หน้า 1 จากทั้งหมด 1
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 1:17 pm
โดย naijan
จับตาAIAทิ้งหุ้น
วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551
โพสต์ทูเดย์ หึ่ง AIG เป็นเหยื่อซับไพรม์ตัวต่อไป จับตา AIA ระบายหุ้นในพอร์ต พบลงทุน 35 บริษัทไทย
ขณะนี้ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ (AIA) กำลังประสบปัญหาอย่างหนักในการระดมทุนในระยะสั้น และอาจจะต้องแก้ปัญหาสภาพคล่องด้วยการขายหุ้นหรือสินทรัพย์ออกมา
ทั้งนี้ หากพิจารณาการลงทุนในตลาดหุ้นไทยของ AIA พบว่ามีการถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้น 35 บริษัท มีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ประมาณ 6,500 ล้านบาท ซึ่งหาก AIA ขายหุ้นออกก็จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายวีระพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) เปิดเผยว่า การที่ AIG ประสบปัญหาคงไม่กระทบเอไอเอ และหากต้องการขายทรัพย์สินก็ต้องพิจารณาว่ามีเงินลงทุนอะไรที่ขายแล้วจะได้ผลตอบแทนดี
หาก AIA จะขายหุ้น TICON ออกก็คงห้ามไม่ได้ต้องปล่อยไปตามกลไกตลาด แต่เชื่อในปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัท เชื่อว่าหาก AIA ขายหุ้นออกมาก็จะมีนักลงทุนรายอื่นมาซื้อทดแทน โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโตจากปีก่อน 15% มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ และมีการลงทุนสร้างกำไรต่อเนื่อง
ด้านนายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) กล่าว ว่า ขณะนี้ฝ่ายบริหารกำลังติดตามเรื่อง AIG อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก AIA ถือหุ้นบริษัท แต่ยังไม่ได้ ตัดสินใจในเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไร เพราะอยู่ในขั้นตอนการศึกษา
นายธีระพงษ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) กล่าวว่า AIA ถือหุ้นในบริษัทเล็กน้อย หากมีการขายหุ้นก็ไม่น่าห่วง เพราะเชื่อว่าคงมีกลุ่มทุนอื่นเข้ามารับซื้อ เพราะธุรกิจของบริษัทมีความแข็งแกร่ง มีหนี้ต่อทุนตํ่าและมีเงินทุนเพียงพอ
หุ้นที่เอไอเอถืออยู่
หุ้น จำนวนหุ้น (%)ของทุนจดทะเบียน
1.nmg 5.29
2.tipco 2.94
3.sat 2.20
4.ohtl 2.18
5.stanly 1.83
6.mbk 1.64
7.ticon 1.24
8.makro 1.23
9.qh 1.22
10.erawan 1.15
11.becl 1.13
12.ap 1.07
13.dcc 1.01
14.tpc 0.94
15.egco 0.82
16.glow 0.81
17.major 0.77
18.mcot 0.75
19.bjc 0.71
20.delta 0.71
21.ratch 0.70
22.icc 0.69
23.pttar 1.29
24.banpu 0.63
25.tcap 0.60
26.tta 0.59
27.esso 0.58
28.tuf 0.58
29.amata 0.56
30.sccc 0.54
31.ccet 0.54
32.true 0.53
33.asp 0.51
34.scb 0.51
35.rcl 0.51
รวมมาร์เก็ตแคปของหุ้นที่เอไอเอถืออยู่รวม 6,588.1ล้านบาท
จะทำไงดี
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 1:23 pm
โดย naijan
จะทำไงดีครับ มีหุ้นที่ผมถืออยู่หลายตัวเลยครับ พี่ๆว่าผมควรทำไงดี
-ขายออกก่อนดีไหม
-จะหาข้อมูลจากที่ไหนได้บ้างครับ ว่าหุ้นตัวที่เราถืออยู่ มีบริษัทต่างชาติที่กำลังมีปัญหาอยู่ถือหุ้นอยู่และมีโอกาสจะถูกขาย
-หากหุ้นถูกขายออกมาจริงๆราคาจะตกไปมากน้อยแค่ไหนครับ
ช่วยให้ความเห็นหน่อยนะครับ มือใหม่อย่างผมกำลังกังวลมาก
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 1:29 pm
โดย Nongki
ตายล่ะหว่า
ถ้าทำประกันแบบยี่สิบปีคืนเงินต้นพร้อมดอกไว้
จะสูญไหมเนีย?............
