Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เห็นปรับโน่นปรับนี่กันตลอด แล้วการคาดการณ์งบการเงินล่วงหน้านี่เค้าดูจากอะไรเหรอครับ เห็นคาดกันไปไกลหลายปี ไม่รู้ว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ไม่เคยเห็นบอกที่มาเลย

ดูจาก เวลาวางศิลาฤกษ์ ของ บริษัท และ ดาวจร
www.payakorn.com

คลิ๊ก ผูกดวง สุริยายาตรา
ลง วัน เดือน ปี เวลาวางศิลาฤกษ์ลงไป
เลือก วิธี อันโตนาทีสามัญอาทิตย์อุทัย 6.00 น
เลือก สัมผุสดาว ณ เวลาเกิด

กดผูกดวง

แล้วไปดู ดวงจร

ล้อเล่นนะครับ  :lol:

ประมาณรายรับ-รายจ่าย กดูจากอดีตและข่าวบริษัทครับ
เชื่อถือได้ระดับหนึ่งเพราะบริษัทจะเก็บข่าวเก่าๆที่เราไม่ทันอ่านไว้
ผมอ่านประจำ ก่อนซื้อหุ้น

แต่ราคาเป้าหมายที่โบกเกอร์ให้ เชื่อได้หรือไม่ก็ลองอ่านเอาเอง(ผมไม่เชื่อ)

ดูตามราคาหุ้นครับแล้วเขาจะวิเคราห์หาเหตุผลว่าทำไมราคาถึงขึ้นหรือลง

อ่านได้เชื่อได้ครับ แต่ต้องทำการบ้านเพิ่มด้วย (ในเรื่องผลประกอบการณ์) แต่อย่าไปคาดหวังกับราคาเป้าหมายที่เค้าให้ครับ เพราะคนที่รู้ราคาเป้าหมายได้ มีแค่คนทำราคาเท่านั้นครับ

บทวิเคราะห์ ผมอ่านเพื่อเก็บข้อมูลที่เป็น fact
สำหรับประมาณการในอนาคตหลาย ๆ ปี ไม่ต้องไปเชื่อ ให้ดูที่เนื้อธุรกิจเอง น่าจะเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพซะมากกว่า

ที่สำคัญคำ แนะนำว่า "ขาย ถือ ซื้อ" นี่ ห้ามทำตามนะครับ

ถ้าทำตรงกันข้ามโอกาสได้กำไรน่าจะมากกว่า  :lol:

ไม่ใช่แค่ขำ ๆ นะครับ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ชอบเชียร์หุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามากแล้ว ประมาณว่าขึ้นมาจนมั่นใจ (เลยเจอดอย)
แล้วก็ชอบเชียร์ขายตอนที่ราคามันลงมามากแล้ว ประมาณว่าลงมากจนทนไม่ไหว (ขายที่ low ตลอด)

เอ..... กลายเป็นว่าให้ซื้อแพง ขายถูก ซะงั้น  :lol:

[quote="investment biker"]

ที่สำคัญคำ แนะนำว่า "ขาย ถือ ซื้อ" นี่ ห้ามทำตามนะครับ

ถ้าทำตรงกันข้ามโอกาสได้กำไรน่าจะมากกว่า

ข้อมูลที่นักวิเคราะห์มี บางครั้งเราไม่สามารถเข้าถึงได้
เช่น การไปเยี่ยมโรงงาน การสัมภาษณ์ผู้บริหาร
ถ้าเรานำมาใช้อย่างถูกต้องก็มีประโยชน์ครับ

ขอบคุณครับทุกท่าน เฝ้าสังเกตุมานานจาการอ่านบทวิเคราะห์ต่างๆ

เลยคิดว่าเขามีจรรยาบรรณกันไหมนี่ ปรับราคากันวุ่นวายรายวัน

รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี ฯลฯ บางอย่างก็ดูไม่สมเหตุสมผล

แต่ลืมไปว่าเป็นอาชีพเขานี่นา คงอยู่ที่เรามากกว่าว่าจะนำ

ข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ต้องเลือกเอาข้อเท็จจริงมาวิเคราะห์ดูเอง

อยากเห็นแบบ ช่อง CNBC มั่งจัง

ที่เอานักวิเคราะห์ ผู้รู้ต่างๆ มาออกความเห็น แล้วขัดกันก็ได้ ยิ่งขัดกันยิ่งดี ผู้ลงทุนได้ประโยชน์ ให้ต่างคนต่างมีเหตุผลของตนมาประกอบ ไม่ต้องเอาแต่ตามๆๆๆๆกัน
จะเป็นการวัดฝีมือของแต่ละนักวิเคราะห์ด้วย ใครวิเคราะห์ถูกดังเลย ไม่ต้องมัว ตามๆๆๆๆๆกันลูกเดียว

