หน้า 1 จากทั้งหมด 2

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 10, 2008 11:20 pm
โดย lukechin
คัดบางส่วนที่เกี่ยวกับ VI ของ "เซียนหุ้นพันล้าน" วิชัย วชิรพงศ์ มาให้อ่านกันครับ
ตอนที่ 25 มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

วิธีการลงทุนแบบ "แวลู อินเวสเตอร์" ส่วนตัวมองว่า "มันเสี่ยง" บางทีหุ้นลงก็ต้องถือ เพราะคุณคิดว่าพื้นฐานมันไม่เปลี่ยน เดี๋ยวมันก็ต้องกลับมา แต่เมื่อไรล่ะ...ถ้าคุณไม่ Cut Loss ตอนหุ้นลง "มันเสียโอกาส" วิธีการลงทุนโดยการถือหุ้นอยู่ในพอร์ต "ตลอดเวลา" ในมุมมองของ "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ มีความเชื่อส่วนตัวว่า "มันเสี่ยงเกินไป" ด้วยความเชื่อที่ว่า ตลาดหุ้นนั้นมี "ฤดูกาล" (มีรอบ)ของมัน บางปีอาจจะมีรอบให้เล่น "หลายรอบ" บางปีตลาดหุ้นอาจจะมีรอบใหญ่ๆเพียงรอบเดียว แต่ตลาดหุ้นไม่เคยขาดโอกาสให้ซื้อเลย...แต่ต้อง "รอ" เพราะฉะนั้นอย่ากลัว "ตกรถไฟ" หรือกลัวจะ "ซื้อหุ้นดี" (ราคาเหมาะสม) ไม่ได้ "ให้ผมวิจารณ์วิธีการลงทุนแบบ "แวลู อินเวสเตอร์" (Value Investor) ส่วนตัวมองว่า "มันเสี่ยง" นะ! ถ้าพลาดทีเดียวจะเสียหายได้เยอะ บางทีหุ้นลงก็ต้องถือ เพราะคุณคิดว่าพื้นฐานมันไม่เปลี่ยน เดี๋ยวมันก็ต้องกลับมา แต่เมื่อไรล่ะ...ถ้าคุณไม่ Cut Loss ตอนหุ้นลง มันเสียโอกาส" เสี่ยยักษ์ เปรียบเทียบให้ฟังว่า อย่างพอร์ตผมมี 1,000 ล้านบาท ช่วงไหนเห็นท่าว่าตลาดไม่ดี ผมก็ลดพอร์ตลงมาเลย เหลือ 100 ล้านบาท "หุ้นตก...ผมยิ้มได้" เพราะผมคิดว่ายอมขาดทุนถือเงินสดเอาไว้ดีที่สุด เรามีโอกาสแก้ตัว แต่กับอีกคนๆหนึ่งที่เล่นหุ้นสไตล์ "แวลู อินเวสเตอร์" ถือหุ้นอยู่ 1,000 ล้านบาท "เต็มพอร์ต" วันไหนที่ตลาดหุ้นเกิด "แพนิค" (ตื่นตระหนก) วันเดียว เงินคุณหายไปเท่าไร "...อย่าคิดว่า คนที่เป็น "แวลู อินเวสเตอร์" จะไม่กู้ทุกคน หลายคนก็เล่นเครดิตบาลานซ์ ถ้าคุณมีพอร์ต 100 ล้านบาท มองตลาดดีมาก คุณกู้อีก 100 ล้านบาทรวมเป็น 200 ล้านบาท ซื้อเต็มพอร์ต วันไหนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หุ้นตกลงมาเยอะๆคุณเจ๊งเลยนะ เพราะคุณจะไม่กล้าขาย คิดว่าพื้นฐานหุ้นมันไม่เปลี่ยน คนที่ถือหุ้นเยอะๆเวลาจะขายทีไม่ใช่ง่าย ตรงนี้คือ "ความเสี่ยง" ที่หลายคนไม่ได้มอง"

