หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 12:55 pm
โดย econometrica
ในปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไปเข้าสู่ยุคของความผันผวน การเงินทั่วโลกเชื่อมต่อกัน คุณเคยสงสัยไหมว่าใครเป็นคนกำหนดราคาของหุ้นในตลาดemerging market ใครเป็นคนกำหนดว่าpe ควรจะเท่าไหร่(ซึ่งเป็นปัญญาของตลาดหุ้นทั่วโลก)

เพราะว่าเงินทุนของต่างชาตินั้นใหญ่มาก สามารถควบคุมหุ้นของเราได้หมด

ผ่านเงินทุนอันมหาศาล และสายป่านที่ยาวมาก ดังนั้นถึงจะต้องติดหุ้นไปเป็นสิบปีก็ไม่ได้ทำให้กองทุนของพวกเขาสะเทือน

***ตามassumptionนี้***

ดังนั้นการลงทุนหุ้นในset50 จึงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป เพราะว่าราคานั้นสามารถถูกควบคุมได้โดยต่างชาติ

แล้วอะไรคือคำตอบล่ะ

การหันมาลงทุนหุ้นที่ไม่ใช่อยู่ในset50 น่าจะเป็นคำตอบหรือเปล่า เช่นหุ้นที่มีfreefloatมากๆ หุ้นขนาดเล็ก  เพียงเพื่อหลีกหนีจากเจ้ามือต่างชาติเพื่อมาเจอเจ้ามือคนไทย


ขอเสนอideaไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ขอเรียบเรียงต่อก่อน

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 1:14 pm
โดย Rocker
หุ้นทุกตัวมันปั่นหมดแหละ ไม่งั้นไม่ขึ้นหรอกเพียงแต่
ขอให้เราซื้อก่อนมันปั่นก็พอ   ขายก่อนทุบ
หุ้นพื้นฐานเวลามันปั่นมันยังมีstory กําไร ปันผลรองรับไม่ใช่หุ้นพวก
emc live bnt  ewc ไรพวกนี้ ที่กําไรบ่มี ราคาวิ่งๆลงๆหลอกๆล่อๆ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 1:15 pm
โดย akekarat
มุมมองของคุณถูกจำกัดอยู่แค่กรอบของ "ราคาหุ้น"
แต่คุณยังลืมความจริงที่ว่า ผลตอบแทนที่ส่งมายังผู้ถือหุ้นยังมี "ปันผล" อีกอย่าง
สำหรับการลงทุนแบบ Value Investing นั้น "ราคาหุ้น" ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญอะไร หรืออาจจะไม่สำคัญเลย สำหรับบางคน
ตราบเท่าที่บริษัทยังสามารถ return ผลประกอบการออกมาได้ในรูปแบบผลตอบแทนอื่น นอกเหนือจาก Capital Gain

ในทางกลับกัน กองทุน หรือรายใหญ่ ที่มีความประสงค์จะกดราคาหุ้นของบริษัทหนึ่ง ๆ เพียงเพื่อต้องการควบคุมราคาหุ้น
โดยไม่ได้ดูเลยว่า ผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ ดีขนาดไหน
ไม่มีทางต้านทาน purchasing demand ของหุ้นตัวนั้น ๆ ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไร ปริมาณหุ้น "มีจำกัด"
ในสุดท้ายแล้ว ราคาหุ้นก็จะถูกซื้อ และซื้อ และซื้อ จนไปอยู่ที่จุดสมดุลของความต้องการซื้อ และขาย

