หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 03, 2008 1:03 pm
โดย teetotal
ผมว่าสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุนะครับ
ที่โพล่งกันออกมาว่า ทุกคนอยากเรียนต้องได้เรียน
แล้ว ทุกคนเหมาะที่จะเรียนหรือเปล่า

ก่อนอื่นน่า จะทำการเรียนการสอนให้เป็นมาตรฐาน  
มีระบบประเมินผล ที่ชัดเจน เป็นธรรม ได้มาตรฐาน
แล้ว ให้เรียนฟรี เฉพาะ คนที่เหมาะสม  
มี ชม เรียน ทางไกล จาก ครู ที่เก่งๆ  

เรียนฟรี แจกกันแบบนี้ ใน สภาพที่ ระบบ เป็นแบบนี้  
เสียดายเงินภาษี มากครับ ปีหนึ่งจ่ายตั้งเยอะ  

เรียนกันเข้าไป ๆ  
พอจบ ตรี ก็ ตกงาน  
แต่ อีกด้าน  แรงงานในโรงงาน เริ่มขาดแคลน
โรงงานลูกค้า  2 เจ้าเลย บ่น เรื่อง หาคนงานระดับ shop floor ยาก
หามาก็อยู่ไม่ทน  
เพราะ ความต้องการแรงงานระดับล่างที่อื่นยังมี
อยู่แป๊ปเดียว ก็ หนีไปที่อื่น แล้ว

อีกด้าน พวก จบตรี ส่งใบสมัครมาเพียบเลย  
แต่ ไม่มีตำแหน่งให้ทำ  
บางที รับเข้ามาก็ทำอะไร ไม่เป็น  

นโยบาย เรียนฟรี นี่ ผมคิดว่า ผิดทาง อย่างแรง

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 04, 2008 8:02 am
โดย siebelize
:D เห็นด้วย กับไม่เห็นด้วยครับ

ที่ถูกจะต้องพูดว่า เห็นด้วยในหลักการ แต่ไม่เห็นด้วยในรายละเอียดวิธีปฏิบัติครับ

ปัญหาที่คุณ teetotal ว่ามาเรื่องผลผลิตที่เกิดจากการศึกษา ไม่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศ เป็นเรื่องที่เราประสบกันมาพักนึงแล้วล่ะครับ ไม่ใช่ว่าผู้บริหารกระทรวงศึกษาจะไม่รู้นะครับ มีการคุยกันเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
เด็กสมัยนี้จบ ป.ตรี กันมาทุกคน แล้วส่วนใหญ่ก็คาดหวังจะทำงานสบายๆในออฟฟิศ ทำให้ค่านิยมการเรียนทางด้านสายวิชาชีพกลายเป็น ทางเลือกที่เด็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยเลือกกัน

แต่ว่าสุดท้าย การศึกษานี่เป็นแค่ของไม่กี่อย่างที่ผมมองว่า ให้ไปแล้วไม่เสียเปล่าครับ เพียงแต่ว่าคนที่ได้รับจะไปต่อยอดได้แค่ไหน
ถึงตอนนี้ รายละเอียดการ implement จะไม่เพอร์เฟคท์ แต่เราก็หยุดนิ่งไม่ได้น่ะครับ ก็อาจจะกลายเป็นการพัฒนาไปเรื่อยๆ หรือทำไปแก้ไป ประมาณนั้น

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 05, 2008 11:32 am
โดย teetotal
ดีใจจัง มีผู้มาร่วมแลกเปลี่ยน

ผมมมองแบบนี้ครับ ถ้าเครื่องจักร เรา ไม่ดี
น่าจะเอางบไปปรับปรุง พัฒนาเครื่องจักร ให้ทำงานออกมาได้มาตรฐานก่อน
แล้ว ค่อย เริ่มผลิต
อัดเงิน ซื้อ วัตถุดิบ ผลิต ลงเครื่อง ผลิตภัณฑ์ ออกมาก็ defect สูง