เสี่ยยักษ์ ออกตัวว่าไม่ใช่ว่าวิธีการลงทุนแบบ "แวลู อินเวสเตอร์" จะไม่ดี คนที่สำเร็จกับวิธีนี้ก็มีเยอะ เพียงแต่อยากจะชี้ให้เห็นจุดอ่อนบางมุม ยกตัวอย่างนะ...ในช่วงที่ตลาดหุ้นเกิดวิกฤติ ตกมากๆ อย่าคิดว่า แวลู อินเวสเตอร์ จะกล้าซื้อทุกคน คนที่ใส่ไปหมดหน้าตักแล้ว อยากซื้อก็ไม่มีตังค์จะซื้อ ส่วนกรณีของ แวลู อินเวสเตอร์ ที่อยากจะขาย คุณไปซื้อหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำเอาไว้เต็มพอร์ต ถ้าคุณขาย คุณก็เจ็บหนัก นี่ผมพูดจากประสบการณ์ในชีวิตจริงให้ฟัง ยิ่งคุณขาย...หุ้นยิ่งลงหนัก ตรงข้ามกับผม ตลาดหุ้นช่วงไหนเล่นแล้วไม่สบายใจ (รู้สึกว่าทำกำไรยาก) ผมล้างพอร์ตจาก 100% ลงมาเหลือ 10% ทันที "ถามว่า...เวลาหุ้นตกหนักๆใครมีเงินซื้อ ?? คุณหรือ ผม" เสี่ยยักษ์ ถามกลับ
เสี่ยยักษ์ยกตัวอย่าง "กรณี 9/11" (เครื่องบินผู้ก่อการร้ายพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดที่สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544) นั่นคือ เหตุการณ์ไม่คาดฝัน มันนอกเหนือกฎเกณฑ์ วันนั้นขาดทุนทันที 26% คนที่กำลังจะ "เกิด" (กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว) ไปเจอเหตุการณ์อย่างงั้น ไม่รู้จะเกิดยังไง "จำเอาไว้...ในภาวะที่ตลาดหุ้นเป็น "ขาลง" หรือภาวะตลาดตื่นตระหนก คนที่มีพอร์ต 100% จะเสียเปรียบและเสียโอกาสมาก เพราะว่าคุณจะไม่มีเงินซื้อ ได้แต่รอ ได้แต่นั่งดูคนอื่น ในท้ายที่สุด เชื่อเถอะว่า คนที่ถือหุ้นเต็มพอร์ต ช่วงที่ตลาดหุ้นไม่ดี คุณนั่นแหละคือคนที่ขายหนีตาย (ขายหลังผมและขาดทุนมากกว่าผม)"

เสี่ยยักษ์ สรุปประเด็นนี้ว่า หลักการเล่นหุ้นที่ปลอดภัย คุณไม่จำเป็นต้องถือหุ้นไว้ (เต็มพอร์ต) ตลอดเวลา ช่วงไหนที่ตลาดหุ้นไม่ดี เล่นหุ้นแล้วไม่สบายใจ รู้สึกอึดอัด ต้องลดพอร์ตแล้วถือเงินสดให้มากที่สุด...นี่คือหลักการที่ถูกต้อง ในช่วง 10 ปีมานี้ (2540-2550) คนที่เล่นหุ้นเป็นรอบ บางคนพอร์ตโตขึ้นมามากกว่า 100 เท่า นักเล่นหุ้นรายใหญ่ๆที่รู้จักหลายคนออกสตาร์ทด้วยเงินน้อยๆ เขาก็ประสบความสำเร็จได้ อย่าง น.พ.วิเศษ วชิรพงศ์ (ขุนศึกคู่กาย) เขาเริ่มต้นจากศูนย์ ในอนาคตก็ต้องมีเงินเป็นร้อยล้านแน่ "พูดกันตรงๆว่า ช่วงไหนที่ตลาดหุ้นไม่ดี พอร์ตเราต้องเหลือหุ้นให้น้อยไว้ก่อน ถ้าเราเข้าไปซื้อหุ้น(เต็มพอร์ต)ช่วงที่ตลาดไม่ดี เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆเหมือน ลิงแก้แห...ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง" เสี่ยยักษ์ กล่าวปิดท้าย