แต่หากกองทุนบอก เลือก Short Sell ก็ได้ บอกได้เลยว่า โง่มาก ๆ และเป็นการฆ่าตัวตายชัด ๆ
เป็นการสร้างผลขาดทุนแบบ Infinity - มีความหมายอย่างไรให้คุณไปศึกษาเอง
ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร การควบคุมราคาหุ้น เป็น effect ที่สามารถทำได้ ในระยะสั้นเท่านั้น
ไม่สามารถทำได้ ในระยะยาว หรือในภาวะที่มี demand ในการซื้อมาก อันเนื่องมาจากผลประกอบการ
ลองศึกษา Game Theory ดูครับ ว่าถ้าในภาวะบริษัทมีผลประกอบการดี
ถ้าคุณเป็นกองทุน แล้วต้องการกดราคาหุ้น จะทำได้หรือไม่ และผู้เล่นอื่นในตลาด เค้าจะทำอย่างไร

การควบคุมราคาหุ้นนั้น จะทำได้ ต้องมีปัจจัยสนับสนุน จาก 2 ทางคือ

1. ของกองทุน หรือผู้ที่ต้องการกดราคาหุ้น
2. นับสนุนของฝ่ายบริหารของบริษัทนั้น ๆ

ซึ่งถ้าบริษัทไหน เข้าข่ายนี้ ก็จะไม่เป็นทางเลือกของผู้ที่ลงทุนแบบ Value Investing อีกต่อไป เนื่องจากธรรมมาภิบาลของฝ่ายบริหาร เป็นปัจจัยที่การลงทุนแบบ Value Investing ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ หรืออาจจะมากที่สุด

การที่คุณบอกว่า "คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
"
ส่วนตัวผมแล้วต้องบอกว่า ทำได้แน่นอนครับ และพิสูจน์มาแล้วจากผลการลงทุนของผมเอง
ที่ไม่เคยขาดทุนเลยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากมายในตลาดกระทิง)
จริงอยู่ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนในตลาดที่ Crash แบบสมบูรณ์แบบ

แต่อย่างว่า ไม่มีการลงทุนแบบไหนที่จะได้ หรือจะเสียไปตลอด
ของแบบนี้มันอยู่ที่การตัดสินใจ ความถนัด และวินัยในการลงทุนมากกว่า

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 1:20 pm
โดย Rocker
akekarat เขียน:มุมมองของคุณถูกจำกัดอยู่แค่กรอบของ "ราคาหุ้น"
แต่คุณยังลืมความจริงที่ว่า ผลตอบแทนที่ส่งมายังผู้ถือหุ้นยังมี "ปันผล" อีกอย่าง
สำหรับการลงทุนแบบ Value Investing นั้น "ราคาหุ้น" ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญอะไร หรืออาจจะไม่สำคัญเลย สำหรับบางคน
ตราบเท่าที่บริษัทยังสามารถ return ผลประกอบการออกมาได้ในรูปแบบผลตอบแทนอื่น นอกเหนือจาก Capital Gain

ในทางกลับกัน กองทุน หรือรายใหญ่ ที่มีความประสงค์จะกดราคาหุ้นของบริษัทหนึ่ง ๆ เพียงเพื่อต้องการควบคุมราคาหุ้น
โดยไม่ได้ดูเลยว่า ผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ ดีขนาดไหน
ไม่มีทางต้านทาน purchasing demand ของหุ้นตัวนั้น ๆ ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไร ปริมาณหุ้น "มีจำกัด"
ในสุดท้ายแล้ว ราคาหุ้นก็จะถูกซื้อ และซื้อ และซื้อ จนไปอยู่ที่จุดสมดุลของความต้องการซื้อ และขาย

แต่หากกองทุนบอก เลือก Short Sell ก็ได้ บอกได้เลยว่า โง่มาก ๆ และเป็นการฆ่าตัวตายชัด ๆ
เป็นการสร้างผลขาดทุนแบบ Infinity - มีความหมายอย่างไรให้คุณไปศึกษาเอง
ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร การควบคุมราคาหุ้น เป็น effect ที่สามารถทำได้ ในระยะสั้นเท่านั้น
ไม่สามารถทำได้ ในระยะยาว หรือในภาวะที่มี demand ในการซื้อมาก อันเนื่องมาจากผลประกอบการ
ลองศึกษา Game Theory ดูครับ ว่าถ้าในภาวะบริษัทมีผลประกอบการดี
ถ้าคุณเป็นกองทุน แล้วต้องการกดราคาหุ้น จะทำได้หรือไม่ และผู้เล่นอื่นในตลาด เค้าจะทำอย่างไร

