Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

Jeremy Grantham ผู้จัดการกองทุน GMO เขียนสารถึงผู้ถือหน่วยลงทุนในเดือนตุลาคมปีนี้ว่า.......

พวกเราที่ GMO เป็นพวกนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า  ซึ่งทั้งเราและนักลงทุนแนวนี้คนอื่นๆ ต่างก็ต้องคำสาป   พวกเรามักเข้าตลาดเร็วเกินไป   ในปี 1998 เราเห็นตลาดหุ้นที่แสนแพง   p/e ของตลาดอยู่ที่ 21 เท่าซึ่ง พอๆกับการเกิดฟองสบู่ในปี 1929 และ 1965  เมื่อเห็นว่าตลาดมันแพง  เราก็จัดการขายซะเลย  ผลที่ออกก็คือ เราขายเร็วเกินไป   p/e ตลาดพุ่งขึ้นไปเป็น 35 เท่า ! ....ในทางกลับกัน  value investor ที่ขี้เซาและสุดเฉื่อยเท่านั้นแหละที่จะได้ซื้อหุ้นที่ราคาถู้กถูก ถูกสุดๆ   ขณะที่ value investor ซึ่งขยันและตื่นตัวจะได้ซื้อแค่หุ้นถูกมากเท่านั้นแหละ   แล้วบ่อยครั้งก็ต้องทนกัดฟันอมเลือดเมื่อราคาหุ้นมันตกลงต่ำกว่าราคาถูกมากที่เราซื้อมา.......เรามองว่า ดัชนี s&p  ที่ 900 จุดเมื่อวันที่ 10 ตุลา มันถูกแล้ว และตลาดในต่างประเทศถูกกว่านี้ด้วยซ้ำ  ในช่วงราคาแถวนี้  เราจะทยอยซื้อไปเรื่อยๆ  แบบไม่รีบร้อน   เราจะไม่หลอกตัวเอง   การคาดการณ์ทิศทางตลาดเป็นเรื่องยากและก็ไม่ใช่สิ่งที่เราถนัด.....เรารู้ดีว่าครั้งนี้ เราก็อาจจะเข้าซื้อเร็วเกินไปเหมือนเดิม

"I can't tell you it's exactly the right time.  I don't try to time things, but I do try to price things. "
                                           
                                                                                                                           Warren  Buffett

เห็นด้วยครับพี่ แม้่กระทั่ง Buffett ยังยอมรับคำสาบข้อนี้เลย
ผมคิดเสมอถ้าผมซื้อได้ต่ำสุด ขายได้สูงสุด นั้นคือ "เรื่องของโชค" ไม่ใช่ "ฝีมือ"

mario เขียน: ผมคิดเสมอถ้าผมซื้อได้ต่ำสุด ขายได้สูงสุด นั้นคือ "เรื่องของโชค" ไม่ใช่ "ฝีมือ"

เวลาผมซื้อได้ที่ราคาสูงสุด ขายได้ที่ราคาต่ำสุด ผมก็ว่า "ซวย" ครับ -_-'

Alastor เขียน: เวลาผมซื้อได้ที่ราคาสูงสุด ขายได้ที่ราคาต่ำสุด ผมก็ว่า "ซวย" ครับ -_-'

:lovl:  :lovl: เขาไม่เรียกว่า ซวย ค่ะ เขาเรียกโชคร้าย

[quote="Jeremy Grantham "]ในปี 1998 เราเห็นตลาดหุ้นที่แสนแพง

เห็นด้วยกับท่านประธานครับ

ป.ล. ถ้าใครซื้อที่ P/E 35 เท่าแล้วรอขายที่ยอดก็ยังกำไรได้ครับ

เพราะตอนนั้น P/E มันขึ้นไป peak ที่ 45

หลังจากนั้น... เขาเรียกเหตุการณ์นี้ว่า dot com bubble

สามัญชน เขียน:อย่างไรก็ตามโอกาสที่ p/e จะขึ้นสูงกว่า 21 เท่า
น่าจะมีโอกาสน้อยกว่า
ที่ p/e จะลงมาต่ำกว่า 21 เท่า

เพราะที่ p/e ระดับนี้
คิดเป็นผลตอบแทนน้อยกว่า 5% ต่อปีเสียอีก
พันธบัตรที่ให้ดอกเบี้ยมากกว่า 5%ก็มีถมเถไป
และความเสี่ยงน้อยกว่ากันมากเพราะรัฐบาลค้ำประกัน

ปัญหาคือ  นักลงทุน  นักเก็งกำไร  ไม่คิดว่ากำไรในอนาคตจะลดลงหรือเท่าเดิมนะซิครับ

ทุกคนคิดว่าปีนี้ P/E 21 เท่า ไม่เป็นไร  ปีหน้ามีโครงการใหม่  กำไรเพิ่มเท่าตัว  P/E ก็ลดลงเหลือ 10.5 เท่าแล้ว

เหตุการณ์เหล่านี้  เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ  บริษัทที่มีชื่อเสียงมากมายใน SET ก็เคยซื้อขายกันที่ราคา P/E เกิน 20 เท่า  ผู้ถือหุ้นก็มีทั้งนักลงทุนรายใหญ่  กองทุนรวมในประเทศ  และกองทุนรวมต่างประเทศ

chatchai เขียน:

ปัญหาคือ

mr.market ก็เหมือนเสียงเชียร์จากผู้ชม
เราอาจจะไขว้เขวได้ง่ายๆ

และต่อให้เชียร์คนนี้แบบถล่มทลาย


ผมก็ขอเลือกคนนี้  ฮ่าๆ

พี่ฉัตรชัยเล่าซือ เขียน:

ปัญหาคือ