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 12:05 am
โดย Jeng
เห็นด้วยครับ ว่าหลักเสี่ยยักถูกต้อง ว่า ตลาดไม่ดี ก็ลดพอร์ท เตรียมรอช้อน

และก็เห็นด้วยกับคุณนิติ โอสถานุเคราะห์ที่ดูเหมือน พอร์ทน่าจะใหญ่กว่าเสี่ยยักสามเท่า  ที่ไม่ค่อยซื้อ ไม่ค่อยขาย  และไม่น่าจะเหนื่อย จะเครียดเท่าเสี่ยยัก ที่ต้องคอยติดตามตลาดตลอดเวลา

จากที่ผมติดตามมานะ ผมคิดงั้น

หวังว่าพูดแบบนี้เสี่ยยักจะไม่โกด เพราะว่าเสี่ยยัก เล่นมาเหน็บ การลงทุนแบบ value investor เอง

สำหรับผมแล้ว ผมชอบสไตล์การลงทุนเสี่ยยักมาก แต่การสรุปแนวคิดของตัวเอง ก็ดีอยู่แล้ว ไม่ควรไปวิจารณ์ หลักการลงทุนของคนอื่น

นี่คงไม่ใช่ครั้งแรก และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เสียยักจะรู้สึกว่าการลงทุนแนว  value investor เสี่ยง

คือสรุปว่า มุมมองเสี่ยยัก นักเฝ้าตลาดตลอดเวลา คิดว่า เสียงมาก เสี่ยงจัง และได้ผลไม่คุ้มค่า

ในขณะที่ value investor หลายคน เขาไม่ได้เฝ้าตลาดเท่าเสี่ยยัก และเขาเลือกซื้อกิจการที่ดี และอยากถือกิจการที่ดี

คือ เขาเน้นการเป็นหุ้นส่วนกับกิจการที่ดี ทั้งๆที่บางครั้งหุ้นตกบ้าง เขาก็ไม่ได้ซีเรียส เท่าเสี่ยยักเท่านั้นเอง

แต่ การสรุปว่า การลงทุนของเสี่ยยัก จะได้มากกว่า การลงทุนแบบ value investor ผมยังไม่แน่ใจนัก เพราะวอเรน บัฟเฟต กว่าจะขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ก็ใช้เวลาพิสูจน์ แนวคิดของตัวเอง ทั้งชีวิต และผมมั่นใจว่า วอเรน โดนวิจารณ์มาตลอดชีวิต

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 12:12 am
โดย Jeng
อ้อ ที่ผมเดาว่าเสี่ยยักเครียด ผมคิดว่ายักต้องขอเถียงแน่นอน ว่าเครียดได้ไง ถือเงินสด อยู่เตรียมรอซื้อ

ที่ผมว่า เครียดนั้นผมเดาว่า คนระดับมีเงิน 2000 ล้านบาทนั้น ไม่ได้แข่งความร่ำรวยอีกต่อไป หากยังลงทุนอยู่ ผมคิดว่าคนระดับนั้น แข่งเรื่องความสำเร็จมากกว่า

สรุปว่า ผมคิดว่า การถือเงิน ก็ต้องเครียด ตลอดเวลา ว่า หุ้นลงมาขนาดนี้ จะซื้อตัวไหน เพราะอะไร เรียกว่า ระหว่าง value investor ที่เห็นหุ้นลง และไม่มีเงินไปซื้อ ทำอะไร ไม่ได้ ก็ไปเที่ยวได้

แต่เสี่ยยัก คงกำลังนั่งทบทวน ว่า ตกลง จะแย่ไปถึงแค่ไหน และถึงเวลานั้น จะซื้อตัวไหนเพราะอะไร

เหอๆ สำหรับผมแล้ว ในอดีต ตอนผมมีเวลา ผมจะเล่นแบบเสี่ยยักครับ แต่หากไม่มีเวลา ผมเล่นตามแนวทาง value investor ครับ

