หน้า 1 จากทั้งหมด 1
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 08, 2008 2:16 am
โดย V_accy
คืออยากจะรู้ว่าเวลาเพื่อนพี่น้องผองเพื่อน...เลือกซื้อหุ้น ทำการหามูลค่าหุ้นที่เหมาะสมสำหรับตัวเองกันหรือเปล่าครับ แล้วถ้าหาใช้วิธีไหนกันหรือครับ
.
.
.
สำหรับตัวผมเอง เคยเรียนมาหลายวิธี DCF. PE. PBV. Market Cap Div
ก่อนซื้อก็ดูหลายๆวิธี แต่สุดท้ายดูที่ Biz model กับปันผล ตัวอื่นไม่ค่อยได้ใช้
ล่าสุดซื้อหุ้น xxx ก็ดูแค่ว่าธุรกิจก็โอเค โดนกระทบไม่มาก ปันผลก็ดีมาตลอด เทียบกับราคาตอนนี้ประมานสิบกว่าเปอเซน แต่ปีหน้าโดนผลกระทบกำไรลด ปันผลลดลงก็น่าจะอยู่ที่7-8เปอเซน พอดูงบแล้วไม่น่าจะมีปัญหา
ก็ซื้อเลย...
เลยอยากรู้ครับว่าคนอื่นคิดอย่างไร
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 08, 2008 8:44 am
โดย sunrise
ทำเรื่อยๆครับ วิธีที่ง่ายสุด คือ PE ปีหน้า
:lol:
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 08, 2008 9:51 am
โดย chatchai
ดูเงินปันผล ก็คงต้องดูเงินปันผลที่คาดว่าจะจ่ายในอนาคต
แล้วปัจจัยอะไรที่ชี้นำเงินปันผลในอนาคตได้ละครับ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 08, 2008 3:37 pm
โดย miracle
ดูโหวงเฮ้งผู้บริหาร
ตอนตอบคำถาม
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 09, 2008 10:15 am
โดย i_sarut
ดูแนวโน้มการเติบโตของบริษัท :lol:
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 09, 2008 10:25 am
โดย ศิษย์เซียน007
ไม่ประเมินบริษัทที่สนใจ แล้วจะลงทุนยังไงหว่า
ลองศึกษาบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ดูก็ช่วยเบาแรงได้เยอะเลยครับ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 10, 2008 12:37 am
โดย Hughes
จริงๆควรทำนะครับแต่ผมลืมไปหมดและขี้เกียจทำ
ก็ใช้วิธี google "free cash flow" + ชื่อหุ้น
ก็มี DCF ที่ทำมาแล้วโดยพวก ibank.
เสร็จแล้วผมก็ดูว่าเขาใช้ assumption ไรมั่งแล้วก็กะๆเอา (ถ้าผมคิดว่าเขา optimistic เกิน ผมก็ลดลงมาเป็น% ถ้าคิดว่าบริษัทดูจะดีก็เพิ่มไป
พอได้ value ก็เอามาเทียบกับ market price
ลองไปดูกิจการว่าแนวโน้มเป็นไง อย่างร้านอาหารถ้าคนเข้าคิวคอยออกมานอกร้านก็โอเค
ดูประวัติการเงินว่ามีกำไรสม่ำเสมอ
ดู assets ของบริษัท หัก หนี้สินออก เหลือเท่าไหร่ แต่ผมว่าเดายากถ้าไม่ทำงานอยู่ในนั้นดูบัญชีอย่างเดียวไม่รู้เรื่องไร
เสร็จก็ดู P/E ผ่านๆ ไม่ซีเรียส (จริงควรเทียบกับบริษัทคล้ายกัน แต่ผมขี้เกียจ ดูแค่ว่ามันราคาเว่อร์ขนาดไหน ในขณะนั้น)
สุดท้ายก็อ่านร้อยคนร้อยหุ้นว่าพวกเซียนๆเขาคิดไง
confirm กับรุ่นพี่อีกที
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 10, 2008 12:48 am
โดย Hughes
อ้อดู cash on hand ด้วยครับ ถ้าเงินสดเยอะก็ สบายใจหน่อย
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 13, 2008 1:24 am
โดย อินทรีย์ทองแดง
พี่chatchaiครับ free cash flow เนี่ย หมายถึงอะไรเหรอครับ แล้วใช้ตัวเลขจากอะไรบ้างประกอบการคำนวน ช่วยชี้แนะผู้น้อยด้วยเถอะครับ ขอบคุณมากๆครับ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 13, 2008 2:34 am
โดย Hughes
ผมไม่ใช่พี่ chatchai ครับ
ผมเด็กใหม่ chaichat ครับ
ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ
แต่ที่เข้าใจคือ
FCF - from investopedia.com
A measure of financial performance calculated as operating cash flow minus capital expenditures.
