Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อะไรทำให้เงินสดในปีนี้และปีหน้าต่างกันคับ

ถ้าคิดอย่างง่ายๆก็คืออัตราดอกเบี้ยไงครับ

เงิน 100 บาทวันนี้  เมื่อนำไปฝากธนาคารปีหน้าก็จะเป็นเงิน 100 บาท + ดอกเบี้ย

คิดเล่นเล่นนะคับ

ถ้าปีหน้า ดอกเบี้ยต่างประเทศ .25%

แสดงว่าเงินปีหน้าจะมีค่ามากกว่าปีนี้.25%

ใช่เปล่าคับ

ปีนี้หุ้น A 10 บาท ปีหน้าหุ้น A เหลือ 7 บาท
(ในกรณีที่ A คือ หุ้นดีที่พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนนะคับ)

อย่างงี้เงินสดในมือเราสำหรับปีหน้าจะยิ่งมีค่ามากเลยนะนั่น  

ผมรู้สึกว่า มีกับดัก เงินมากจังเพราะมีของถูกใน
หลายรูปแบบ ทำให้เงินสดหลายไปจากตลาดมากขึ้น

การหาเงินสดในตลาดผู้บริโภค หรือการค้าทั่วไป
น่าจะยากขึ้นเพราะคนนิยมลงทุนส่วนหนึ่งเพราะ
คิดว่าถูกแล้ว  ถูกอีก


ท้ายสุด  ปัญหาเรื่องเงินขาดตลาดไม่พอหมุนเวียน
จะรุนแรงมากหรือเปล่าคับ
ในปีหน้า

Inflation ไงครับทีทำให้เงินปีนี้ปีหน้าต่างกัน

ถ้าเราคาดการว่าเงินเฟ้อ 5% สำหรับปี 52

สิ้นปี 50 มีเงิน 100 บาท พอครบสิ้นปี 52 เราจะมีเงิน  95 บาท

Assume : ถ้าเงินนั้นถือไว้เฉย ๆไม่ได้ไปลงทุนอะไร

ถ้าเราจะประยุกต์เรื่องนี้ เราก็ควรมองว่า Inflation เป็น Cost of capital ของเราดังนั้นเราต้องหาผลตอบแทนจากเงินให้ได้มากกว่า 5 % เราถึงจะมี
excess profit ครับ

ปีหน้าถ้าเกิดภาวะเงินฝืด

เงินสดปีนี้และปีหน้าต่างกันไหมคับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

สำหรับประเทศไทยโอกาสเกิดภาวะเงินฝืดยากมาก
แต่ก็มีโอกาสนะครับ แต่ผมเห็นว่าน้อยมาก เพราะประเทศไทยยังไม่เคยเกิด Deflation (เงินฝืด) เลยสักครั้ง ที่เห็นเคยเกิดชัดๆ มีอยู่ประเทศเดียวคือญี่ปุ่น

แต่ผมขอตอบคำถามคุณ hot ถ้า้เกิด Deflation ขึ้นมาจะเป็นไงในปี 2552

เงินในปีนี้จะมีค่ามากกว่าปีหน้า เพราะสินค้าโดยรวมจะลดลง คือ
Inflation ติดลบ แต่ความเห็นส่วนตัวผมยังคิดว่าไม่น่าเกิดขึ้นครับ

เงินฝืด  วิธีทางแก้ มีทางใดบ้างคับ

และวิธีที่ว่าเคยใช้ได้ผลไหมในประวัติศาสตร
การเงินที่ผ่านมาคับ

วิธีแก้เงินฝืด ผมว่ามันอยากมาก เหมือนที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น ที่เศรษฐกิจถดถอยกว่า 10 ปี (สาเหตุของเงินฝืดคือความกลัวเพราะหลังวิกฤตที่ไรความกลัวจะเข้าไปในจิตใจของทุกคนเหมือนตอนปี 2540 ที่เกิดวิกฤตเงินบาท ทำให้คนในประเทศ กลัวจับจ่ายใช้สอย กลัวการลงทุน กลัวไปทุกอย่าง แต่ผมคิดว่าประเทศเรามีเศรษฐกิจพอเพียงถือเป็นโชคดีมาก เพราะเราไม่ได้ใช้จ่ายเกินตัวหรือลงทุนเกินตัวตั้งแต่แรก ทำให้เรามีภูิมิคุ้มกันในวิกฤตครั้งนี้สูง - ไม่นับรวมคนในประเทศที่ทะเลาะกันไม่เลิก  555)

การลงทุนตามกำลังที่มี และใช้จ่ายตามฐานะ(อย่าเกินฐานะและก็อย่ากลัวการใช้จ่ายเกินไปหรือตระหนี่เกินไป) จะำทำให้เราก้ามข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปได้ครับ ผมเชื่อเช่นนั้น