ข้อดีข้อเสี่ย ก็มีคนละแบบ เด้อ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 12:36 am
โดย สวนหย่อม
Jeng เขียน:
เหอๆ สำหรับผมแล้ว ในอดีต ตอนผมมีเวลา ผมจะเล่นแบบเสี่ยยักครับ แต่หากไม่มีเวลา ผมเล่นตามแนวทาง value investor ครับ

ข้อดีข้อเสี่ย ก็มีคนละแบบ เด้อ
หุหุ เห็นด้วยกับพี่เจ๋งครับ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 8:02 am
โดย beammy
ผมไม่ลงทุนแบบเครียดๆ เหมือนเสี่ยยักษ์ครับ

อย่างที่พี่เจ๋งบอกก้อถูกครับ ไม่มีเวลา เล่นแบบ Value สบายใจกว่ากันเยอะ  :8)  ...

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 9:40 am
โดย densin
ยอดกระบวนเพลงก่นด่าท่าร่างผู้อื่นว่าโง่เขลา
เจ้าลมปราณเหยียดหยามไม่เห็นค่าหมัดที่ไร้พลัง
จอมยุทธต่างเอาชัยด้วยปมเด่นของตัวเอง
หรือกระบวนเพลงปราณยุทธมิอาจร่วมฟ้า?

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 9:46 am
โดย warut21
ตอนเหตูการณ์ไม่คาดคิดเช่น 9/11 จะลดพอร์ตทันเหรอครับ แล้วลงทุนแบบ VI ถ้าสถานะการณ์ไม่ดีเช่นรู้ข้อมูลว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำจริงๆ บริษัทจะขาดทุนไปอีก 3 ปี ผมว่าคนลงทุน VI ก็ไม่ได้หลับหูหลับตาถือนะครับ นอกจากเห็นว่าบริษัทยังอยู่ได้ หรือได้รับผลกระทบระยะสั้น แล้วพื้นฐานดี ก็ถือยังได้ปันผล ก็ไม่ต้องไปกังวลว่ามันจะตกไปถึงเมื่อไหร่ ควรเข้าหรือยัง ตกรถหรือเปล่า

ผมว่าแล้วแต่คนนะครับ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 9:49 am
โดย gradius173
เล่นแบบเต่าครับไม่มีเงินไม่ซื้อ ไม่ถูกไม่ซื้อ ไม่กู้เด็ดขาด ผมตอบแทนไม่ต้องสูงมาก :D  :D

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 10:17 am
โดย chatchai
เสี่ยพูดถึงการลงทุนเน้นคุณค่า  แต่คำพูดของเสี่ยยักษ์มีแต่เรื่องราวของ  ราคาหุ้น  กับสภาพตลาด

ไม่เห็นพูดถึง  มูลค่าหุ้น  และสภาพเศรษฐกิจ  เลยแฮะ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 11:48 am
โดย mprandy
Discuss กันไปนานแล้วนะ...

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=28446  :8)

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 3:18 pm
โดย Pu
ก็ว่ากันไปครับ :D

ใครชอบแบบไหนก็เชิญตามสบายครับ คงไม่มีใครมาบังคับว่าถ้าจะลงทุนในหุ้นจะต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็เห็นผสมผสานกันตามชอบ :lol:

