หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 01, 2008 9:23 pm
โดย hot
จะเกิดอะไรขึ้น ในประวัติศาสตรการเงินโลกเคย
มีประสบการ์ณแบบนี้หรือไม่

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 02, 2008 8:59 am
โดย DarkBot
ถามแบบนี้เราคงต้อง ถามกลับไปใหม่คับว่า
1. เงินเฟ้อคืออะไร ?
2. เงินฝืดคืออะไร ?

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 02, 2008 10:20 am
โดย Sumotin
เกิดพร้อมกันได้หรอครับ มันตรงกันข้ามกันนี่หน่า

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 1:38 pm
โดย sai
ไม่ทราบอาจหมายถึงเงินเฟ้อสูงมาก แต่คนหาเงินได้น้อยลงเรื่อยเรื่อยหรือเปล่าครับผม

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 11:56 pm
โดย อินทรีย์ทองแดง
สามารถครับ ภาษาฝรั่งเค้าเรียกว่า  Stagflation (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือเปล่า มันนานมากจำไม่ค่อยได้) ภาวะเงินเฟ้อ คือการที่ระดับราคาสินค้าโดยทั่วไปสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ เน้นนะครับว่าต่อเนื่องไม่ใช่ชั่วครั้งชั่วคราว  ส่วนภาวะเงินฝืดนี่จำคำจำกัดความไม่ได้ รู้แต่ว่าสิ่งที่จะมาพร้อมกับเงินฝืดคือ ภาวะการว่างงาน  ทีนี้ถ้าเศรษฐกิจของประเทศไหนเข้าสู่ภาวะstagflation ถือว่าสุดๆแล้วละครับ เมื่อหนึ่งถึงสองทศวรรษก่อน เกิดกับประเทศแถวๆละตินอเมริกานี่ละครับ จำได้เลยว่า อาเจนติน่าของมาราโดน่านี่อยู่หัวแถวเลยครับ

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 11, 2008 10:01 am
โดย หมีบึงกุ่ม
[quote="อินทรีย์ทองแดง"]สามารถครับ ภาษาฝรั่งเค้าเรียกว่า

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 11, 2008 3:43 pm
โดย hot
สมดุลระหว่าง

คนมีเงินสดและ คนมีภาวะหนี้เสียไป

ปัจจุบันคนมีเงินสดและเงินลงทุนถ้าเทียบจาก
อดีตมีอัตราการเพิ่มสูงขึ้นแต่จำนวนไม่ได้เพิ่มขึ้น

คนมีภาระหนี้ มีหนี้ และจำนวนการเป็นหนี้สูงขึ้น
จากอดีตมาก

การแก้ เงินเฟ้อ ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย
ในภาวะอย่างนี้ ก็เหมือนแก้ปัญหาให้กลุ่มคนมีเงินสด
แต่ไปเพิ่มปัญหา คนมีภาระหนี้  
ผมว่ามันน่าจะมีทางแก้ที่ไม่ไช่การเพิ่มดอกเบี้ยน่า
แต่เพราะระบบการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมา
มักแก้โดยวิธีของโลกตะวันตก

เลยหลงทาง  การแก้ปัญหาพื้นฐานมากเกินไป

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 11, 2008 10:03 pm
โดย ellevoid
ตามนิยามแล้ว เงินเฟ้อ กับ เงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกันไม่ได้ เพราะเงินเฟ้อ วัดจาก
ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆติดต่อกัน ส่วนเงินฝืด วัดจากราคาสินค้าลดลงเรื่อยๆ
ติดต่อกัน เห็นได้ว่าดัชนีที่ใ้ช้วัดมันวิ่งสวนทางกัน ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ครับ