ผมว่า แทนที่จะงบมาหว่านเรียนฟรี เอางบมาพัฒนาระบบก่อนน่าจะดีครับ

ตอนผมเรียน ม 3 ผมดูอาจารย์ สอนเลข ทาง ช่อง 11
ผมคิดว่า สอนรู้เรื่อง มากกว่า ครูที่โรงเรียนอีก
วิธีการสอย ต่างกันจริงๆ ครับ

ผมเห็นเด็กเต็มร้านเกมส์ แล้วสงสาร
เข้าใจดีว่า พวกเขาคงเรียนไม่รู้เรื่อง เลยไม่อยากไปเรียน

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 10, 2008 7:05 pm
โดย Dekfaifah
ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ   ผมเห็นว่า "ทุกคนอยากเรียนต้องได้เรียน" เป็นสิ่งที่ดีครับ อย่างน้อยๆ ลูกหลานเราก็ได้มีโอกาสทางการศึกษามากกว่าแต่ก่อน ถึงแม้ว่าปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะมองว่าล้มเหลวในด้านการพัฒนาการศึกษา  แต่ในใจลึกๆผมก็ยังคิดว่าเป็นการขยายโอกาสการศึกษาไปทุกส่วนของประเทศนะครับ  
  เดี๋ยวนี้เด็กสมัยใหม่เรียนมาก็อยากจบกันสูง ทำงานดีๆ  เกิดค่านิยมกันมากในสังคม เหมือนความเห็นข้างบนว่าไว้หละครับ
  ส่วนภาคอุตสาหกรรม ผมมองว่าแรงงานเราเยอะครับ ส่วนใหญ่ดีและมีคุณภาพนะ  แต่ขาดการสนับสนุน  อีกทั้งค่าแรงขั้นต่ำก็ปรับไม่ทันกับภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันครับ เลยไม่มีคนไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นต่างจังหวัดที่ย้ายถิ่นฐานไปทำงาน
  เรียนฟรีแล้วไม่มีคุณภาพ อันนี้ผมว่าปัญหาใหญ่เลยแหละ อาจจะต้องเริ่มกันตั้งแต่เด็กๆกันเลย  บางทีเด็กยังไม่รู้เลยเรียนไปทำไม รู้แต่ว่าเรียนๆไป
บางคนครอบครัวฐานะไม่ดี  โอกาสทางการศึกษาก็ต่ำ  บางคนนะครับ จบสายอาชีพมายังหาโอกาสในการศึกษาต่อยังไม่มีเลย โอกาสยอมรับทำงานในสังคมก็โอกาสน้อยกว่าเค้า แต่ไม่ใช่ทุกคนนะครับ อันนี้ผมหมายถึงทั่วๆไป
ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าอยากให้ขยายโอกาสสำหรับคนที่จบสายอาชีพด้วย รองรับเค้าในการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งผมมองว่ายังน้อยมาก มีเพียงไม่มีมหาวิทยาลัยที่เปิดรับศึกษาต่อ

 เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวครับ  อยากให้เด็กรุ่นใหม่ใส่ใจการศึกษากันจริงๆ    :)  :)  :)  :)  :)

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 1:32 pm
โดย กล้วยไม้ขาว
ผมมีความเห็นที่ต่างออกไปนะครับ

เพราะผมเข้าใจว่า อยากเรียนต้องได้เรียนนั้น คงไม่ได้หมายถึงแค่ สายสามัญ ครับ

สายอาชีพก็น่าจะได้เรียนฟรีเช่นเดียวกัน

ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาอย่างที่กล่าวมาหรอกครับ

เพราะแต่ละคนก็มีความต้องการที่จะเรียนต่างกันอยู่แล้วครับ

ดังนั้น นโยบายนี้ ผมว่าดีแล้วครับ

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2008 2:28 pm
โดย kornjackrit
ผมว่านโยบายเรียนฟรีดีแล้วครับ


เพียงแต่ต้องทำให้เด็กหาตัวตน ความชอบ ความถนัด ของเขาให้เจอ
นั่นก็คือต้องทำระบบให้ดีครับ ให้เขารู้ว่าเขาเรียนไปเพื่ออะไร
ไม่ใช่สอนแต่วิชาการ แต่ต้องสอนให้เข้าใจชีวิต เข้าใจตนเอง
เข้าใจสังคม พัฒนาอีคิว หรือความฉลาดทางอารมณ์ ให้เป็นคนที่มีเหตุมีผล
รู้จัีกวางแผนชีวิตตัวเอง