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 4:10 pm
โดย por_jai
เสี่ยยักษ์ สรุปประเด็นนี้ว่า หลักการเล่นหุ้นที่ปลอดภัย คุณไม่จำเป็นต้องถือหุ้นไว้ (เต็มพอร์ต) ตลอดเวลา ช่วงไหนที่ตลาดหุ้นไม่ดี เล่นหุ้นแล้วไม่สบายใจ รู้สึกอึดอัด ต้องลดพอร์ตแล้วถือเงินสดให้มากที่สุด...นี่คือหลักการที่ถูกต้อง ในช่วง 10 ปีมานี้ (2540-2550) คนที่เล่นหุ้นเป็นรอบ บางคนพอร์ตโตขึ้นมามากก%Cว่า 100 เท่า นักเล่นBุ้นรายใหญ่ๆที่รู้จักหลายคนออกสตาร์ทด้วยเงินน้อยๆ เขาก็ประสบความสำเร็จได้ อย่าง น.พ.วิเศษ วชิรพงศ์ (ขุนศึกคู่กาย) เขาเริ่มต้นจากศูนย์ ในอนาคตก็ต้องมีเงินเป็นร้อยล้านแน่ "พูดกันตรงๆว่า ช่วงไหนที่ตลาดหุ้นไม่ดี พอร์ตเราต้องเหลือหุ้นให้น้อยไว้ก่อน ถ้าเราเข้าไปซื้อหุ้น(เต็มพอร์ต)ช่วงที่ตลาดไม่ดี เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆเหมือน ลิงแก้แห...ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง" เสี่ยยักษ์ กล่าวปิดท้าย
:8) แำหมพระอาจารย์ผม
     มีชื่อลงในบทความนี้ซะด้วย

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 4:45 pm
โดย Glaxo
อย่าลืมว่าเราลงทุนเพื่อหาเงินนะครับไม่ใช่เพื่อปรัชญาอะไรทั้งนั้น
ฉะนั้นไม่มีใครถูกผิดหรอกครับ
มีแต่ว่าสุดท้ายเงินในกระเป๋าเราเพิ่มมากกว่าเดิมเป็นอันว่า ok

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 5:26 pm
โดย chatchai
Glaxo เขียน:อย่าลืมว่าเราลงทุนเพื่อหาเงินนะครับไม่ใช่เพื่อปรัชญาอะไรทั้งนั้น
ฉะนั้นไม่มีใครถูกผิดหรอกครับ
มีแต่ว่าสุดท้ายเงินในกระเป๋าเราเพิ่มมากกว่าเดิมเป็นอันว่า ok
เป้าหมายเดียวกัน  แต่อาจมีหลายทางเดิน

ทางเดินบางเส้นทาง  อาจจะช้าบ้าง  แต่ปลอดภัย  เข้าใจได้

บางเส้นทาง  อาจจะดูสั้น  ทำให้คิดว่าถึงเป้าหมายได้เร็ว  แต่อาจจะไม่อุปสรรคมากมาย  และเข้าใจได้ยาก

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 5:32 pm
โดย Stock Broker
ยักษ์ก็มีทางของยักษ์

เต่าก็มีทางของเต่า

นินจาก็มีทางของนินจา

ว่าแต่รู้กันรึยังว่าตัวเองน่ะทางไหน



ใครสร้างผลตอบแทนที่ดีโดยใช้ความพยายามเท่าที่ตัวเองพอใจได้ในระยะยาว คนนั้นถูกเสมอ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 6:58 pm
โดย naris
ผมว่าคงมีการเข้าใจผิดระหว่างคนสื่อสารนะครับ คนถาม(นักข่าว)คงจะไปถามพี่ยักษ์เรื่องการเล่นหุ้น ไม่ใช่ถามการลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์ และดันไปแหย่ให้วิจารณ์ในเรื่องการลงทุน คำตอบของพี่ยักษ์เลยเป็นการเล่นหุ้น เพราะการเล่นหุ้นให้ได้กำไรมีหลากหลายวิธี

สรุปว่าข่าวดันเอาคำว่าการลงทุนไปให้นักเล่นหุ้นวิเคราะห์และวิจารณ์ก็ต้องได้คำตอบแบบนั้นแน่นอนครับ

ปล.แมวสีไหนก็ได้ขอให้จับหนูเป็น ยังเป็นประโยคที่ให้ทุกคนมองต่างมุมครับ

ส่วนตัวผมขอเป็นแมวเลือกเจ้านายที่ดีๆ จะได้มีคนมาป้อนอาหารให้ตลอดเวลาตามฐานะเศรษฐกิจที่เจ้านายเขาเป็นอยู่ครับ :wink: ส่วนนานๆทีจะมีเล่นไล่จับหนูบ้างเป็นงานอดิเรกก็เพื่อนหนุกๆครับ ไม่ซีเรียส

