ใช่ความเห็นของ ดร. จริงหรือเปล่าครับ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 03, 2009 6:08 pm
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 83276.html
เซียนหุ้นแนะกลยุทธ์ลงทุนปี"52 อย่าเพิ่งรีบร้อนกระโจนเข้าตลาดหุ้น แนะถือเงินสดป้องกันความเสี่ยง รอจังหวะเข้าลงทุนครึ่งปีหลัง
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน กล่าวแนะนำการลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย ในปี 2552 ว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ยังมีความเสี่ยง เพราะคาดการณ์เศรษฐกิจได้ยาก ดังนั้น การลงทุนต้องระมัดระวัง โดยแนะทางเลือกให้ถือเงินสดระยะสั้นโดยการฝากบัญชีออมทรัพย์
ทั้งนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องคอยติดตามพัฒนาการของวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 ว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นหรือไม่ หากดีขึ้น ก็เข้าไปซื้อหุ้นได้
อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นก็ให้รอดูไตรมาส 2 ต่อไป
"คาดว่าภายในครึ่งปีแรกจะเริ่มมองเห็นแนวโน้มทางเศรษฐกิจได้ หากพ้นจากระยะดังกล่าวแล้วพบว่าสภาพเศรษฐกิจไม่ดีนัก แนะนำให้ถือเงินสดต่อไป หรือเข้าซื้อตราสารหนี้ที่มั่นคง"
สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งทางตรงและผ่านกองทุนอสังหาฯ ในขณะนี้ถือว่ายังไม่เหมาะสม เพราะอสังหาฯ ของไทยถือว่ายังมีราคาสูง
ทั้งนี้ เนื่องจากคนไทยยังไม่ขาดเงินและไม่มีการก่อหนี้มากจนต้องขายอสังหาฯ เพื่อชำระหนี้เหมือนปี 2540 เช่นเดียวกับทองคำ ที่ยังไม่น่าลงทุนเช่นกันเนื่องจากราคายังทรงตัวในระดับสูง
ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์ กล่าวว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยที่กระทบต่อตลาดหุ้นไทยถึงร้อยละ 70-80 ดังนั้น นักลงทุนไทย ควรรอการฟื้นตัวของต่างชาติเห็นหลัก
โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากในครึ่งปีแรกต่างชาติยังไม่มั่นใจในสภาวะเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม บทเรียนสำคัญในการลงทุนจากปีที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนต้องตระหนักถึงความระมัดระวังทั้งการลงทุนและการบริโภคเพื่อรองรับภาวะความผันผวนที่คาดไม่ถึง
นอกจากนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นที่ต้องพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ หลังจากที่ราคาหุ้นตกลงมาถึงร้อยละ 60-70 จากในช่วงก่อนหน้านี้
==========
เป็นความเห็นของ ดร. จริงหรือเปล่าเนี่ย
หรือนักข่าวเขียนข่าวมั่วกันไปเอง
เซียนหุ้นแนะกลยุทธ์ลงทุนปี"52 อย่าเพิ่งรีบร้อนกระโจนเข้าตลาดหุ้น แนะถือเงินสดป้องกันความเสี่ยง รอจังหวะเข้าลงทุนครึ่งปีหลัง
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน กล่าวแนะนำการลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย ในปี 2552 ว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ยังมีความเสี่ยง เพราะคาดการณ์เศรษฐกิจได้ยาก ดังนั้น การลงทุนต้องระมัดระวัง โดยแนะทางเลือกให้ถือเงินสดระยะสั้นโดยการฝากบัญชีออมทรัพย์
ทั้งนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องคอยติดตามพัฒนาการของวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 ว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นหรือไม่ หากดีขึ้น ก็เข้าไปซื้อหุ้นได้
อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นก็ให้รอดูไตรมาส 2 ต่อไป
"คาดว่าภายในครึ่งปีแรกจะเริ่มมองเห็นแนวโน้มทางเศรษฐกิจได้ หากพ้นจากระยะดังกล่าวแล้วพบว่าสภาพเศรษฐกิจไม่ดีนัก แนะนำให้ถือเงินสดต่อไป หรือเข้าซื้อตราสารหนี้ที่มั่นคง"
สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งทางตรงและผ่านกองทุนอสังหาฯ ในขณะนี้ถือว่ายังไม่เหมาะสม เพราะอสังหาฯ ของไทยถือว่ายังมีราคาสูง
ทั้งนี้ เนื่องจากคนไทยยังไม่ขาดเงินและไม่มีการก่อหนี้มากจนต้องขายอสังหาฯ เพื่อชำระหนี้เหมือนปี 2540 เช่นเดียวกับทองคำ ที่ยังไม่น่าลงทุนเช่นกันเนื่องจากราคายังทรงตัวในระดับสูง
ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์ กล่าวว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยที่กระทบต่อตลาดหุ้นไทยถึงร้อยละ 70-80 ดังนั้น นักลงทุนไทย ควรรอการฟื้นตัวของต่างชาติเห็นหลัก
โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากในครึ่งปีแรกต่างชาติยังไม่มั่นใจในสภาวะเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม บทเรียนสำคัญในการลงทุนจากปีที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนต้องตระหนักถึงความระมัดระวังทั้งการลงทุนและการบริโภคเพื่อรองรับภาวะความผันผวนที่คาดไม่ถึง
นอกจากนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นที่ต้องพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ หลังจากที่ราคาหุ้นตกลงมาถึงร้อยละ 60-70 จากในช่วงก่อนหน้านี้
==========
เป็นความเห็นของ ดร. จริงหรือเปล่าเนี่ย
หรือนักข่าวเขียนข่าวมั่วกันไปเอง