ผมว่าเราขาดสิ่งนี้มากกว่าขาดความรู้ทางวิชาการครับ

ถ้าเด็กมีความเข้าใจเรื่องนี้ดีแล้ว ผมเชื่อว่าเขาจะขวนขวายหาความรู้เอง
ถึงแม้จะมีหรือไม่มีนโยบายเรียนฟรีก็ตาม และประเทศชาติก็จะได้ประโยชน์
มากกว่าการสนับสนุนให้เด็กเรียนในอาชีพที่ชาติขาดแคลน

เพราะผมว่าถ้าสมมุติเราทำให้เด็กทุกคนค้นหาศักยภาพของตัวเองเจอ
และใช้ให้เป็นประโยชน์ ถึงแม้เด็เราอาจจะไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์
ทำให้อาชีพนี้ขาดแคลน เราก็สามารถไปจ้างคนประเทศอื่นเข้ามาทำงานแทน
และให้เด็กของเราสมมุติว่ามีศักยภาพด้านไอที ให้เขาทำงานด้านไอที
เขาก็จะสามารถทำได้อย่างมีความสุข และได้เต็มศักยภาพ
ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเจริญก้าวหน้าได้เช่นกัน
คล้ายๆกับส่งเสริมจุดแข็ง และ Outsource จุดอ่อน


[/b]

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 8:01 am
โดย siebelize
kornjackrit เขียน:ผมว่านโยบายเรียนฟรีดีแล้วครับ


เพียงแต่ต้องทำให้เด็กหาตัวตน ความชอบ ความถนัด ของเขาให้เจอ
นั่นก็คือต้องทำระบบให้ดีครับ ให้เขารู้ว่าเขาเรียนไปเพื่ออะไร
ไม่ใช่สอนแต่วิชาการ แต่ต้องสอนให้เข้าใจชีวิต เข้าใจตนเอง
เข้าใจสังคม พัฒนาอีคิว หรือความฉลาดทางอารมณ์ ให้เป็นคนที่มีเหตุมีผล
รู้จัีกวางแผนชีวิตตัวเอง


ผมว่าเราขาดสิ่งนี้มากกว่าขาดความรู้ทางวิชาการครับ


ถูกเผงเลยครับ
ที่น่าเสียใจที่สุด ก็คือ เรามี ชั่วโมงแนะแนว ในหลักสูตรนะครับ
แต่ไม่เคยได้นำมาใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์เลยครับ

สงสัยอธิบายที

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 10:49 am
โดย @bangkok
เรียนฟรี เป็นพื้นฐานที่ necessory มากๆครับ

อันแรกเลย ผมเป็นคนกรุงเทพ ที่สัมผัสชนบท ของประเทศเรา
กับ ประเทศที่เจริญมากแล้ว

เห็นเลยว่า มาตรฐานการศึกษา การเรียนรู้ ความคิดอ่าน
ต่างกันอย่างมากมาย หลายเรื่อง

ส่วนเรื่อง white collar หรือ blue collar ทรัพยากรขาดแคลนต่างกัน
อันนี้ เพราะ สังคมเรา ให้คุณค่า และผลตอบแทนที่ไม่ยุติธรรม

ทำให้เกิดปัญหาเรื้อรัง อยากให้โทษที่ระบบแย่ๆ
และสนับสนุนการศึกษาที่มีมาตรฐานแก่ผู้ด้อยโอกาส

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 25, 2008 7:40 pm
โดย kkwta
เรียนฟรีเห็นด้วยอย่างยิ่งทุกโรงเรียนของหลวงต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศด้วยครับ  ครูที่สอนต้องมีมาตรฐานเป็นเรื่องที่มากๆถึงมากที่สุด
แค่เรียนฟรีอย่างเดียวมันไม่น่าจะมีผลใดๆมากนักถ้าการเรียนไม่ได้มาตรฐาน    แต่เชื่อส่วนตัวว่า รุ่นหลานผมก็คงยังไม่ได้เห้น :lol:

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 12, 2008 5:59 pm
โดย i_sarut
สิ่งสำคัญที่ต้องแก้คือ ระบบการศึกษานะครับผมว่า

นโยบายเรียนฟรีเป็นสิ่งที่ดี

แต่ระบบการศึกษาของไทย มันทำให้เรียนจบออกมาก็เป๋นอย่างที่พี่ teetotal ว่าไว้อะครับ

ป.ตรี จบมาเกลื่อน

ในขณะที่แรงงานสายวิชาชีพกลับขาดแคลน

เพราะถูกสังคมมองว่าเด็กที่เรียนสายอาชีพโดยตรง เป็นเด็กหัวไม่ดี เด็กมีปัญหา ฯลฯ  

ส่วนที่เฮีย kornjackrit ว่าไว้ก็ถูกครับ

ผมลองมองดูเอาใกล้ๆตัว อย่างเพื่อนผม

บางคนยังไม่รู้เลยตัวเองชอบอะไร อนาคตอยากทำอะไร

ที่เรียนอยู่ก็เพื่อให้จบๆไป ตามหลักสูตร

บางคนก็ต้องไปเรียนคณะที่อาจจะไม่ใช่แนวของตัวเอง
แต่พ่อแม่แนะให้เรียน  :lol:

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 05, 2009 1:14 pm
โดย holidaytours
ชอบนโยบายนะคับ
แต่ไม่มีลูกเลยไม่รู้ว่าปฏิบัติจิงเป็นงัย
อยากให้พัฒนาโครงการไปเรื่อย ๆ ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ คับ
:D  :D  :D

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 05, 2009 5:44 pm
โดย อะไรดีละ
ต้องยอมรับว่าเป็นนโยบายที่ดี  แต่ต้องปิดช่องว่าง รูรั่วเสียหน่อย
นโยบายนี้ถือว่าได้คะแนนสูงมาก  เทียบเท่า  เบี้ยยังชีพคนชราเลย
เป็น 2 นโยบายที่ดีที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ครับ

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 05, 2009 7:20 pm
โดย ant_vi
[quote="kkwta"]เรียนฟรีเห็นด้วยอย่างยิ่งทุกโรงเรียนของหลวงต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศด้วยครับ

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 07, 2009 4:28 pm
โดย GseeONE
ขออณุญาติแสดงความคิดเห็นนะครับ

