หน้า 1 จากทั้งหมด 1

น้ำมันจะลงยาวหรือไม่

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 12, 2008 2:48 pm
โดย เอก
จำได้ว่าเดือนสองเดือนที่แล้วมีผู้วิเคราะห์ราคาน้ำมันสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่าปลายดีน้ำมันจะลงหนักตอนปลายปีเนื่องจากกองทุนน้ำมันจะเทขายออกมาทำกำไร อีกฝ่ายบอกว่าราคาไม่ลงหรอกเพราะว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเกิดจาก demand จริงๆไม่ใช่การเก็งกำไรของกองทุน warren ให้สัมภาษณ์ว่าน้ำมันจะไม่ลงเหมือนกันเพราะเกิดจากการที่ประเทศหลายๆประเทศโดยเฉพาะจีนมีการขยายตัวและใช้น้ำมันเป้นจำนวนมากทำให้ demand เกิดขึ้นมาก ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าน้ำมันลงมาจริงๆมันจะมีผลดีกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทเราทำให้หุ้นน่าสนใจมาก ใครพอจะมีข้อมูลมั้ยครับเรื่องนี้

น้ำมันจะลงยาวหรือไม่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 10:06 am
โดย Belffet
ไม่รู้ว่าจะเหมาะไหม แต่ผมอยาก"โชว์ออฟ"จริงๆครับ

อย่าหมั่นไส้ผมเลยนะครับ ถือเป็นข้อมูลเสริมก็แล้วกันครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... highlight=

น้ำมันจะลงยาวหรือไม่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 11:40 am
โดย worapong
เรื่องน้ำมันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผมนะครับ เพราะในแง่มุมนึง ราคามันขึ้นมามากเมื่อเทียบกับห้าปีที่ผ่านมา แม้ตอนนี้จะเริ่มลดลงมาบ้าง แต่ในแง่ของอุปสงค์และอุปทาน มันก็ตึงตัว ขนาดวอร์เรนยังบอกว่า ตั้งแต่เค้าเกิดมา นี่เป็นครั้งแรก ที่น้ำมันเริ่มไม่พอใช้

สำหรับนักวิเคราะห์เก่งๆ ผมว่าก็ยังยากอยู่ดี เพราะแต่ละค่ายก็มองไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ให้ราคาเป้าหมายต่างกัน หรืออาจมองไปคนละทางเลย เช่นบางค่ายบอกว่าจะลง บางค่ายบอกว่าจะขึ้น

ถ้าใครมองขาดว่ามันจะขึ้นหรือลง แล้วลงทุนไปตามนั้น คงได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่สำหรับคนที่มองไม่ขาด เช่นตัวผมเอง ผมก็คิดว่า เราน่าจะหาบริษัทที่ธุรกิจของเค้ายังไปได้ดี ทั้งภาวะน้ำมันถูกและแพง เช่นถ้าน้ำมันไม่ขึ้นไม่ลง เค้าจะกำไรเพิ่ม 15% แต่ถ้าน้ำมันขึ้น เค้าอาจเหลือ 10% น้ำมันลง อาจโตได้ 20% แล้วถ้าราคาหุ้นเค้าถูกด้วยก็ควรซื้อเยอะๆหน่อยครับ

โดยส่วนตัวผมอยากให้น้ำมันลงหน่อยครับ แล้วก็อันที่จริง การที่น้ำมันจะมีพอหรือไม่ มันขึ้นกับการผลิตและการใช้ ตอนนี้ เราเริ่มเชื่อเรื่องพีคออย ผมเองยังเชื่อเลย ถ้าเรื่องพีคออยเป็นจริง ในอนาคตอันใกล้ การผลิตจะลดลง แต่เรายังมีความหวังในฝั่งการใช้น้ำมัน ถ้าเศรษฐกิจถดถอยจริงๆ แล้วเราใช้น้ำมันกันน้อยลง โดยเฉพาะชาวอเมริกันที่ใช้กันเยอะมาก การผลิตและการใช้ก็จะสมดุลกันมากขึ้น แล้วน้ำมันก็น่าจะลงได้ครับ

น้ำมันจะลงยาวหรือไม่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 8:42 pm
โดย เอก
ขอบคุณครับที่ให้ความเห็น น้ำมันเป็นสินค้าที่สำคัญจะบอกว่าเป็นสินค้าต้นน้ำก็ไม่เชิงผมว่ามันเป็นสินค้าตาน้ำเลยละครับ เพราะว่ามันมีผลกับราคาสินค้า ราคาสินค้ามีผลกับเงินเฟ้อ เงินเฟ้อมีผลกับการลงทุนโดยตรง