พวกนี้กลางคืนต้องนอนดึก ไม่งั้นต้องตื่นเช้า เพื่อดูรายงานว่าเมื่อคืนดาวโจร เขียวหรือแดง แล้วก็แค่ออกความเห็นไปทำนองนั้น
:lol:
มีอยู่ทีนึง (ไม่เอ่ยอ่ะว่าโบรคไหน :lol: ) ออกบทวิเคราะห์หน้าเวบแต่เช้าเลย (เมื่อคืนดาวเขียวปั๊ด) บอกวันนี้คาดว่า ตลาดจะมีทิศทางที่ปรับขึ้นแรง เนื่องจากนลท.มั่นใจบลาๆๆๆ....ปรากฏวันนั้น ไม่มีปี่มีขลุ่ยอะไรเลย เซทเล่นสวนซะงั้น แดงเถือกกกกกกกกกก....ไม่มีปัจจัยลบอะไรเลยจริงๆ แต่แดงเถือกกกกก

:lol:  :lol:  :lol:

Money Chanel กล้าป่ะอ่ะ ทำให้ได้แบบ CNBC อ่า
เอาผู้รู้มานั่งเลย แล้วให้ใส่ความเห็นกันเต็มที่ เอาเหตุผลตะละคนมางัดกันเลย ...
ประเภท มานั่งเรียงสามสี่คน แล้วเห็นไปในทางเดียวกันโลดนะ งั้นเชิญมาคนเดียวก็พอแล้วน่ะ มันแบ่บ......ไงดีอ่ะ คือ....


(จะโดนด่ามะเนี่ย พูดตรงไปมะ )

เคยเจอในทีวีครับ

ตอนนั้นหุ้นตัวหนึ่งราคาเกือบ 500 บาทจากที่เคยขึ้นไปถึง 550 บาท
นักวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อลงทุน"
ผู้ชมก็จัดการ

[quote="สามัญชน"]เคยเจอในทีวีครับ

ตอนนั้นหุ้นตัวหนึ่งราคาเกือบ 500 บาทจากที่เคยขึ้นไปถึง 550 บาท
นักวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อลงทุน"
ผู้ชมก็จัดการ

อย่าว่าแต่บทวิเคราะห์เลย อย่าเชื่อคนอื่นๆ เลย มานเป็นใครให้เราซื้อ-ให้ขาย  คนที่เชียร์ให้คุณซื้อ เค้าก้อพร้อมขายใส่มือคุณทันที สืบทอดกระสือ แล้วก้อไปหาต้นทุนถูกตัวใหม่ ชีวิตนี้หลอกคนง่าย ซิม...เปิ้น...ซิม...เปิ้น.. แบบเมื่อเช้า

ผมว่าเชื่อได้นะ แต่เชือตรงข้ามอะ

เชื่อถือได้  แต่มักผิดเวลา

ข้อมูลเหล่านี้ดีครับบางค่ายลึกมาก แต่แนะนำให้อย่าดูคำแนะนำซื้อหรือขาย และราคาเป้าหมายก็พอครับ ตรงนั้นความจริงไม่มีใครรู้เค้าก็ใช้ความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองมาแนะนำเหมือนกัน (เวลาหุ้นขึ้นดูสดใส เวลาหุ้นลงดูน่ากัว)ลำพังอารมณ์ตัวเองก็แย่แล้วครับไม่ต้องเอาของคนอื่นมาเพิ่ม

ผมว่านักวิเคราะห์ที่น่ากลัวที่สุดคือพวกที่ผิดบ้างดูกบ้าง เพราะถ้าคนเชื่อตามโอกาสสำเร็จอาจจะแค่ 50% แถมพวกนี้เวลาถูกก็โม้ต่างหาก ต่อให้ออกมาผิดวันนี้ ปีต่อๆมาราคาหุ้นไปตามที่มั่วเอาไว้ดันเอามาโม้อีกรอบอาศัยจังหวะคนลืม พวกนี้ต้องอยู่ห่างๆไว้ :lol:
ถ้าหานักวิเคราะห์ที่ผิดได้ 100% นี่ น่าจะให้เงินเดือนสูงกว่าคนที่วิเคราะห์ถูก 90% อีก เพราะถ้าพี่วิเคราะห์ให้ซื้อ/ขายออกมา พวกเราก็ทำตรงข้ามแค่นี้ก็กำไรแล้ว

PS: ปกติผมก็อ่านแต่เหตุผล กับข้อมูลที่เค้าใช้เพื่อลอกมาใช้เองบ้างวันหลัง พวกราคากับซื้อไม่ซื้อนี่ เลือกเองดีกว่า ยังไงก็ต้องเทียบกับหุ้นอีกหลายๆตัว
ช่วงนี้มีเงินน้อย T-T

ต้องใช้ wax in my ear ครับ