ผมเห็นด้วยกับนโยบายนี้นะครับ แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีปฏิบัติ ซึ่งบางครั้งผมเห็นว่ามันเป็นแค่นโยบายหาเสียงของรัฐบาลเท่านั้น ผมโตมากับครอบครัวข้าราชการ ซึ่งได้ใช้สิทธ์เบิกค่าเล่าเรียนได้ ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ค่าใช้จ่ายหนักๆนี่ก็ค่าเทอมนี่แหละครับ แต่มันก็ยังแบ่งเบาไปได้บ้าง  แต่พอมาตอนนี้  มีโครงการเรียนฟรีเกิดขึ้นกฏระเบียบของข้าราชการยังเหมือนเดิมคือเบิกได้เฉพาะค่าเทอมเท่านั้น ดังนั้นค่าใช้จ่ายจิปาถะที่โรงเรียนเพิ่มขึ้นให้หลังนโยบายนี้คือ ค่าเรียนคอม ค่าสระว่ายน้ำ ค่าดูแลทำความสะอาด ค่าเสื้อกีฬาสี ค่าปฏิทิน ค่าวารสารโรงเรียน ฯลฯ ที่โรงเรียนจะสามารถคิดได้ รวมๆแล้วมันมากกว่า ค่าเทอมไปแล้ว ซึ่งในกฏระเบียบข้าราชการเงินส่วนนี้เบิกไม่ได้ มันก็เลยตกเป็นภาระของพ่อแม่ไปโดยปริยาย นี่พูดถึงข้าราชการระดับล่างนะครับ ระดับบนคงไม่มีปัญหาอะไร  ผมคิดว่าผู้บริหารของแต่ละโรงเรียนก็คงอยากได้เงินมาพัฒนาโรงเรียนของตัวเองเหมือนกัน เพราะปัจจุบันโรงเรียนมีการแข่งขันกันสูงเพิ่อให้มีเด็กมาเข้าโรงเรียนตัวเองเยอะที่สุด ดังนั้นโรงเรียนเองก็ต้องมีค่าบริหารสิ่งนี้เหมือนกัน นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องคุณภาพของการศึกษานะครับ ผมมีเพื่อนเรียนจบ ม.ปลาย โรงเรียนขนาดใหญ่ประจำอำเภอ นักเรียน 3000 พันกว่าคน ตอนนี้น่าจะสี่พันได้แล้ว  เขาอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกครับ ท่อง a-z ไม่ได้ เขาเล่าให้ฟังว่า ครูเข้ามาแล้วก็พูดๆแล้วก็ออกไป แค่นั้น ไม่สนใจนักเรียนเลย ผมไม่เชื่อในความเท่าเทียมกันของการศึกษา แต่ว่าเชื่อว่าเราทำให้มีมาตรฐานที่ดีกว่านี้ได้ โดยทำให้สภาพแวดล้อมดีกว่านี้ จัดกิจกรรมให้เด็กนักเรียน นักศึกษาได้มีเวทีของเขามากกว่านี้ ไม่ใช่โปรยเม็ดเงินลงมาแล้วก็ให้เป็นเรื่องของแต่ละโรงเรียนไปทำกันเอาเอง ผมคิดคร่าวๆ ว่าถ้ารัฐบาลใช้งบประมาณ 100ล้าน มาทำโครงการ 10 โครงการ โครงการละ 10 ล้าน ทำกิจกรรมให้เด็ก ไม่ว่าจะเป็นแข่งขันวิชาการทั่วประเทศ  การจัดแข่งกีฬา หรือนันทนาการ  ศิลปะ ฯลฯ เราจะดึงเด็กออกจาก วงจรเด็กแว้น หรือ ร้านเกมส์ได้มากขนาดไหน........

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 11, 2009 12:42 am
โดย Boyadvance
ปัญหา มันอยู่ที่ ไม่มีแรงกระตุ้น ให้นักเรียน หรือแม้กระทั้งนักศึกษา  เรียนนี้สิครับ
เพราะอะไร ที่ผมเห็นมาอย่างนึง ก็  เค้าขาด idol  ที่เป็นตัวอย่างหลายๆด้าน ในเมืองไทย

หลายคนตอน ม.ต้น  แค่คิดเลือกเรียนสาย วิทย์ สาย ศิลป์ ก็เป็นปัญหาแล้ว
เพราะอะไร อาจารย์ เพียงแต่บอกว่า ลักษณะ ที่จะเรียน เป็นยังไง แล้วนักเรียนก็ตัดสินใจ ส่วนใหญ่  เน้นที่ ถ้าเรียนสายนี้ จะเข้าคณะนี้ได้  เรียนสายนี้เข้าคณะนั้นไม่ได้


ทั้งๆ  สังคมเราสมัยนี้  น้อยคนนั้น  ที่จะรู้ว่า อาชีพอะไร ทำงานยังไง  เค้ารู้แต่เพียงว่า  งานนี้เงินเดือนสูงนะ  เงานนนั้นงินเดือนเหนื่อย ไม่คุ้มเงินเดือน

แล้วพอเรียนถึง ม.6 ก็ต้องมานั่งคิดอีกว่า จะเข้าคณะไหน อันนี้ ล่ะครับ  ปัญหาแรงงาน บ้านเราเลย  เพราะว่าไม่ได้ สัมผัส ไม่ได้รู้จักลักษณะงานมาก่อน

ปัญหาเรื่องเรียนจบมา ทำงานไม่ตรงสาย  อาจะดูเป็นเรื่องปกติ
แต่บุคลลากร ที่มีคุณภาพในแต่ละสายก็จะน้อยลงไปด้วย ทำให้การพัฒนาศักยภาพต้องกินเวลาออกไปอีก กว่าคนๆนึงจะพร้อมเป็นแรงงาน ในระบบนี้ อายุเท่าไรกันแล้วครับ