1.เงินเฟ้อ คือ
              ภาวะการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง หากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแต่เพียงเล็กน้อยเป็นปกติก็จะสร้างสิ่งจูงใจแก่ผู้
ประกอบการ แต่หากเพิ่มขึ้นมากและผันผวนก็จะสร้างความไม่แน่นอนและ
ก่อให้เกิดปัญหาต่อ ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการครองชีพของประชาชน และ
การขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
             ในประเทศไทยเงินเฟ้อวัดจากอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคา
ผู้บริโภค ซึ่งเป็นดัชนีที่จัดทำโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดย
คำนวณจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาสินค้าและบริการต่างๆ ที่ผู้บริโภคซื้อหา
เป็นประจำ โดยน้ำหนักของสินค้าและบริการแต่ละรายการกำหนดจาก รูปแบบ
การใช้จ่ายของครัวเรือนซึ่งได้จากการสำรวจ
              ตามหลักเศรษฐศาสตร์ การเกิดภาวะเงินเฟ้อมาจาก 2 ปัจจัยหลัก

              ปัจจัยแรก คือ แรงดึงทางด้านอุปสงค์ เกิดขึ้นจากระบบเศรษฐกิจมีความ
ต้องการปริมาณสินค้าและบริการมากกว่าที่มี อยู่ในขณะนั้นๆจึงดึงให้ราคาสินค้า
เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของความต้องการสินค้าและบริการอาจมาจากหลาย
สาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของปริมาณเงิน การดำเนินนโยบายการคลังของ
ภาครัฐบาล การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในต่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมการบริโภคของประชาชน
              ปัจจัยที่สองเกิดจากด้านต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับ
ราคาสินค้าขึ้น สาเหตุที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อาทิ การเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง
แรงงาน การเกิดวิกฤตการณ์ทางธรรมชาติ การเพิ่มกำไรของผู้ประกอบการ การ
เปลี่ยนแปลงของราคาสินค้านำเข้า ซึ่งอาจเพิ่มไปตามภาวะ ตลาดโลก หรือผล
ของอัตราแลกเปลี่ยน

2. เงินฝืด คือ
             ภาวะการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี
ความหมายตรงกันข้ามกับคำว่าเงินเฟ้อ ทั้งนี้ อาจมีสาเหตุหลายประการ เช่น การ
เพิ่มขึ้นของอุปทาน การหดตัวของอุปสงค์ การลดลงของต้นทุนจากปัจจัยอัตรา
แลกเปลี่ยน หรือมาตรการปรับลดภาษี และการที่ปริมาณเงินหมุนเวียนมีไม่
เพียงพอต่อขนาดของระบบเศรษฐกิจ เป็นต้น

ส่วนเรื่อง Stagflation คือ เศรษฐกิจซบเซา (แม่ค้าขายของไม่ออก) แต่ราคา
สินค้ากลับพุ่งขึ้นไม่หยุด (คนไม่มีปัญญาซื้อของ แม่ค้าก็ยิ่งขายของไม่ได้) ซึ่ง
ภาวะนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วแก้ยากมากๆ เพราะถ้าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจซบเซา
ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าไปก็จะยิ่งเกิดเงินเฟ้อ (ถามนักเศรษฐศาสตร์ดูก็ได้ว่า
สมัยที่เคนส์ปล่อยให้เกิดเงินเฟ้อสูง มันหายนะขนาดไหน) ส่วนจะแก้เงินเฟ้อให้
อยู่หมัดด้วยการขึ้นดอกเบี้ยก็จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจซบเซาหนักขึ้น (อัตราว่างงาน
จะสูงขึ้น)

การจัดการด้านอุปสงค์ โดยใช้นโยบายการเงิน ถือว่าค่อนข้างได้ผลในระยะสั้น
แต่ก็ยังแก้ปัญหาในระยะยาวไม่ได้ ส่วนการจัดการด้านอุปทาน โดยใช้นโยบาย
การคลัง อาจจะแก้ปัญหาระยะยาวได้ แต่ระยะสั้นคงต้องทุกข์หนักกันไปก่อน ใน
อดีตอเมริกาใช้วิธีแก้โดยการแก้ปัญหาเงินเฟ้อให้อยู่หมัดก่อน แล้วค่อยหันมา
กระตุ้นเศรษฐกิจในภายหลัง

