หน้า 1 จากทั้งหมด 1

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 1:06 am
โดย กล้วยไม้ขาว
ผมเป็นพนักงานกินเงินเดือน

ที่เพิ่งจะลงทุนไม่นานครับ (ไม่กี่เดือน)

ช่วงที่ผ่านมาผมว้าวุ่นใจกับพอร์ตมาก

จนบางทีก็แทบไม่มีสมาธิทำงาน



วันนี้มานั่งนึก ว่าเงินที่เราลงทุนไปก็ยังนิดเดียว

เทียบกับเงินในอนาคตที่เราจะลงทุนเพิ่ม

ถึงจะซื้อแล้วมันตกเราก็ยังแน่ใจว่าซื้อมาุถูกแล้ว

และถ้าตกไปอีกก็ยังมีเงินมาเก็บเพิ่มเรื่อย ๆ ในราคาทีู่ถูกกว่าเดิม

บริษัทเราก็วิเคราะห์ดีเท่าที่จะทำได้แล้ว




แล้วจะมาคิดมากทำไมให้วุ่นวายสมอง

เสียงานเสียการ

เอาเวลาไปตั้งใจทำงานดีก่า

เศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ทำงานไม่ดีเดี๋ยวโดนไล่ออก

จะไม่แย่กว่าเหรอ

เงินเดือนออกแต่ทีค่อยมาคิดดีกว่า

:?

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 6:36 am
โดย kvit
ลองมองย้อนไป ณ วันที่ตัดสินใจซื้อหุ้น  ทุกคนคิดว่า เลือกหุ้นดีแล้ว
คาดหวังผลตอบแทนเงินลงทุนขั้นต่ำ มากกว่าฝากเงินธนาคารมิใช่หรือ?

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ถ้าสมมุติว่า ธุรกิจที่เราร่วมเป็นเจ้าของอยู่นอกตลาดล่ะ
แตกต่างกันตรงไหน ?

ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไป ยังคงมีกำไร สามารถจ่ายเงินปันผลตามปกติ
มิใช่หรือ ?

ราคาตลาดไม่ได้ทำให้จำนวนสิทธิการเป็นเจ้าของธุรกิจลดลงไป
ไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนเงินลงทุนขั้นต่ำลดลงมากมายมิใช่หรือ ?

ถึงแม้อนาคตอาจมีผล  เราได้ยอมรับความเสี่ยงนั้นตั้งแต่ต้นแล้วมิใช่หรือ?

ราคาตลาด เราไม่สามารถควบคุมได้  ณ วันนี้ นักลงทุน หลังปี 2545
99 %  ล้วนมีพอร์ตติดลบ  แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังอยู่  
มีการซื้อขายทุกวันตามปกติ

การติดตามราคาตลาด และวิตกกับ ราคาขึ้นลง มากเกินไป
ทำให้เสียสุขภาพจิต
คิดจะลงทุนกับความเสี่ยง ต้องยอมรับ ทำใจให้เป็นปกติ

การเปลี่ยนแปลงย่อมมีอยู่เป็นนิจนิรันดร์

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 7:15 am
โดย TPH
Great and agreed with khun kvit :cool:

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 7:20 am
โดย aot
1 คิดมากทำไมให้วุ่นวายสมอง = คิดถูกทาง
แยกความคิดกับอารมย์ได้
2 ถึงจะซื้อแล้วมันตกเราก็ยังแน่ใจว่าซื้อมาุถูกแล้ว = คิดผิดทาง
เดี๋ยวจะมองไม่เห็นข้อบกพร่องในการตัดสินใจในการซื้อหุ้น  
หากยังแน่ใจในสิ่งที่ผลออกมาแล้วมันปรากฎว่าผิด เดี๋ยวจะผิดอีก

ดูอย่างอุเบกขาสิ

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 7:51 am
โดย Jeng
ไม่คิดเลย คิดมากไป คิดน้อยไป ไม่ดีทั้งนั้นแหละ

แค่ค่อยๆคิด คิดเรื่อยๆ แบบมีความสุขในการคิดนั่นคิดนี่ พอประมาณ ตามกำลังสมอง น่าจะดีที่สุดครับ

สถานการณ์ช่วงนี้เหมาะกับการเรียนรู้มาก

เหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย หลายปัจจัย

การคิดน้อยในช่วงนี้ ไม่น่าจะดีครับ

แต่เห็นด้วยครับ ถ้าคิดมากแล้วเครียด ก็ไม่ต้องไปคิดมาก แต่ควรเรียนรู้ให้มากครับ

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 8:45 am
โดย sai
Jeng เขียน:ไม่คิดเลย คิดมากไป คิดน้อยไป ไม่ดีทั้งนั้นแหละ

แค่ค่อยๆคิด คิดเรื่อยๆ แบบมีความสุขในการคิดนั่นคิดนี่ พอประมาณ ตามกำลังสมอง น่าจะดีที่สุดครับ

สถานการณ์ช่วงนี้เหมาะกับการเรียนรู้มาก

เหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย หลายปัจจัย

การคิดน้อยในช่วงนี้ ไม่น่าจะดีครับ

แต่เห็นด้วยครับ ถ้าคิดมากแล้วเครียด ก็ไม่ต้องไปคิดมาก แต่ควรเรียนรู้ให้มากครับ
:cheers:

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 8:47 am
โดย 007-s
เห็นด้วยกะเฮียเจ๋งค่ะ

ช่วงเวลาและสถานการณ์แบบนี้ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเรียนรู้แล้ว

:D

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 10:46 am
โดย กล้วยไม้ขาว
ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำดี ๆ  :bow:

คือตอนนี้ผมกำลังคิดว่า

ผมเรียงลำดับความสำคัญของแต่ละอย่างผิดไปน่ะครับ

พอรู้ตัวเลยได้รู้ว่า ใจเรายังไม่มั่นคงพอ

ตอนนี้เลยคิดว่า จะฝึกใจก่อนครับ

แล้วก็บริหารเวลาให้ดี ไม่เอาเวลางานมาใช้นอกงานจนเกินไป (ไม่อู้มากแต่อู้มั่งเป็นบางที :twisted: )

ผมอยากลงทุนให้มีความสุขกว่านี้ครับ  :cheers:

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 10:48 am
โดย Little Boy
[quote="kvit"]

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ถ้าสมมุติว่า ธุรกิจที่เราร่วมเป็นเจ้าของอยู่นอกตลาดล่ะ
แตกต่างกันตรงไหน ?

ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไป ยังคงมีกำไร สามารถจ่ายเงินปันผลตามปกติ
มิใช่หรือ ?

ราคาตลาดไม่ได้ทำให้จำนวนสิทธิการเป็นเจ้าของธุรกิจลดลงไป
ไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนเงินลงทุนขั้นต่ำลดลงมากมายมิใช่หรือ ?

ถึงแม้อนาคตอาจมีผล

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 11:05 am
โดย Amadeus
ขอให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดีทุกคนแล้วกันนะครับ

สถานการณ์แบบนี้ ใครถือเงินก็ เครียดกับจังหวะเข้าซื้อ กลุ้มใจเวลาหุ้นขึ้น

ใครถือหุ้นก็ไม่อยากให้หุ้นของตัวเอง โดนลดกระหน่ำมากๆ

ดูเครียดๆกันทุกคนแต่ขออย่าทำอะไรแย่ๆกับ ตัวเองและคนรอบๆข้างแล้วกันนะครับ ...ยิ้มไว้ๆ  :D

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 11:07 am
โดย pavilion
ใช่ครับ จะไปคิดมากไปทำไมให้ปวดหัว เอาสมองไปคิดในเรื่องที่สมควรคิดดีกว่า เรื่องบางเรื่องเราควบคุมไม่ได้คิดไปก็เท่านั้นครับ  :8)

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 11:30 am
โดย charnengi
อดีตคือสิ่งที่ดับไปแล้ว อนาคตคือความกลวง ซึ่งไม่แน่นอน

ขอให้อยู่กับปัจจุบัน หาหุ้นดีๆ เข้าพอร์ตเหมือนเดิมนะครับ

ความเสี่ยง VS ผลตอบแทน ชั่งน้ำหนักดีๆ ในระดับที่คุณพอใจ

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 31, 2008 1:51 pm
โดย SunShine@Night
เยี่ยมครับ :)

นึกขึ้นมาได้ว่า จะคิดมากไปทำไม

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 02, 2008 12:55 am
โดย GeneraX
ผมเองพึ่งเริ่มทำงานครับ เงินที่ลงทุนไปก็คือเงินเกบทั้งหมดที่ผมเก็บมาตั้งแต่เด็ก รวมแล้วก็พอๆกับเงินเดือนตอนนี้ที่ได้2 ปีรวมกัน

ตอนนี้ก็หายไปกว่า 30%แล้วครับ

แต่ด้วยหุ้นที่เลือก รวมถึงต้นทุนที่ซื้อจริงๆนั้น คิดดูจริงๆแล้วก็ไม่ได้ถือว่าแพงมากอะไรครับ พื้นฐานธุรกิจในระยะยาวก็ไม่เห็นว่าจะถูกกระทบอะไรเลยจากวิกฤตที่ทุกคนกลัวกันอยู่ ไม่มีเหตผลอะไรที่ต้องกังวลครับ ถ้าเรารู้ดีกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่

แรกๆยอมรับว่าเห็นพอร์ตรวมลบแค่ 1% ก็เครียดแล้วครับ แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ 6 เดือนผ่านไป ผมได้เรียนรู้อะไรจาก MKT crash ครั้งนี้ได้มากมายจริงๆครับ

หนังสือ Buffett, Lynch, ดร.นิเวศน์ ต่างๆที่ผมพึ่งอ่านมาก่อนที่จะเกิด crash ไม่นึกไม่ฝันครับว่าสิ่งเหล่านั้นในหนังสือมันเกิดขึ้นได้จริงๆครับ ถ้าเราสามารถแยกแยะมูลค่าหุ้นที่แท้จริงออกจากมูลค่าหุ้นที่ได้จากนายตลาดได้ ไม่มีอะไรที่ต้องเครียดครับ

ตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า ทุกวันนี้ผมยังมีความสุขกับการลงทุนมากกว่าวันที่พอร์ตขาดทุนไป 1% เสียอีกครับครับ