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 7:29 pm
โดย chatchai
ผมไม่ค่อยชอบประโยค  แมวสีไหนก็ได้ขอให้จับหนูเป็น  เลยครับ  เห็นหลายคนชอบประโยคนี้

ผมฟังดูเหมือนว่าจะเป็นคนเอาแต่ได้  ไม่สนใจว่าจะได้มาอย่างไร  ถูกต้องหรือไม่  ทำให้ใครเดือดร้อนหรือเปล่า

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 9:25 pm
โดย nata
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าการเล่นหุ้นของแต่ละคนก็ยอมที่จะแตกต่างกันออกไป  ผมรู้ว่าเกือบทุกคนนั้นต้องการเงินและความต้องการเงินก็แทบจะไม่รู้จักคำว่าพอเสียด้วย จนนำไปสู่การหาเงินที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
แต่ทุกคนอย่าลืมว่าเงินนั้นไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิตและไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการได้ หลายท่านอาจจะเถียงว่าเงินนั้นสามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ผมก็อยากบอกว่าเงินนั้นซื้อความสุขไม่ได้ครับ คนที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องหุ้นก็คงจะรุ้ว่ามูลค่าของหุ้นนั้นคืออะไรและมาจากไหน ดังนั้นหากเล่นหุ้นแล้วไม่มีความสุขและเครียดกับมัน ถึงจะมีเงินร้อยล้านพันล้านจะมีประโยชน์อะไร จงทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วจึงจะมีความสุขจริงไหมครับ เช่นเดียวกันการเล่นหุ้นก็ต้องเล่นให้มีความสุข ชื่นชมในกิจการที่คุณเป็นจำของ แม้ว่าจะเป็นหุ้นส่วนเล็กๆก็ตาม ถึงจะมีเงินน้อยก็มีความสุขได้จริงไหมครับ เช่นเดียวกับบ้าน คุณคิดว่าบ้านหลังเล็กกับบ้านหลังใหญ่ หลังไหนที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยน่าจะมีความสุขมากกว่ากัน สำหรับตัวผมเองผมขอตอบว่าบ้านหลังพอดี บ้านหลังพอเพียงกับความต้องการของคุณและผมก็คิดว่าเงินก็เช่นกันครับ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 9:48 pm
โดย Can do
หุ้นขึ้นนิดเดียวแล้วขายก็เสี่ยงเหมือนกันนี่ครับ เสี่ยงต่อการได้กำไรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ที่ว่าถือหุ้นแล้วยาวแล้วเสี่ยง ถ้าถือหุ้นที่มูลค่าสูงกว่าราคาจริงๆ อย่างมากก็แค่เสี่ยงกับการเสียโอกาสในการรอ ผลประกอบการดีต่อเนื่อง รอสักพักราคามันก็ขึ้นมา

แต่ที่เสี่ยงที่สุด คือการคิดว่าถือยาวแล้วเป็น VI แต่ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับมูลค่าของบริษัทที่ถือ ซื้อตามเซียนบ้าง ตามแรงเชียร์บ้าง ตามบทวิเคราะห์โบรกบ้าง ตามความฝันในบทสัมภาษของผู้บริหารบ้าง ถือไปเรื่อยๆ พื้นฐานเปลี่ยนก็ถือ เซียนขายก็ไม่รู้ยังคิดว่าเซียนถือ แบบนี้ก็เป็น VI เหมือนกัน แต่คงไม่ใช่ Value Investor มันคือ Very Idiot

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 12, 2008 10:07 am
โดย investman
การเฝ้าดูราคาและลุ้นให้ราคาเป็นไปตามที่เราเดามันทรมานและเสียเวลามาก ผมเคยมาแล้วในแนววีไอสบายกว่าเยอะวิเคราะห์และเปรียบเทียบราคากับมูลค่าถ้าราคามีส่วนลดที่น่าพอใจก็ซื้อแล้วไปทำอย่างอื่นได้ไม่ต้องเฝ้าราคา จากประสบการณ์ของผมได้มากกว่าอีก ที่สำคัญกว่าการได้มากกว่าคือเราอิสระจากการนั่งเฝ้า และอิสระจากอารมณ์ตลาด
เห็นด้วยกับคุณ Jeng Chatchai ที่ว่าเป้าหมายเดียวกันไปได้หลายทาง ...ทางใครทางมันครับ พี่..น้อง.

