หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:16 pm
โดย sabina1
ท่านอาจจะได้ยิน ทฤษฎี เก่าแก่อยู่ บทหนึ่ง ในตลาดหุ้น
ทฤษฎี นั้น คือ ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
ทฤษฎีนี้ กล่าวว่า ท่านอาจเป็นคนโง่ เมื่อซื้อหุ้น ๆ หนึ่ง ที่มีราคาไม่คุ้มผลตอบแทน แต่ก็ยังมีคนต่อจากท่าน มารับซื้อต่อไป ดูเหมือนจะเป็นคนโง่กว่า แต่ถึงกระนั้น ก็ยังได้กำไร เมื่อยังมีคนโง่อีกคนมารับต่อไป จนกระทั่งสุดท้ายเหลือคนโง่ที่สุด
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:18 pm
โดย sabina1
แต่ ถึงอย่างไร ตราบเท่าทุกวันนี้ ก็ไม่มีใครที่จะกลัวว่าเป็นคนโง่ที่สุด
เพราะทฤษฎีนี้ กล่าวถึง คนโง่กว่าเท่านั้น
ที่ไม่กลัว จะเป็นคนโง่ที่สุด ก็เพราะขนาดเป็นคนโง่ ก็ยังมี คนโง่กว่ามารับ ทฤษฎีนี้ช่างอาถรรพ์และเป็นความจริงเสียนี่กระไร
และก็เพราะ ถึงเป็นคนโง่ ก็ยังมีกำไร ตลาดหุ้นจึงเป็นอาหารทิพย์ (Ambrosia) สำหรับนักล่าหุ้นทั้งหลาย อยู่ตลอดมาและตลอดไป
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:20 pm
โดย sabina1
นักเล่นหุ้นทั้งหลาย ต่างเข้ามาล่าหุ้นทุกวัน ๆ ทั้ง ๆที่รู้ว่า
7 ใน 10 คน ขาดทุน อีก 2 คน เสมอตัว และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้กำไร
แล้วทำไมจึงอยากเข้ามาเล่นในเกมนี้อีกล่ะ
เหตุผลก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร เพราะ
7 คน ไม่ยอมแพ้ จะต้องหาทางเอาคืนให้จนได้
อีก 2 คน ไม่กำไรไม่ขาดทุน ก็คิดอยากจะต่อสู้ต่อไป
ส่วนคนเดียวที่ได้กำไร ก็อยากได้กำไร เพิ่ม
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:22 pm
โดย sabina1
น่าแปลก ถึงแม้จะมี ทฤษฎี The Greater Fool Theory ก็ไม่มีใครสักคนยอมรับว่า ตนเป็นคนโง่
ก็ในเมื่อพวกเขามองว่า ตลาดหุ้นเป็น เกมส์สมอง และ เกมส์การเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์สามารถค้นคิดขึ้นมาได้ แล้วพวกเขาจะเป็นคนโง่ไปได้อย่างไร เมื่อพวกเขายังเล่นได้ คนเล่นไม่ได้ หรือคนที่ไม่เข้ามาเล่นซิเป็นคนโง่
แต่เหตุผลอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาติดตลาดหุ้นต่างหาก ติดเสียยิ่งกว่าติดยาเสียอีก
พวกเขาเคยได้สิ้มรสชาติของกำไร แม้บางครั้งจะขาดทุนบ้างก็ตาม ก็ไม่เคยลืมความเย้ายวนและความหวานชื่นของกำไรที่เคยได้รับ
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:24 pm
โดย sabina1
การเล่นหุ้น ใช่ว่าจะกำไรทุกครั้งไป มันเป็นเกมส์เดียวกัน แต่การเล่นต่างกัน
The game is the same, but what a difference in the playing!
สำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้ยึดติดว่า จะต้องทำกำไรได้ตลอดเวลา
มันก็จะเป็นประสบการณ์ของชีวิตที่ดีอย่างหนึ่ง แม้บางครั้งจะขาดทุนไปบ้าง ก็ยังมีความรู้สึกว่า มีค่าในด้านการลงทุน ที่แม้ในมหาวิทยาลัย ก็ไม่สามารถจะเรียนรู้ได้
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:26 pm
โดย sabina1
สำหรับ real VI เงินหามาด้วยความยากลำบากครับเงินทุกบาททุกสตางค์ จึงต้องไม่วางอยู่บนความเสี่ยง เพราะฉะนั้นเล่นหุ้นของ VI จึงต้องกำไรทุกครั้ง ไม่กำไรก็ต้องไม่ขาดทุน
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:29 pm
โดย sabina1
ตลาดหุ้นมีอันตรายอยู่รอบด้าน ต้องระมัดระวังให้ดี
การเปลี่ยนแปลงของราคา มีหลักใหญ่ ๆ อยู่ ว่า ยิ่งสูงเท่าไร ยิ่งหนาวเท่านั้น
I am on top of the world and afraid of height
นักไต่เขา เขากล่าวเช่นนั้น ถึงแม้ข้าพเจ้าจะอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ข้าพเจ้าก็ยังกลัวความสูงอยู่ดี
ตลาดหุ้นมีอันตราย ก็เพราะความกลัวนี่แหละ
และความกลัว ทำให้นักลงทุนเดินทางผิด มักจะรีบเข้าซื้อเมื่อหุ้นอ่อนตัวลง (หลังจากที่พุ่งขึ้นไปแล้ว) หรือไม่ก็ขายตอนที่หุ้นตกไปจนถึงระยะที่ควรจะขึ้น
เรียกว่าเข้าออกไม่ถูกจังหวะทั้งขึ้นทั้งล่อง
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:30 pm
โดย sabina1
เคยอ่าน แต่จำไม่ได้ว่า เป็นคำกล่าวของใคร
They say you never grow poor taking profits. No you don't. But neither do you grow rich taking a four-point spread in a bull market.
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:31 pm
โดย sabina1
แล้วก็นึกถึง สำนวน จีนกลางได้ว่า Tan xiao shi da = อ่านว่า ทาน เสี่ยว สือ ต้า หมายความว่า ละโมบในสิ่งเล็กน้อย แต่ต้องสูญเสียลาภก้อนใหญ่
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 1:35 pm
โดย sabina1
ตอนบ่ายวันนี้ พึ่งกลับมาจากข้างนอก ถือหนังสือติดมือไปอ่านในรถไฟฟ้าด้วย มีข้อความบางตอนน่าสนใจก็เลยเอามาฝาก เพื่อน ๆ
People don't seem to grasp easily the fundamentals of stock trading. I have often said that to buy into a rising market is the most comfortable way of buying stocks.......
Remember that stocks are never too high for you to begin buying or too low to begin selling.
But after the initial transaction , don't make the second unless the first shows you a profit.
ผู้คนส่วนมากไม่ค่อยเข้าใจหลักเบื้องต้นของการเล่นหุ้น
ข้าพเจ้าได้บอกหลายต่อหลายครั้งว่า การซื้อตอนที่หุ้นกำลังเบนหัวเป็นขาขึ้น เป็นวิธีที่ดีที่สุด
จงจำไว้ หุ้นไม่มีคำว่า ราคาสูงเกินไปที่จะเริ่มต้นซื้อ หรือต่ำเกินไปที่จะขาย
แต่ หลังจากการซื้อครั้งแรกแล้ว อย่าซื้ออีก เว้นแต่ว่า ครั้งแรกที่ซื้อแล้วมีกำไร
วิลเลี่ยม แกนน์ กล่าวในหนังสืออีกเล่มหนึ่ง
อย่าซื้อโดยคิดแต่เพียงว่า หุ้นราคาถูก หรือขายเพราะคิดว่า หุ้นราคาแพง
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:02 pm
โดย wattae
ขอบคุณนะครับสำหรับบทความดีๆและกระทูต่างๆที่คุณ sabina โพสไว้
ผมเห็นว่าคนที่ในที่นี้ต่างรู้จักวิธีการต่างๆที่คุณ sabina ว่าไว้ แต่เค้าจะเลือกใช้หรือไม่นั้น ไม่มีใครรู้ ผมเชื่อว่าทุกๆคนต้องเลือกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเสมอ การที่เค้าเลือกเป็น vi เพราะเค้าไม่มีเวลามานั่งเฝ้าหน้าจอได้ จะให้เล่นเก็งกำไร เป็นวันๆนั้นคงทำไม่ได้