สรุปก็คือ ต้องทำทั้ง 2 ทางพร้อมๆกันอย่างเหมาะสมครับ

ปล. เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วโลกเคยเจอปัญหาแบบนี้มาแล้วเนื่องจากน้ำมันขาด
แคลนและราคาพุ่งขึ้นไม่หยุด (คล้ายๆกับปัจจุบัน) ที่น่าสังเกตคือญี่ปุ่น แก้ปัญหา
โดยการทำประเทศให้พึ่งพาน้ำมันน้อยที่สุด ทำให้ปัจจุบันญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่
โดนผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั้งโลก

ปล2. สำหรับประเทศไทยถ้านักการเมืองยังคงใช้นโยบายต่างๆเพื่อ ..... อยู่อย่าง
นี้ พวกเราคงอายุยืนไม่พอที่จะเห็นผลจากนโยบายแก้ปัญหาต่างๆหรอกครับ  :(

บทความนี้น่าสนใจครับ http://kawthoung.blogspot.com/2007/12/stagflation.html[/url]

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 12, 2008 5:46 pm
โดย teetotal
[quote="ellevoid"]ปล. เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วโลกเคยเจอปัญหาแบบนี้มาแล้วเนื่องจากน้ำมันขาด
แคลนและราคาพุ่งขึ้นไม่หยุด (คล้ายๆกับปัจจุบัน) ที่น่าสังเกตคือญี่ปุ่น แก้ปัญหา
โดยการทำประเทศให้พึ่งพาน้ำมันน้อยที่สุด ทำให้ปัจจุบันญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่
โดนผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั้งโลก

quote]

อยากให้รัฐบาลไทย ทำบ้างจัง

มึน ทำไมเงินเฟ้อเงินฝืดเกิดพร้อมกันได้ แล้วจะทำตัวยังไง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 1:14 pm
โดย i_sarut
มึน ทำไมเงินเฟ้อเงินฝืดเกิดพร้อมกันได้ แล้วจะทำตัวยังไง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2551 09:40 น.
 
      บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด
     
     
      ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเป็นช่วงของภาวะความสับสนกันอย่างขนานใหญ่และทุกเรื่องล้วนกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่งตัวเสร็จออกจากบ้านหยิบธนบัตรที่ตีมูลค่าเห็นๆ ว่า 100 บาท แต่ทุกวันเวลาที่จ่ายออกไปมีค่าเพียง 50 บาท เริ่มตั้งแต่นั่งมอเตอร์ไซด์ออกจากปากซอยมาป้ายรถเมล์เดิมที่จ่ายแค่ 10 บาททุกวันนี้เป็น 20 บาทเอาแบบประหยัดสุดๆ ขึ้นรถเมล์แดงราคาเพียง 3.50 บาทมาทำงานก็ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 7.50 บาท พอมาถึงที่ทำงานไปเดินตลาดเพื่อกินข้าวเช้าเดิมที่จ่าย 20-25 บาทก็อิ่มแล้วนี่ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 35-40 บาท จะขึ้นตึกขอแวะซื้อกาแฟถุงนึง ทุกทีแค่ 10 บาทต่อถุงเดี๋ยวนี้เป็น 20 บาทดูหรูหน่อยใส่แก้วให้แทน คิดดูเดิมช่วงเข้าต้องจ่ายเงินเพียงประมาณ 50 บาทแต่ปัจจุบันถ้าจะให้ชีวิตเหมือนเดิมต้องจ่ายถึงร่วม 90 บาท จะหันหน้าดูหนังสือพิมพ์หน่อยว่าชีวิตความเป็นอยู่จะดีมั้ย แต่ดูทีไรก็ไม่เห็นว่าการเมืองภายใน เศรษฐกิจภายในจะดีขึ้นซักที จำได้ว่าวันก่อนเปิดมาหุ้นยังอยู่เหนือกว่า 800 จุด ไม่ถึงสามวันลงมาต่ำกว่า 800 แต่ก็ยังสูงกว่า 750 ก็ยังดี แต่วันนี้เปิดมาทำไมมันใกล้ 700 เหลือเกิน พลิกดูหน้าต่างประเทศโดยหวังว่าภายนอกดีจะดึงให้ภายในดีด้วย เปิดบุ๊ป Subprime มาปั๊ป ทำไมเงินที่ขอกู้ซื้อบ้านไปที่ว่าแน่ๆ เสนอไปตั้งนานแล้วกลับบอกว่ากู้ไม่ได้ อะไรกันนี่ ตกลงว่าผมกำลังอยู่ในภาวะไหนกันแน่ตกลงราคาสินค้าที่แพงขึ้นมานี้เป็นภาวะเงินเฟ้อ หรือภาวะเศรษฐกิจที่เห็นนี้แสดงให้เห็นภาวะเงินฝืด กันแน่
     
