หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 1:30 pm
โดย ปรัชญา
เงินกู้  ร้อยละ2%

กำลังฮิต  เปิดสำนักงานกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันเชียวครับ

เห็นคนเก็บเงิน  เล่าว่า...

กู้เงินต้น  1,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ  2%
เงินค่าดอก  20บาท  ต่อวัน

กู้เงินต้น  10,000  บาท  ดอกเบี้ยร้อยละ  2%
เงินค่าดอก  200บาท  ต่อวัน

กู้เงินต้น  100,000  บาท  ดอกเบี้ยร้อยละ  2%
เงินค่าดอก  2,000บาท  ต่อวัน

ผมมาบวกดู  ตกร้อยละ  60% กว่าต่อเดือน
เพียง50วัน  ดอกเบี้ยท่วมเงินต้น
เพราะถ้าคืนเงินต้นก็ต้องเต็มจำนวนเงินที่กู้มา

ถามว่าการกู้ต้องใช้อะไรเป็นค้ำประกัน
เขาบอกมีคนค้ำประกัน

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 1:34 pm
โดย ปรัชญา
ถามว่าผู้กู้หนีไม่จ่าย
คนเก็บเงิน  บอกว่า อย่าให้เจอแล้วกัน

แล้วทำไมถึงยังมีคนกู้
ทางเศรษฐศาสตร์  เรียกว่าอะไร

คนกู้ส่วนใหญ่  คงเรียนตกคณิตศาสตร์
คนกู้คงเป็นคนที่เดือดร้อนต้องการใช้เงิน
คนกู้  น่าจะเครดิตไม่ดี  กู้เงินในระบบไม่ได้

กลุ่มคนกู้
เป็นชนชั้นล่าง
ตั้งแต่  พ่อค้าแม่ค้า  กรรมกรขายแรงงาน
ข้าราชการชั้นผู้น้อย  ครู  ทหาร  ตำรวจผู้น้อย

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 1:39 pm
โดย ปรัชญา
ผิดกฏหมาย  ทำไมไม่จับ

ก็จะจับอย่างไร  ในเมื่อเจ้ามือที่ลงทุน
เป็นคนมีสี  ร้องเรียนเรื่องก็เงียบ

เป็นมะเร็งร้าย  ทางเศรษฐกิจ  ที่ขยายตัวลุกลามไปทุกชุมชน
ทำผิดกฏหมาย  โดยผู้รักษากฏหมายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ละเว้น  ละเลย  ภาษานักเลงเรียกว่าปิดตาข้างเดียวก็คงเดินได้มั้ง

ใครทราบที่ร้องเรียน  เพื่อแก้ปัญหาได้ช่วยบอกหน่อย

ขอบคุณครับ

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 9:50 pm
โดย Hughes
กฎหมายระบุว่า ดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ครับ

หาดูได้ที่ไหนครับ

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 3:33 am
โดย Dekfaifah
ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นคนกู้จะเป็นพวกพ่อค้าแม่ขายตามตลาดนะครับ
เคยไปถามเค้าว่าทำไมไม่ไปกู้ธนาคารออมสิน เค้าบอกว่าเรื่องมันช้า
อีกอย่าง เค้าไม่ค่อยจะมีหลักประกันอะไรให้ธนาคาร แต่กู้แบบนี้ได้เงิน
วันต่อวันเลย  พอพ่อค้าแม่ค้าขายของได้เค้าก็เอาเงินไปจ่ายต้นจ่ายดอก
หมุนเวียนกันแบบนี้ไม่รู้จบหนะครับ  ก็ไม่รู้จะแก้กันยังไง เพราะเค้าเป็นคน
หาเช้ากินค่ำ ทุนก็มีน้อย เลยอาจจะจำเป็นต้องพึ่งระบบนี้ ทำให้คนหัวใส
มีช่องทางทำมาหากินละมังคับ