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 12, 2008 10:13 am
โดย เอก
ผมลงทุนในแนว VI มาหลายปีตั้งแต่ Web นี้เพิ่งเปิดรู้สึกการลงทุนแนวนี้นอกจากให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจแล้ว ยังได้อิสระแทบไม่ต้องดูราคานอกจากตอนที่จะซื้อหรือขายเท่านั้นผมว่ามันอยู่ที่คนชอบชีวิตแบบไหน พวกเราชอบที่จะวิเคราะห์แล้วรอคอยให้ราคาสะท้อนมูลค่า ซึ่งแน่นอนไม่ใช่วันสองวัน ดังนั้นเราจึงไม่ต้องไปเฝ้าราคานี่คือชีวิตที่เป็นอิสระ ผมเคยได้ยินคำว่าออกมาลงทุนในหุ้นเป็นอิสระทางการเงิน ลองนึกดูว่าถ้าต้องมานั่งเฝ้าราคาหุ้นตลอดเวลา บางวันดีมีความสุข บางวันร่วงเครียดจะไปเป็นอิสระที่ไหนครับ ทุกอย่างขึ้นกับความเหมาะสมและความชอบส่วนตัว "ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ"

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 12, 2008 11:03 am
โดย sai
มันเป็นเรื่องของมุมมองเท่านั้นเองครับ ระยะยาวเป้นไปตามกรรมเอง  เหมือนพ่อตาผมเค้าทำการค้าสมัยก่อนปี 40 กำไรเดือนละ 4-5 แสนบาท เค้าจะพูดดูถูกพวกกินเงินเดือนประจำเสมอว่าเรียนมาแทบตายเงินเดือนหมื่นกว่าบาทคนที่เค้าว่าอยู่ข้างบ้านทำงานอยู่กรมศุลกากร  จากนั้นมาพ่อตาผมทำการค้าล้มเหลวเนื่องจากปี 40 เป็นต้นมา ชีวิตจึงแย่ลงเรื่อยเรื่อยบ้านถูกยึดรถถูกยึด ปัจจุบันคนที่เค้าดูถูกเงินเดือน 42000 แต่ชีวิตดูมีความสุขมากบ้านหลังพอประมาณ รถพอประมาณไปเที่ยวต่างประเทศบ้างเที่ยวต่างจังหวัดทุกเทศกาล ของแบบนี้ระยะสั้นกับระยะยาวบางทีไม่เหมือนกันเหอเหอ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 12, 2008 11:11 am
โดย สามัญชน
อ่านกระทู้เก่าที่อาจารย์หมอยกมาแล้ว
ชอบมากครับ

แต่ทั้งกระทู้เก่าและกระทู้ใหม่นี้
ล้วนได้มุมมองดีๆอีกเช่นเคย

เดี๋ยวปีหน้าลองตั้งกระทู้นี้อีกสักที

ผมว่า ก็จะได้ไอเดียดีๆเพิ่มอีกเช่นเคยนะ

เดี๋ยวลองดู  :lol:

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 13, 2008 11:39 pm
โดย กล้วยไม้ขาว
ดีครับ ได้เห็นว่าคนอื่นคิดอย่างไรกันบ้าง

ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยเลย
กับการวิจารณ์วิธีการที่แตกต่างกัน เพียงเพราะ มุมมองต่างกัน

มันเหมือนเอาตัวเองเป็นที่ตั้งมากเกินไปน่ะครับ
ด่าคนที่คิดต่างว่าผิด มีแต่แบบเราที่ถูก
ทั้ง ๆ ที่สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้จริงเที่ยงแท้ ว่าอะไรถูก อะไรผิด
เอาตนเป็นใหญ่

ปัญหาใด ๆ ในโลกก็เกิดขึ้นเพราะเหตุนี้

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 13, 2008 11:50 pm
โดย BOONPARUEY
...    :rofl:  :rofl:  :rofl:    ...