:?: :!:
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 2:40 pm
โดย Alastor
มันก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกันหนิครับ -_-' AIA ไม่ได้ปล่อยเงินกู้ให้ AIG นิ ที่ส่งให้ทุกปีก็คือกำไรที่ aia ทำได้ ไม่ใช่เงินกู้เรียกชำระเมื่อไหร่ก็ได้จาก AIG ซะหน่อย
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 3:25 pm
โดย miracle
หยุดคิดซักนิด
ว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่าที่ AIA ทิ้งหุ้นพวกนั้นได้ทั้งหมด
ต้องถามต่อว่า AIA ลงทุนให้ AIG กู้ได้หรือไม่
เพราะ ว่า AIA ลงทุนอะไรต้องดูเรื่อง เครดิตการจัดอันดับของบริษัทด้วย
ไม่เพียงแค่ไหน
พรบ ประกันชีวิต พศ 2535 บังคับไว้ในเรื่องการลงทุนต่างประเทศไว้พอควรเลย ว่า ต้องได้รับการอนุมัติจาก หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องประกันชีวิตด้วย
นั้นคือ คปภ
เบื่อจริงๆ พวกจับแพะไปชนแกะ
ไม่เปิดดูว่าบริษัท ประกันชีวิต อยู่ในใต้พรบ ประกันชีวิต 2535 ก่อน
แล้วมาออกข่าว
เนี่ยละสื่อทำพิษอีกแล้ว
เบื่อสื่อพวกนี้จังเลย
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 6:29 pm
โดย nanchan
miracle เขียน:
เบื่อจริงๆ พวกจับแพะไปชนแกะ
ไม่เปิดดูว่าบริษัท ประกันชีวิต อยู่ในใต้พรบ ประกันชีวิต 2535 ก่อน
แล้วมาออกข่าว
เนี่ยละสื่อทำพิษอีกแล้ว
เบื่อสื่อพวกนี้จังเลย
ผมก็เบื่อ แม่ม มีCPALLด้วย ไมไม่ลงให้ละเอียด
AIAลงทุนในหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ ใครพอทราบบ้าง
ถ้าลงเยอะอย่างนี้มูลค่าน่าจะลดลงพอสมควรนะนี่
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 7:18 pm
โดย GeneraX
AIA จะล้มก็เพราะสื่อนี่แหละครับ
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 10:23 pm
โดย SSL
คิดว่าความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่ AIA จะขายหุ้นออกมาแบบ panic เหตุผล
1. FED ให้กู้ยืมเงินกับ AIG แล้ว USD 85 billion มีระยะเวลา 2 ปี เหตุผลหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ก็เพื่อให้ AIG มีเวลาขาย asset เพื่อมาใช้คืนเงินกู้โดยไม่ต้องขายแบบ distressed sale
2. AIA ในเมืองไทยอยู่ภายใต้ คปภ ซึ่งการจะโอนเงินให้บ.แม่แต่ละครั้งของ AIA จะต้องได้รับการอนุมัติจาก คปภ ก่อน การที่บ. ประกันจะ liquidate asset เพื่อใอนให้แม่ คงจะต้องมีเรื่องกฎเกณฑ์ในการรักษา ratio ต่างๆอยู่พอสมควร
3. Port การลงทุนส่วนใหญ่ของ AIA เป็นตราสารหนี้/พันธบัตรรัฐบาล (เข้าใจว่า 80-90% - ตัวเลขไม่ยืนยัน 100% แต่น่าจะใกล้เคียง) ถ้าเกิด worst case scenario จำเป็นจะต้อง liquidate asset จริงๆ การขายตราสารหนี้ น่าจะ make sense สำหรับ aia มากกว่า
AIG ประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ 4 ธุรกิจ
1. General Insurance
2. Asset Management
3. Financial Services
4. Life Insurance & Retirement Services
AIA ในบ้านเราอยู่ภายใต้กลุ่มที่ 4
คิดว่าถ้าเป็น AIG ที่จะต้องขาย ASSET เพื่อใช้คืนหนี้ USD 85 billion ให้กับ FED ความเป็นไปได้ที่ AIG จะแบ่งขาย Business Unit 4 Units กับการสั่งให้ลูกในประเทศต่างๆ liquidate asset ซึ่งต้องผ่านกฎเกณฑ์มากมายในแต่ละประเทศ เพื่อนำส่งแม่ อย่างไหนจะมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน
ที่ผมเกรงว่าอาจมีการเทขายหุ้นที่ถืออยู่มากกว่า น่าจะเป็นพวกกลุ่ม investment bank ต่างๆ ครับ เพราะตอนนี้ Cash is the king
By Craig Torres and Hugh SonSept. 16 (Bloomberg) -- The U.S. government agreed to lendas much as $85 billion to American International Group Inc. inexchange for a 79.9 percent stake to save the country's biggestinsurer from collapse.The Federal Reserve ``determined that, in currentcircumstances, a disorderly failure of AIG could add to alreadysignificant levels of financial market fragility and lead tosubstantially higher borrowing costs, reduced household wealthand materially weaker economic performance,'' the Fed said.The agreement, supported by the Treasury Department, willkeep New York-based AIG in business, averting a failure thatcould have threatened more financial companies and added to chaosin world markets. Losses industrywide could have totaled $180billion if AIG collapsed, according to RBC Capital Markets. AIGneeded the loan after its credit ratings were cut and sharesplunged 79 percent since Sept. 11.The two-year loan will ``assist AIG in meeting itsobligations as they come due,'' the Fed said in its statement.The federal lifeline will allow AIG to sell assets in an orderlyfashion rather than at distressed prices, said a person familiarwith the agreement.``The loan is expected to be repaid from the proceeds of thesale of the firm's assets,'' the Fed said. The U.S. governmenthas the right to veto the payment of dividends to common andpreferred shareholders.AIG will replace management as part of the deal, said theperson, who declined to be named because not all parts of theagreement were publicly disclosed.Interest will accrue on the outstanding balance at thethree-month London interbank offered rate plus 8.5 percentagepoints.