การขึ้นของราคาทองทำให้ผมกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินฝืด
นะคับ  ก็หวังว่าจะไม่เป็นจริง

ไปอ่านวิทยานิพจน์ของ รมว คลัง US คนใหม่ดู
ท่านผู้นี้เขียนวิทยานิพจน์เกี่ยวกับเงินฝืดที่เกิดขึ้นใน US ตอนช่วงปี
1929-1932 ไว้
อ่านในหนังสือพิมพ์เจอว่า ลงใน ธนาคารกลางของ US ปี 2002 เป็นสุนทรพจน์เกี่ยวกับเรื่องเงินฝืดครับ

ขอเรียนถามคุณ hot นิดนึงครับ

การขึ้นราคาทองเกี่ยวกับเงินฝืดยังไงครับ รบกวนอธิบายหน่อยครับ

[quote="chatchai"]ถ้าคิดอย่างง่ายๆก็คืออัตราดอกเบี้ยไงครับ

เงิน 100 บาทวันนี้

ไม่รู้ว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่านะครับ
เงินเฟ้อ คือ ภาวะที่เงินมีมากเกินไป ทำให้เงินมันมีค่าน้อยลง ญี่ปุ่นน่าจะเจอกับเงินเฟ้อ เนื่องจากเกินดุลต่างประเทศมายาวนาน และยังเกินดุลต่อไป แบงค์ไม่อยากรับฝากเงินเนื่องจาก เงินที่มีอยู่ก็ไม่รู้จะไปปล่อยกู้ที่ไหน ถ้าจำไม่ผิดเข้าจะเก็บเงินค่าฝากเงินไว้กับธนาคารด้วย ญี่ปุ่นเลยต้องนำเงินไปลงทุนที่อื่นๆ

เงินฝืดคือ ภาวะที่ไม่มีเงิน หรือเงินมีค่ามาก เราน่าจะเจอภาวะแบบนี้ตอนต้มยำกุ้ง แบงค์ไม่มีเงินมาปล่อยต่อ  ธุรกิจล้มจากสภาพคล่องทางการเงินไม่มี ฝืดก็คือมันไม่ไหล ถ้าจำไม่ผิดช่วงนั้นดอกเบี้ยสูงมากๆ เพราะคนแย่งเิงินฝาก สุดท้ายช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิด คนมีเงินตอนนั้นสามารถซื้อของดีๆราคาต่ำได้อย่างสบายๆ

ผมว่าซัพพายกับดีมานมันมีผลต่อเรื่องนี้แบบจริงๆจังๆ
เมื่อดอกเบี้่ยต่ำคนจึงกู้เงินมาลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้ซัพพายของเงินลดลง อย่างน้อยรัฐคือคนหนึ่งที่ดูดเม็ดเงินเข้าไป เมื่อเงินหมดจากตลาด หรือภาวะที่ไม่มีเงินในตลาด จะเกิดภาวะที่เรียกว่าเงินฝืด ซึ่งมันทำให้ธุรกิจจริงๆล้ม

dangbiley wrote

ผมว่าซัพพายกับดีมานมันมีผลต่อเรื่องนี้แบบจริงๆจังๆ
เมื่อดอกเบี้่ยต่ำคนจึงกู้เงินมาลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้ซัพพายของเงินลดลง อย่างน้อยรัฐคือคนหนึ่งที่ดูดเม็ดเงินเข้าไป เมื่อเงินหมดจากตลาด หรือภาวะที่ไม่มีเงินในตลาด จะเกิดภาวะที่เรียกว่าเงินฝืด ซึ่งมันทำให้ธุรกิจจริงๆล้ม

ลงทุนเพิ่มขึ้นทำไม supplied ของเงินถึงลดลงล่ะครับ  
แล้วตลาดที่กล่าวถึงนี้ตลาดอะไรเหรอครับ  ตลาดเงิน  หรือ ตลาดเงินกู้

ถ้าในตลาดเงินกู้  คนกู้มาลงทุนมาก ทำไมทำให้ supplied ลดลงล่ะครับ
เพราะพอเค้าใช้จ่ายไป  คนที่รับเงินมา ไม่ลงทุนต่อ  ก็ ออมกลับเข้าธนาคารอยู่ดี  มีแต่ธนาคารจะเพิ่ม ดอกเบี้ย  แล้วทำให้คนมาฝากเงินเพิ่มขึ้นแล้ว  supplied  ก็เพิ่ม

ถ้าตลาดเงิน ผมนึกว่า ขึ้นอยู่กับ แบงค์ชาติจะพิมแบงค์ เพิ่ม  หรือไม่ ส่ะอีกถึงจะมีผลกับ  supplied  ของเงิน

เงินเฟ้ออครับ