พึ่งจะเคยเห็น หุ้นที่ P/E ต่ำกว่า 1
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
พึ่งจะเคยเห็น หุ้นที่ P/E ต่ำกว่า 1
โพสต์ที่ 3
วันนี้อ่านข่าวเจอว่า เดินเรือจะเจ๊งขั้นล้มละลาย คงเพราะข่าวนี้ป่าว แต่ผมจำไม่ได้ว่าฉบับไหน ลองหากันเอาเองครับ พอดีผมไม่ได้สนใจการเดินเรือเลยไม่ได้จำ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
- K o S o L
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 451
- ผู้ติดตาม: 0
6 เดือนวิกฤตไม่สร่าง ธุรกิจเดินเรือ...ส่อล้มละลาย
โพสต์ที่ 4
ข่าวนี้ครับ เมื่อวานลง posttoday
http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=14863
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มเดินเรือ "น้อยกว่าตลาด" โดยยังคงแนะนำให้ "ขาย" หุ้นบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) และหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL)
"หลัง จากเราเข้าร่วมประชุมกับ TTA และ PSL เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัทมีแนวความคิดเดียวกันเกี่ยวกับตลาดที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน และคาดว่าจะย่ำแย่ไปจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2552 จากความเสี่ยงที่ค่าระวางเรือจะลดลงไปอีก รวมถึงการปรับลดประมาณการกำไร เราจึงไม่เห็นถึงเหตุผลที่ควรจะรีบเข้าลงทุนในหุ้นทั้งสอง แม้ว่าราคาปัจจุบันจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาเป้าหมายของเราก็ตาม" บล.ธนชาต ระบุ
ล่าสุดวันที่ 28 ต.ค. 2551 ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ลดลงต่ำกว่า 1,000 จุด จากแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ 1.1 หมื่นจุด การลดลงดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุจากการไม่มีการขนส่งสินค้า แต่มีสาเหตุจากปัญหาวิกฤตสินเชื่อ ส่งผลให้ธนาคารระงับการออก LC ให้กับผู้ซื้อ ซึ่งหากไม่มี LC สินค้าก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
นอกจากนี้ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) เช่น เหล็กและถ่านหิน ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ตลาดกลายเป็นตลาดของผู้ซื้อ ผู้ซื้อทำการกำจัดสต๊อกเก่าออกไป และรอที่จะซื้อที่ระดับต่ำสุด ผู้ประกอบการเรือในตลาดล่วงหน้า หรือ Spot พยายามทำสัญญาขนส่งในทุกสัญญาที่มี และในระดับค่าระวางเรือทุกระดับ เพียงเพื่อต้องการให้คุ้มกับต้นทุนคงที่ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเรือที่ไม่ได้ใช้งานมากกว่า 200 ลำ
หากสถานการณ์ปัจจุบันยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการเรือบางรายน่าจะตกอยู่ในภาวะล้มละลาย ขณะที่ 20-30% ของปริมาณเรือในปัจจุบันน่าจะถูกกำจัดออกไป นอกจากนี้ เรือใหม่อาจจะไม่สามารถถูกส่งมอบ เนื่องจากอู่ต่อเรือหลายแห่งกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง
"ทาง PSL เองคาดว่า ความหายนะที่แท้จริงจะเกิดขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า และหลังจากนั้นตลาดน่าจะเริ่มมีเสถียรภาพในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 โดยบริษัทน่าจะผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้ เนื่องจากการใช้กลยุทธ์การทำสัญญาล่วงหน้าของบริษัท" บล.ธนชาต ระบุ
ทั้งนี้ PSL ทำสัญญาล่วงหน้าถึง 97% ของปริมาณบรรทุกทั้งหมดของบริษัท ที่อัตราค่าระวางเรือที่ 16,089 เหรียญสหรัฐ/วัน ในปี 2551, 66% ที่ 15,502 เหรียญสหรัฐ/วัน ในปี 2552 และ 31% ที่ 13,113 เหรียญสหรัฐ/วัน ในปี 2553
นอกจากนี้ PSL ยังเห็นโอกาสในการซื้อเรือที่มีอายุน้อยจากผู้ประกอบการอื่นๆ ที่มีแนวโน้มต้องการขายและทำสัญญาต่อเรือใหม่ แทนกองเรือในปัจจุบันของบริษัท
อย่าง ไรก็ตาม บล.ธนชาต มองว่า แม้ PSL จะใช้กลยุทธ์การทำสัญญาล่วงหน้า แต่ยังคงมีความเสี่ยง หากลูกค้าของบริษัทยกเลิกสัญญา หรือขอเจรจาต่อรองอัตราค่าระวางเรือใหม่ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของบริษัท เนื่องจาก PSL น่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำการสัญญาระยะยาวมากขึ้น
สำหรับ TTA เองก็ยอมรับว่า ค่าระวางเรือ TC Rate ในช่วงไตรมาสแรกปี 2552 (ต.ค.-ธ.ค.) คาดว่าจะลดลงเกือบ 50% จากระดับสูงสุดที่ 2.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ/วัน เนื่องจาก 20-50% ของปริมาณบรรทุกรวมของบริษัท ใช้อัตราค่าระวางเรือในตลาด Spot ถึงแม้ว่าอัตราค่าระวางเรือในธุรกิจเดินเรือประจำเส้นทางของบริษัท (30-50% ของปริมาณขนส่งรวม) จะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อัตรากำไรหดตัวลง เนื่องจากปริมาณขนส่งที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม TTA อ้างว่าธุรกิจเดินเรือยังคงมีกำไร เนื่องจากระดับคุ้มทุนของบริษัทอยู่ที่ 8,000 เหรียญสหรัฐ/วัน นอกจากนี้ กำไรที่สูงขึ้นจาก Mermaid Maritime (บริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 55.29%) น่าจะช่วยบรรเทาการลดลงของกำไรของบริษัทได้
http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=14863
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มเดินเรือ "น้อยกว่าตลาด" โดยยังคงแนะนำให้ "ขาย" หุ้นบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) และหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL)
"หลัง จากเราเข้าร่วมประชุมกับ TTA และ PSL เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัทมีแนวความคิดเดียวกันเกี่ยวกับตลาดที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน และคาดว่าจะย่ำแย่ไปจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2552 จากความเสี่ยงที่ค่าระวางเรือจะลดลงไปอีก รวมถึงการปรับลดประมาณการกำไร เราจึงไม่เห็นถึงเหตุผลที่ควรจะรีบเข้าลงทุนในหุ้นทั้งสอง แม้ว่าราคาปัจจุบันจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาเป้าหมายของเราก็ตาม" บล.ธนชาต ระบุ
ล่าสุดวันที่ 28 ต.ค. 2551 ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ลดลงต่ำกว่า 1,000 จุด จากแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ 1.1 หมื่นจุด การลดลงดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุจากการไม่มีการขนส่งสินค้า แต่มีสาเหตุจากปัญหาวิกฤตสินเชื่อ ส่งผลให้ธนาคารระงับการออก LC ให้กับผู้ซื้อ ซึ่งหากไม่มี LC สินค้าก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
นอกจากนี้ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) เช่น เหล็กและถ่านหิน ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ตลาดกลายเป็นตลาดของผู้ซื้อ ผู้ซื้อทำการกำจัดสต๊อกเก่าออกไป และรอที่จะซื้อที่ระดับต่ำสุด ผู้ประกอบการเรือในตลาดล่วงหน้า หรือ Spot พยายามทำสัญญาขนส่งในทุกสัญญาที่มี และในระดับค่าระวางเรือทุกระดับ เพียงเพื่อต้องการให้คุ้มกับต้นทุนคงที่ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเรือที่ไม่ได้ใช้งานมากกว่า 200 ลำ
หากสถานการณ์ปัจจุบันยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการเรือบางรายน่าจะตกอยู่ในภาวะล้มละลาย ขณะที่ 20-30% ของปริมาณเรือในปัจจุบันน่าจะถูกกำจัดออกไป นอกจากนี้ เรือใหม่อาจจะไม่สามารถถูกส่งมอบ เนื่องจากอู่ต่อเรือหลายแห่งกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง
"ทาง PSL เองคาดว่า ความหายนะที่แท้จริงจะเกิดขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า และหลังจากนั้นตลาดน่าจะเริ่มมีเสถียรภาพในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 โดยบริษัทน่าจะผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้ เนื่องจากการใช้กลยุทธ์การทำสัญญาล่วงหน้าของบริษัท" บล.ธนชาต ระบุ
ทั้งนี้ PSL ทำสัญญาล่วงหน้าถึง 97% ของปริมาณบรรทุกทั้งหมดของบริษัท ที่อัตราค่าระวางเรือที่ 16,089 เหรียญสหรัฐ/วัน ในปี 2551, 66% ที่ 15,502 เหรียญสหรัฐ/วัน ในปี 2552 และ 31% ที่ 13,113 เหรียญสหรัฐ/วัน ในปี 2553
นอกจากนี้ PSL ยังเห็นโอกาสในการซื้อเรือที่มีอายุน้อยจากผู้ประกอบการอื่นๆ ที่มีแนวโน้มต้องการขายและทำสัญญาต่อเรือใหม่ แทนกองเรือในปัจจุบันของบริษัท
อย่าง ไรก็ตาม บล.ธนชาต มองว่า แม้ PSL จะใช้กลยุทธ์การทำสัญญาล่วงหน้า แต่ยังคงมีความเสี่ยง หากลูกค้าของบริษัทยกเลิกสัญญา หรือขอเจรจาต่อรองอัตราค่าระวางเรือใหม่ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของบริษัท เนื่องจาก PSL น่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำการสัญญาระยะยาวมากขึ้น
สำหรับ TTA เองก็ยอมรับว่า ค่าระวางเรือ TC Rate ในช่วงไตรมาสแรกปี 2552 (ต.ค.-ธ.ค.) คาดว่าจะลดลงเกือบ 50% จากระดับสูงสุดที่ 2.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ/วัน เนื่องจาก 20-50% ของปริมาณบรรทุกรวมของบริษัท ใช้อัตราค่าระวางเรือในตลาด Spot ถึงแม้ว่าอัตราค่าระวางเรือในธุรกิจเดินเรือประจำเส้นทางของบริษัท (30-50% ของปริมาณขนส่งรวม) จะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อัตรากำไรหดตัวลง เนื่องจากปริมาณขนส่งที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม TTA อ้างว่าธุรกิจเดินเรือยังคงมีกำไร เนื่องจากระดับคุ้มทุนของบริษัทอยู่ที่ 8,000 เหรียญสหรัฐ/วัน นอกจากนี้ กำไรที่สูงขึ้นจาก Mermaid Maritime (บริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 55.29%) น่าจะช่วยบรรเทาการลดลงของกำไรของบริษัทได้
ผมมือใหม่ครับ
- metro
- Verified User
- โพสต์: 861
- ผู้ติดตาม: 0
พึ่งจะเคยเห็น หุ้นที่ P/E ต่ำกว่า 1
โพสต์ที่ 5
ญาติผมทำงานเกี่ยวกับเรืออยู่ครับ บอกว่าช่วงนี้ต้องเป็นช่วงที่แบบว่ายุ่งมากเพราะใกล้ปีใหม่ แต่ตอนนี้เข้าไปแค่เซ้นเช็คแล้วก็ออก เพราะไม่มีออเดอร์เลยครับ
ส่วนอีกคนทำพวกจิวเวลลี่ส่งออก รับออเดอร์มาแล้ว รับมัดจำมาด้วย แต่พอถึงเวลาส่งมอบของ ทางนั้นยอมทิ้งมัดจำเพื่อไม่เอาของครับ
ผมว่าตอนนี้ทางอเมริกาเลิกนำเข้าสินค้าจำนวนมากนะครับ เรืออาจจะถึงเวลาเป็นขาลงนะครับ
ส่วนอีกคนทำพวกจิวเวลลี่ส่งออก รับออเดอร์มาแล้ว รับมัดจำมาด้วย แต่พอถึงเวลาส่งมอบของ ทางนั้นยอมทิ้งมัดจำเพื่อไม่เอาของครับ
ผมว่าตอนนี้ทางอเมริกาเลิกนำเข้าสินค้าจำนวนมากนะครับ เรืออาจจะถึงเวลาเป็นขาลงนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 270
- ผู้ติดตาม: 0
พึ่งจะเคยเห็น หุ้นที่ P/E ต่ำกว่า 1
โพสต์ที่ 9
ปกติการส่งออกหรือนำเข้า เขานิยม quote ราคาแบบCIF หรือ FOB กันครับ
แต่ถ้ามี validity เกิน 15 วัน บางที7วันด้วยซ้ำ เขาจะ quote แบบ fob
ครับเพราะฉะนั้น ไม่มีใครใด้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์หรอกครับ
คิดแบบนี้เลิกคิดไปได้เลยครับ :( :(
แต่ถ้ามี validity เกิน 15 วัน บางที7วันด้วยซ้ำ เขาจะ quote แบบ fob
ครับเพราะฉะนั้น ไม่มีใครใด้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์หรอกครับ
คิดแบบนี้เลิกคิดไปได้เลยครับ :( :(
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
พึ่งจะเคยเห็น หุ้นที่ P/E ต่ำกว่า 1
โพสต์ที่ 11
นั่นดิ
นั่นมัน E ในอดีต
โปรดอย่าถาม ว่า E เท่าไรเมื่อในอดีตตตตตต
และโปรดอย่าถามว่า อดีต นั้น P E เท่าไรรรรรรรร
รู้ไว้อย่างเดียวววววว
เดี๋ยวกันยังเบลอ ไม่รู้ E เท่าไรรรรรรรรรรรรรรรร
E จะมากเพียงไหน กำหนดวัดได้ แค่ไม่เท่าเดิมมมมมมม
นั่นมัน E ในอดีต
โปรดอย่าถาม ว่า E เท่าไรเมื่อในอดีตตตตตต
และโปรดอย่าถามว่า อดีต นั้น P E เท่าไรรรรรรรร
รู้ไว้อย่างเดียวววววว
เดี๋ยวกันยังเบลอ ไม่รู้ E เท่าไรรรรรรรรรรรรรรรร
E จะมากเพียงไหน กำหนดวัดได้ แค่ไม่เท่าเดิมมมมมมม