Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ของคุณ สิริมงคล ซึ่งไม่ได้บอกว่า ลอกใครต่อมาอีกที
ผมเห็นว่า อาจมีประโยชน์ หรือช่วยให้ไม่ตกเป็นเหยื่อได้
จึงลอกมาไว้ที่นี่อีกทีครับ

เล่นหุ้นตามข่าว
ข่าวเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการลงทุนในตลาดหุ้น

ข่าว และ ตลาดหุ้น มักจะแยกกันไม่ออก เมื่อ มีตลาดหุ้น ก็ต้องมีข่าวตาม มาอยู่เสมอ คำถามที่เป็น คำถามยอดฮิตติดอันดับ ในตลาดหุ้น หรือ ในห้องค้า จะต้องมีทุกวัน คือ " วันนี้มี ข่าว อะไรไหมครับ (คะ) " ผมว่า อาจจะติด อันดับ 1 ก็เป็นได้นะครับ ไม่เชื่อ คุณลอง สังเกตตัวเอง ดูว่า เมื่อคุณไปที่ห้องค้า คุณคงหนีไม่พ้นคำถามที่ว่านี่ อาจจะถาม marketing หรือ เพื่อนๆ ในห้องค้ากันเอง

ข่าวที่มีในตลาดหุ้นนั้น ผมลองประเมินดูแล้ว อาจจะแบ่ง ออกได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 เป็นข่าวจริง ที่ ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร จากตลาดหลักทรัพย์เอง หน่วยงานทางราชการ หรื อจากบริษัท จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ ข่าวพวกนี้จะมีความเชื่อถือได้ ( แต่ไม่ 100 % นะครับ ...) และ ไม่ผิดพลาด นักลุงทุนสามารถ ใช้ เป็น ข้ออ้างอิงได้ แต่ข้อเสีย ก็ คือ ช้า ครับ ที่นักลงทุนชอบพูดว่า ไม่ทันกิน
กลุ่มที่ 2 เป็นข่าวที่เรียกว่า insider ข่าวพวกนี้ แหละครับ ที่เป็นที่ต้องการของ นักลงทุนอย่าง มาก..ก..ก..ก เพราะเป็นข่าว ที่รั่วไหลออกมา จาก บริษัท คนที่รู้เร็วกว่า ก็จะได้เปรียบ ถ้า เป็นข่าวดี ก็จะได้ซื้อก่อน มีกำไรมากกว่า หรือ ถ้า เป็น ข่าวร้าย ก็ จะได้ ขายตัด ขาดทุนไปก่อน เรียกว่ารู้ก่อนก็ได้เปรียบก่อนเต็มประ ตู แต่ข่าวประเภทนี้จะมีน้อยมาก ( ..ก็ เป็น insider นี่ จะให้รู้ได้ยังไง) และ นี่ แหละจะเป็นช่องทางให้เกิดข่าวในกลุ่มที่ 3
กลุ่มที่ 3 เรียกว่า ข่าวลือ เป็นข่าวที่ เกิดขึ้นได้ง่าย และ บ่อย มักเป็นข่าวที่ออกมาจาก รายใหญ่ นักปั่นหุ้น จุดประสงค์ เพื่อ เป็นกว่าหลอกนักลงทุนรายย่อย ข่าวประเภทนี้ ต้องแยกให้ออก ข่าวจะ เป็นที่สนอกสนใจของนักลงทุนมาก เพราะทุกคนก็หวังว่า จะเป็นข่าว insider
--------------------------------------------------------------------------------

การเดินทางของข่าว

ข่าว insider ----> ข่าวลือ --------> ข่าวจริง

เราจะเห็นว่า insider จะ เร็วที่สุด

ข่าวจริง ช้าที่สุด

ข่าวลือ ยุ่งยากใจ และ ทำให้ปวดหัวมากที่สุด



ข่าวลือ กับ รายใหญ่ ข่าวลือ มักจะออกมาจากรายใหญ่ จุดประสงค์ เพื่อ ให้มีการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น ทั้งทางที่ดี และ ร้าย

ตัวอย่าง

หุ้นขาขึ้น

รายใหญ่ เก็บหุ้นได้มากพอแล้ว -------> ไล่ราคาก่อน -------> ปล่อยข่าวดี ------> ไล่ราคาต่อ ------> รายย่อยเข้าซื้อหุ้น -------> รายใหญ่ เทขาย หยุดไล่ ------> รายย่อย ติดหุ้น -------> ข่าวออกมาว่าไม่จริง -------> รายย่อยหนีตาย -------> ราคาหุ้นตก ------> ราคากลับมาที่เดิม

จบการไล่หุ้น 1 รอบ รออีกนาน ครับ รายใหญ่เก็บหุ้นได้เพียงพอก่อน จึงจะ มาไล่ใหม่



หุ้นขาลง

ไม่มีการเก็บหุ้นของรายใหญ่ ------> ปล่อยข่าวร้าย ------> ทุบหุ้นนำ -----> รายย่อย เทขาย หนีตายก่อน ------> รายใหญ่ทุบหุ้นเป็นระยะๆ ------> ราคาตกจนรายใหญ่พอใจ ------> ตั้งรับ และ เก็บหุ้น (ใช้เวลานานหน่อย) -------> มีการแก้ข่าว หรือ ปล่อยให้ข่าวจางหายไป -------> รายย่อยเสียค่าโง่