ถ้า ประเทศไทยจะพึงพา อุตสาหกรรม
ก็จำเป็นต้องมีเทคโนโลยี เป็นของตัวเอง  ต้องการทั้งนักวิจัย  วิศวกร ที่มีคุณภาพ
แต่หลายคนไม่ได้เรียนคณะวิทยาศาสตร์  หรือ วิศวกรรม มาเพื่อพัฒนาระบบต่อไป
อาจจะถูกค่านิยมบังคับ ว่าต้องเรียนมหาวิทยาลัย เวลาเรียนก็ของแค่เรียนจบพอ พอจบก็ไม่รู้จะทำไร

จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทั้งไม่ยาก  และไม่ง่าย
เพราะคนรุ่นผม  กลางวันเรียนที่โรงเรียน   เย็น  เสาร์ อาทิตย์  เรียนพิเศษ
รู้ก็แค่  ชอบ วิชาไหน ไม่ชอบวิชาไหน  ไอ้วิชาที่ชอบ  แบ่งออกอีกเป็นเรียนได้  กับ เรียนได้ดี สุดท้ายกลับไปเลือกเรียนตามกระแสสังคมและก็เบื่อการเรียนไปในที่สุด

แต่ถ้าหาก ใส่แรงจูงใจให้ ตั้งแต่ เด็กว่า อยากจะเป็นแบบใครได้ หรือมีตัวอย่างที่มากเพียงพอ  ปัญหาเหล่านี้ ผมคิดว่าคงจะพอลดลงได้บ้าง เพราะอย่างน้อยพวกเค้าจะมีเป้าหมายในชีวิต ไม่ใช่ปล่อยชีวิตไปตามเวลา
เส้นทางไปหาจุดมุ่งหมาย

อย่างนักลงทุน ยังต้องมี idol  เลย อย่างเช่น ดร.นิเวศน์  บัฟเฟต์ และท่านอื่นๆในห้องนี้  เราก็ไม่ต้องเสียเวลา หลงทางมั่วหาอีก จะเริ่มหา บริษัทที่จะลงทุน ต้องทำไง เวลาศึกษาเราก็ตั้งใจ เพราะมีตัวอย่างที่ดี แล้วนำวิถีทางเหล่านั้นมาปรับใช้ให้เหมาะกับ ตัวเอง

แต่ idol  ที่สังคมสนับสนุนส่วนใหญ่ มีแต่ด้านบันเทิง  นักร้อง นักแสดง
ด้านอื่นได้รับความสนใจน้อยครับ

คิดไง กับ นโยบาย เรียนฟรี

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 19, 2009 12:42 am
โดย gradius173
เรียนฟรีเป็นเรื่องที่ดีครับแต่ต้องมีการควบคุม

ทางเลือกต้องถูกบีบโดยรัฐบาล มหาลัยต้องเปิดสอนปริญญาตรีเท่าที่ภาคธุรกิจต้องการ
คณะก็ต้องจำกัด คณะไหนต้องการมากเปิดเพิ่ม คณะไหนมีเยอะแล้วต้องบีบให้น้อยลง

คนที่แข่งเข้าไม่ได้ก็ไปเป็นสายอาชีวะ หรือออกมาทำงาน

Idolที่ดีก็คือคนที่ไม่ต้องเรียนจบปริญญาแต่ทำงานแล้วประสบความสำเร็จ
ที่สำคัญต้องเป็นคนวัยใกล้เคียงคนทำงานรุ่นใหม่

ระบบการเรียนของเรากำลังล้มเหลวตามอเมริกาแล้ว ยึดหลักเรียนสนุกลุกนั่งสบาย
ถ้าคนบ้านเรามันมีวินัยขนาดนั้นก็พอไหว
ผมอยากเปลี่ยนวิธีการศึกษาเป็นแบบตะวันออกมากกว่า ที่เน้นความเข้มงวด
หรือไม่ก็ทำเป็นDual track ใครใคร่เรียนสนุกก็เรียน ใครใคร่เรียนเข้มงวดก็เรียน
แต่หากไม่มีวินัยพอไปเรียนแบบศึกษาเอาเอง ตกนี่ต้องตกจริงเลย อาจเรียนไม่มีวันจบเลยก็ได้