น้ำมันจะลงยาวหรือไม่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2008 11:00 pm
โดย i_sarut
ส่วนตัวมองว่า ตอนนี้เงินโยกไปเก็งกำไรในน้ำมันมากเกินไปครับ ผสมกับเงินดอลอ่อนค่าลง

ถ้าโยกเงินกองนี้ออก + ศก.สหรัฐฟื้น ราคาก็น่าจะปรับลงมาอีกครับ  

คิดว่าอีกไม่นาน supply (เพิ่มกำลังการผลิต+มีโรงงานเพิ่ม) ก็น่าจะมากกว่า demand(ที่แท้จริง) แล้วนะครับ ถ้าไม่บอมบ์กันแถวอิหร่านซะก่อน  :lol:

น้ำมันจะลงยาวหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 15, 2008 12:49 am
โดย gradius173
ส่วนตัวคิดว่าคงลงมาได้อีกแต่เป็นช่วงสั้นๆ
อุปสงค์ขึ้นกับราคาน้ำมันด้วย หากราคาลงมาก อุปสงค์ก็จะเพิ่มตาม แต่อุปทานค่อนข้างคงที่ คงมีการswingตัวของราคาอีกสักพัก จนเข้าสู่จุดสมดุลของอุปสงค์และอุปทาน :D

น้ำมันจะลงยาวหรือไม่

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 17, 2008 9:12 am
โดย i_sarut
น้ำมันร่วงแตะ$111แล้วหลังโอเปกเผยดีมานด์โลกเติบโตลดลง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 สิงหาคม 2551 05:13 น.

      เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบร่วงอีกครั้งเมื่อวันศุกร์(15) แตะ 111 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว จากดีมานด์พลังงานเติบโตต่ำกว่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้ สืบเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ
     
      สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.12 ดอลลาร์ตาอบาร์เรล ส่วนงวดส่งมอบเดือนกันยายน ซึ่งหมดอายุเมื่อวันพฤหัสบดี(14) อยู่ที่ 112.64 ดอลลาร์
     
      ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนกันยายน ดิ่งลง 2.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 122.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
     
      "สถานการณ์เศรษฐกิจที่อ่อนแอนำไปสู่ดีมานด์น้ำมันเติบโตเบาลง" องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) คาดการณ์รายเดือนเมื่อวันศุกร์(15) ทั้งนี้โอเปก ซึ่งผลิตน้ำมันราว 40 เปอร์เซนต์ของโลกใบนี้ ยังได้แก้ไขคาดการณ์การเติบโตทางดีมานด์น้ำมันของโลกสำหรับปี 2008 ลดลงมาอยู่ที่ 1.17 เปอร์เซนต์ จากเดิม 1.20 เปอร์เซนต์ในเดือนกรกฎาคม
     
      อย่างไรก็ตาม โอเปก ยังคงคาดการณ์อัตราเติบโตดีมานด์น้ำมันโลกในปี 2009 ไว้ที่ 1.03 เปอร์เซนต์ เช่นเดิม "ด้วยอัตราการบริโภคพลังงานทางการขนส่งและอุตสาหกรรมเติบโตอย่างช้าๆ ไม่ใช่แค่อเมริกาเหนือ แต่รวมไปถึงยุโรปและแปซิฟิก(ชาติอุตสหกรรม) ดีมานด์ น้ำมันจะลดลงในปี 2009 และจะทำให้ดีมานด์น้ำมันของโลกเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่ปี2002" รายงานประจำเดือนของโอเปกระบุ
     
      อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงมาจากค่าเงินที่กำลังแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อดีมานด์น้ำมันเพราะว่าน้ำมันจะแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อ
     
      น้ำมันดิบดิ่งลงมาต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดี(14) หลังสำนักงานสถิติอียูแถลงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปในไตรมาส 2 ปีนี้ที่หดตัวลงมา 0.2 เปอร์เซ็นต์ โดยถือเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของยุโรปนับตั้งแต่ปี 1995 ก่อนหน้านี้ 1 วัน ญี่ปุ่นเพิ่งแถลงตัวเลขทางเศรษฐกิจในไตรมาสเดียวกันที่ลดลงมา 0.6 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