หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 12:25 pm
โดย yuttana3152
ตอนนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจใน port ที่ผมถือ
ผมต้องสารภาพว่า ไม่ได้เก่งมากเรื่องการลงทุน แต่ที่ผ่านมาพยายามทำเหมือนเป็นเจ้าของกิจการ ไม่เคยเก็งกำไร ช่วงนี้มีหุ้นหลายบริษัทที่ถือตกมากและไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจมหภาค ทำให้ชักไม่มั่นใจ อยากให้ทุกคนช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วย
ptt ต้นทุน 194 มี 10% ของพอร์ต ยังจะถือต่อเพราะคิดว่าธุรกิจยังน่าจะทำกำไร แต่จะขายออกถ้ามีเงินต่างชาติเข้ามา เพราะมีบริษัทลูกเยอะที่อาจจะทำให้ผมเข้าใจมันไม่ได้เต็มที่
pttep ทุน 85 มี 20% ยังจะถือต่ออีกหลายปี เพราะคิดว่าผลิตได้มากขึ้นและน้ำมันก็ไม่น่าต่ำมาก
smit ทุน 2.14 มี 10% ตัวนี้ไม่ค่อยมั่นใจเพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดีอีกนานอาจมีผลต่อกำไรของบริษัทได้ ตั้งใจว่าถ้าราคาขึ้นมา 2.00 อาจจะขายออก หรืออาจรอปันผลอีกปีแล้วค่อยขาย
snc ทุน 7.49 มี 25% ถือตั้งแต่ราคา 18 จนตอนนี้ขาดทุน ตั้งใจจะถือต่อเพราะคิดว่าธุรกิจน่าจะเติบโตได้อีก 2-3 ปี
tnh ทุน 6.76 มี 15% ตั้งใจจะถือต่อเพราะคิดว่าธุรกิจโตอีก 2-3 ปี และเศรษฐกิจไม่ค่อยมีผลกระทบ
tr ทุน 68 มี 25% ตั้งใจถือต่อเพราะจะน่าจะโตจากผลิตได้มากขึ้น ต้นทุนลด
wg ทุน 40 มี 5% ตั้งใจถือต่อเพราะถึงแม้จะถูกกระทบด้วยเศรษฐกิจได้ แต่งบดุลแกร่ง เงินสดมี น่าจะอยู่รอดและปันผลได้สม่ำเสมอ
Re: ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 12:31 pm
โดย Stock Broker
[quote="yuttana3152"]ผมต้องสารภาพว่า ไม่ได้เก่งมากเรื่องการลงทุน แต่ที่ผ่านมา
พยายามทำเหมือนเป็นเจ้าของกิจการ ไม่เคยเก็งกำไร
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 12:41 pm
โดย Stock Broker
ส่วนหุ้นที่อยู่ในพอร์ตที่โพสต์มาน่ะครับ ผมขอออกความเห็นส่วนตัวครับ
หลายตัว คุณก็มีเหตุผลในการถือลงทุนต่ออยู่แล้วนี่ครับ ถ้าปัจจัยที่ใช้เป็นเหตุผลในการถือหุ้นไม่ได้เปลี่ยนไปก็ไม่เห็นจะต้องไม่มั่นใจนี่ครับ (ตอนซื้อราคาแพงกว่านี้เรายังมั่นใจเลย) สิ่งที่ต้องระวังคือ หากเหตุผลที่เราถือหุ้นหรือคาดหวังมันไม่เป็นไปตามนั้นสิครับ ควรจะทำอย่างไร
บางตัว ที่คุณไม่มั่นใจในผลดำเนินงาน ให้ถามตัวเองว่า ถ้าตอนนี้ยังไม่มีหุ้นตัวนี้อยู่ในพอร์ต คุณสนใจจะซื้อมั้ย ถ้าตอบว่าไม่ ให้ขายทิ้งเลยครับไม่ต้องรอราคาขึ้นค่อยขาย ควรจะกลัวว่าถ้ามันลงต่อจะทำยังไงมากกว่า (การที่เราสามารถขายหุ้นในกิจการที่เราไม่มั่นใจทิ้งได้ตลอดเวลา คือ ข้อได้เปรียบของการลงทุนในหุ้นนะครับ)
ความเห็นสุดท้ายของผม คือ ลืมต้นทุนซะในการตัดสินใจ อย่าติดกับดักทางจิตวิทยาครับ
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 12:43 pm
โดย yuttana3152