      ถ้าพิจารณาถึงภาวะปัจจุบันแล้วเราน่าจะอยู่ในช่วงภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงเพราะราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มขึ้นอย่างมากซึ่งเกิดจากต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะน้ำมันมีการปรับเพิ่มขึ้นสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน นอกจากนี้ด้วยภาวะของเงินเฟ้อที่สูงเกินไปนี้เองและค่อนข้างยาวนานได้ส่งผลกัดเซาะความสามารถทางเศรษฐกิจของระดับครัวเรือนอย่างมากเช่นกัน ถ้าท่านสังเกตุให้ดีท่านจะพบว่าปัจจุบันการระมัดระวังการให้สินเชื่อเริ่มมีมากขึ้นและรัดกุมมากกว่า 2-3 ปีก่อน เราจะเห็นว่าพนักงานธนาคารหรือสถาบันการเงินโทรมาเชิญชวนเราในเรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลลดลงแบบที่ทุกวันจะมีมาทุกสองชั่วโมงแต่เดี๋ยวนี้เป็นอาทิตย์แล้วยังไม่เห็นโทรมา ขณะที่แคมเปญบัตรเครดิตเริ่มที่จะจับกลุ่มลูกค้าที่มีประวัติไม่นิยมค้างชำระ นี่แหละครับสัญญาณของการชะลอตัวเศรษฐกิจเริ่มเกิดขึ้น การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเองเริ่มชะลอตัวจากระดับส่วนบุคคล ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต ภาวะเงินฝืดจะเกิดขึ้นและถ้าต่อเนื่องไปอีกก็จะทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้งและก่อให้เกิดการว่างงานเกิดขึ้นด้วย
     
      ช่วงรอยต่อระหว่างภาวะเงินเฟ้อและภาวะเงินฝืดนี่แหละครับสำคัญ ผมและท่านๆ ก็น่าจะเริ่มรู้สึกถึงความไม่แน่นอนในชีวิตอีกครั้งนับแต่วิกฤตการณ์เศรษฐกิจปี 2539 อีกครั้ง ถ้าถามว่าทำไง ใช้ชีวิตพอเพียง มีเงินก็ออม รู้จักเลือกลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ หลีกเลี่ยงการกู้หนี้เพื่อการบริโภค และถ้าเป็นหนี้เพื่อการลงทุนก็คงต้องดูจังหวะกันให้ดี อย่าทำทุกอย่างจนเกินตัว นี่แหละพอจะทำให้ความไม่มั่นใจในชีวิตลดลงได้ไม่มากก็น้อย

ถ้า ภาวะเงินเฟ้อ และ ภาวะเงินฝืด เกิดขึ้นพร้อมกัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 1:34 pm
โดย 1000
กระทู้แนะนำเกี่ยวกับเรื่อง Stagflation ของคุณ m_ple จาก sinthorn ครับเขียนได้น่าสนใจดีครับ

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 83202.html