เงินกู้ร้อยละ 2

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 8:19 pm
โดย srikamneard
เงินกู้ร้อยละ 2 ที่ว่านั้น  ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่า   "ดอกลอย" ค่ะ  แม่ค้าชอบกู้เพราะคิดว่าจ่ายถูก  เพราะกู้ 5 พันบาท จ่ายแค่ร้อยเดียว  แต่เค้าไม่ได้เอามาบวกกันทั้งเดือนค่ะ

         การกู้เงินแบบนี้ต้องมีคนค้ำประกัน  แต่ส่วนใหญ่ก็ไขว้กันเองในหมู่แม่ค้า  ถ้าจะหนีต้องหนีไปด้วยกันค่ะ  ไม่งั้นคนค้ำก็จะเดือดร้อน

        ดอกเบี้ยนอกระบบแพงแบบนี้แหละค่ะ  แต่ธรรมชาติของธุรกิจ จะมีการหนีหรือเบี้ยวกันอยู่ตลอดเวลา   ดอกเบี้ยก็สูงเพื่อชดเชยความเสี่ยง   น่าสงสารก็คือ  ลูกหนี้ที่ดีที่ไม่หนีจะเป็นคนที่ต้องมารับภาระแทนค่ะ
     
         ดอกเบี้ยตามกฎหมาย ถ้าจำไม่ผิด  ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี นะคะ  (ถ้าจำไม่ผิดอีกที  คุณสุมาอี้เคยเขียนไว้ประมาณว่า  ดอกเบี้ยตามกฎหมายต่ำเกินกว่าความเสี่ยงของผู้ให้กู้  กรณีที่ผู้กู้หนีไป  หรืออะไรประมาณนี้แหละค่ะ)

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 7:58 am
โดย ปรัชญา
มีใครทราบ

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 8:31 am
โดย ปรัชญา
รูปภาพ

   
หนุ่มพนักงานบริษัทร้องขอความเป็นธรรมกับสมาคมผู้สื่อ ข่าว-ช่างภาพอาชญากรรม หลังผู้เป็นแม่ถูกแก๊งทวงหนี้ยกพวก 30 ตัว บุกพังประตูบ้าน โชว์พฤติกรรมถ่อยสารพัด ทั้งเตะท้อง รุมกระทืบ เหยียบหัว เอาไม้สลบฟาดหน้าจนสลบคาบ้าน เหตุแค่ไปยืมกู้เงินนอกระบบ 4,000 บาท คิดดอกเบี้ยสุดโหดร้อยละ 20 เหยื่อจ่ายคืนมาตลอด แต่ช่วงหลังขายข้าวแกงไม่ดี ขาดส่งแค่ 2-3 วัน ขอผัดผ่อนแล้ว แต่ยังถูกบุกมารุมจนปางตาย


รูปภาพ

 เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (26 ก.พ.) นายพลพจน์ สุขสำราญ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/17 ตรอกลิง ถนนเตชะวณิชย์ แขวงและเขตบางซื่อ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าร้องเรียนนาย ไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม แห่งประเทศไทย หลังนางอารีย์ เจริญมงคล อายุ 53 ปี แม่ของตนเองที่เป็นแม่ค้าขายข้าวแกง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา จนต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล
     
      หลังจากรับต่อมานายไพโรจน์ เทศนิยม ได้เดินทางมาเยี่ยมนางอารีย์ เจริญมงคล ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ชั้น 9 ห้อง 909 พร้อมกับประสานให้พ.ต.ท.ชยุธ มารยาทตร์ รอง ผกก.สส.สน.สามเสน ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเนื่องจากกลัวกลุ่มคนร้ายย้อนกับมาทำร้ายร่างกายอีกครั้ง
     
