Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ช่วยคิดหน่อยนะครับ

2 คำถามที่ท่านอยากถาม Warren Buffett และ เหตุผลที่ท่านคิดว่า 2 คำถามนั้น สำคัญ
==============================
Warren Buffett Trip Application April 16-17, 2009

THE TRIP
This is the fourth straight year the Carlson School of Management has been invited by Berkshire Hathaway to attend an audience with renowned investor, businessman and philanthropist Warren Buffett.  The Carlson School group will leave via bus on April 16 and overnight in Omaha.  The audience with Mr. Buffett will take place on April 17 and the group will travel back to the Twin Cities that evening.  

This year the number of students participating will be limited, due to Berkshire increasing the number of schools visiting Omaha this year.  The Carlson School will be attending with the University of Chicago, Columbia, MIT, and Northwestern.  This trip is truly a special opportunity and one that requires active engagement, reasoned questions, and professionalism throughout.

This application will be used to select the participants representing the Carlson School.  Both Full-Time MBA students and some Carlson undergraduate applicants will be considered.  Application deadline is January 4th, 2009.  Applications will be reviewed by faculty, staff and a MBA Association officer, with decisions made in late January.

Students will be responsible for all travel, food, and lodging expenses on the trip.  The Carlson School will arrange a bus for all students to travel on.  The trip fee will be announced in January (fee and hotel costs currently estimated between $150-$200).  


QUESTIONS
To evaluate applicants, were asking you to think in advance of the opportunity.  Please be thoughtful regarding your questions.  Do not workshop questions in groups.  Each student should submit questions independent of one another.  If your question is selected by the group leader, you will be expected to stand up and ask this question directly to Mr. Buffett.  Both the quality of your questions and their rationale will be considered in the applicant selection process.


1) If selected to attend the Buffett trip, what are two questions you would ask him?

2) Why are these questions significant?


Electronically return applications to [email protected] by January 4th, 2009.
Applicants will be informed of decisions in late January.  A pre-trip meeting will be required of all participants prior to the date.  A short waitlist will be maintained in the case any accepted students withdraw beforehand.  Students will be responsible for all travel, food, and lodging expenses on the trip.  The trip fee will be announced in January.  The Carlson School will be arranging a bus for all students to travel on.

มีแต่คนเข้ามาดู ไม่มีคนช่วยตอบเลย หรือว่ากำลังคิดกันอยู่...

ขอจริงๆนะครับ ไม่ได้เป็นเหตุการณ์สมมุติ

1. คุณเริ่มต้นด้วยการทำงานในแวดวงการเงิน นั่นอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณเรียนรู้การลงทุนได้ไว
ถ้าคุณเป็นพนักงานกินเงินเดือนที่มีเวลาว่างพอจะศึกษาการลงทุนวันละ 3 ชม.
มีเงินเก็บเดือนละแค่ 100$ + 10% ทุกปี
งานของคุณไม่เกี่ยวกับการเงินเลยและฝันอยากเป็นนักลงทุนอาชีพบ้าง
คุณจะวางแผนการใช้ชีวิตและลงทุนอย่างไร จึงจะทำความฝันให้้เป็นจริง

2. หากคุณเกิดในประเทศเล็ก ๆ ที่พึ่งมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
และคุณมีเงินลงทุน 5000$ คุณจะลงทุนอย่างไร
เป้าหมายการลงทุนคือมีเงินต้น 200000$ เพื่อที่จะได้
DIV 10% = 20000$ ต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

เพราะยังมีคนอีกมากมายในโลกนี้ที่อยู่นอกอเมริกา เป็นผู้ขาดโอกาส
แม้เขาต้องดิ้นรนมากขึ้นหลายเท่าเขาก็ยังอยากทำฝันให้เป็นจริง
คำถามนี้จึงเป็นตัวแทนของคนมากมายนอกอเมริกาที่มีความหวัง
และอยากได้รับแนวทางที่ทำได้จริง จากคนที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้

ุปล.ถ้าได้ถามสองข้อนี้อย่าลืมอัดเสียงคำตอบมาแจกนะครับ  

เข้ามาช่วยคุณเบนคิด แต่คิดออกข้อเดียว

ในเมื่อคุณปู่เป็นคนค่อนข้างมัธยัสถ์ เงินที่ได้มาเห็นก็เอาไปบริจาคเกือบหมด แบบนี้เป้าหมายในการลงทุนของคุณปู่คืออะไร เพราะคนส่วนใหญ่เน้นเป้าหมายที่ wealth ของตัวเองแท้ๆ แต่ก็ยังพยายามได้ไม่ดีเพียงพอเลย เราว่าเป้าหมายของคุณปู่น่าจะเป็นอะไรที่สร้างแรงบันดาลใจมากกว่านั้น (เราว่า esteem need ของคุณปู่น่าสนใจดีก็เลยอยากรู้)