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 12:15 am
โดย ayethebing
ลองฟิลเตอร์คำพูดของท่านเสี่ยยักษ์ ดูเล่นๆ นะครับ

"วิธีการลงทุนแบบ "แวลู อินเวสเตอร์....ต้อง "รอ" เพราะฉะนั้นอย่ากลัว "ตกรถไฟ" หรือกลัวจะ "ซื้อหุ้นดี" (ราคาเหมาะสม) ไม่ได้ ......คิดว่า คนที่เป็น "แวลู อินเวสเตอร์" จะไม่กู้.........เสี่ยยักษ์ ออกตัวว่าไม่ใช่ว่าวิธีการลงทุนแบบ "แวลู อินเวสเตอร์" จะไม่ดี คนที่สำเร็จกับวิธีนี้ก็มีเยอะ......เสี่ยยักษ์ สรุปประเด็นนี้ว่า หลักการเล่นหุ้นที่ปลอดภัย คุณไม่จำเป็นต้องถือหุ้นไว้ (เต็มพอร์ต) ตลอดเวลา.......หากเล่นหุ้นแล้วไม่สบายใจ รู้สึกอึดอัดต้องลดพอร์ต....."

นี่เป็นข้อความที่ผมฟิลเตอร์แล้วว่าพอจะเห็นด้วยครับ ในส่วนอื่นๆ แหะ แหะ ถ้าท่านเสี่ยประสพความสำเร็จในแนวนั้นแล้วก็อย่าคืนกำไรให้สังคมบ้างนะครับ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 3:15 am
โดย kk-rich
ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับเสี่ยครับ VI ถือยาวได้ครับแต่ต้องซื้อตอนถูกจังหวะตอนราคาต่ำมากๆจริงๆอย่างตอนวิกฤตต่างๆไม่ว่าจะวิกฤตตลาดโดยรวมหรือวิกฤตบริษัทชั่วคราว อย่าง PLE เนี่ยครับ ราคาลงมาต่ำที่สุดในรอบ 7 ปีอย่างงี้ค่อยน่าถือยาว แต่ถ้าไม่เจอโอกาสดีๆแบบนี้อีกผมก็ไม่ถือยาวหรอกครับ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 3:42 am
โดย kk-rich
อย่าง STANLY  EPS เติบโตทุกปีน่าถือยาวมากครับ แต่ความรู้สึกของคนที่ซื้อตอนราคา 60 บาท กับ 150 บาท  ตอนที่ตลาดตกจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 11:28 am
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
เพราะผมคิดว่ายอมขาดทุนถือเงินสดเอาไว้ดีที่สุด เรามีโอกาสแก้ตัว แต่กับอีกคนๆหนึ่งที่เล่นหุ้นสไตล์ "แวลู อินเวสเตอร์" ถือหุ้นอยู่ 1,000 ล้านบาท "เต็มพอร์ต" วันไหนที่ตลาดหุ้นเกิด "แพนิค" (ตื่นตระหนก) วันเดียว เงินคุณหายไปเท่าไร "...
แสดงว่า เสี่ยแกไม่ตกผลึกแนวการลงทุนแบบ vi
แนวการลงทุนแบบ vi สอนให้นักลงทุนสร้างภูมิคุ้มกันชั้นยอด
นั่นคือ

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 11:35 am
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
อ้อ!! เสี่ยแกบอกพอร์ตแกมี 1,000 ล้าน เน๊าะ

ดันไปลดพอร์ตแก เดี๋ยวมีเคือง   :evil:  

อิอิ โทษครับเสี่ย  :?