ผมเคยเห็นคุณ sabina โพสไว้ในกระทิงเขียว ว่าการเล่นหุ้นของคุณนั้นต้องเล่นให้จบภายวันเดียว ถ้าจำไม่ผิด คุณเอาตารางการซื้อขาย bbl มาประกอบ
ส่วนในพันทิพ ไม่แน่ใจว่าคุณ sabina มี 2 id รึปล่าว เห็นอีกคน(ผมจำชื่อไม่ได้) ออกมาชมกระทู้ที่คุณ sabina เขียน ว่าดียังงั้นดีอย่างนี้
ผมไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของคุณ ต้องการให้ความรู้หรือต้องการ การยอมรับ จากคนอื่น ว่าตัวคุณนั้นเก่ง สามารถทำกำไรจากการเล่นหุ้นได้
ในส่วนตัวแล้วผมไม่เห็นมีเซียนคนไหนออกมาโฆษณาตัวเองเลย ว่าเก่งเล่นหุ้นได้กำไรเท่าโน้นเท่านี้
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:24 pm
โดย sabina1
ถ้าคุณไม่มองโลกในแง่ร้าย คุณก็คงเข้าใจผิด
การที่ sabina เอารายการซื้อขายมาแสดง คนเห็นก็มองไปตามพื้นฐานของคนนั้น และเข้าใจไปตามสิ่งแวดล้อมที่คน ๆนั้นอยู่
ถ้าคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี มีแต่ความอิจฉาริษยา พวกนี้ก็จะมอง ไปในทำนองมาโอ้อวด
บางคนก็มองลึกไปในทางด้านการศึกษา เช่น เขาอยากรู้ว่า ซื้อตอนเวลาไหน ขายตอนเวลาไหน
บางคนก็อยากพิสูจน์ ดีแต่พูดหรือเปล่า กล้าเอาหลักฐานมาแสดงหรือเปล่า
แล้วแต่จะมอง แต่อย่างไรก็ตาม อยากจะถามคุณว่า เอามาให้ดูแล้ว sabinaได้อะไร ในเมื่อ ชื่อ sabina ก็เป็นแค่ user name ไม่มีใครรู้ ว่าเป็นใคร ถ้าเอาโอ้อวดแล้วได้อะไร
คนเราบางครั้ง ก็เห็นใครดีกว่าไม่ได้ อันนี้เป็นความจริง เพราะฉะนั้น จึงมี โคลงกลอนที่ว่า
อันที่จริง คนเขาอยาก ให้เราดี
แต่ถ้าเด่น ขึ้นทุกที เขาหมั่นใส้
ทำดีเถิด แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย
ไม่มีใคร เขาอยากเห็น เราเด่นเกิน
sabina ขอสรุปว่า ใครอยากจะเข้าใจอย่างไร ก็ปล่อยเขาไปเถอะ เพราะเราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงกำพืดของผู้นั้น ๆได้
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:35 pm
โดย sabina1
บางครั้ง sabina ก็แปลกใจเหมือนกัน เมื่อเขียนกระทู้ขึ้นมา แทนที่จะมีคนเข้าถกในประเด็นของกระทู้
แต่กลับมีคนเข้ามาตำหนิโน่น ตำหนินี่ ไม่เข้าใจจริง
ทำเหมือนตนเองนั้นดีเลิศ คอยหาทางตำหนิผู้อื่น ไม่ได้ในเว็บนี้ ก้ไปสรรหามาจาก เว็บอื่น ทำไมถึงเป็นไปได้เช่นนี้
พี่น้อง เอ๊ย ช่วยบอกทีเถิด หรือ เขาอยากมาให้เรื่องให้เป็นประเด็นทะเลาะกันในกระทู้
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:45 pm
โดย sabina1
อันนี้ ก็เป็นประเด็นหนึ่งอีกเหมือนกัน ไม่ทราบว่าคุณ wattaeเขียนมาทำไม ในเมื่อคุณก็รับว่า จำไม่ได้ ที่เขียนว่า
ส่วนในพันทิพ ไม่แน่ใจว่าคุณ sabina มี 2 id รึปล่าว เห็นอีกคน(ผมจำชื่อไม่ได้) ออกมาชมกระทู้ที่คุณ sabina เขียน ว่าดียังงั้นดีอย่างนี้
คุณไปหาหลักฐานมาอ้างอิงดีกว่า ถ้าคณอยากจะเขียนเช่นนี้ เพราะการเขียนเช่นนี้ เป็นการโน้มให้ผู้อ่านอื่นเข้าใจไปในทางที่ไม่ดี
แต่อันที่จริงแล้ว sabina คิดว่า คุณคงจะปรับปรุงตนเองให้ดีกว่านี้จะดีกว่า และไม่ต้องเสียเวลามากระแนะกระแหนคนอื่น ปรับปรุงตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง ท่องไว้
และกรุณายุติได้ ถ้าไม่ คุณอาจจะถูกจวกกลับมากกว่านี้
ทฤษฎี "คนโง่กว่า" The Greater Fool Theory
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 2:50 pm
โดย wattae