Free cash flow (FCF) represents the cash that a company is able to generate after laying out the money required to maintain or expand its asset base.
วิธีทำ valuation วิธีหนึ่งคือ discount cash flow method
วีธีนี้คือการใช้กระแสเงินสดเป็นตัววัดมูลค้าของบริษัท
ทำไมใช้กระแสเงินสดเป็นตัววัด?
อันนี้ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกไหมแต่
ถ้าบริษัทมีกำไรแต่กระแสเงินสดขาดบริษัทก็เจ๊ง
แต่ถ้าบริษัทมีกระแสเงินสดที่ดีแต่ขาดทุนก็ยังดำเนินงานต่อไปได้ (การขาดทุนอาจไปมีผลกระทบกับกระแสเงินสดในอนาคต)
เราก็คิดง่ายๆซะว่าบริษัทเป็นกล่องดำ เอาเงินลงทุนใส่เข้าไปแล้วเราก็ดูว่ามันพ่นเงินสดกลับออกมาปีละเท่าไหร่ถ้าเงินออกมาเยอะแสดงว่าบริษัทก็มูลค่าสูง
เราก็ดูประวัติของบริษัทกับสถานการปัจจุบัญมาคาดเดาผลประกอบการณ์ในอนาคตล่วงหน้าไปซัก 4-5 ปี แล้วก็คำนวนเงินสดที่ได้ทั้งหมดไปถึง infinity (terminal value) แล้ว discount กลับมาที่วันนี้เราก็จะได้มูลค่าของบริษัทในวันนี้
ทั้งนี้เราใช้ความเข้าใจที่ว่าเงินในมือวันนี้มีค่ามากกว่าเงินเท่ากันในอนาคต (ถ้ามีเงินสิบบาทวันนี้เอาไปฝากประจำได้ดอกเบี้ย, ปีหน้าก็มีค่ามากกว่าสิบบาท)
ผมอธิบายรู้เรื่องป่ะครับคือเล่าไม่ค่อยจะเก่ง
ประสปการณ์ก็ยังน้อยนิดนะอิๆ
มีอะไรก็ช่วยแนะนำด้วยครับ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 13, 2008 11:51 pm
โดย อินทรีย์ทองแดง
ขอบคุณครับคุณchaichat ถ้าไม่ดูดีๆเนี่ยนึกว่าพี่ chatchai คนที่คอยตักเตือนน้องๆให้น้องๆระมัดระวังการลงทุน ด้วยข้อความกระชับคนนั้นแล้วซะอีก
อธิบายได้ดีครับ แล้วสมมติถ้าเป็นบริษัทที่มีหนี้ระยะยาว สักสองก้อนในรูปไดก็แล้วแต่ แล้วก็กำลังจะมีการลงทุนใหม่ต่อเนื่อง หรือมีค่าใช้จ่ายด้านบริหารก้อนใหญ่ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นหรือ... ไอ้เจ้าfree cash flow เนี่ยมันจะช่วยอะไรเราได้บ้าง แล้วเราจะหาตัวเลข free cash flow มาได้ยังไง รบกวนนะครับ คุณchaichat หรือพี่ chatchai หรือผู้รู้ท่านอื่นก็ได้ ขอบคุณครับ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 14, 2008 10:06 am
โดย investment biker
Free cash flow = Cash flow from operation - Capital expenditure (Cash from investing activity)
ดูได้จาก Statement of cash flow
Free cash flow เป็นตัวเลขอันดับต้น ๆ ที่ผมดูเลยครับ สำคัญกว่า Net profit เสียอีก ธุรกิจบางอย่างกำไรอาจจะโต แต่ถ้าต้องลงทุนเพิ่มหรือต้องการ working capital เพิ่มตลอด ผถห ก็ไม่ค่อยได้อะไรหรอกครับ อาจจะได้เพิ่มทุน :lol:
เห็นคุณ Sunrise เน้นแต่ตัว PE ปีหน้า มิน่าละ ถึงได้ฉายาว่า Sunrise Effect :lol: (แค่แซวนะครับพี่ Sunny เอ้ย............... ไม่ใช่ พี่ Sunrise)
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 14, 2008 5:30 pm
โดย อินทรีย์ทองแดง
ขอบคุณครับพี่ investment biker ดีใจครับที่ได้คนเก่งอย่างพี่biker มาให้ความรู้ ขอเรียนให้พี่น้องชาวเวปทราบ เท่าที่ผมทราบมาเนี่ย พี่ biker เป็นคนที่มีความรู้ด้านการลงทุนมากกกกคนหนึ่งเลยครับ ไม่ได้รู้จักพี่เค้าเป็นการส่วนตัวหรอกนะครับ ทราบมาจากเพื่อนอีกทีหนึ่ง แล้วก็ติดตามงานpostมา ได้รับประโยชน์มากๆครับ งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ ในเมื่อมีคนเก่งมาสอนหนังสือให้ ไม่ถามก็โง่ละครับ
ได้ยินบ่อยๆครับ ที่หลายๆท่านที่เก่งๆ ให้ความสำคัญกับFCF มากที่สุดเหมือนพี่biker ตะกี้พี่บอกว่า FCF=cash from operating-capital expenditure แล้วพี่ไม่ได้ดูเงินสดที่ได้จากกิจกรรมการจัดหาเงินด้วยหรือครับ เพราะว่าบางธุรกิจเนี่ย เวลาขยายงานทีนึงก็ต้องใช้เงินกู้หรือออกหุ้นกู้ เนื่องจากโครงการมีขนาดใหญ่มาก การใช้เงินทุนจากเงินสดในมือของบริษัทอย่างเดียวไม่มีทางเพียงพอ(บนสมมติฐานที่ว่าบริษัทมีธรรมาภิบาลนะครับ)
เวลาดูFCFว่าดีมากดีน้อยหรือไม่ดีเนี่ย พี่biker ดูยังไงหรือครับ พอจะสอนหน่อยได้มั้ยครับ รบกวนหน่อยนะครับ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 15, 2008 11:22 am
โดย investment biker
ชมเกินไปแล้วท่านอินทรีย์ทองแดง ผมก็เพิ่งจะเริ่มลงทุนได้ประมาณ 3 ปีเอง อาศัยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาก ๆ หน่อยเท่านั้นเอง ตัวเลขต่าง ๆ ในงบการเงินไม่ได้ยากนักถ้าลองศึกษาดู งบการเงินแท้ที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่ภาษาทางธุรกิจที่บ่งบอกว่าธุรกิจนั้น ๆ มีสถานะเป็นอย่างไร
ยิ่งท่านอินทรีย์ทองแดงเป็นคนทำธุรกิจอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าท่านสามารถเรียนรู้ เข้าใจภาษาทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วครับ
อีกสาเหตุหนึ่งที่ผมชอบดู FCF มากกว่า Net Profit เพราะ Net Profit เป็นตัวเลขทางบัญชีที่สามารถตกแต่งได้ (ไม่ยากนัก) แต่ตัวเลขใน Statement of cashflow เป็นการเคลื่อนไหวของเงินสด ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่นอนกว่า
FCF ยิ่งมาก ก็ยิ่งดีครับ ไม่ซับซ้อนอะไร ส่วน Cash flow from financing activity ก็แค่ดูประกอบว่าบริษัทหาเงินมาจากไหนกรณีที่เงินไม่พอ ไม่ทางสร้างหนี้เพิ่ม ก็เพิ่มทุนครับ ที่ผมชอบคือมี FCF เหลือมาก ๆ ครับ ประเภทที่ไม่ต้องพึ่ง cash flow from financing เลย
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 16, 2008 12:19 am
โดย dome@perth
investment biker เขียน:ชมเกินไปแล้วท่านอินทรีย์ทองแดง ผมก็เพิ่งจะเริ่มลงทุนได้ประมาณ 3 ปีเอง อาศัยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาก ๆ หน่อยเท่านั้นเอง ตัวเลขต่าง ๆ ในงบการเงินไม่ได้ยากนักถ้าลองศึกษาดู งบการเงินแท้ที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่ภาษาทางธุรกิจที่บ่งบอกว่าธุรกิจนั้น ๆ มีสถานะเป็นอย่างไร
ยิ่งท่านอินทรีย์ทองแดงเป็นคนทำธุรกิจอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าท่านสามารถเรียนรู้ เข้าใจภาษาทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วครับ
อีกสาเหตุหนึ่งที่ผมชอบดู FCF มากกว่า Net Profit เพราะ Net Profit เป็นตัวเลขทางบัญชีที่สามารถตกแต่งได้ (ไม่ยากนัก) แต่ตัวเลขใน Statement of cashflow เป็นการเคลื่อนไหวของเงินสด ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่นอนกว่า
FCF ยิ่งมาก ก็ยิ่งดีครับ ไม่ซับซ้อนอะไร ส่วน Cash flow from financing activity ก็แค่ดูประกอบว่าบริษัทหาเงินมาจากไหนกรณีที่เงินไม่พอ ไม่ทางสร้างหนี้เพิ่ม ก็เพิ่มทุนครับ ที่ผมชอบคือมี FCF เหลือมาก ๆ ครับ ประเภทที่ไม่ต้องพึ่ง cash flow from financing เลย
เข้ามาเห็นด้วยครับ ผมเคยให้ความสำคัญกับงบกำไรขาดทุน มาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกหุ้น
วันนี้ วันที่เศรฐกิจถดถอย การรักษาระดับการทำกำไร อยากขึ้น การแข่งขันเริ่มรุนแรงขึ้น ผมให้ความสำคัญ กับงบกระแสเงินสดมากครับ โดยเฉพาะการสร้าง FCF มาเป็นที่หนึ่ง
Cash flow มันหมายถึงเลือดที่หล่อเลี้ยงบริษัท ให้อยู่รอด ในภาวะการแข่งขันที่รุนแรง กำลังจะเริ่มขึ้น
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 16, 2008 2:30 pm
โดย Juninho
pe ปีหน้า และคาดว่าจะโกรทต่อเนื่องหลายปี
ในหุ้นที่มีรายได้ไม่สม่าเสมอ
หากใครดู pe ปีหน้าปีเดียว
อาจเจ็บหนักได้เหมือนกัน
หากลืมดู pe สองปีหน้า
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 16, 2008 10:05 pm
โดย อินทรีย์ทองแดง
ชมเกินไปแล้วท่านอินทรีย์ทองแดง ผมก็เพิ่งจะเริ่มลงทุนได้ประมาณ 3 ปีเอง อาศัยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาก ๆ หน่อยเท่านั้นเอง ตัวเลขต่าง ๆ ในงบการเงินไม่ได้ยากนักถ้าลองศึกษาดู งบการเงินแท้ที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่ภาษาทางธุรกิจที่บ่งบอกว่าธุรกิจนั้น ๆ มีสถานะเป็นอย่างไร