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 10:43 pm
โดย ply33
SSL เขียน:คิดว่าความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่ AIA จะขายหุ้นออกมาแบบ panic เหตุผล
1. FED ให้กู้ยืมเงินกับ AIG แล้ว USD 85 billion มีระยะเวลา 2 ปี เหตุผลหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ก็เพื่อให้ AIG มีเวลาขาย asset เพื่อมาใช้คืนเงินกู้โดยไม่ต้องขายแบบ distressed sale
2. AIA ในเมืองไทยอยู่ภายใต้ คปภ ซึ่งการจะโอนเงินให้บ.แม่แต่ละครั้งของ AIA จะต้องได้รับการอนุมัติจาก คปภ ก่อน การที่บ. ประกันจะ liquidate asset เพื่อใอนให้แม่ คงจะต้องมีเรื่องกฎเกณฑ์ในการรักษา ratio ต่างๆอยู่พอสมควร
3. Port การลงทุนส่วนใหญ่ของ AIA เป็นตราสารหนี้/พันธบัตรรัฐบาล (เข้าใจว่า 80-90% - ตัวเลขไม่ยืนยัน 100% แต่น่าจะใกล้เคียง) ถ้าเกิด worst case scenario จำเป็นจะต้อง liquidate asset จริงๆ การขายตราสารหนี้ น่าจะ make sense สำหรับ aia มากกว่า
เห็นด้วยกับ ข้อ 1, 2 แต่ไม่เห็นด้วยกับข้อ 3 คับ ถ้าต้องขายคงขาย asset ที่มี liquidity มากที่สุดก่อน รวมทั้งราคาที่คาดว่าจะลงไปได้เยอะก็เป็นเหตุให้ขายหุ้นก่อนเช่นกัน(ถ้าจะขาย)
ที่ฟังข่าว AIA (Thailand) เป็นบริษัทลูกของ AIA (Hongkong) - Regional HQ ครับ ถ้า AIG ล้มก็คงต้องขาย Assets ต่างๆเหมือนที่ Lehman Brothers ทำ ที่บอกว่ามี Assets อยู่ใน Thailand เยอะ มองอีกแง่ก็สามารถขายได้เยอะเหมือนกันเพราะมีอยู่สูงกว่าที่ กฎหมายกำหนดมาก เท่าที่ได้ยินต้องผ่าน คปภ ก่อนแต่ก็เป็นในแง่ กฎหมายเท่านั้นครับ
แต่ที่สำคัญคือ US Government and FED can not allow AIG to go Bankrupt ครับ เพราะ Impact ที่จะตามมาใหญ่มากกก ตัวใหญ่ล้มดัง...
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 11:03 pm
โดย SSL
ตลาดพันธบัตรบ้านเรามี Liquidity สูงนะครับ วันละหลักแสนล้าน
ThaiBMA Report > Daily Market Summary Historical >>
.
Trading & Outstanding value Mln. (THB) Chg.(%)
Outstanding Value 4,947,159.60 0.13
Number of issues 1,558
Total Trading Value 167,411.42 -11.56
Outright/Cash Trading 35,471.21 -58.08
Financing 131,727.17 25.86
Others 213.04 562.85
http://www.thaibma.or.th/compositerpt/dailyreport.aspx
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 11:26 pm
โดย chode
[quote="SSL"]ตลาดพันธบัตรบ้านเรามี Liquidity สูงนะครับ วันละหลักแสนล้าน
ThaiBMA Report > Daily Market Summary
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 17, 2008 11:53 pm
โดย SSL
ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างครับ :lol:
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2008 9:55 pm
โดย bankniti
จาก โพสต์ทูเดย์
http://www.posttoday.com/news.php?id=7505
โพสต์ทูเดย์ เฟดปล่อยกู้ต่อชีพ เอไอจี เอไอเอปลอบคนไทย บริษัทแม่เจ๊ง แต่ลูกฐานะดีเยี่ยม มีทรัพย์สินอยู่ 3.8 แสนล้าน ไม่ได้ส่งกลับอเมริกา
วานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจยื่นมือเข้ากู้ชีวิตบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป อิงก์ (เอไอจี) ด้วยการเข้าไปถือหุ้น 79.9% โดยปล่อยเงินกู้ระยะ 2 ปี มูลค่า 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2.93 ล้านล้านบาท ให้กับเอไอจี
หลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนตัวฝ่ายบริหารระดับสูง และขายสินทรัพย์ของเอไอจีออกเพื่อจ่ายคืนเงินกู้ การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการป้องกันมิให้บริษัทล้มละลาย มิเช่นนั้นจะส่งผลสะเทือนต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐให้วิกฤตหนักยิ่งขึ้น รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง
ด้านนายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ (เอไอเอ) ก็แถลงว่า เอไอเอไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดสภาพคล่องของเอไอจีแต่อย่างใด เพราะไม่ได้ลงทุนในหุ้นของบริษัท เอไอจี
นายโทมัส ยืนยันว่า ฐานะการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีเงินสำรองประกันภัยถึง 2.86 แสนล้านบาท มีกำไรสะสมกว่า 7 หมื่นล้านบาท มีเงินกองทุน 6.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 1,107% ของเงินกองทุน มีสินทรัพย์รวมถึง 3.8 แสนล้านบาท