เรียนคุณ financial engineer หมายถึงไม่เคยตั้งใจจะซื้อเพื่อขายในระยะสั้นๆเพื่อเอาส่วนต่างครับ แต่ขอบคุณมากที่ทัก เพราะจริงๆ เก็งกำไร มีความหมายกว้างเกินไป ผมขออนุญาติตัดออกครับ
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 12:49 pm
โดย Stock Broker
yuttana3152 เขียน:หมายถึงไม่เคยตั้งใจจะซื้อเพื่อขายในระยะสั้นๆเพื่อเอาส่วนต่างครับ
ที่จริงมันต้องวิพากษ์กันตั้งแต่ แนวทางการลงทุนที่คุณยุทธนาตั้งใจจะใช้ (อย่างน้อยก็ในช่วงนี้) เป็นอย่างไรครับ
สมมติว่า ตอบว่าสนใจแนว VI ยังต้องถามต่ออีกว่า VI แบบไหนครับ แบบทวดเบนจามิน แบบปู่บัฟเฟตต์ แบบลุงลินช์ แบบดร.นิเวศน์ เนื่องจากแต่ละท่านก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง
ระยะเวลาถือครองหุ้นไม่ใช่หัวใจของการลงทุนแนว VI ครับ (อย่างน้อยก็ในความคิดของผม) ความห่างระหว่าง มูลค่า กับ ราคา ต่างหากครับ คือหัวใจของ VI
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 12:51 pm
โดย jung_oh
Financial Engineer เขียน:
ความเห็นสุดท้ายของผม คือ ลืมต้นทุนซะในการตัดสินใจ อย่าติดกับดักทางจิตวิทยาครับ
เรื่องต้นทุน นี่ ผมพยายาม ไม่คิดจริงๆ
แต่ มันก็มีแว้ปๆ คิดอยู่เรื่อย พยายามมาพักใหญ่ๆ แล้ว ยังเลิกไม่ได้เลยคับ
ใครมีเทคนิค ในการเลิกคิดเรื่องต้นทุน ชี้แนะด้วย
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 12:58 pm
โดย Stock Broker
jung_oh เขียน:
เรื่องต้นทุน นี่ ผมพยายาม ไม่คิดจริงๆ
แต่ มันก็มีแว้ปๆ คิดอยู่เรื่อย พยายามมาพักใหญ่ๆ แล้ว ยังเลิกไม่ได้เลยคับ
ใครมีเทคนิค ในการเลิกคิดเรื่องต้นทุน ชี้แนะด้วย
ขึ้นอยู่กับตัวเราเองครับ พยายามเปลี่ยนมุมมองไปสู่การมองที่อนาคตสิครับ อย่ามองอดีตครับ
ดูหุ้นให้เน้นที่ "มูลค่า" ของมันเป็นหลักครับ อย่าเน้นที่ต้นทุนของเรา
ตลาดจะซื้อขายกัน เค้าไม่สนกันหรอกครับว่าต้นทุนของเรามันที่เท่าไหร่
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 8:20 pm
โดย chatchai
รู้สึกว่าตัวเลขสัดส่วนการลงทุนในแต่ละบริษัทจะมีผิดพลาดอยู่นะครับ เพราะรวมทุกบริษัทแล้วได้ตั้ง 110% ครับ
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 12:00 am
โดย กาวตราช้าง
[quote="chatchai"]รู้สึกว่าตัวเลขสัดส่วนการลงทุนในแต่ละบริษัทจะมีผิดพลาดอยู่นะครับ
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 10:20 am
โดย Little Boy
ผมชอบคำพูดคำนึงจากคนในเว็ปนี้ ขออนุญาติหยิบยกมาบอกต่อ อาจไม่เหมือนต้นฉบับนัก แต่ส่วนใหญ่ใจความนั้นเขาบอกว่า
"อยากให้ตื่นขึ้นมาในทุกๆ วัน โดยลืมราคาต้นทุนของหุ้นที่เราถือ
แล้ววิเคราะห์มัน ณ วันปัจจุบัน ว่าราคานั้นๆ สมควรทำอย่างไร"
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 10:27 am
โดย beammy
กระจายมากเกินไปหรือป่าวครับ
7 ตัวแน่ะ
ส่วนตัวผมพยายามให้ไม่เกิน 5 ตัวครับ กระชับดี :8) ...