ไม่ได้ตั้งใจจะยกยอพี่ biker หรอกครับ แต่อยากให้เพื่อนๆในเวปได้รู้จักคนมีความสามารถ ซึ่งบางครั้งหากผู้ที่เป็นมือใหม่ต้องการความช่วยเหลือหรือขอความรู้ ก็จะมีพี่ biker คนนึงละที่พึ่งได้ (ดีกว่าพวกpostเพื่อเชียร์หุ้น หรือหวังจะออกของ) อยากให้เวปนี้เป็นแหล่งสร้างสรรค์ความรู้ เพราะตัวผมเองก็เข้ามาตักตวงหาความรู้จากเวปนี้ไปก็ไม่ใช่น้อย เข้ามาแบ่งปันความรู้กันดีกว่าครับ
ยิ่งท่านอินทรีย์ทองแดงเป็นคนทำธุรกิจอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าท่านสามารถเรียนรู้ เข้าใจภาษาทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วครับ
ก็เพราะทำธุกิจเนี่ยแหละครับ ภาษาทางธุรกิจเนี่ยผมเข้าใจได้นะครับ แต่ไอ้ที่อยู่ในงบผมว่ามันน่าจะเรียกว่าภาษาทางการเงินมากกว่า บางทีก็สับสนเหมือนกัน โดยส่วนตัวผมก็จะดูรวมๆประกอบกันไปว่า กิจการมีรายรับเป็นcashหรือปล่อยเครดิต บริษัทมีหนี้เท่าไหร่ กำไรที่เป็นเงินสดที่เข้ามาหักจากที่จ่ายดอกแล้วคุ้มกับเงินกู้หรือเปล่า โดยส่วนตัวชอบธุรกิจที่มีรายได้เป็นเงินสด ยิ่งยิงตรงถึงผู้บริโภคเลยยิ่งดี ธุรกิจประเภทรับเหมาหรือoemเนี่ยไม่เป็นเลยครับ ขี้เกียจแกะงบ(ไม่ค่อยเป็นด้วย) ที่ถามถึงFCF ผมยอมรับว่าไม่ค่อยgetกับไอ้คำๆนี้เท่าไหร่ ประมาณว่าเงินมันจะอิสระได้ไงอ่ะ ก็ยังติดหนี้เค้าอยู่นี่นา ถ้าอยากอิสระก็ชดใช้หนี้เค้าให้หมดก่อนดิ นึกถึงตอนที่เรียนฟิสิกส์ ม.ปลาย สูตรเยอะแยะเต็มไปหมด พอเข้าห้องสอบผมมักจะจำแต่สูตรพื้นฐาน(F=ma, v=u+at......) แล้วไปดัดแปลงเอาในห้องสอบ ซึ่งเสียเวลากว่าเพื่อนที่จำสูตรลัดไปใช้ ซึ่งได้คำตอบเหมือนๆกันแต่เค้าเร็วกว่า คล้ายๆกับที่พี่biker ดูที่FCF แล้วนำไปใช้ได้เลย แต่ผมต้องดูตั้งหลายอย่างแน่ะ สุดท้ายแล้วเราก็เลือกวิธีที่เราถนัด แล้วก็เพราะผมทำธุรกิจเนี่ยแหละ ทำให้ต้องทำความเข้าใจมุมมองของนักลงทุน เพราะเวลาผมทำธุรกิจเนี่ยไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน จะไม่พยายามเป็นหนี้ ตัดจบธุรกรรมทางฝั่งซื้อด้วยเงินสดไม่ใช้เช็คเพราะต้องการให้จบตรงนั้นทันทีไม่ยื้อกับเจ้าหนี้ สินค้าเข้ามาแล้วออกให้ไวที่สุด เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดไปเล่นตัวอื่นต่อ หรือของยังมาไม่ถึงมือเราแต่เราปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายเราจะเหลือสต๊อกเท่าที่จำเป็นกับของที่กำลังจะขึ้นราคา เวลาทำธุรกิจ เอกสารของผมจะน้อยชิ้นมากเหมือนพ่อค้าโบราณ ตรงนี้พอมาเจอภาษาทางการเงินมันก็เลยเอ๋อๆแหละครับ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ประเมินมูลค่าหุ้นกันหรือเปล่าครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 16, 2008 10:11 pm
โดย อินทรีย์ทองแดง
พี่biker ครับ ธุรกิจที่เหลือ FCFมากๆ แล้วก็ไม่ต้องพึง cash flow from financing เนี่ย บริษัทไหนหว่า ใช่ b..... มั้ยครับ