FED ออกรายงานชี้เศรษฐกิจสหรัฐยังถดถอย หลังผู้บริโภคลดใช้จ่าย
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 11:13 am
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ "ยังคงถดถอยอย่างต่อเนื่อง" ในทุกภูมิภาคของประเทศในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยและภาคการผลิตหดตัวลง
"ภาวะการเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงปลายปีพ.ศ.2552 หรือต้นปีพ.ศ.2553 ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงถดถอยในทุกภูมิภาค ขณะที่อัตราการกู้ยืมยังคงลดน้อยลงเนื่องจากภาคเอกชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้นหลังจากสถาบันการเงินเพิ่มข้อกำหนดด้านการปล่อยกู้ "
"ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคหดตัวลงทั่วประเทศ และมีบางภูมิภาคที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการที่ภาคเอกชนลดการจ้างงาน ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2% ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี และมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะหดตัวเพียง 3.8% เนื่องจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออก, ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชน" เฟดกล่าวในรายงาน Beige Book
เฟดคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวประมาณ 0.5-1.3% ในปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 0.2-1.1% โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวตลอดทั้งปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวทั้งปีเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8.5-8.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.1-7.6%
รายงานคาดการณ์ของเฟดมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลง 697,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากปรับลดลง 614,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ผลประกอบการหดตัวลง และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตัวเลขจ้างงานในสหรัฐยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในเร็วๆนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะร่วงลง 650,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่า ราคาบ้านในสหรัฐจะร่วงลงอีกในปีนี้ และยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัวขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อบริษัทสร้างบ้านและภาพรวมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฟดคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างจะหดตัวไปจนถึงช่วงปลายปีนี้
รายงาน Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 27-28 ม.ค.ปีนี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
"ภาวะการเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงปลายปีพ.ศ.2552 หรือต้นปีพ.ศ.2553 ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงถดถอยในทุกภูมิภาค ขณะที่อัตราการกู้ยืมยังคงลดน้อยลงเนื่องจากภาคเอกชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้นหลังจากสถาบันการเงินเพิ่มข้อกำหนดด้านการปล่อยกู้ "
"ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคหดตัวลงทั่วประเทศ และมีบางภูมิภาคที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการที่ภาคเอกชนลดการจ้างงาน ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2% ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี และมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะหดตัวเพียง 3.8% เนื่องจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออก, ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชน" เฟดกล่าวในรายงาน Beige Book
เฟดคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวประมาณ 0.5-1.3% ในปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 0.2-1.1% โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวตลอดทั้งปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวทั้งปีเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8.5-8.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.1-7.6%
รายงานคาดการณ์ของเฟดมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลง 697,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากปรับลดลง 614,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ผลประกอบการหดตัวลง และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตัวเลขจ้างงานในสหรัฐยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในเร็วๆนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะร่วงลง 650,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่า ราคาบ้านในสหรัฐจะร่วงลงอีกในปีนี้ และยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัวขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อบริษัทสร้างบ้านและภาพรวมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฟดคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างจะหดตัวไปจนถึงช่วงปลายปีนี้
รายงาน Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 27-28 ม.ค.ปีนี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน