สู้เขานะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 12:46 pm
ช่วงนี้ผมก็สับสนพอสมควรแต่ก็ได้ พี่ web และ อ.มน และเพื่อนๆ
ให้คำแนะนำ และนี้เป็นคำแนะนำบางส่วนจากพี่ WEB
(พี่ WEB ขออนุญาตินำคำแนะนำลงนะครับ )
ซึ้งผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อทุกคนเลยนำมาให้อ่านดูครับ
ผมว่า ในทุกสถานการณ์ เราก็ต้องมองหาหุ้นที่ถูกมากๆเสมอครับ เพียงแต่ตอนนี้ หุ้นถูกๆมีหลายตัว และตลาดผันผวนมาก เราก็ทยอยซื้อแบบตั้งรับ และเลือกหุ้นที่น่าจะได้รับผลกระทบน้อย เป็นหุ้นขายของในชีวิตประจำวัน ราคาสินค้าไม่สูง มีการซื้อซ้ำ เป็นผู้นำ มีเงินปันผลสูงๆ จากประสบการณ์ของตัวผมและจากการอ่านความเห็นของผู้รู้ ผมไม่เชื่อเรื่องการรอคอยจุดต่ำสุด เพราะผมคิดว่าผมไม่รู้ ถ้ารู้ได้ วันนี้ ผมคงมีแต่เงินสด ถึงวันนี้ ผมเห็นคนเริ่มถือเงินสดกันมากขึ้น แต่ผมตั้งข้อสังเกตว่า เค้าไม่ได้ถือเงินสดมาแต่แรก แต่เกิดจากการขายหุ้นออกมา ถึงวันนี้ ผมเชื่อว่า นักลงทุน(ไม่ใช่นักเก็งกำไร) ไม่ควรขายหุ้นแล้ว ที่ทำได้ก็แค่การซื้อเพิ่มหรือการเปลี่ยนตัว ถ้าจะไม่ทำอะไร ผมก็ยังอยากให้ติดตามตลาดต่อ ไม่อยากให้เลิกมองตลาดไปเลย เพราะนี่คือประสบการณ์ที่น่าจดจำไว้ใช้อ้างอิงในอนาคต เพราะหนทางการลงทุนของเรายังอีกยาวไกล การได้เห็นตลาดในทุกรูปแบบจะช่วยให้เราสามารถมองอะไรได้อย่างมีสติยิ่งขึ้นในอนาคต อย่างครั้งนี้ เราจะเห็นว่า มูลค่าไม่มีความหมายเลย ต่ำแล้วก็ยังลงได้อีก นี่บอกเราว่า การเล่น margin อันตรายมาก เพราะถ้ามูลค่าไม่มีความหมาย ราคาก็อาจลงไปเรื่อยๆ จนต้องถูกบังคับขาย ซึ่งจะทำให้เราต้องออกจากตลาดตอนจุดต่ำสุด ในช่วงฟองสบู่ มูลค่าก็ไม่มีความหมาย แพงมากแล้วก้ยังขึ้นได้อีก ซึ่งทำให้การชอร์ตหุ้นมีความเสี่ยงสูงมาก จริงๆแล้ว ผมมองว่า ตอนช่วงที่มูลค่าไม่มีความหมายนี่แหละ คือตอนที่น่าซื้อหรือขายหุ้นมากที่สุด เพราะมันทำให้เราได้ซื้อหุ้นถูกๆ และขายหุ้นแพงๆ อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นในช่วงแบบนี้ ต้องบอกตัวเองเลยว่า ต้องมองยาวเป็นปี เพราะถ้ามองสั้นๆ ความเสี่ยงสูงมาก(นักเก็งกำไรจึงยังไม่ควรเข้าตลาด) แต่ถ้าเราเครียดเกินไป จะไม่ซื้อก็ได้ แต่ผมมองว่า สถานการณ์แบบนี้แหละที่ทดสอบเราว่า เราเป็นนักลงทุนตัวจริงหรือเปล่า ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ ที่เขียนมามาจากประสบการณ์ของตัวเองครับ
ให้คำแนะนำ และนี้เป็นคำแนะนำบางส่วนจากพี่ WEB
(พี่ WEB ขออนุญาตินำคำแนะนำลงนะครับ )
ซึ้งผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อทุกคนเลยนำมาให้อ่านดูครับ
ผมว่า ในทุกสถานการณ์ เราก็ต้องมองหาหุ้นที่ถูกมากๆเสมอครับ เพียงแต่ตอนนี้ หุ้นถูกๆมีหลายตัว และตลาดผันผวนมาก เราก็ทยอยซื้อแบบตั้งรับ และเลือกหุ้นที่น่าจะได้รับผลกระทบน้อย เป็นหุ้นขายของในชีวิตประจำวัน ราคาสินค้าไม่สูง มีการซื้อซ้ำ เป็นผู้นำ มีเงินปันผลสูงๆ จากประสบการณ์ของตัวผมและจากการอ่านความเห็นของผู้รู้ ผมไม่เชื่อเรื่องการรอคอยจุดต่ำสุด เพราะผมคิดว่าผมไม่รู้ ถ้ารู้ได้ วันนี้ ผมคงมีแต่เงินสด ถึงวันนี้ ผมเห็นคนเริ่มถือเงินสดกันมากขึ้น แต่ผมตั้งข้อสังเกตว่า เค้าไม่ได้ถือเงินสดมาแต่แรก แต่เกิดจากการขายหุ้นออกมา ถึงวันนี้ ผมเชื่อว่า นักลงทุน(ไม่ใช่นักเก็งกำไร) ไม่ควรขายหุ้นแล้ว ที่ทำได้ก็แค่การซื้อเพิ่มหรือการเปลี่ยนตัว ถ้าจะไม่ทำอะไร ผมก็ยังอยากให้ติดตามตลาดต่อ ไม่อยากให้เลิกมองตลาดไปเลย เพราะนี่คือประสบการณ์ที่น่าจดจำไว้ใช้อ้างอิงในอนาคต เพราะหนทางการลงทุนของเรายังอีกยาวไกล การได้เห็นตลาดในทุกรูปแบบจะช่วยให้เราสามารถมองอะไรได้อย่างมีสติยิ่งขึ้นในอนาคต อย่างครั้งนี้ เราจะเห็นว่า มูลค่าไม่มีความหมายเลย ต่ำแล้วก็ยังลงได้อีก นี่บอกเราว่า การเล่น margin อันตรายมาก เพราะถ้ามูลค่าไม่มีความหมาย ราคาก็อาจลงไปเรื่อยๆ จนต้องถูกบังคับขาย ซึ่งจะทำให้เราต้องออกจากตลาดตอนจุดต่ำสุด ในช่วงฟองสบู่ มูลค่าก็ไม่มีความหมาย แพงมากแล้วก้ยังขึ้นได้อีก ซึ่งทำให้การชอร์ตหุ้นมีความเสี่ยงสูงมาก จริงๆแล้ว ผมมองว่า ตอนช่วงที่มูลค่าไม่มีความหมายนี่แหละ คือตอนที่น่าซื้อหรือขายหุ้นมากที่สุด เพราะมันทำให้เราได้ซื้อหุ้นถูกๆ และขายหุ้นแพงๆ อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นในช่วงแบบนี้ ต้องบอกตัวเองเลยว่า ต้องมองยาวเป็นปี เพราะถ้ามองสั้นๆ ความเสี่ยงสูงมาก(นักเก็งกำไรจึงยังไม่ควรเข้าตลาด) แต่ถ้าเราเครียดเกินไป จะไม่ซื้อก็ได้ แต่ผมมองว่า สถานการณ์แบบนี้แหละที่ทดสอบเราว่า เราเป็นนักลงทุนตัวจริงหรือเปล่า ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ ที่เขียนมามาจากประสบการณ์ของตัวเองครับ