Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สถาบันกองทุนไทย แทนที่จะช่วยรายย่อย รับหุ้นยันสู้กับการขายของต่างชาติ
กลับมาถล่มขาย ทำลายตลาดของเราเอง

สรุปมูลค่าการซื้อขายสิ้นวัน ณ วันที่ 10/10/2008

นักลงทุน ซื้อ ขาย สุทธิ
สถาบัน 2,058 4,250 -2,192.04
ต่างชาติ 3,032 3,291 -258.78
ในประเทศ 11,202 8,751 2,450.82
มูลค่าการซื้อขายรวม 16,291.63

ผมมองว่าสถาบันทำถูกต้องแล้ว
เขาต้องปกป้องตัวเองก่อนเมื่อภัยมา
สบายๆ   วันนี้นายตลาดอารมย์บูด

ผมว่าจะใครขายก็หุ้นลงครับ
tag team ฝรั่ง cover กองทุนขาย

เศร้าจัยยย !

ครรชิต ไพศาล เขียน:สถาบันกองทุนไทย แทนที่จะช่วยรายย่อย รับหุ้นยันสู้กับการขายของต่างชาติ
กลับมาถล่มขาย ทำลายตลาดของเราเอง

สรุปมูลค่าการซื้อขายสิ้นวัน ณ วันที่ 10/10/2008

นักลงทุน ซื้อ ขาย สุทธิ
สถาบัน 2,058 4,250 -2,192.04
ต่างชาติ 3,032 3,291 -258.78
ในประเทศ 11,202 8,751 2,450.82
มูลค่าการซื้อขายรวม 16,291.63

ขอบคุณครับพี่ครรชิต
ผมไม่ได้สังเกตเลย
กองทุนโหดจิงๆ

ผมคิดว่าสถาบันขายน่าจะมีข้อมูลว่าหุ้นจะลงต่ออีกนาน พอที่จะซื้อคืนแล้ว
ได้กำไร
       คือขายที่ราคานี้ เก็บเงินสดไว้ 1-3เดือนหน้า ซื้อใหม่เพราะคาดว่าราคาหุ้นน่าจะถูกกว่าวันนี้

       น่าจะมีข่าววงในครับ เพราะสถาบันมีหูตากว้างขวางกว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างเราๆท่านๆ

       ระวัง ระวัง

มีพี่บางคนบอกว่า สถาบันขายแบบนี้น่ะดีแล้ว ต่างชาติจะได้ขายของถูก แต่ไม่รู้ว่าจะสู้กลยุทธ์ของต่างชาติได้จริงหรือเปล่า

ข้อมูลนี้ดูตรงไหนใน Set.or.th ครับ?

จะได้ไปกดๆดูมั่ง

คำว่า สถาบันเนี่ย ถ้าจำไม่ผิด เค้านับ เป็น นิติบุคคล ที่เป็นสัญชาติไทยครับ

วันที่ขายหุ้น Shin ให้ Temasek  , Temasek ตั้ง holding สัญชาติไทย มาซื้อ ยังเป็นยอด สถาบันซื้อ 73,000 ล้านเลยครับ

ดังนั้นตามความเข้าใจของผมการซื้อขายของ NVDR ก็นับเป็น ยอดสถาบันด้วย และนิติบุคคลชื่อฝรั่ง แต่มาจดทะเบียนในไทย ทั้งหลายก็เป็น สถาบัน  ถ้าผมเข้าใจผิด ท่านอื่นช่วยท้วงด้วยครับ

ตกลงสถาบันเป็น  investor หรือ speculator ???

chaichat เขียน:ข้อมูลนี้ดูตรงไหนใน Set.or.th ครับ?

จะได้ไปกดๆดูมั่ง

http://www.set.or.th/set/investortype.d ... country=TH

โอ้ววว  คุณหลอกดาววว




....................................................