การควบคุมราคาหุ้นนั้น จะทำได้ ต้องมีปัจจัยสนับสนุน จาก 2 ทางคือ

1. ของกองทุน หรือผู้ที่ต้องการกดราคาหุ้น
2. นับสนุนของฝ่ายบริหารของบริษัทนั้น ๆ

ซึ่งถ้าบริษัทไหน เข้าข่ายนี้ ก็จะไม่เป็นทางเลือกของผู้ที่ลงทุนแบบ Value Investing อีกต่อไป เนื่องจากธรรมมาภิบาลของฝ่ายบริหาร เป็นปัจจัยที่การลงทุนแบบ Value Investing ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ หรืออาจจะมากที่สุด

การที่คุณบอกว่า "คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้
"
ส่วนตัวผมแล้วต้องบอกว่า ทำได้แน่นอนครับ และพิสูจน์มาแล้วจากผลการลงทุนของผมเอง
ที่ไม่เคยขาดทุนเลยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากมายในตลาดกระทิง)
จริงอยู่ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนในตลาดที่ Crash แบบสมบูรณ์แบบ

แต่อย่างว่า ไม่มีการลงทุนแบบไหนที่จะได้ หรือจะเสียไปตลอด
ของแบบนี้มันอยู่ที่การตัดสินใจ ความถนัด และวินัยในการลงทุนมากกว่า

พี่เอกรัตน์ ก็กําลังมี ประสบการณ์ลงทุนในตลาดCrash แบบสมบูรณ์แบบร่วมกับผมและVIทุกท่านแล้วไงครับ ตลาดหุ้นล่วง28%แล้วนะคร๊าบบบบบ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 4:43 pm
โดย BHT
คนไทยปั่นมองลำบาก แต่ฝรั่งปั่นยังมองง่ายกว่า มั้ง

ส่วนตัวผมว่าดูฝรั่งซื้อๆขายๆ แล้วหาช่องทำกำไรน่าจะเวิร์คกว่า

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 6:31 pm
โดย noooon010
ผมคิดว่า set50 ไม่ได้เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี 50 ตัวแบบที่บางคนเข้าใจ
ผมก็ยังคิดว่า เราซื้อหุ้นเพราะเราอยากร่วมทำธุรกิจกับเค้าครับ
ผมก็ยังคิดอีกว่า ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่ถูกทำราคา/ควบคุมราคา...

หุ้นแต่ละตัว มีเอกลักษณ์ เฉพาะของเค้าครับ
แม้บางครั้ง เราอาจใช้ fund flow / อารมณ์ของตลาดเข้ามาเพื่อใช้พิจารณาในการซื้อ-ขาย-ถือ หุ้น

...แต่คผมแน่ใจว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของผมทำให้เกิดกำไรได้ครับ
ทั้งกำไรที่เป็นตัวเงิน

และกำไรที่เป็นความสุขใจในการลงทุนครับ

รออ่านต่อเหมือนกันนะครับ คุยกันหลายๆมุม พบความเห็นที่ต่างกันบ้าง

แล้วจะเกิดองค์ความรู้&ความคิดใหม่ๆครับ :D
มาshare กันนะครับ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 9:29 pm
โดย akekarat
Rocker เขียน: พี่เอกรัตน์ ก็กําลังมี ประสบการณ์ลงทุนในตลาดCrash แบบสมบูรณ์แบบร่วมกับผมและVIทุกท่านแล้วไงครับ ตลาดหุ้นล่วง28%แล้วนะคร๊าบบบบบ
Crash สมบูรณ์แบบในความหมายผมคือแบบปี 40 ครับ
ปัจจุบันผมคิดว่ามันเป็นผลกระทบระยะสั้นจากปัจจัยทางการเมือง เป็นระดับมหภาค
สถานการณ์แค่ตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับเมื่อต้นปี 47-48 ครับ แค่เจ็บ ๆ คัน ๆ