ฐานะนี้มากพอสำหรับรองรับภาระผูกพันและผลประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย เงินของเอไอเอไทย 70% ลงทุนไปในพันธบัตรรัฐบาล อีก 10% ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ส่วนอีก 20% ที่ไปลงทุนพันธบัตรในต่างประเทศนั้น ก็ได้รับอนุมัติจาก คปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว นายโทมัส กล่าว
นายโทมัส ระบุด้วยว่า หาก เอไอจีต้องการให้บริษัทลูกอย่าง เอไอเอส่งเงินไปช่วยเหลือ ก็ต้องขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน แต่ คปภ.ก็มีนโยบายชัดเจนว่าต้องการให้บริษัทดำรงเงินลงทุนส่วนใหญ่ไว้ในประเทศเป็นหลัก
นายอนุชา เหล่าขวัญสถิตย์ รองประธานอาวุโสและรองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า ต่อให้เอไอจีต้องล้ม เอไอจีก็มิได้หายไป เพียงแต่อาจจะทำให้ต้องปรับโครงสร้างกันใหม่
ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงกับบริษัทหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเอไอจียังไม่ได้เรียกระดมทุนจากบริษัทลูกในเอเชียแต่อย่างใด
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2008 10:10 pm
โดย bankniti
bankniti เขียน:
ด้านนายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ (เอไอเอ) ก็แถลงว่า เอไอเอไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดสภาพคล่องของเอไอจีแต่อย่างใด เพราะไม่ได้ลงทุนในหุ้นของบริษัท เอไอจี
นายโทมัส ระบุด้วยว่า หาก เอไอจีต้องการให้บริษัทลูกอย่าง เอไอเอส่งเงินไปช่วยเหลือ ก็ต้องขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน แต่ คปภ.ก็มีนโยบายชัดเจนว่าต้องการให้บริษัทดำรงเงินลงทุนส่วนใหญ่ไว้ในประเทศเป็นหลัก
ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงกับบริษัทหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเอไอจียังไม่ได้เรียกระดมทุนจากบริษัทลูกในเอเชียแต่อย่างใด
นายโทมัสบอกว่า "เอไอเอไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดสภาพคล่องของเอไอจีแต่อย่างใด เพราะไม่ได้ลงทุนในหุ้นของบริษัท เอไอจี" แต่ยังมีต่อว่า "หาก เอไอจีต้องการให้บริษัทลูกอย่าง เอไอเอส่งเงินไปช่วยเหลือ ก็ต้องขออนุมัติจากคปภ." นี้แหละที่ผมสงสัยเพราะหาก AIG ให้บริษัทลูกทั้งหลายในต่างประเทศส่งเงินไปช่วยเหลือ มันจะเกินปัญหาอะไรขึ้นกับบริษัทลูกไหมครับ? หาก AIG ไปไม่ไหวจริงๆ บริษัทลูก(กับบริษัทหลาน AIA ในไทย) จะอยู่ได้หรือครับ?
ที่อยากรู้อีกอย่างคือ หากทำประกันชี่วิตกับ AIA อยู่ มีวิธีไถ่ถอนกรมธรรม์อย่างไรให้เสียประโยชน์น้อยที่สุดครับ (อยากรู้เอาไว้เป็นทางหนีทีไล่ เผื่อเอาไว้ก่อน)
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2008 10:42 pm
โดย mprandy
bankniti เขียน:
การส่งเงินกลับไป บ.แม่สามารถทำได้ครับ ถ้า คปภ.อนุญาต เพราะเขาว่าจะทำให้สถานะค่าเงินถูกกระทบได้ (เงินมันเยอะ) แต่ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยได้ส่งเกิน 2 พันล้านบาทต่อปีทั้ง ๆ ที่กำไรได้มากกว่านั้น เงินเลยเหลืออยู่บานเบอะ
ถ้า AIG ไปไม่ไหว วิธีที่เขาทำได้คือ "ขาย" AIA ออกไปแล้วเอาเงินไปคืนเจ้าหนี้ครับ ไม่เกี่ยวกันว่าถ้า AIG ล้ม AIA จะล้มตาม
การไถ่ถอนกรมธรรม์ก่อนกำหนดที่เขาให้ทำได้ จะเสียประโยชน์หมดครับ ไม่มากก็น้อย จะเสียมากถ้าส่งไปไม่มาก คือแค่ไม่กี่ปี ถ้ากลัว แต่ยังไม่อยากยกเลิก วิธีดีที่สุดคือ การกู้ผ่านกรมธรรม์ แล้วรอดูสถานการณ์ ถ้าไม่มีปัญหาก็คืนเงินกู้ไปครับ กู้โดยเอากรมธรรม์เป็นหลักประกันจะเสียดอกน้อยมาก
แต่จริง ๆ ไม่แนะนำหรอกครับ เพราะผมคิดว่าเขาไม่ล้ม (ถ้าล้ม ผมคงจะลมจับก่อน ที่บ้านทุกคนรวมกันมีกรมธรรม์อยู่ประมาณสี่สิบฉบับ)
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 11:23 am
โดย SSL
จากข่าว AIA มีการทิ้งหุ้นออกมาแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขอตั้งข้อสังเกตุ
- ถ้าไม่เป็นความจริง ทาง AIA น่าจะออกมาปฏิเสธข่าว
- เอ หรือว่าที่ถืออยู่ ไม่ว่าจะเป็น AMERICAN INTERNATION ASSURANCE COMPANY,LIMITED-APEX หรือ AMERICAN INTERNATION ASSURANCE COMPANY,LIMITED-TIGER เป็น entity ของ AIA ที่ต่างประเทศ ซึ่งเวลาขายหุ้นแล้วนำเงินออกไม่ต้องผ่าน คปภ
ถ้าเป็นกรณีหลังก็
EGCOตกน่าเกลียดเอไอเอล้างพอร์ต:ตลึงราคาต่ำบุ๊ค21บาท-พื้นฐานปึ๊กการันตีปันผล7%
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ช่วง 3 วันที่ผ่านมา(16-18ก.ย.) ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างแรงจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากความกังวลเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกาไม่ดีและสถาบันการเงินประสบปัญหาขาดทุนโดยวันที่ 16 ก.ย.51 หุ้น EGCO ปิดตลาดที่ราคา 66 บาทลดลง 4 บาท หรือคิดเป็น 5.71% วันที่ 17 กันยายน 2551 ปิดตลาดที่ราคา 64 บาทลดลง 2 บาทหรือคิดเป็น 3.03% และวานนี้(18ก.ย.)ปิดตลาด 63 บาท ลดลง 1 บาทหรือคิดเป็น 1.56%
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน)หรือEGCO กล่าวกับ"ข่าวหุ้นธุรกิจ"ว่า ราคาหุ้น EGCO ปรับตัวลดลงมาแรงช่วง 3 วันที่ผ่านมาน่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี และสถาบันการเงินมีปัญหาขาดทุนและขาดสภาพคล่องทำให้มีแรงเทขายของนักลงทุนต่างประเทศออกมาจำนวนมาก
โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มาจากอเมริกา เพื่อนำเงินกลับไปช่วยฟื้นฟูกิจการบริษัทแม่ที่ประสบปัญหาด้านการเงิน ส่งผลให้หุ้น EGCO รวมถึงหุ้นอีกหลายบริษัทในตลาดหุ้นได้รับผลกระทบมีแรงเทขายออกมาจำนวนมาก จนส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงมาค่อนข้างแรง
ทั้งนี้เมื่อวันพุธที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา AIA ซึ่งเป็นถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 1% คือ AMERICAN INTERNATION ASSURANCE COMPANY,LIMITED-APEX ถือหุ้นอยู่ 4,306,300 หุ้น หรือคิดเป็น 0.82% และ AMERICAN INTERNATION ASSURANCE COMPANY,LIMITED-TIGER ถือหุ้นอยู่ 3,960,000 หุ้น หรือ คิดเป็น 0.75% ได้เทขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดออกมา เพื่อนำเงินทุนกลับไปช่วยบริษัทแม่ คือ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป(AIG)ในอเมริกาที่ประสบปัญหาทางด้านเงินอยู่ขณะนี้
ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น EGCO วันดังกล่าว(17ก.ย.)ปรับลดลง 2 บาทหรือคิดเป็น 3.03% ปิดการซื้อขายที่ราคา 64 บาท และวานนี้(18ก.ย.)มีแรงเทขายตามออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคา EGCO วานนี้ปรับตัวลงต่ออีก 1 บาทหรือคิดเป็น 1.56%ปิดการซื้อขายราคา 63 บาท
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงช่วงนี้ บริษัทได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ถ้ามีอะไรรุนแรงก็เตรียมหามาตรการเข้ามาแก้ไขทันทีอย่างแผนการซื้อหุ้นคืน"
สำหรับแผนการซื้อหุ้นคืนขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา โดยบริษัทจะพยายามเร่งการศึกษาให้เร็วขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาแรงและราคาเห็นว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในกระดาน 63 บาทต่ำกว่าราคาหุ้นตามมูลค่าทางบัญชี(bookvalue)ที่อยู่ระดับ 84.03 บาท(สิ้นไตรมาส 2/51)หรือต่ำกว่าบุ๊ค 21 บาท และคาดว่าจะสรุปแผนการซื้อหุ้นคืนได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้และเสนอที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติเดือนพฤศจิกายน 2551 ทั้งนี้บริษัทมีเงินสดหมุนเวียนอยู่ในบริษัทประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังยืนยันจ่ายเงินปันผลมากกว่าปีก่อนที่มีการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 4.75บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 7% ต่อปี โดยงวดครึ่งปีแรกปีนี้บริษัทมีการอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2.50 บาท/หุ้น แม้ว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้ และกำไรลดลงจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาประมาณ4,000-5,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้และมีความสามารถในการกู้เงินไปลงทุนได้สูง ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผล 40% ของกำไรสุทธิ
ขณะเดียวกัน บริษัทได้เตรียมจัดทำแผนการลงทุน 5 ปีแล้วเพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่องในอนาคตโดยแผนการลงทุนในอนาคตจะเน้นการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า รวมถึงฟิลิปปินส์ หลังจากแนวโน้มการประมูลงานในประเทศเริ่มจำกัด โดยเริ่มจากปีนี้ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเป็น 30% จากเดิมอยู่ที่ 20%
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ในโรงไฟฟ้าถ่านหิน NGHI SON 2 กำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ที่ประเทศเวียดนาม คาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะทราบผล และรอผลการเข้าซื้อหุ้น 50% โรงไฟฟ้าถ่านหินสีหนุวิลล์ กำลังผลิต 220 เมกะวัตต์ ในประเทศกัมพูชา
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ปรับเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าใหม่สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศลาว จำนวน 5 แห่ง คือน้ำเทิน 1,น้ำงึม 3, น้ำเงี้ยบ, น้ำอู และหงสา เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นไป 25-30% รวมทั้งทิศทางและแผนการลงทุนในประเทศ บริษัทจะให้ความสำคัญในการศึกษาโครงการพลังงานทดแทนทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะ และโครงการธุรกิจผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP)ซึ่งจะเน้นการร่วมทุนกับผู้ที่ได้สัญญางานก่อสร้างแล้ว
ก่อนหน้านี้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า 2 แห่ง คือ EGCO และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน)หรือRATCH โดยการจากสำรวจล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ย.51ไม่ปรากฏชื่อของกบข.ใน EGCO เลยจากก่อนหน้านั้นข้อมูลการถือหุ้นวันที่ 1 เมษายน2551 กบข.ถือหุ้น EGCO อยู่ในพอร์ต 3.08ล้านหุ้น คิดเป็น 0.59%
ขณะที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น EGCO ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2551 ปรับตัวลดลง 54.76% จากราคาสูงสุด 97.50 บาท ณ วันที่ 3 เมษายน 2551 ลงมาต่ำสุดที่63 บาท ณ วันที่ 18 กันยายน 2551 ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2551 มีมติแต่งตั้งนายวินิจ แตงน้อย ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทนนายวิศิษฎ์ อัครวิเนค ที่หมดอายุสัญญาจ้างในวันที่ 30 กันยายน 2551 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551เป็นต้นไป
บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน วิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น EGCO ปรับตัวลดลงแรงในช่วง 3วันที่ผ่านมา (16-18 ก.ย.) น่าจะมาจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากโครงสร้างการถือหุ้นของ EGCO ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ เมื่อภาวะตลาดหุ้นไม่ได้ ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาในหุ้นหลายบริษัท รวมถึง EGCO ด้วย เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนหันไปลงทุนพันธบัตร หรือตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทน โดยเฉพาะสถานการณ์เศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของ EGCO ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง และถือเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 12:31 pm
โดย SSL
ผู้บริหารให้ข่าวขัดแย้งกันเอง แปลกดีครับ
ว่าแต่มีใครทราบมั๊ยครับว่า AIA-APEX กับ AIA-TIGER เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในไทย หรือ ต่างประเทศ
EGCO ยืนยัน AIA ยังถือหุ้น 1.5% ไม่ได้ขายออกมา/ยังไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน
IQ ข่าวหุ้น 19/09/2008 11:50:05
นายศักดา ศรีสังคม รองกรรมผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการเงิน บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ บริษัท เอไอเอ ยังถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 1.5% เท่าเดิม ไม่ได้มีการเทขายหุ้นออกมาอย่างที่เป็๋นข่าว โดยบริษัทได้สอบถามไปยังเอไอเอแล้ว ก็ได้รับคำยืนยันว่ายังถือหุ้นเท่าเดิม
"โบรกเกอร์มีการนำเสนอบทวิจัยหุ้นที่บริษัท เอไอเอ ถือหุ้นอยู่ และหนึ่งในนั้นก็มี EGCO ทำให้เรายย่อยเกิดการ PaniC และทำให้ราคาหุ้นเราลดลงอย่างรวดเร็ว และรายย่อยก็สอบถามข้อมูลมาที่บริษัทจำนวนมาก และเราก็เช็คไปทางเอไอเอแล้ว ก็ยืนยันว่าไม่ได้ขายหุ้นเราออกมา ยังคงถือเท่าเดิมที่ 1.5%"นายศักดา กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
แต่ยอมรับว่าราคาหุ้น EGCO ปรับตัวลงมากกว่าหุ้นโรงไฟฟ้าอื่น เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทเข้าสู่ช่วงขาลงตามสัญญาค่าไฟอยู่แล้ว และเป็นไปตามแผนงานปกติ ซึ่งบริษัทเองก็พยายมจะหาโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เพื่อมาเสริมกำลังการผลิตที่มีอยู่ โดยปัจจุบันยังคงเน้นการลงทุนในพื้นที่แถบอาเซียนเช่น ลาว กัมพูชา เนื่องจาก ทั้ง 2 ประเทศมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน แม้จะยอมรับว่ามีการศึกษาเรื่องนี้อยู่
ราคาหุ้น EGCO เช้านี้เคลื่อนไหวที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.79%) ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดรวม โดยตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงมาก วานนี้ราคาปรับลงไปต่ำสุดที่ 60.00 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 12:58 pm
โดย mprandy
AIA-Tiger กับ Apex เป็นกองทุนของ AIA ที่เขากำหนดให้ลงในตราสารทุนได้ตามกฏหมาย คือไม่เกิน 10%
พอร์ทของ AIA มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศ รองจาก กบข. แต่ส่วนใหญ่ถือพันธบัตรรัฐบาล เงินฝาก ตราสารหนี้ในประเทศ
ส่วน AIA ทิ้งหุ้นจริงหรือไม่ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ ถ้าให้เดาก็ไม่น่าจะทิ้งเพราะไม่มีประโยชน์ เอาเงินออกมาก็ส่งไปต่างประเทศไม่ได้เพราะเป็นเงินกองทุนประกัน ไม่ใช่กำไรสะสม
คนที่ขายน่าจะเป็นฝรั่งหัวดำมากกว่า เพราะขายก็ไม่มีใครรู้ ถ้ามีคนถามก็อ้าง AIA เพราะทำหน้าที่เป็นแพะอยู่แล้ว :lovl:
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 4:48 pm
โดย MANEKI
ขายเลยค่ะ รอรับอยู่
600 จุดนะคะ แต่คาใจเห็นเมื่อวาน SETปิด 600จุด
วันนี้จะมาช้อน มันเปิดกระโดดไปแล้ว
เราก็มาตั้งทิ้งไว้ที่ราคาปิดแล้วนี่นา
ตกรถมานานมากๆแล้ว
ตั้งใจจะซื้อ TDEX ที่ SET 600ไว้
คราวนี้จะตั้งรอทุกวันเลย ปีนี้ไม่ได้
ปีหน้าก็ได้ AIAขายมาเลยนะคะ ขายได้เต็มที่เลยค่ะ
จะชวนพี่มาซื้อ LTFด้วย
เมื่อวานบอกพี่ว่า SETลงมาเยอะมากเลย ซื้อไว้ดีไหม
ถ้าเห็นแบบนี้ ก็คงรอต่อไปอีกแล้วละ
บ้านเรางก ซื้อแพงไม่ได้ เดี๋ยวแม่ด่า
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 7:01 pm
โดย bankniti
mprandy เขียน:พอร์ทของ AIA มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศ รองจาก กบข. แต่ส่วนใหญ่ถือพันธบัตรรัฐบาล เงินฝาก ตราสารหนี้ในประเทศ
รู้สึกว่า 70% ของเงินลงทุนจะเป็นพันธบัตร ตราสารหนี้ อีก 10% ลงทุนในหุ้น ที่เหลือ 20% จำไม่ได้ว่าลงทุนอะไร
mprandy เขียน:ถ้า AIG ไปไม่ไหว วิธีที่เขาทำได้คือ "ขาย" AIA ออกไปแล้วเอาเงินไปคืนเจ้าหนี้ครับ ไม่เกี่ยวกันว่าถ้า AIG ล้ม AIA จะล้มตาม
ที่พี่หมอพูดก็มีเหตุผล ขอบคุณมากครับ
แต่ที่บอกว่าที่บ้านมีกรมธรรม์ AIA ถึง 40 ฉบับนี้ ทำไมมันเยอะอย่างนั้นหล่ะครับ ของบ้านผมประมาณ 7-8 ฉบับไปโรงพยาบาลทีก็งงสับสนแล้วว่าอันไหนเป็นอันไหน
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 4:42 am
โดย Ryuga
อาจารย์แพรนดี้ เขียน:ถ้าล้ม ผมคงจะลมจับก่อน ที่บ้านทุกคนรวมกันมีกรมธรรม์อยู่ประมาณสี่สิบฉบับ
อาจารย์มีกรมธรรม์เยอะจังครับ ผมไม่มีซักฉบับเลย :lol:
ไม่นานมานี้ AIG เพียงบริษัทเดียวเคยมีมูลค่าตลาดพอๆ กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้กลับเล็กกว่าพี่เทพเสียอีก (อนิจจัง แท้หนอ
)
ตอนนี้ปัญหายังโผล่ในวงสถาบันการเงิน มารอดูภาคเศรษฐกิจจริงกันครับ จะมีอะไรตื่นเต้นอีกน้า :lol:
ผวาทิ้งหุ้น5หมื่นล้าน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 12:38 pm
โดย naijan
ผวาทิ้งหุ้น5หมื่นล้าน
วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551
โพสต์ทูเดย์ จับตาโกลด์แมน แซคส์-มอร์แกน สแตนเลย์ ขายหุ้นไทยเฉียด 5 หมื่นล้าน หลังยกฐานะเป็นธนาคาร บิ๊ก บจ.เชื่อรับมือไหว
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยในงานสัมมนาเซ็ทคลิกทูวิน สะสมหุ้นเทคนิคการลงทุน ว่า หลังโกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนเลย์ เปลี่ยนสถานะจากวาณิชธนกิจเป็นธนาคารพาณิชย์ จะต้องทำตามกฎเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจจะเห็นทั้ง 2 บริษัทขายสินทรัพย์ออกมา รวมถึงหุ้นไทยด้วย
จากนี้ไปต้องติดตามการขายสินทรัพย์ของทั้ง 2 บริษัทมากขึ้น เพราะตามกฎของธนาคารนำเงินไปลงทุนได้ไม่เกิน 12 เท่าของเงินกองทุน แต่ที่ผ่านมาโกลด์แมนฯ และมอร์แกนฯ นำเงินไปลงทุนมากกว่า 30 เท่า และ 24 เท่าของเงินกองทุน
หุ้นไทยอาจได้รับผลกระทบ เพราะทั้ง 2 บริษัทมีเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยรวมเกือบ 5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โกลด์แมน แซคส์ 2.2 หมื่นล้านบาท และมอร์แกน สแตนเลย์ 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังไม่นับการลงทุนผ่านทางคัสโตเดียน และหากจะมีการขายสินทรัพย์จริง 10 วัน ก็ขายหมด และหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลการถือหุ้นของวาณิชธนกิจทั้ง 2 แห่งในตลาดหุ้นไทย พบว่าทั้งการถือหุ้น ทางตรงและทางอ้อมคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) รวมกว่า 4.5 หมื่น ล้านบาท
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงหลีกเลี่ยง ผลกระทบนี้ไม่พ้น หากโกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนเลย์ ขายหุ้นเพราะนิยมลงทุนในหุ้นใหญ่ ที่มีพื้นฐานดี นอกจากนี้ยังมีหุ้นต้นทุนต่ำ หากขายตอนนี้ยังมีกำไรอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่าถือหุ้นในบริษัทเล็กบางแห่งมากกว่า 50%
ตอนนี้อะไรที่ขายได้กำไรก็จะถูกขายออกมาก่อน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารและพลังงาน เช่น บริษัท ปตท. (PTT) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เนื่องจากซื้อในราคาต่ำกว่า 100 บาทต่อหุ้นทั้งนั้น
นายวัลลภ คุณานุกรกุล กรรมการ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส (INOX) กล่าวว่า โกลด์แมน แซคส์ ถือหุ้นบริษัทอยู่ 657.11 ล้านหุ้น หรือ 8.21% ซึ่งไม่คิดว่าจะมีปัญหาหากจะขายหุ้นออกมา เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่น่าจะเข้ามารับซื้อหุ้นดังกล่าวได้อย่างแน่นอน
วานนี้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่จุดสูงสุดของวันระดับ 620.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.18 จุด หรือ 2% ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง 9,764.25 ล้านบาท โดยต่างชาติขาย 930 ล้านบาท
สาเหตุที่ดัชนีบวกขึ้นแรงได้ เพราะนักลงทุนมีความมั่นใจขึ้น หลังวอร์แรน บัฟเฟตต์ ใช้เงิน 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อหุ้นโกลด์แมนฯ รวมถึงไชนา อินเวสเมนต์ คอร์ป (CIC) กองทุนความมั่งคั่งของจีน ซื้อหุ้นธนาคารท้องถิ่นจีน 3 แห่ง และอาจมีการทำราคาปิดงวดไตรมาส 3 ของนักลงทุนสถาบัน
อ่านแล้วหวั่นไหวพิลึก
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 1:58 pm
โดย mprandy
Ryuga เขียน:
จับตาเอไอเอทิ้งหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 2:13 pm
โดย Alastor
คุ้นๆว่าเค้ามีสูตรให้คำนวณว่าเราควรจะซื้อประกันชีวิตเท่าไหร่ดี จำได้ว่าถ้ามีเงินเก็บพอที่ทางบ้านจะใช้ได้ 5 ปีก็ไม่จำเป็นต้องมีประกันก็ได้นะครับ เอาเงินมาซื้อหุ้นดีกว่า
ส่วนตัวผมก็ทำประกันไว้ 3 ฉบับนะ แต่จ่ายปีนึงก็ 50,000 เท่าที่ลดภาษีได้พอดีๆ ได้ยินว่าเพิ่มเพดานแล้วแต่ เลิกติดต่อเพื่อนที่ขายประกันหมดแล้ว ช่วงนี้เลยไม่มีใครมากวนใจ :lol:
เราไม่ควรจะมั่นใจในอะไรมากเกินไป ดังนั้นแทงหวยว่าตัวเองจะต้องตายไว้ก็ไม่เสียหายอะไรมากถ้าทำให้ครอบครัวลำบากน้อยลงนะครับ
Re: ผวาทิ้งหุ้น5หมื่นล้าน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 2:15 pm
โดย Alastor
naijan เขียน:ผวาทิ้งหุ้น5หมื่นล้าน
อ่านแล้วหวั่นไหวพิลึก
ถ้าเค้าขายหมดราคาก็กลับไปเป็นแบบเดิมเองแหละครับ จะกลัวทำไม ผมเห็นคน panic เทกระจาดวันที่ลงไป 5xx กันเยอะ สุดท้ายก็คือขายได้ที่ก้นกระทะเลย :shock: ตลาดช่วงนี้ต้องมีหลักในการลงทุนให้ยืดมั่น ไม่งั้นคงจิตใจกระเจิงอ่ะครับ
Re: ผวาทิ้งหุ้น5หมื่นล้าน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 2:29 pm
โดย wattae
[quote="naijan"]ผวาทิ้งหุ้น5หมื่นล้าน
วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551
โพสต์ทูเดย์ จับตาโกลด์แมน แซคส์-มอร์แกน สแตนเลย์ ขายหุ้นไทยเฉียด 5 หมื่นล้าน หลังยกฐานะเป็นธนาคาร บิ๊ก บจ.เชื่อรับมือไหว
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยในงานสัมมนาเซ็ทคลิกทูวิน สะสมหุ้นเทคนิคการลงทุน ว่า หลังโกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนเลย์ เปลี่ยนสถานะจากวาณิชธนกิจเป็นธนาคารพาณิชย์ จะต้องทำตามกฎเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจจะเห็นทั้ง 2 บริษัทขายสินทรัพย์ออกมา รวมถึงหุ้นไทยด้วย