อืม ตามความเข้าใจ(ไม่รู้เข้าใจถูกมั้ยนะ :lovl: ) ชื่อในฝั่งสถาบัน รวมหมดทุกรูปแบบ เช่น พอร์ทของกองทุน พอร์ทของแบงค์ พอร์ทของบริษัทประกัน พอร์ทของอะไรต่อมิอะไรเช่นที่พี่ Ent' ยกตัวอย่างมาให้ดู ...งี้เรียกสถาบันหมดเลยค่ะ

ทีนี้ มาดูแต่พอร์ทกองทุนจะดีกว่า

ดิฉันเห็นตามรายการต่างๆ นักวิเคราะห์ หรือบางกองทุนเอง ก็ออกจะทำนองแนะนำว่า "อืม ช่วงนี้ถ้านลท.จะซื้อกองทุน(เช่น ltf rmf) แล้วตลาดก็ดูไม่ดี ก็แนะนำว่า ถ้ากลัวความเสี่ยงมาก ก็ลองหันมาหากองตราสารหรือพันธบัตรนะคะ(คับ)"....อะไรแทบจะประมาณนี้หมดเลยคำแนะนำในช่วงหลายวันที่ผ่านๆมาเนี่ย :lol:

ประเด็นคือ กองทุนหุ้น น่าจะมีแต่คนถอนออกมากกว่าคนซื้อเข้านะคะ
(เข้าใจว่าอย่าง ltf ของ scb นี่โยกไปโยกมาได้เลยค่ะ การโยกไม่ถือว่าเป็นการขายก่อนครบกำหนด ไม่ผิดกฏหมายการยกเว้นภาษี-ถ้าดิฉันเข้าใจไม่ผิดนะ-เพราะดิฉันถือltf-scb อยู่ แต่ไม่เคยโยกค่ะมันปวดหัว :lol:  ,ไปดูห้องสินธรสิ มีกระทู้นักรบกองทุนมาประจำสถานีรบทุกวัน พอหุ้นไม่ดีปุ๊ปเผ่นหมด แว๊บโยกไปกองนู้นกองนี้กันสนุกสนาน :lol: )

ดังนั้น ดิฉันคิดว่า เดี๋ยวนี้ ผจก.กองทุนก็ทำตามคำสั่งของผู้ถือหน่วยกลายๆนั่นแหละค่ะ ว่าตรงไหนขายตรงไหนซื้อ

กองทุนก็เลยกลายเป็น ทำไปตามอารมณ์ตลาดส่วนใหญ่นั่นเอง

แล้วประกอบกับ กองทุนในส่วนที่จะซื้อ งบก็ต้องน้อยอยู่แล้วในช่วงแบบนี้ เมื่องบน้อย ซื้อๆไป อ้าวตังค์หมด ทำไงล่ะ มันก็ต้องคายของออกเป็นจังหวะ เพื่อกำกระสุนไว้ในมือ เพื่อไว้ใช้วันต่อไป เพราะถ้าไม่มีกระสุนประคองหุ้นในพอร์ท หน่วยลงทุนก็มีแต่ลดลงแรงๆอีก พอหน่วยลงทุนลด ก็ยิ่งขายหน่วยยากอีก ผลงานก็ไม่สวยอีก นลท.ก็ไม่อยากซื้อหน่วย ก็ยิ่งหนัก

อืม เป็นผจก.กองทุนนี่ก็น่าสงสารเหมือนกันนะ  :la:

ผมเข้าใจว่าถ้าผู้ถือหน่วยขายหน่วยลงทุนออกมาก็ต้องเอาเงินไปคืนให้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าผู้ถือหน่วยสติแตกกองทุนก็ต้องขายนะครับ

Alastor เขียน:ผมเข้าใจว่าถ้าผู้ถือหน่วยขายหน่วยลงทุนออกมาก็ต้องเอาเงินไปคืนให้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าผู้ถือหน่วยสติแตกกองทุนก็ต้องขายนะครับ

เห็นด้วยเลยครับ  นี่เป็นเหตุผลหลักเลยที่ทำให้ผมไม่อยากลงทุนในกองทุน  เพราะเวลาผู้ลงทุน panic ขาย  เมื่อนั้น  กองทุนก็เหมือนถูก force sell  ขาดทุนก็ต้องขาย  เอาเงินสดมาคืนเค้า