จบการทุบหุ้น 1 รอบ รายใหญ่เก็บหุ้นได้เพียงพอ จะไล่ใหม่เลย หรือ รอ ก่อนซักระยะ



นักลงทุนจะเห็นว่า เมื่อ รวมทั้ง ตลาดหุ้นขาขึ้น และ ขาลง รายย่อย จะ ย่อยยับ แค่ไหน

ระยะที่เป็นขาขึ้น ข่าวร้ายจะร้ายน้อย ข่าวดีจะดีมาก

ระยะที่เป็นขาลง ข่าวร้ายจะรายมาก ข่าวดีจะดีน้อย

ฉะนั้นจะต้องดูข่าวให้ดี ถ้าจะว่ากันง่ายๆ คือ ดูภาวะของตลาด และ ข่าวที่ออกมา

ความรุนแรงต่อราคาหุ้น = ภาวะของตลาด x ความสำคัญของเนื้อข่าว




--------------------------------------------------------------------------------

ข้อสังเกตที่ผมจะให้ไว้

ข่าวที่เป็นข่าว insider

บุคคล วงใน ผู้รู้ จะกระจายจาก ผู้บริหาร ---> พนักงาน -----> ผู้เกี่ยวข้องรอบข้าง

จะใช้เวลา เดินทาง 2-3 สับดาห์ ไม่เกิน 1 เดือน

ราคาจะค่อยๆขยับ และ ปริมาณจะค่อยๆเพิ่มขึ้น ตามระยะเวลา

จากนั้น ราคาจะวิ่งไปเรื่อยๆ เมื่อ หยุด ราคาจะไม่ค่อยตก เพราะ ถือว่า ปัจจัยพื้นฐาน เปลี่ยนไป

ข่าวลือ

ถ้ารายใหญ่ เป็นผู้ปล่อยข่าว ทั้ง ราคา และ ปริมาณ จะมีการเพิ่มขึ้น หรือ ลดลง อย่างรวดเร็ว และ รุนแรงมาก ราคาจะไปไกลมาก ตราบเท่าที่รายใหญ่ยังไม่ทิ้ง
ถ้าเป็นข่าวลือ ที่ รายย่อย ลือกันเอง ราคาอาจจะขยับไม่ไกล ปริมาณ การซื้อ ขาย ไม่มาก ราคาผันผวน ราคาไปไม่มาก และ จะหยุด เล่นในที่สุด
--------------------------------------------------------------------------------

การดักทางรายใหญ่

เป็นข้อสังเกตจากประสบการณ์ นะครับ ผมขอเรียกว่า ซื้อดักทางรายใหญ่ เอาแค่หักการก่อนนะครับ เพราะ รายละเอียดจะต้องศึกษา และ ติดตามของจริงในตลาด

หลักการ

รายใหญ่ จะมีหุ้น อยู่ในมือ จำนวนหนึ่ง เพื่อ การปั่น อาจจะ 3 - 4 ตัว แต่ละตัว จะมีมาก

การไล่ราคา รายใหญ่ จะไม่สามารถ ไล่ราคา พร้อม กันที่ละ หลายๆตัว ต้องสลับกัน เอากำไร ตัว A ไปไล่ตัว B -----> C -------> D............ เรี่อยๆ แล้วกลับมาไล่ราคาตัวA หรือ B ใหม่ เป็น วงจร ไปเรื่อยๆ



จากคุณ : . (สิริมงคล) - [ 21 มี.ค. 47 16:26:41 ]

แม้ว่าประเทศจะพัฒนาขึ้นไป แต่คนแบบนี้ก็ยังมีอยู่ และคนที่หลงตามไปก็ยังมี

ขอบคุณมากครับ ที่เอามาให้อ่าน รู้สึกว่า ได้อะไรอีกเยอะเลยครับ แล้ว อย่างพวก Marketing เวลาที่เค้ามาเชียร์เราเค้ามีส่วนเกี่ยวกับรายใหญ่มากน้อยแค่ไหน อะ ครับ

พอดีเห็นหุ้นขึ้นเยอะครับ

ข่าวก็คือข่าวครับ

เราไม่มีทางไล่ข่าวทัน(ข่าวออก ไม่เคยซื้อหรือขายทันซักที)

นอกจากรอให้ข่าวเข้ามาหาเรา(ซื้อแล้วรอ)

แล้วเราจะไม่เป็นรายย่อยยับ

คนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้นตามข่าว มักคิดว่าตัวเองรู้ข่าวก่อนคนอื่น มักคิดว่าข่าวที่ได้รับได้มากจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และมักจะคิดว่าตัวเองจะสามารถขายหุ้นทิ้งได้ทันพร้อมกับโกยกำไรมหาศาล