1. มีมุมมองต่อตลาดหุ้นและหุ้นไทย รวมถึงวิธีลงทุนแบบ VI ในไทยว่ายังงัย วิธีที่พวกเรา thaivi ใช้ๆกันตอนนี้ แกมีความเห็นว่ายังงัย
(ข้อนี้แกคงตอบว่า จะไปรู้หรอ...หุ้นไทยไม่เคยแล ....)

2. คิดว่าตัวปู่เองเป็น VI อย่างที่เค้าว่าๆกันหรือเปล่า....ถ้าเป็นๆสักกี่% ไม่ได้ใช้เทคนิคัลเลยในช่วง 50 ปีมานี้จริงๆรึป่าว

ขอขอบคุณทุกๆความคิดเลยครับ เป็นคำถามทีดีทีเดียว

โจทย์เค้าไม่ไห้จับกลุ่มช่วยกันคิด Do not workshop questions in groups
แต่เพราะว่าอยากจะดันน้องคนนึงให้ไปให้ถึงในจุดที่หลายๆคนอยากไป อย่างน้อยก็จะได้นำประสบการณ์ดีๆ มาฝากพวกเราชาว VI แล้วผมก็คิดว่า เวปบอร์ทนี้คือที่สุดของศูนย์รวม VI ทั้งประเทศแล้ว

ดังนั้นผมรบกวนกูรู หลายๆท่านช่วยกันระดมคิดหน่อยนะครับ เพื่อจะมาคัด 2 คำถามที่เจ๋งที่สุดจริงๆ อันนี้ถือเป็นการเอาเปรียบฝรั่งนิดหน่อย เพราะว่าพวกเค้าคิดกันคนเดียว แต่น้องคนนี้ระดมความคิดจาก VI ทั้งประเทศ

ถ้าหลายๆคนช่วยกันคิดจริงๆ ผมว่าจะต้องเป็นคำถามที่สุดยอด ที่จะทำให้น้องคนนี้ได้รับคัดเลือก แน่นอนครับ

รบกวนด้วยนะครับ

หมดเขตส่ง วันที่ 3 มกราคม นะครับ

ผมมีคำถามนึงถามไปหลายกระทู้แล้ว หากยึดหลักการของปู่ที่บอกซื้อหุ้นที่ดีมีกำไร แล้วถือจนกว่าจะตาย ถามว่าจะได้ประโยชน์อะไรกับการซื้อหุ้น เบริกไชน์ที่ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล (จะเอาอะไรกินถ้าไม่ขายหุ้นกิน) ซึ่งขัดกับหลักการของปู่อย่างร้ายแรง

ziannoom เขียน:ผมมีคำถามนึงถามไปหลายกระทู้แล้ว หากยึดหลักการของปู่ที่บอกซื้อหุ้นที่ดีมีกำไร แล้วถือจนกว่าจะตาย ถามว่าจะได้ประโยชน์อะไรกับการซื้อหุ้น เบริกไชน์ที่ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล (จะเอาอะไรกินถ้าไม่ขายหุ้นกิน) ซึ่งขัดกับหลักการของปู่อย่างร้ายแรง

จริงๆ คำถามนี้ผมตอบได้ครับ ต้องขออภัยที่ในกระทู้ที่คุณ ziannoom ถาม ผมตอบสั้นไปหน่อย

ข้อแรกเลย ผมอยากให้แยกแยะ ระหว่าง หลักการของการเลือกหุ้น กับ หลักการของการลงทุนออกจากกันก่อนครับ ที่คุณ ziannoom สงสัยเนี่ยะ เป็นเพราะว่าไม่ได้แยกสองอย่างนี้ออกจากกันน่ะครับ