ผมว่า fund mangers ทั้งหลาย ขายไป ร้องไห้ไปนะครับ.....ที่ร้องไห้ เพราะ สงสาร ผู้ถือหน่วยนะครับ .... ราคาเหล่านี้นักลงทุนไม่ขายกันแล้ว......เมื่อวันศุกร์ ผมไม่มีเงินเหลือ..... ปันผลยังไม่มา  ผมก็ขาย RMF ที่ถือตราสารหนี้  เปลี่ยนเป็น หุ้นทุน ไปบางส่วน......การลงทุนใน RMF และ LTF ผมใช้นโยบายดังนี้  ถือ RMF เลือกในกลุ่มตราสารหนี้    ส่วน LTF ผมโดนให้เลือกเฉพาะหุ้นทุนไปแล้ว .....ผมใช้นโยบาย flexible คือถือตราสารหนี้และหุ้นทุนอย่างละเท่า ๆ กัน.....ตอนนี้ผมเริ่มเปลี่ยน RMF ตราสารหนี้ ไป เป็น RMF หุ้นทุนแล้ว....ใครอยากใช้นโยบายแบบนี้ ก็เริ่มได้แล้วนะครับ รับว่า ไม่ผิดหวังในสภาพที่ไม่มีเงินเหลืออยู่แล้ว  ขอให้โชคดีนะครับ  :D  :D

กองทุนขาย ยังไม่น่ากลัวเท่ากับรายย่อยยังซื้อ นะครับ  :(  

กองทุนอาจต้องการลดความเสี่ยงครับพราะพอร์ตเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆครับ กองทุนทั่วโลกตอนนี้คิดคล้ายกันหมดครับคือถือเงินสดปลอดภัยที่สุดครับ

ผจก.กองทุน พูดเหมือนที่พี่ 007 ว่าไว้เลยครับ
ว่าตัวเขาเองไม่อยากขายแล้วราคานี้ แต่ลูกค้ารายใหญ่สั่งมา
มติคณะกรรมการอะไรของเขา ไม่ทำก็โดนสอบทีหลัง
ซึ่งผมยังงงนิดๆ แต่ไม่ได้ถามเพิ่ม
สรุปคือไม่เป็นอิสระเท่าไหร่ ถือว่าเสียเปรียบรายย่อยแบบเรา
ส่วนกลยุทธจัดทัพของคุณลุงขวดดูงดงามน่าลอกเลียนมากครับ

น่าสนใจมากเลยครับ ลูกค้าสั่งผจก.กองทุนให้ขายได้ด้วยเหรอครับเนี่ย

nathapon_m เขียน:

เห็นด้วยเลยครับ

simplelife เขียน:

เห็นด้วยเลยครับ

ก่อนที่ผมจะมาลงทุนเอง เคยซื้อกองทุนไว้ เหมือนกัน ซื้อแบบไม่มีความรู้ -*- Y Y เศร้ามาก ติดสูงมากตอนตลาด 700 จุด+ พอมาถึงตอนนี้ ตัดใจขายทิ้งหมด ยอมขาดทุน สู้เราบริหาร เงินเราเองดีกว่า เลือกหุ้นเหมือนเราเป็นเจ้าของกิจการ  รอกินปันผล  หุ้นพื้นฐานดี PE ต่ำ BV ต่ำเพียบตอนนี้ บางตัวผมเก็บได้ต่ำกว่า พวกกรรมการบริษัทเยอะเลย ยังไงก็ขอ ขอบคุณ ดร.นิเวศน์ ครับ ทำให้ผมตาสว่าง เจอแนวทางการลงทุนที่ถูกต้อง

