Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทประกันภัยหลายๆแห่งก็มี Book value ลดลงเยอะจากราคาหลักทรัพย์เผื่อขายที่ลดลง ซึ่งน่าจะได้รับชดเชยบ้างจาก ตราสารหนี้ที่ราคาเพิ่มจากดอกเบี้ยที่ลดลง แต่ในปีนี้ ดอกเบี้ยรับจากตราสารหนี้น่าจะน้อยลงนะครับ เพราะส่วนใหญ่ที่ถือกันจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ย ไม่ก็หมดอายุ ภายใน 1 ปี
แบบนี้บริษัทประกันภัยน่ามีผลตอบแทนจากเงินลงทุนลดลง บวกกับ กำไรจากการประกันภัยที่น่าจะน้อยลงจากเบี้ยประกันภัยที่น้อยลงด้วย บริษัทคงไม่เจ็งเพราะไม่ค่อยมีหนี้ แต่ก็น่าจะเจ็บกันบ้างนะครับ

ผลตอบเเทนจากการลงทุนน่าจะลดลงคับ
-หุ้นน่าจะเเย่ไปหลายปี
-ตราสารหนี้เดิมที่ถืออยู่ duration ยาวน่าจะได้กำไรจากmark-to-market มากขึ้น
-เเต่เงินลงทุนใหม่ หรือ เงินจากตราสารหนี้ที่ครบกำหนดน่าจะมีปัญหาเเต่ถ้ารอ ซักพัก รัฐบาลออกพันธบัตรรอบใหม่ หุ้นกู้ใหม่ที่ออกมา yield ก็ใช้ได้นะครับ
-จริงๆเเล้วประกันเหมาะกับ Property fund  มากนะครับ
ไม่รู้ว่าลงกันบ้างละเปล่า

ผลตอบเเทนจากการประกัน น่าจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะพวกประกันขนส่ง กับประกันรถที่จะไม่โต เเต่ถ้าไปหาตลาดใหม่ๆ พวกประกันสุขภาพ ก็ยังพอมีช่องนะครับ

ภาวนาขออย่าให้ AIG เป็นอะไรไปเลยไม่งั้น งานเข้าเเน่

ผมขอเล่าสรุปคร่าวก่อนล่ะกันครับว่าธุรกิจประกันภัยตอนนี้เปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
1. ด้านการลงทุน อันนี้โดยจำกัดโดย คปภ ว่าลงทุนในหลักทรัพย์ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ซึ่งรู้กันอยู่แล้ว แต่ว่าบริษัทก็ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนที่ลงทุนตราสารทุนแทน อันนี้ไม่เข้ากฏแล้ว
ตลาดทุนปีที่แล้วก็ลดลงอย่างหนัก 48%เองเท่านั้น ก็ดูว่าบริษัทไหนโดนผลกระทบบ้างก็แล้วกัน
2. ด้านตราสารหนี้ บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ ลงทุนในพวกพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรภาครัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ ตั๋วแลกเงินคลังและตั๋วแลกเงินธรรมดา ซึ่งถือครองเป็นระยะเวลานาน ไม่ใช่ว่า ปีเดียวเลิกน่าครับ
แต่มันมีหมดอายุบ้างเท่านั้น

สองข้อแรกเป็นด้านการลงทุน
3. อันนี้ตัวกิจการเอง คือสภาพแวดล้อมประกันภัย ซึ่ง โตเฉลี่ยประมาณสองเท่าของ GDP ซึ่งหาก GDP ติดลบแล้ว ประกันภัยติดลบมากกว่า หรือเปล่าอันนี้ต้องดูกัน

miracle เขียน:2. ด้านตราสารหนี้ บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ ลงทุนในพวกพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรภาครัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ ตั๋วแลกเงินคลังและตั๋วแลกเงินธรรมดา ซึ่งถือครองเป็นระยะเวลานาน ไม่ใช่ว่า ปีเดียวเลิกน่าครับ
แต่มันมีหมดอายุบ้างเท่านั้น

หมดอายุคงไม่เท่าไหร่ครับ พวกที่ update interest rate สิ เช่น BIBOR+1% update ทุก 3 เดือน ตอนนี้ BIBOR ก็ 1.5xx% ได้

มันโดน mark to market อยู่แล้วส่วนหนึ่ง
ส่วนที่สองดอกเบี้ย ถ้าเป็นดอกเบี้ยลอยตัวก็ ต้องดูว่า ลอยตัวแบบไหน
ส่วนใหญ่ บริษัทใหญ่ระดมทุนก็ออกดอกเบี้ยมาใกล้เคียงกับตลาดหรือสูงกว่าอยู่แล้ว แต่น้องกว่าอัตราMRR หรือ MRI พวกนี้อยู่แล้ว
แต่ก็มีอ้างอิงบ้าง

บ้างพวกก็มีเพดานขั้นต่ำและขั้นสูง
แต่อย่างไงก็แล้วแต่ ส่วนยใหญ่ถือครบอายุ