ผมคิดว่าประเด็นของคุณ econometrica คือ ผู้มีเงินมาก สามารถควบคุมราคาหุ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ตามทฤษฏีเกมแล้ว ถ้าผลประกอบการดีซะอย่าง ผู้บริหารไม่เล่นด้วยซะอย่าง มีเงินไปก็เท่านั้นครับ มีแต่จะเจ็บตัว....

จะว่าไป ตลาดแบบนี้ ผลตอบแทนการลงทุนของผมกลับดีกว่าเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาแล้วอีกแฮะ  :wink:
สงสัย Value Investing คงมีประสิทธิภาพในตลาดขาลง มากกว่าขาขึ้น

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 9:53 pm
โดย chatchai
ลองนึกดูนะ

บริษัท A  ราคาหุ้น 10 บาท  จ่ายปันผลหุ้นละ 1 บาท  บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง  มีผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง

เวลาผ่านไป 5 ปี  บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นปีละ 20%  และจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นปีละ 20% เช่นกัน  จนสิ้นปีที่ 5  บริษัทจ่ายปันผลหุ้นละ 2.50 บาท

ราคาสิ้นปีที่ 5  ราคาหุ้นจะมีโอกาสอยู่ที่ 10 บาทหรือต่ำกว่ามากน้อยแค่ไหนครับ

และถ้าผ่านไปอีก 5 ปี  ผลการดำเนินงานและเงินปันผลก็ยังคงโตเพิ่มขึ้นปีละ 20% เช่นเดิม  จนเงินปันผลเพิ่มเป็น 6.25 บาทต่อหุ้น  ราคาหุ้นจะยังคงอยู่ที่ 10 บาทหรือครับ

ปัญหาคือ  เราลงทุนในบริษัทที่ดีมากน้อยแค่ไหน  และราคาที่เราลงทุนเหมาะสมเพียงใด

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 10:04 pm
โดย chatchai
Rocker เขียน:พี่เอกรัตน์ ก็กําลังมี ประสบการณ์ลงทุนในตลาดCrash แบบสมบูรณ์แบบร่วมกับผมและVIทุกท่านแล้วไงครับ ตลาดหุ้นล่วง28%แล้วนะคร๊าบบบบบ
ถ้าดัชนีหุ้นตกจากจุดสูงสุด 30% โดยทั่วไปก็จะบอกว่าตลาดเป็น Bear Market

ถ้าถึงขนาด Crash ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้น่าจะใกล้เคียงกว่านะ  เพราะเหลือแค่ประมาณ 30 ถึง 40% จากจุดสูงสุด เมื่อปลายปีก่อน

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 10:16 pm
โดย กล้วยไม้ขาว
ตลาดหุ้นก็เหมือนกับภาพนาซคาครับ

ถ้าเรามองแค่ใกล้ ๆ ตัว เราก็จะเห็นแค่ต้นหญ้าที่แหว่ง ๆ ไป

รูปภาพ

แต่ถ้ามองจากที่สูง ๆ ไกล ก็จะเห็นภาพที่สมบูณร์ และมหัศจรรย์ครับ


รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 06, 2008 11:22 pm
โดย Rocker
chatchai เขียน:
ถ้าดัชนีหุ้นตกจากจุดสูงสุด 30% โดยทั่วไปก็จะบอกว่าตลาดเป็น Bear Market

ถ้าถึงขนาด Crash ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้น่าจะใกล้เคียงกว่านะ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 8:32 am
โดย Stock Broker
แนวทางการลงทุนมันเป็นเรื่องของรสนิยมครับ ไม่มีใครถูกหรือผิดไปตลอด (ขึ้นอยู่กับนิยาม ถูก/ผิด อย่างไรด้วย)

