Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

"What Buffett has been waiting for for years is finally happening: A period of sufficient market distress where he can negotiate terrific financial terms for Berkshire," said James Armstrong, president and portfolio manager at Henry H. Armstrong Associates in Pittsburgh, which holds a stake in Berkshire Hathaway. "The reason he's buying so much right now is he's getting extremely attractive prices. He has been waiting for this for 10 years

ซึ่งมักจะตรงข้ามกับ นักลงทุน นักเก็งกำไร ส่วนใหญ่  

ที่เวลาขายหุ้นแล้ว  ถือเงินสดได้ไม่นาน  ก็มักจะอดที่จะซื้อหุ้นใหม่ไม่ได้

Margin of Safety เพียงน้อยนิด หรือบางครั้งแทบจะไม่มีเลย   ก็พร้อมที่จะซื้อ

Warren Buffett's Three Rules for Investing In a Crisis

1. "Cash combined with courage in a crisis is priceless"

2. "Dont invest in things you don't understand"

3. "Don't try to catch a falling knife until you have a handle on the risk"

http://www.cnbc.com/id/26963156

ข้อ 1 แปลแล้วงงจังค่ะ

 :oops:  :oops:

ผมคนนึงที่ซัดไปตอน 830 จุด ตอนนี้ราคาลดกระหน่ำก็ได้แค่ทะยอยซื้อ มีเงินก็ซื้อเรื่อยๆ ไม่มีก็นิ่งๆ ปีนี้ติดลบอยู่ 15% ถ้ามีเงินสดเยอะผมคงตื่นเต้นกับตลาดหุ้นในช่วงนี้มากกว่านี้

[quote="krisy"]ข้อ 1 แปลแล้วงงจังค่ะ

เห็นซื้ออยู่เรื่อยๆนี่ครับ และเรื่องรอ 10 ปี คงไม่เกียว ประมาณว่า ไม่ถูกจริง ก็รอให้ถูก ระหว่างนั้นก็ไปซื้อตัวอื่นก่อน

Priceless ถ้าไม่เปิดดิกนึกว่า ไม่มีค่า

priceless
adj. ไพร้ดซเล็ดซ (ม.ปลาย)
1. ประเมิณค่ามิได้ : This diamond is priceless.

Priceless may refer to:
something so valuable it can never be sold for any price, often used as hyperbole for something with extremely high value
Priceless, a horse that competed at Olympic level in eventing.
Priceless, a long running and successful ad campaign of Mastercard Incorporated
Hors de prix, 2006 French movie also known as Priceless
Priceless (album), a Frankie J album that was released in 2006 (see 2006 in music).

ตอนแรกคิดเหมือนคุณ anakin เลย ก็เลยไม่เข้าใจ

ขอบคุณคุณ ninjaturtle ด้วยค่ะ

แสดงว่าผมยังอ่อนหัดอย่างมาก ซื้อไปหลายแระ

รอบนี้ก็เริ่มซื้อแล้วนี่ครับ แต่เห็นเป็น preferred shares ซะมากกว่า

ผมกลับมองว่า ตอนนี้แกยังซื้อน้อยไปครับ

เห็นวันก่อนเข้าไปซื้อไรนี่แหละ มูลค่านิดนึง

แต่ตีข่าวซะใหญ่โต  :?:  

แต่ถ้าเป็นผมๆก็ไม่ซื้อตอนนี้หรอก ยังไม่พังซื้อทำไม












ว่าแต่ตอนนี้ผมก็ติดหุ้นอยู่อะ  :lol:  :lol:  :lol:

ที่รอมา 10 ปี คงหมายถึงโอกาสซื้อราคาถูกมาก ๆ หลาย ๆ ตัวแบบตอนนี้มั้งครับ

อาจจะมีเงินเตรียมไว้ซื้อในเวลาแบบนี้มาตลอด 10 ปี

นี่อาจเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมไม่ซื้อปิโตรไชน่าเยอะ ๆ

ทั้งที่ตอนที่ซื้อเห็น MOS เยอะแบบนั้น 5-10 เท่าได้

แกคงยังเก็บเงินไว้รอซื้อกิจการที่ดีจริง ๆ ในราคาถูกจริง ๆ

ไม่ใช่สิ่งที่อาจไม่ถนัดนักและเป็นวัฏจักรอย่างปิโตรไชน่ากระมัง

งานนี้คงได้หุ้นที่จะถือไปจนเป็นมรดกอีกหลายตัวเลย

กาวตราช้าง เขียน:แต่ถ้าเป็นผมๆก็ไม่ซื้อตอนนี้หรอก ยังไม่พังซื้อทำไม

หรืออาจจะแปลได้ว่า ปู่แกคิดว่ามันจะไม่พัง  :?:  :?:

woody เขียน: รอบนี้ก็เริ่มซื้อแล้วนี่ครับ แต่เห็นเป็น preferred shares ซะมากกว่า

ช่วงนี้เป็นสวรรค์ของคนที่มีเงินสดอยู่ในมีจริงๆครับ สามารถซื้อหุ้นที่ต้องการได้ ใบแบบที่ต้องการ ราคาที่ต้องการ แถมยังมีเวลาเลือกเฟ้นหา deal ที่ถูกใจที่สุด :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ตอนนี้ผู้บริหารใน Wall Street ถ้ากู้เงินสดได้คงกู้แหลกครับ ไม่อยากไปเสี่ยงกับการโดนชำแหละจากนโยบาย 7 แสนล้านเหรียญของภาครัฐหรอกครับ เพราะ

1. ตกงาน เสียประวัติ แถม executives pay จะโดนตรวจสอบจากคนทั่วโลก
2. ก็ไปชำแหละชาวบ้านไว้ตอนต้มยำกุ้ง พอจะโดนเอง ก็คงรู้ว่าผลลงเอยมันจะเป็นเช่นไร

มาดู deals ที่เป็นข่าวของปู่แกดีกว่าครับ

อันนี้ปู่แกซื้อ Goldman Sachs
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... eab4722f84

terati20 เขียน:OMAHA, Neb. (AP) -- Warren Buffett's Berkshire Hathaway Inc. is investing at least $5 billion in Goldman Sachs, a huge vote of confidence for one of the survivors of the credit crisis that felled two of its investment banking peers.
In addition to buying $5 billion in preferred stock, Berkshire also got warrants to buy another $5 billion in Goldman's common stock. Goldman also said late Tuesday it would raise another $2.5 billion in its own public stock offering.

.
.
.

Berkshire's preferred stock in Goldman will pay 10 percent and can be bought back any time at 10 percent premium. The warrants allow Berkshire to buy $5 billion in common stock at $115 per share any time over the next five years.

อันนี้ลงทุนใน GE ครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=35464

vivitawin เขียน: GE says Berkshire Hathaway Inc. will buy $3 billion of perpetual preferred stock in a private offering. Such stock carries a dividend of 10 percent and is callable, at a 10 percent premium, after three years. Berkshire also received warrants to buy $3 billion worth of common shares at $22.25 each over five years. GE says that the Berkshire funds will boost its capital position and permit it to make opportunistic investments if they arise.

http://biz.yahoo.com/ap/081001/ge_buffe ... tment.html

ดูแต่ละ deal แล้วคนธรรมดาทำไม่ได้ครับ ต้องมีอำนาจต่อรองสูงแบบแกเท่านั้น ตอนนี้ Cash is King


มีคนคำนวนว่า ผลตอบแทนที่ปู่จะได้จากการลงทุนใน Goldman Sachs น่าจะเป็นที่ 17%  "Doug Kass thinks Berkshire's effective yield on the Goldman preferred's is ~17%."

ลองไปอ่านดูครับ
http://econompicdata.blogspot.com/2008/ ... ldman.html

ผมว่าเราทำได้แต่นั่งมอง และอิจฉาปู่แกครับ

บัฟเฟตต์" ลงเงิน $3 พันล้านซื้อหุ้น "จีอี" กลางวิกฤตร้ายระดับ "เพิร์ลฮาร์เบอร์" ศก.  
วอร์เรน บัฟเฟตต์
       เอเจนซี - วอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ประกาศในวันพุธ (1)จะเข้าลงทุนเป็นมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ ในบริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) นับเป็นความพยายามล่าสุดของนักลงทุนที่ได้รับความยอมรับนับถือมากที่สุดในโลกผู้นี้ ที่จะเข้าไปลงทุนในกิจการซึ่งกำลังมีสถานะย่ำแย่แต่เขาเชื่อว่ายังจะมีอนาคตรุ่งเรืองได้ต่อไป ท่ามกลางวิกฤตการเงินที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก ชนิดที่ตัวบัฟเฟตต์เองยังเรียกว่า "เพิร์ลฮาร์เบอร์ทางเศรษฐกิจ"      
      เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ บริษัทการลงทุนและกิจการประกันภัยของบัฟเฟตต์ ประกาศลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิ์ของจีอี บริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดังของสหรัฐฯ ที่มูลค่าหุ้นลดลงราว 1 ใน 3 แล้วในปีนี้ อันเนื่องมาจากปัญหาในกิจการธุรกิจด้านการเงินของบริษัท จนทำให้จีอีต้องประกาศแผนขายหุ้นสามัญเพื่อระดมทุน 12,000 ล้านดอลลาร์      
      ก่อนหน้านี้เพียง 8 วัน เบิร์กไชร์ได้ลงทุนลักษณะคล้ายคลึงกันมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ในโกลด์แมนแซคส์ ซึ่งเคยเป็นกิจการวาณิชธนกิจวอลล์สตรีทที่มีผลประกอบการดีที่สุด และเพิ่งยอมแปรตัวเองเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ธนาคารธรรมดา หลังเผชิญวิกฤตหนักหนาสาหัสในรอบนี้      
      บัฟเฟตต์ ยอมรับว่า การลงทุนในบริษัททั้งสองนี้ของเขา อาจจะมีผลกระทบกระเทือนในทางลบ หากว่ารัฐสภาสหรัฐฯ ไม่ผ่านกฏหมายมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการเงินของประเทศที่เต็มไปด้วยหนี้อสังหาริมทรัพย์เน่าเสีย ทั้งนี้ในปัจจุบันเบิร์กไชร์เป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่แห่งในสหรัฐฯ ที่ไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อมาปิดการซื้อขายมูลค่าสูงระดับนี้      
      "สิ่งบัพเฟตต์รอมาหลายปี ในที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้ สถานการณ์ที่ตลาดย่ำแย่ลงจนทำให้เขาสามารถเจรจาให้เบิร์กไชร์ซื้อหุ้นบริษัทอื่นได้ในราคาแสนถูก" เจมส์ อาร์มสตรอง ประธานของเฮนรี เอช อาร์มสตรอง แอนด์ แอสโซสิเอตส์ ในเมืองพิตสเบิร์กกล่าว "เขารอเวลาเช่นนี้มาถึง 10 ปีเต็มๆ แล้ว"      
      ภายใต้ข้อตกลงล่าสุดคราวนี้ เบิร์กไชร์จะเข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ของจีอีมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะได้รับเงินปันผล 10% ซึ่งเท่ากับว่าจะทำให้เบิร์กไชร์มีรายได้ราว 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี      
      นอกจากนี้เบิร์กไชร์ยังจะได้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของจีอีอีก 3,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 5 ปีที่ราคา 22.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคา ณ.ปัจจุบัน และใกล้กับราคาต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่งที่ทำไว้เมื่อวันที่ 18 กันยายนปีนี้      
      "เจเนอรัล อิเล็กทริกเป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรมอเมริกัน" บัฟเฟตต์กล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในวันพุธ "จีอีก็มีปัญหาเหมือนบริษัททุกแห่งที่ต้องกู้ยืมเงินมาเป็นจำนวนมากตลอดเวลา แต่บริษัทก็จะยังสามารถดำรงคงอยู่ไปอีก 5 ปี หรือ 10 ปีหรืออาจจะ 100 ปีนับจากนี้ไป หากว่าคุณซื้อหุ้นของบริษัทนี้ในเวลาที่เหมาะ คุณก็น่าจะทำเงินได้อยู่"      
      ราคาหุ้นของจีอีปิดเมื่อวันพุธนั้นอยู่ที่ 24.50 เหรียญต่อหุ้น ทำให้เบิร์กไชร์ได้กำไรในกระดาษ 330 ล้านดอลลาร์เมื่อคำนวณจากเงื่อนไขในวอร์แรนท์ (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะเข้าซื้อหุ้น) ที่ได้มา และนั่นทำให้หุ้นคลาสเอของเบิร์กไชร์มีราคาเพิ่มขึ้น 64,000 เหรียญ ไปเป็น 137,000 ดอลลาร์
      เบิร์กไชร์เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าถึง 213,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีธุรกิจในสังกัดอยู่ 76 แห่งที่ขายตั้งแต่กรมธรรม์ประกันภัย ไอศครีม สี ชุดชั้นใน รวมทั้งไปลงทุนในบริษัทชั้นดีอย่าง โคลาโคล่า และเวลส์ ฟาร์โก      
      บัฟเฟตต์ซึ่งตอนนี้อายุ 78 ปีแล้ว มักจะมองหาช่องทางเข้าไปซื้อหุ้นของพวกบริษัทที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงและมีการบริหารงานที่เข้มแข็ง เท่าที่ผ่านมาเบิร์กช์ลงทุนในจีอีน้อยมาก โดยเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนเบิร์ไชร์ถือหุ้นสามัญของจีอีเพียง 7.78 ล้านหุ้น ซึ่งมีมูลค่า 207.6 ล้านดอลลาร์      
      "ดูราวกันว่าเรากำลังอยู่ในช่วงหนักหนาสาหัสที่สุดในวิกฤตการเงินคราวนี้แล้ว เพราะบัฟเฟตต์ก็พูดอยู่เสมอว่า ในเวลาที่คนส่วนใหญ่กำลังวิตกกันมากที่สุด เขาก็จะเกิดความตื่นเต้นอย่างที่สุดเมื่อมองในแง่การลงทุน" สตีเวน เช็ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของเช็ก แคปปิตอล แมเนจเมนท์ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าว      
      ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาบัฟเฟตต์ใช้เงินสดที่เบิร์กไชร์สะสมไว้ไปไม่น้อย และในปีนี้เงินจำนวนนี้ก็ลดลงฮวบลงมา โดยสิ้นเดือนมิถุนายน เม็ดเงินในบริษัทอยู่ที่ 31,160 ล้านดอลลาร์ จากที่สิ้นปีที่แล้วมีอยู่ 44,330 ล้านดอลลาร์      
      เมื่อเดือนที่แล้ว มิดอเมริกัน เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของเบิร์กไชร์ก็เพิ่งเข้าซื้อคอนเสตลเลชัน เอ็นเนอร์จี กรุ๊ป เป็นเงิน 4,700 ล้านดอลลาร์ และเข้าซื้อหุ้น 10% ของบีวายดี ผู้ผลิตแบตเตอรีจีนเป็นเงิน 230 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้เบิร์กไชร์ก็ยังจะจ่ายเงิน 6,500 ล้านดอลลาร์ให้กับมาร์ส อิงค์ เพื่อซื้อวายเอ็ม ริกลีย์ จูเนียร์ โค ผู้ผลิตหมากฝรั่ง โดยคาดว่าข้อตกลงหลังสุดนี้จะปิดลงได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
 :roll:

วิกฤตเศรษฐกิจเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนระยะยาว  

ปีเตอร์ ลินซ์ ก็บอกอย่างนี้  :8)

น่าจะเป็นว่า
บัฟเฟตต์รอซื้อหุ้นจีอีนานถึงสิบปี

ซึ่งมีความหมายแตกต่างจาก
Buffett รอคอยโอกาสซื้อหุ้นนานถึง 10 ปี

เพราะการซื้อครั้งนี้อาจจะใช้เงินจากการที่เขาขายหุ้นตัวอื่นมาซื้อก็ได้
อาจจะไม่ได้หมายถึงกำเงินสดมาสิบปีเพื่อซื้อหุ้นครั้งนี้

ผมมองว่าการกำเงินสดก็เหมือนการซื้อหุ้นที่ชื่อว่า cash ตามที่แม่ทัพสุมาอี้เคยบอกไว้

หุ้น cash นั้น มีผลตอบแทนไม่ค่อยดีแม้จะนำไปฝากกินดอกเบี้ยประจำก็ได้ไม่กี่มากน้อย

ดร.นิเวศน์ก็เคยพูดว่าในสภาวะวิกฤติ
ก็ยัง stay calm  and  stay invest

แต่อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้จะกำเงินสดนานสิบปี
ก็ยังดีกว่าอดใจไม่ได้ที่จะซื้อๆขายๆ
แม้กระทั่งหุ้นที่มี mos เพียงเล็กน้อยตามที่พี่ฉัตรชัยพูดครับ

ซึ่งมักจะตรงข้ามกับ นักลงทุน นักเก็งกำไร ส่วนใหญ่  

ที่เวลาขายหุ้นแล้ว  ถือเงินสดได้ไม่นาน  ก็มักจะอดที่จะซื้อหุ้นใหม่ไม่ได้

Margin of Safety เพียงน้อยนิด หรือบางครั้งแทบจะไม่มีเลย   ก็พร้อมที่จะซื้อ

ขอบคุณครับ
ได้ข้อคิด และ ข้อเตือนใจเป็นอย่างดี

     

แต่อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้จะกำเงินสดนานสิบปี
ก็ยังดีกว่าอดใจไม่ได้ที่จะซื้อๆขายๆ
แม้กระทั่งหุ้นที่มี mos เพียงเล็กน้อยตามที่พี่ฉัตรชัยพูดครับ

5555

โดนมากะตัวเองเลย
(ซื้ออย่างเดียว ไม่ได้ขาย)

อย่างนี้เรียกว่าซื้อเพราะหวังปันผลได้ไหมครับ
แต่เป็นปันผลระยะยาวที่มีภาระผูกพัน รับประกันความเสี่ยงดีกว่าฝากแบงค์

คุณปู่แกชอบดีลแบบนี้ครับ  ตอน solomon bros. จะถูก hostile takeover เกือบ 20 ปีก่อน แกก็เข้าช่วยโดยทำดีลลักษณะเดียวกันเลย  ได้ protection จาก downside risk เพราะได้รับดอกเบี้ยคงที่ ถ้าบริษัทไม่ถึงกับเจ๊ง ยังไงก็ยังได้ไปเรื่อยๆ  และขณะเดียวกันแกก็ยังขอรับ upside gain ด้วยโดยมีออพชั่นให้ เปลี่ยนเป็น common stock ได้  สุดยอดครับ