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 10:39 am
โดย adi
ไม่ต้องบอกต้นทุนก็ได้ครับ มันไม่มีประโยชน์ครับ
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 11:13 am
โดย pavilion
ptt pttep snc tnh wg ถ้าคิดว่ายังโตต่อก็ถือต่อไปเถอะครับ
ส่วน tr smit อันนี้ไม่ทราบครับ
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 12:02 pm
โดย yuttana3152
ขอขอบคุณทุกๆความเห็นครับ
เรียนพี่ฉัตรชัย ที่ 110% เพราะประมาณคร่าวๆครับ
จุดอ่อนที่หลายท่านเตือนคือถือหลายตัวมากไป
จะนำไปปรับปรุงด่วนครับ
ขอความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยครับ วิจารณ์หนักๆ
ขอบคุณ คุณ financial engineer ครับเรื่องต้นทุน
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 12:47 pm
โดย Stock Broker
ขอออกความเห็นเรื่องจำนวนหุ้นในพอร์ตครับ
น้อยตัวหรือหลายตัวดีกว่ากันไม่มีสูตรตายตัวหรอกครับ
อย่างพี่ฉัตรชัยถือตัวเดียว ผมคิดว่าไม่ใช่เพราะอยากให้เป็นหรอกครับ แต่เผอิญตัวเลือกอื่นมันด้อยกว่า (ภายใต้ความรอบรู้ของพี่ฉัตรชัย) ก็เลยยังถือตัวเดียวอยู่
บางท่านที่ยังมีความรอบรู้ไม่มาก การถือน้อยตัวเกินไปก็อาจเป็นมหันตภัยได้ หากหุ้นตัวที่รู้ไม่จริงดันแจ็คพ็อตแตกขึ้นมา (หมายถึงเละนะครับ) ในกรณีนี้การกระจายหลายตัวหน่อยก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวในช่วงแรก ไว้พอเริ่มรอบรู้ขึ้นเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ คัดตัวที่ด้อยกว่าออกไปเพื่อซื้อตัวที่ดีกว่าเพิ่มทีหลัง
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 4:01 pm
โดย Pu
หลักๆก็คงดูเหมือนคุณจะถือหุ้นมากตัวเกินไป ต้องลองตอบตัวเองดูก่อนครับว่าทำไมถึงต้องถือหุ้นทั้ง 7 ตัว
ลองทำการบ้านโดยการอ่านข้อมูลในห้องร้อยคนร้อยหุ้นก่อนครับ แล้วค่อยแอบถามพี่ๆเพื่อนๆน้องๆที่ดูท่าทางจะชำนาญหุ้นที่เราถือหรือเล็งเอาไว้ครับ
จากนั้นท่านจขกท.เองก็จะสามารถตอบได้ว่า ควรจะถือหุ้นกี่ตัวตัวไหนบ้าง จำนวนเท่าไหร่ พอร์ตการลงทุนจะมีสัดส่วนอย่างไร :lol:
เช่น ท่านจขกท.ถือทั้ง PTT และ PTTEP โดยให้เหตุผลว่า
"ptt ต้นทุน 194 มี 10% ของพอร์ต ยังจะถือต่อเพราะคิดว่าธุรกิจยังน่าจะทำกำไร แต่จะขายออกถ้ามีเงินต่างชาติเข้ามา เพราะมีบริษัทลูกเยอะที่อาจจะทำให้ผมเข้าใจมันไม่ได้เต็มที่
pttep ทุน 85 มี 20% ยังจะถือต่ออีกหลายปี เพราะคิดว่าผลิตได้มากขึ้นและน้ำมันก็ไม่น่าต่ำมาก"
1. PTTEP "คิดว่าผลิตได้มากขึ้นและน้ำมันก็ไม่น่าต่ำมาก" ลองไปอ่านข้อมูลที่ห้องร้อยคนร้อยหุ้นก่อนดีไหมครับ
2. PTT "แต่จะขายออกถ้ามีเงินต่างชาติเข้ามา" อันนี้น่าจะเก็งกำไรจาก Fund Flow มากกว่าครับ
3. PTT "เพราะมีบริษัทลูกเยอะที่อาจจะทำให้ผมเข้าใจมันไม่ได้เต็มที่" เห็นด้วยครับ คงต้องทำการบ้านมากขึ้นครับ
แนะนำให้ท่านจขกท.ลองมาอ่านใน Web นี้แค่วันละ 10 นาทีก็พอแล้วครับ
เป็นกำลังใจให้ท่านจขกท.ครับ
:D :D :D
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 5:37 pm
โดย กาวตราช้าง
yuttana3152 เขียน:ขอขอบคุณทุกๆความเห็นครับ
เรียนพี่ฉัตรชัย ที่ 110% เพราะประมาณคร่าวๆครับ
จุดอ่อนที่หลายท่านเตือนคือถือหลายตัวมากไป
จะนำไปปรับปรุงด่วนครับ
ขอความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยครับ วิจารณ์หนักๆ
ขอบคุณ คุณ financial engineer ครับเรื่องต้นทุน
เรื่องวิจารณ์หุ้น :?:
ผมอยากให้คุณยุทธนาไปศึกษาการปริหารกองทุนของปีเตอร์ลินซ์
หนังสือชื่อลงทุนแบบปีเตอร์ลินซ์ ของพี่พรชัย(แปลได้สุดยอด)
รู้สึกเค้าจะไม่วิจารณ์ตัวหุ้นที่ถืออยู่นะ
มันเป็นจิตวิทยาที่ดี(ความคิดผมนะ)
ลองอ่านดูสิ
ผมอธิบายไม่เก่งขออภัย
ปล.ขอค่าคอม.พี่พรชัย ด้วยอะ :lol:
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 7:37 pm
โดย naris
ถ้าจะลงทุนยาว ลองไปอ่านบทความล่าสุดของอาจารย์ผมสิครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=34806
ผมว่าชัดเจนดีครับ
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 7:37 pm
โดย mprandy
ไม่มีเกณฑ์ตายตัวว่าหุ้นที่ถือต้องมีกี่ตัวจึงจะเรียกว่ามาก
Focus portfolio หมายถึงการจัด port โดยเลือกถือหุ้นจำนวนน้อยตัว และเรามีความรู้เกี่ยวกับหุ้นที่เราถือ จำนวนที่น้อยหมายถึงไม่ได้มากและกระจายจนกระทั่ง port นั้นเลียนแบบดัชนี เช่น 50 ตัว (SET50)
การที่สมาชิก TVI ถือหุ้นเพียง 1-5 ตัว ไม่ได้เป็นมาตรฐานว่าใครที่ถือเกินจากนี้เป็นการถือหุ้นมากตัวเกินไป
Value investor หลายท่านถือหุ้น10 ตัวก็มี
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 8:06 pm
โดย noooon010
ผมเห็นด้วยกับพี่ mprandy นะครับ
บางคนถือเกือบ 20 ตัว แต่ถ้าเค้าสามารถติดตามกิจการที่เค้าสนใจได้ และยังตามตัวที่เค้าจัดไว้ใน watch list ได้อีกด้วย
ถ้าเป็นแบบนั้น จะถือสัก 30 ตัวก็แล้วแต่ครับ แต่ VI ในตำนาน อย่าง warren buffett จะเน้น ลงทุนแบบ focus มากกว่า
แต่ผมว่า มันเป็น ปัจจัยส่วนบุคคลนะครับ
ส่วนเรื่อง ต้นทุนที่ถืออยู่ ผมขอยืมความเห็นพี่วิบูลย์ในกระทู้ตะแกรงร่อนหุ้นมาใช้นะครับพี่ครับ
พี่วิบูลย์ wrote:
มีเหตุผลอะไรในการซื้อหุ้นเหล่านี้แต่ละบริษัท
ผมมีข้อแนะนำแล้วกัน
เอามาจากคำคมของคุณ"คัดท้าย"(สมาชิกเก่าที่ไม่รู้ไปอยู่ไหนอีกคน)
"ซื้อห้นด้วยเหตุผลอะไร ก็ขายหุ้นด้วยเหตุผลนั้น
และคิดว่าตั้งใจถือนานแค่ไหน"
มีความสุขกับการลงทุนหุ้นคุณค่านะครับผม
ขอความกรุณาช่วยวิจารณ์ port และแนวคิดผมด้วยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2008 9:14 pm
โดย adi
ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวหรอกครับเรื่องจำนวนหุ้นในพอร์ต กี่ตัวก็ด้ายยย 7 ตัวไม่ถือว่ามากหรอกครับ แล้วแต่รสนิยม
ส่วนวิธีการลืมต้นทุน อย่างผมจดใน settrade ผมก็เปลี่ยนต้นทุนเป็นราคาหุ้นตอนต้นปีทุกครั้ง ผ่านไปหลายๆปีก็ลืมเอง เพราะต้นทุนที่มีอยู่กับ บล. นี่ก็ใช้ไม่ได้เนื่องจากผมโอนมาอีกที เลยตอนนี้ไม่รู้ต้นทุนจริงๆแล้วครับ :8)