จำได้ว่าตอนปี 40 ช่วงนั้น ผู้บริหารกองทุน A เจ้านึง เขียนหนังสือไปหาคนลงทุนในกองทุนเขา ว่าอย่าพึ่งขายทิ้งไปหมด ให้อดทนอีกนิด ประมาณว่า แล้วทุกอย่าง ก็จะผ่านพ้นไป

ครรชิต ไพศาล เขียน:สถาบันกองทุนไทย แทนที่จะช่วยรายย่อย รับหุ้นยันสู้กับการขายของต่างชาติ
กลับมาถล่มขาย ทำลายตลาดของเราเอง

เอ่อ..พี่ครรชิตครับ

ประโยคนี้ มีคนไม่น้อยที่อ่านแล้วเข้าใจว่า พี่ครรชิตต่อว่า กองทุนไทยขายเยอะๆ เป็นการทำความผิด เป็นการทำลายคนไทยกันเอง
...หากตั้งใจสื่อ ดังข้างต้นนี้ ผมคิดว่ามันคงไม่ถูกนะครับ

จริงๆแล้ว เค้าขายเพราะเค้าจำต้องขายตามเหตุผลที่คุณลุงขวดโพสไว้..ไม่ใ่ช่ทุบหุ้น เอาของ แบบหุ้นปั่นนะครับ

ด้วยความเคารพ

ผมได้ยินมาว่า อาจเป็นกองทุนประกันนี่ครับ (จาก post today เมื่อวาน และ web อื่น)
น่าลงลึกนะครับ มีอะไรในกอไผ่  :(
หากทราบข้อเท็จจริงเบื้องลึก ฝากช่วยเตือน/confirm หน่อยนะครับ  :roll:

ที่ผมว่ามีอะไรในกอไผ่ คือ ถ้าเป็นกองทุนประกัน (ไม่ออกมาโต้ตอบเลย ทั้งที่ บล.หลักทรัพย์ 2-3 ที่ ก็บอกว่าไม่ได้ขายมาก คุณก้องเกียรติว่าอาจเป็นกองทุนประกันได้)  ถ้าเป็นอย่างนั้น มันเริ่มมีโดมิโนเข้าการเงินไทยหรือยัง มาถึงญี่ปุ่นและสิงคโปร์นี่มันใกล้มากเลย  :(
ถ้าผิดก็ขออภัยนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าคิดตามจริง หรือพากัน panic  :?:

ผมว่า นักลงทุนสถาบัน ก็บอกอยู่แล้วครับ เป็นสถาบัน หมายถึง ที่เป็นนิติบุคคลนะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ไม่ได้หมายถึง กองทุนรวมอย่างเดียว
ถ้าพูดถึง กองทุน อันนี้ ถ้าจะโทษว่า ขายออกมาไม่ช่วยซื้อ คงต้องว่า กองทุนทั่วโลก เพราะ ไม่กี่วันมานี้ imf บอกว่า คนที่ลงทุนในกองทุนต่างๆทั่วโลก ถอนเงินออกมา ไม่ใช่เฉพาะ กองทุนหุ้น แต่รวมถึงกองทุน ตราสารหนี้ด้วย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
เพราะ ฉะนั้นตอนนี้ นักลงทุนทั่วโลก ไม่ลงทุนแปรเป็นเงินสด ถ้าทางมันไปแบบนี้ไปซื้อสวน แถมเป็นเงินของประชาชน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของกองทุนต่างๆเอง การขายก็นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง(แต่ขัดใจชาวหุ้น)
ที่สำคัญ กองทุนที่ลงทุนในหุ้น เขาเปิดเผยนะครับ ว่า เขาลงทุนในหุ้นอะไรเท่าไร อันนี้ แค่เจอว่า ลงทุนใน pttep 14.44%
ptt14.34% scb 14.14%kbank11.89% tisco 7.3% banpu6.23% scc4.25% bec 3.93% cpall3.83% dtac 3.21%
แล้วเป็นกองทุนเปิด ก็คงจะคาดเดาได้ใช่ไมครับ ว่า เราควรจะขาย หรือ ซื้อ และมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียมูลค่าต่อวันเท่าไร