เรื่องที่บัฟเฟตพูดว่าซื้อหุ้นที่ดีมีกำไร แล้วอยากถือไว้ตลอดชีวิต ไม่ได้หมายความว่า บัฟเฟตซื้อหุ้นแล้วไม่ขาย แต่หมายถึงหลักการคิดที่ว่า ซื้อเพื่อที่จะเป็นเจ้าของกิจการ แล้วถือตราบเท่าที่กิจการยังเป็นกิจการที่ดี ดังนั้นเมื่อหุ้นขึ้นจึงไม่จำเป็นต้องขาย แล้วเค้าก็อยากให้มันดีไปแบบที่คิดไว้ตลอดชีวิต จึงไม่จำเป็นต้องขายหุ้นตัวนั้นออกมา แต่ไม่ได้หมายความว่าห้ามขาย หลักการที่เค้าสอนคือ ตลาดมีความผันผวน บางช่วงตลาดให้มูลค่าของหุ้นบางตัวนั้น ต่ำกว่าความเป็นจริง บางช่วงตลาดให้มูลค่าของหุ้นบางตัวสูงเกินความเป็นจริง ดังนั้นเราจะรู้ว่ามันสูงเกินหรือต่ำเกิน เราก็ต้องสามารถที่จะ ประเมิณ มูลค่ากิจการ(มูลค่าหุ้น)ออกมาให้ได้ก่อน เมื่อเราประเมิณมูลค่าหุ้น ได้แล้ว เราก็พร้อมจะขาย ถ้าหากตลาดให้ราคาหุ้นที่เราถืออยู่สูงเกินความเป็นจริง หรือว่า เราเจอกิจการอื่นที่ดีกว่า ราคาน่าสนใจกว่า

การคิดแบบนี้ ถ้าคุณเลือกหุ้นถูกตัว คุณจะไม่ซื้อๆขายๆบ่อย เพราะว่ากิจการจะต้องใช้ระยะเวลาในการที่จะดำเนินธุรกิจ ไม่สามารถที่จะเติบโตก้าวกระโดดเพียงชั่วข้ามคืน และ เราคงไม่เก่งขนาดเจอหุ้นที่ดีกว่า ได้ทุกวัน

จึงเป็นที่มาของการ ซื้อแล้วไม่อยากขาย อยากถือตลอดชีวิต

ส่วนเบิร์กไชน์ ไม่จ่ายปันผล เนี่ยะ เพราะว่า 1 ดอลล่าร์ที่บัฟเฟตถือไว้ สามารถ เพิ่มมูลค่าได้มากกว่า 1 ดอลล่าร์ที่อยู่ในมือคนอื่น (ผมอยากพูดให้ได้แบบนี้บ้างจัง) ดังนั้นการที่บัฟเฟต ไม่จ่ายปันผล ไม่ได้หมายความว่าเอาเปรียบผู้ถือหุ้น แต่เป็นการบอกว่า เค้าบริหารแล้วจะมีดอกผลงอกเงยมากกว่า แล้วสุดท้าย ผู้ถือหุ้นทุกคนก็จะได้ประโยชน์ มากกว่า การปันผลออกมาแล้วต่างคนต่างบริหาร จริงๆ บัฟเฟตคิดเรื่องนี้ไม่เฉพาะเรื่องการปันผล เรื่องบริจาคก็ด้วย เค้ารู้สึกว่า พวกที่มาขอบริจาค ใช้เงินไม่คุ้มค่า ดังนั้นส่วนใหญ่เค้าก็เลยไม่บริจาค จนหลายๆคนโจมตีเค้าว่าเป็นเศรษฐีขี้เหนียว แต่บัฟเฟตก็บอกว่า ไม่ต้องห่วง ถ้าเค้าตายจะเกิดการบริจาคครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แน่นอน (เรื่องการบริจาคบัฟเฟตเปลี่ยนคอนเซ็ปนิดหน่อย คือ ไม่ต้องรอตายแล้วค่อยบริจาค เล่าแล้วเดี๋ยวจะผิดประเด็น ขอละเอาไว้ก่อนแล้วกัน)


ทีนี้มาดูหลักการในการลงทุนกันครับ
เริ่มต้นด้วยการหาเงิน ใช้เงิน เก็บเงิน ถ้าเราใช้มากกว่าหา เราก็จะไม่มีเหลือเก็บ ดังนั้นเราต้องบริหารจัดการให้เรามีเงินเหลือเก็บ ให้เยอะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนจะเท่าไหร่ก็แล้วแต่คน
เมื่อเรามีเงินออมแล้ว เราก็ค่อย แบ่งส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นก้อนใหญ่ที่สุดเอาไปไว้ในที่ที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อได้ และ ทวีมูลค่าของหุ้นให้มากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าเราใช้เงินที่ถูกกันส่วนออกมาสำหรับการลงทุนมาลงทุนในหุ้นแล้ว เราก็จะไม่เกิดปัญหาเหมือนที่คุณ ziannoom สงสัยครับ เนื่องจากมันเป็นเงินคนละก้อนกันครับ