      ทั้งนี้นางอารีย์ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ถูกรุมทำร้ายว่า ก่อนหน้านี้ตนไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 4 ,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และต้องส่งเป็นรายวันวันละ 200 บาท โดยจะมีชายวัยรุ่น 2 คน คือนายเหลียง กับนายมอญ ขับขี่รถจยย.มาเก็บเงินตนเป็นประจำทุกวัน ซึ่งตนก็จ่ายไปประมาณ 1,800 บาทแล้ว แต่ช่วงระยะหลังเงินขาดมือเพราะขายของก็ไม่ดี จึงขาดส่งประมาณ 2-3 วัน แต่ก็ต่อรองกันเป็นที่เรียบร้อยว่า จะขอลดจำนวนเงินที่ต้องส่งทุกวัน เหลือวันละ 100 บาท ซึ่งเจ้าหนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
     
      นางอารีย์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ตนกำลังอาบน้ำอยู่ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20-30 คน มาเคาะประตูเรียก แต่ตนยังไม่ทันจะเดินไปเปิดประตูให้ กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็พังประตูเข้ามา จากนั้นชายคนหนึ่งจำได้ว่า สวมเสื้อแขวนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ก็ตรงเข้ามาเตะเข้าที่ท้องตนจนล้มลง จากนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งเอามีดดาบมาตีเข้าที่ใบหน้า
     
      “ฉันยกมือไหว้ร้องขอชีวิตต่างๆนาๆ ว่าอย่างทำฉัน อย่างทำฉัน แต่พวกมันก็ไม่ฟัง กลับเอาเท้าเยียบที่หัวจนหัวติดกับตู้เย็น ก่อนจะรุมเตะรุมตีสารพัด สุดท้ายถูกไม้เบสบอลตีเข้าที่หน้าจนสลบไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย จนมาฟื้นอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว” นางอารีย์ รำไห้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วยความหวดผวา
     
      ด้านนางวราพร กลั่นกลิ่นหอม อายุ 17 ปี หลานสาวนางอารีย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ส่วนนางอารีย์ ป้าของตน กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องชั้นล่าง จากนั้นก็มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาพังประตูห้องป้า ตนก็ร้องขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านละแวกนั้น แต่กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อขึ้นมาทางตน แล้วตะโกนใส่ว่า อย่ามายุ่ง จากนั้นคนร้ายก็เข้าไปรุมทำร้ายนางอารีย์จน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างนั้น นายชัยยศ เทียมมณี อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านก็พยายามจะเข้ามาช่วย แต่กับถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะไป 2 แผล ที่ข้อศอกอีก 1 แผล กระทั่งมีตำรวจ สน.เตาปูน เข้ามาเพื่อจะระงับเหตุ แต่กลุ่มคนร้ายก็แยกย้ายกันหลบหนี โดยถูกตำรวจจับได้ 4 คน
     
      ขณะที่นายพลพจน์ สุขสำราญ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนก็รีบพาแม่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยเบื้องต้นแพทย์ระบุว่า มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ฟกช้ำที่ใบหน้า และต้องรอดูอาการทางสมองว่า ได้รับความกระทบกระเทือนหรือไม่ จากนั้นวันรุ่งขึ้น (25 ก.พ.) เวลา 12.00 น. ก็มีตำรวจยศ ร.ต.ต. อ้างว่าอยู่ สน.สุวินทวงศ์ แต่งตัวเครื่องแบบเต็มยศ มาหาตนที่บ้าน เพื่อบอกว่าชายฉกรรจ์ที่ทำร้ายแม่ตน และถูกจับไป 4 คนนั้นเป็นลูกน้องของตัวเอง อีกทั้งยังพยายามขอไกล่เกลี่ยไม่ให้ตนเอาเรื่อง โดยพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด แต่ตนไม่ได้ตกลงด้วยโดยบอกไปว่าต้องปรึกษากับญาติก่อน ทำให้ตำรวจคนดังกล่าวไม่พอใจ เดินทางกลับออกไปทัที
     
      ส่วนนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) เวลา 12.30 น. จะพาผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีดังกล่าว มีข้าราชการตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งจะให้เร่งหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป

ที่มา  นสพ  ผู้จัดการ  27  กพ  2552
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews ... 0000022542

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 07, 2009 9:50 pm
โดย Dekfaifah
ธรรมดาครับพี่ปรัชญา แถวๆ หอพักที่ทำงานของผม เค้าก็ใช้วิธีนี้ทวงหนี้ตามข่าวแระครับ โหดกว่านี้อีก อิอิ แค่นี้ยังเบาะๆ ส่วนใหญ่รู้สึกว่าเค้าจะยิงทิ้งเลยนะครับ น่ากลัวจริงๆ เฮ้ออะไรกันเงินแค่ไม่กี่บาทก็ถึงกะฆ่ากันได้ลงคอ เห็นเพื่อนๆผมบอกว่า เค้าบอกว่าลูกกระสุนมันถูกยิงกันตายประจำ
โชคดีขอให้ไม่มีหนี้ทุกคนนะครับ

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 11:46 pm
โดย train10
คนพวกนี้หน้าเลือดจริงๆครับ เหมือนทำนาบนหลังคน ไม่ได้เกิดมาเป็นคนจนก็แล้วไป คนพวกนี้จะไปโดนจับได้อย่างไรกันล่ะครับ เงินคือพระเจ้า ซื้อได้ทุกอย่างล่ะครับ ใครที่บอกว่าซื้อไม่ได้ทุกอย่างผมไม่เชื่อหรอกครับ พอมีคนไปแจ้งก็เอาเงินฟาดหัวไปหน่อย แล้วก็บอกหนังสือพิมพ์ให้ออกข่าวว่า เขาหนีไปแล้วทั้งๆที่จริงๆแล้วมันอาจจะอยู่ในบ้านก็ได้ แต่ตำรวจก็จะบอกว่าหนี้ไปต่างประเทศหรือชายแดนแล้ว นี่ละครับประเทศไทย จงเจริญ!!!

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 05, 2009 1:07 pm
โดย holidaytours
ไม่กลัวบาปกรรมกันมั่งหรอคับ เคยได้ยินบางคนลูกออกมาไม่มีทวารเลยอะ  :shock:

เงินกู้ ร้อยละ2%

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 14, 2009 12:16 am
โดย ohmohm
แนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
http://old.consumerthai.org/cms/index.p ... &Itemid=71

การเจรจาเพื่อให้ยอมตัดลดหนี้ให้ลูกหนี้ โดยใช้มาตรการทางภาษีกดดัน

นอกจากมาตรการทาง ภาษีแล้ว ก็ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับความผิดที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมาย กำหนด และความผิดฐานกรรโชกทรัพย์และฟอกเงิน ซึ่งจะนำไปสู่การยึดทรัพย์สินของนายทุนเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดต่อไป

ประมวล รัษฎากร ม. 91/2(5) ได้บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดประกอบธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ เช่น ให้กู้ยืมเงิน มีรายได้จากดอกเบี้ย ต้องปฏิบัติดังนี้

ขอจดทะเบียนธุรกิจเฉพาะ ถ้าไม่จดทะเบียนถือว่าผิด
ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตราร้อยละ 3 บวกกับภาษีบำรุงท้องถิ่นอีก ร้อยละ 0.3 รวมเป็น ร้อยละ 3.3
กรมสรรพากรจะตรวจสอบย้อนหลัง 10 ปี หากเจ้าหนี้ไม่เคยยื่นแบบเสียภาษีว่าเคยมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ เจ้าหนี้ก็จะมีความผิดที่แจ้งฐานภาษีเงินได้ผิดไปจากความเป็นจริง ต้องเรียกชำระเงินเพิ่มอีกหนึ่งเท่า ค่าปรับอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน จนกว่าจะชำระเสร็จ ค่าปรับต้องย้อนหลังไป 10 ปี (120 เดือน)

ตัวอย่าง เช็กบิล "นายทุนเงินกู้"
http://old.consumerthai.org/careful_boa ... php?id=398