวิกฤตการเงินยังไม่สิ้นสุดลง และอาจจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจอ่อนตัวลง รวมทั้งอัตราว่างงานสูงขึ้น
     
      เบอร์นันกี กล่าวอีกว่า การรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน ธนาคารต่างๆควรจะพิจารณาถึงวิธีการปรับปรุงกฎระเบียบในการกำกับดูแลเพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต
     
      นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังชาวสหรัฐ กล่าวว่า ในคำจำกัดความของเขาแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะถดถอย และจะอยู่ในสภาพนี้ไปอีกหลายเดือน โดยเขาเชื่อว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค สองยักษ์ใหญ่ปล่อยกู้ด้านการจดจำนอง มีขนาดใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้ล้มละลายได้
     
      ขณะที่นายจอห์น ลิปสกี้ รองกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงหลัง ดีกว่าที่คาด แต่เศรษฐกิจสหรัฐอาจหดตัวในครึ่งปีหลัง
     
      ด้านนายจอห์น เมสซี ผู้จัดการการลงทุนของเอไอจี ซันอเมริกา แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า นักลงทุนขานรับการแสดงความเห็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย และโอกาสที่จะมีอัศวินม้าขาวที่เข้ามาซื้อหุ้นของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หลายแห่งของสหรัฐ ซึ่งกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ร่อแร่
     
      อย่างไรก็ดี การที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีได้ออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เศรษฐกิจจะยังคงถดถอยต่อไปอีกสักระยะหนึ่งภายใต้คำจำกัดความของวอร์เรน และวิกฤตสินเชื่อจะยังคงเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาในภาคธุรกิจการเงินและเศรษฐกิจนั้น สกัดความหวังของนักลงทุนในตลาดที่ว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้าน
     
      ทั้งนี้ หากแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ไม่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนครั้งใหม่ ก็อาจทำให้รัฐบาลสหรัฐเพิ่มทุนด้วยตัวเอง ด้วยนำเงินของผู้เสียภาษีมาซื้อหุ้นทั้งหมดของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค และรวบกิจการทั้งหมดมาเป็นของรัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้หนี้สินของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 25, 2008 7:49 am
โดย oatty
ตกรถไม่กลัว กลัวรถตกเหว  :lol:  :lol:

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 25, 2008 11:19 am
โดย i_sarut
กะจะโพสข่าวเดียวกับ พี่สวนหย่อม พอดีเลย  :lol:

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 26, 2008 9:47 am
โดย charnengi
กลัวว่าวันนี้ รถจะถอยมาทับ สิครับ

จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 27, 2008 1:45 pm
โดย kornjackrit
อยู่กันคนละขั้วเลยครับ 55+

แล้วจะเชื่อใครดีหว่า >>> เชื่อตัวเอง ??

เอิ๊กๆๆๆ

หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเร็วๆนี้ครับ

:D  :D  :D

Re: จะ "ตกรถ" กัน ( หรือเปล่า ) !!!!

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 24, 2021 12:45 am
โดย Peter1011
May I dig up this thread, just to let you know that "HE WAS WRONG", 2008 Q4 was the worst.