อย่างไรก็ดี ยินดีสำหรับคำถามอื่นๆ ที่อยากถามบัฟเฟตนะครับ

ปู่มีเงินแล้วปู่มีความสุขมั๊ย

แล้วการหาความสุขขอปู่จำเป็นต้องใช้เงินตลอดมั๊ย

2 ข้อนี้ที่อยากถามปู่มากๆ

คิดอย่างไรกับประเทศไทย
คิดอย่างไรกับเศรษฐกิจในอีก 3 ปีข้างหน้าครับ

ขอบคุณครับพี่เบน

ขอโหวตให้คำถามของพี่ FaNtaSistA ครับ

 :D

นอกจากการที่ปู่คิดว่าช่วงนี้เป็นโอกาศที่จะซื้อของถูกแล้ว
ปู่มีแนวคิดหรือได้ช่วยเหลือประเทศปู่เองบ้างหรือเปล่า
(ถ้าไม่นับเรื่องบริจาคเงิน)

ขอโหวตคำถามของคุณ FaNtaSistA เลยครับ

โดนใจจริงๆ

1. ท่านคิดจะลงทุนในประเทศไทยหรือไม่ ถ้าไม่เพราะอะไร ถ้าคิดลงทุน ลงทุนอะไร เพราะอะไร
2. ท่านคิดว่าอะไรเป็น Key Success Factor ในการลงทุนของท่านที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

1. คุณคิดอย่างไรกันผู้หญิงไทย สวยไหม
2. คุณเคยทานอาหารไทยหรือไม่ อร่อยไหม

เอ่อ คือ ... ขอจริงๆหน่อยสิครับ

น้องที่อยู่เมกา เค้าเข้ามารอลุ้นคำถามเด็ดๆ ทุกคืนเลยนะครับ

ช่วยพี่เบน(เบอนันกี้)คิดบ้าง

1. จากนี้ไป คุณคิดว่าจะมีนักลงทุนรุ่นใหม่คนใดเอาชนะคุณได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้เพราะอะไร และถ้าทำได้อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาชนะคุณ

2. คุณอยากได้(หรืออยากทำ)อะไรเป็นของขวัญวันเกิดปีที่ 80 และเช่นเดียวกันขอปีที่ 90 กับปีที่ 100 ด้วยนะ

 :8)  :8)

ขอเสนอ 1 คำถามก่อนแล้วกันนะครับ
ถ้าคิดได้อีกจะมาเพิ่มให้ครับ

1. ถ้าในโลกนี้ไม่มีธุรกิจ หรือ หุ้นให้ท่านลงทุนแล้ว ท่านคิดว่าท่านจะทำอาชีพอะไร และคิดว่าตัวเองจะทำสิ่งนั้น
ให้ประสบความสำเร็จเหมือนการลงทุนในหุ้นไ้ด้หรือไม่

มาช่วยต่อน้องกร ข้อ2

ถ้าปู่เกิดในโซมาเลีย ซิมบับเว หรือเอทิโอเปีย ปู่จะลงทุนอย่างไร

ขออีกข้อนึงน่า....ปู่ใช้เงินวันละเท่าไหร่

AuI_a VI เขียน:ขออีกข้อนึงน่า....ปู่ใช้เงินวันละเท่าไหร่

 :cheers:

อันนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ
อิอิ

AuI_a VI เขียน:มาช่วยต่อน้องกร ข้อ2

ถ้าปู่เกิดในโซมาเลีย ซิมบับเว หรือเอทิโอเปีย ปู่จะลงทุนอย่างไร

ขออีกข้อนึงน่า....ปู่ใช้เงินวันละเท่าไหร่

หวังว่าปู่คงไม่ตอบว่า จะไปเป็นโจรสลัดนะ  

1. If u have less money( < 4000 USD) , which style u gonna invest?and why?still holding forever or buy cheap , sell high with rational based?

2.What's your reason behind of donating almost all of your money?What's the result you need to see for this donation?

FaNtaSistA เขียน:หวังว่าปู่คงไม่ตอบว่า จะไปเป็นโจรสลัดนะ  

ถ้าเ้ป็นเช่นนั้น ผมก็คงต้องเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์โจรสลัดแล้วละครับ

You used to say that if you were born in Bangladesh, your investment skill would be useless. It's mean that Value Investment approach is not always be a successful thoery? People in those underdevelopment country cannot be the successful investor like you?

เริ่มมีคำถามเจ๋งๆมาเพิ่มอีกแล้ว ยังไงก็ช่วยๆกันคิดต่อกันอีกหน่อยนะครับ หมดเขต 3 มค. นี้