ถ้าแนวทางการลงทุนทำให้ตนเองมีความสุขและหลับฝันดี ก็อันนั้นแหละครับที่เหมาะกับคุณ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 11:14 am
โดย สามัญชน
ไอเดียดีๆทั้งนั้น... :lol:

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 11:25 am
โดย naris
คุณROCKERเปลี่ยนแค่แนวคิด จะเล่นหุ้น หรือ ลงทุน เพียงเท่านี้ก็พอครับ

เพียงแต่ว่าถ้าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องมองแต่ตัวกำไรและเงินสดที่ได้มาจากธุรกิจที่จะส่งผ่านมาหาเรา อย่าไปมองราคาหุ้นครับ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 2:22 pm
โดย noooon010
chatchai เขียน:
ปัญหาคือ  เราลงทุนในบริษัทที่ดีมากน้อยแค่ไหน  และราคาที่เราลงทุนเหมาะสมเพียงใด


:bow:  :bow:  :bow:  :bow:

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 7:09 pm
โดย TPH
ส่วนตัวถึงแม้ว่าประสบการณ์การลงทุนยังน้อยนิด และลงทุนโดยเน้นแนวปัจจัยพื้นฐานเห็นว่า ถ้าบริษัทที่เราลงทุนมีกำไรจากการดำเนินงานต่อเนื่อง มีผลกำไรเติบโต มีการวางรูปแบบทางธุรกิจที่ดีเยี่ยม และมีผู้บริหารที่ดีมีวิสัยทัศน์และธรรมาภิบาลที่ดี บริษัทสามารถผลิตกระแสเงินสดได้ดีเยี่ยม ผมว่าต่อให้โดนทุบ โดนกดยังไง ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นของบริษัทนั้นจะสะท้อนกลับไปยังผลประกอบการอยู่ดีครับ
ส่วนเรานักลงทุนแต่ละคนก็ต้องพยายามหาบริษัทที่ดีเหล่านี้ให้พบ และซื้อในราคาที่มีส่วนลดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 7:21 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ได้แน่นอนครับ หุ้นในset50คุณแน่ใจหรือครับว่าเป็นแนวVI ผมคิดว่าหุ้นในแนววีไอตามทที่บัฟเฟตต์ได้กล่าวไว้คือ

1เป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย(แม้แต่คนที่ไม่ฉลาดก็บริหารได้)หรืออยู่ในขอบเขตความใจของนักลงทุน

2ผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ

3อนาคตระยะยาวสดใส

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 08, 2008 7:09 am
โดย terati20
อยากฟังคุณ ekarat เล่าว่า เอาตัวรอดจากปี 40 ได้ยังไงอะครับ  ? :8)

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 09, 2008 12:19 am
โดย miracle
VI เป็นเพียงทฤษฏี
ต้องรอการพิสูจน์อีกยาวไกล

สมมุติฐาน นำไปสู่ ทฤษฏี
ทฤษฏี นำไปสู่ กฏ
แต่ทุกอย่างหากมีสิ่งที่หักล้างได้ ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่
:)

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 09, 2008 1:22 am
โดย akekarat
[quote="terati20"]อยากฟังคุณ ekarat เล่าว่า เอาตัวรอดจากปี 40 ได้ยังไงอะครับ

คุณแน่ใจแล้วหรอว่าการเล่นหุ้นพื้นฐานของคุณทำกำไรได้

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 09, 2008 1:52 pm
โดย Pu
แน่ใจแค่ไหนไม่ทราบครับ  :x

แต่ว่าตั้งแต่เริ่มมาลงทุนในแนว VI ก็กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ต้องคอยเช็คราคาหุ้นทุก 5 นาที 10 นาที :o

กำไรชีวิตแค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ :wink:

ส่วนเรื่องผลตอบแทน ที่ผ่านมายังไม่เคยขาดทุนครับ >>> เพราะยังไม่ได้ขาย :lol:  :lol: