ชวนผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
ชวนผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคต
โพสต์ที่ 1
Inside ก.ล.ต.: ชวนผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคต
Posted on Wednesday, March 25, 2009
ณัฐญา นิยมานุสร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมบรรษัทภิบาล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวผ่านรายการ Smart Money ว่า ผู้ถือหุ้นไทยในปัจจุบันได้รักษาสิทธิของตนเอง ด้วยการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นควรศึกษาเอกสารหรือข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุน หรือเตรียมคำถามก่อนไปเข้าประชุมด้วย เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อนักลงทุน
ยงยศ วารีสุรหาญ อุปนายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยกล่าวว่า ผู้ถือหุ้นคุณภาพ คือ ผู้ถือหุ้นที่ติดตามข้อมูลข่าวสารของบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยสนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยใช้สิทธิของนักลงทุนอย่างเต็มที่ โดยสมาคมได้ซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียนทุกแห่ง จำนวนบริษัทละ 100 หุ้น เพื่อเป็นตัวแทนในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น เข้าไปซักถามหรือแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นสามารถมอบฉันทะให้กับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ สมาคมยังพิทักษ์ผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อยด้วยการยื่นจดหมายไปยังบริษัทจดทะเบียนเพื่อฟ้องร้องผู้บริหารที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือมีการทุจริต ด้วย
นอกจากนี้ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดทำ หนังสือคู่มือการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้น รู้ไว้...ไม่เสียเปรียบ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รู้หน้าที่และรู้จักปกป้องสิทธิของตนเอง ซึ่งเชื่อว่าการที่ผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิ จะทำให้ตลาดทุนไทยมีการพัฒนาขึ้นได้
นพ.บำรุง ศรีงาน ผู้ได้รับรางวัล ผู้ถือหุ้นคุณภาพปี 2550 กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นที่มีคุณภาพจะต้องคัดเลือกบริษัทที่ทำธุรกิจหรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มที่กิจการจะสามารถทำกำไรได้ในอนาคตก่อนที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากผู้ถือหุ้นคุณภาพมีความเชื่อว่าราคาหุ้นบริษัทนั้น ๆ จะปรับเพิ่มขึ้นได้เมื่อบริษัทมีผลการดำเนินงานดี นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นจะต้องติดตามพฤติกรรมของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ทั้งการอ่านจากหนังสือพิมพ์ หรือในหน้าเว็บไซต์ อาทิ www.thaivi.com นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องตรวจสอบงบการเงิน และความเห็นของผู้สอบบัญชีที่มีต่องบการเงินนั้นด้วย เพราะจะทำให้ทราบถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่แท้จริง
นพ.บำรุงกล่าวอีกว่า การเข้าประชุมผู้ถือหุ้น จะทำให้บริษัทจดทะเบียนตื่นตัว ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ทราบว่าผู้ถือหุ้นจับตามองการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งเชื่อว่าหากผู้ถือหุ้นเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นมากพอ ก็จะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลที่ดีได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Sma ... fault.aspx
Posted on Wednesday, March 25, 2009
ณัฐญา นิยมานุสร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมบรรษัทภิบาล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวผ่านรายการ Smart Money ว่า ผู้ถือหุ้นไทยในปัจจุบันได้รักษาสิทธิของตนเอง ด้วยการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นควรศึกษาเอกสารหรือข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุน หรือเตรียมคำถามก่อนไปเข้าประชุมด้วย เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อนักลงทุน
ยงยศ วารีสุรหาญ อุปนายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยกล่าวว่า ผู้ถือหุ้นคุณภาพ คือ ผู้ถือหุ้นที่ติดตามข้อมูลข่าวสารของบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยสนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยใช้สิทธิของนักลงทุนอย่างเต็มที่ โดยสมาคมได้ซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียนทุกแห่ง จำนวนบริษัทละ 100 หุ้น เพื่อเป็นตัวแทนในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น เข้าไปซักถามหรือแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นสามารถมอบฉันทะให้กับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ สมาคมยังพิทักษ์ผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อยด้วยการยื่นจดหมายไปยังบริษัทจดทะเบียนเพื่อฟ้องร้องผู้บริหารที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือมีการทุจริต ด้วย
นอกจากนี้ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดทำ หนังสือคู่มือการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้น รู้ไว้...ไม่เสียเปรียบ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รู้หน้าที่และรู้จักปกป้องสิทธิของตนเอง ซึ่งเชื่อว่าการที่ผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิ จะทำให้ตลาดทุนไทยมีการพัฒนาขึ้นได้
นพ.บำรุง ศรีงาน ผู้ได้รับรางวัล ผู้ถือหุ้นคุณภาพปี 2550 กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นที่มีคุณภาพจะต้องคัดเลือกบริษัทที่ทำธุรกิจหรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มที่กิจการจะสามารถทำกำไรได้ในอนาคตก่อนที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากผู้ถือหุ้นคุณภาพมีความเชื่อว่าราคาหุ้นบริษัทนั้น ๆ จะปรับเพิ่มขึ้นได้เมื่อบริษัทมีผลการดำเนินงานดี นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นจะต้องติดตามพฤติกรรมของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ทั้งการอ่านจากหนังสือพิมพ์ หรือในหน้าเว็บไซต์ อาทิ www.thaivi.com นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องตรวจสอบงบการเงิน และความเห็นของผู้สอบบัญชีที่มีต่องบการเงินนั้นด้วย เพราะจะทำให้ทราบถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่แท้จริง
นพ.บำรุงกล่าวอีกว่า การเข้าประชุมผู้ถือหุ้น จะทำให้บริษัทจดทะเบียนตื่นตัว ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ทราบว่าผู้ถือหุ้นจับตามองการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งเชื่อว่าหากผู้ถือหุ้นเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นมากพอ ก็จะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลที่ดีได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Sma ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
ชวนผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคต
โพสต์ที่ 2
เตรียมพร้อมเข้าประชุมผู้ถือหุ้นแบบ ชิลชิล
www.ThaiPR.net -- พุธที่ 25 มีนาคม 2009 14:59:33 น.
กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ก.ล.ต.
ไหน ๆ ก็อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพราะตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นเดือนเมษายนเป็นช่วงแห่งเทศกาลการจัดประชุมผู้ถือหุ้น ดิฉันเลยจะขอถือโอกาสนี้ บอกเล่าถึงคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนเข้าประชุม AGM แบบที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ชิลชิล เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณ ๆ ผู้ถือหุ้นที่ไม่ต้องการอะไรซับซ้อน เรียกว่าเป็นคำแนะนำเวอร์ชั่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แล้วกันนะคะ คือ ทำได้เร็ว ทำได้ง่าย ทำได้จริง รับรองค่ะว่าไม่ยุ่งยากและยังเหมาะกับผู้ที่ไม่มีความรู้และเวลามากพอที่จะศึกษาเอกสารการประชุมทั้งปึก แถมยังใช้ได้ทั้งสองกรณีไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเข้าประชุมด้วยตัวเอง หรือมอบ proxy ให้คนอื่นเข้าประชุมแทน โดยขอเริ่มที่วิธีอ่านเอกสารการประชุม
ลำดับแรกที่คุณควรดูคือวาระพิจารณางบการเงินค่ะ แม้หลายท่านจะไม่ได้จบบัญชีมา ดูงบการเงินไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ไม่ต้องวอรี่แล้วค่ะ ดูไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร เราข้ามช็อตไปมองกันที่ข้อความสำคัญของงบการเงินเลยดีกว่า นั่นคือ รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ตรงนี้ท่านผู้รู้ที่ดิฉันเคารพท่านหนึ่ง เคยให้ทริคไว้ว่า วิธีดูที่ง่ายที่สุดว่างบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีปัญหาหรือไม่ คือพลิกไปที่หน้ารายงานของผู้สอบบัญชี แล้วกางมือของท่านตามแนวนอน เหยียดนิ้วทุกนิ้วออกไปจนสุดแล้ววางทาบลงบนหน้านั้น ถ้าข้อความในรายงานของผู้สอบบัญชีไม่ยาวเกินกว่าฝ่ามือท่าน ถือว่างบนั้น OK ค่ะ โดยข้อความที่จะช่วยเสริมตรงนี้ให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้น คือข้อความในย่อหน้าที่ 3 ของผู้สอบบัญชีที่ว่า ...ข้าพเจ้าเห็นว่างบการเงินข้างต้นนี้ แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ... ของบริษัท ... โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป...
แต่ถ้าเกิดว่าคุณใช้เทคนิคกางฝ่ามือแล้วข้อความเกิดยาวเกินฝ่ามือขึ้นมา ซึ่งในเนื้อความนั้นผู้สอบบัญชีอาจระบุว่า ไม่สามารถปฏิบัติงานหรือตรวจสอบได้ตามมาตรฐานการสอบบัญชี จึงไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินนั้น หรืออาจแสดงความเห็นว่างบการเงินนั้นไม่ถูกต้อง รวมทั้งบางกรณีผู้สอบบัญชีอาจให้ความเห็นว่างบการเงินดังกล่าวถูกต้องแบบมีเงื่อนไข คือ ระบุว่ายกเว้นรายการนั้นรายการนี้ งบการเงินนี้จึงถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นอันใดอันหนึ่ง ก็ขอให้คุณเพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาวาระนี้ค่ะ
ถัดมา ยังคงเป็นเรื่องสำคัญเพราะเกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ ของคุณ ก็คือวาระการจ่ายเงินปันผล ตรงนี้ดูง่าย ๆ ค่ะว่า บจ. ที่คุณถือหุ้นอยู่มีการจ่ายเงินปันผลหรือไม่ หากไม่มีการจ่ายปันผลเนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุนในรอบปีที่ผ่านมา คุณก็ควรพิจารณาเหตุผลของ บจ. ด้วยนะคะ
ในกรณีที่มีการจ่ายเงินปันผล ให้ดูว่าการจ่ายเงินปันผลนั้นเป็นไปตามนโยบายที่ บจ. ประกาศหรือไม่ เช่นประกาศว่าจะจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ ถึงเวลาก็จ่ายตามนั้น ในอัตราหุ้นละกี่บาทกี่สตางค์ก็ว่ากันไป
หรือหากมีการจ่ายปันผลแต่ไม่เป็นไปตามนโยบายบริษัท เช่นนโยบายบอกว่าจะจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ แต่ถึงเวลาจะจ่ายจริงเพียงอัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ โดยให้เหตุผลว่าต้องการกันเงินสำรองเพื่อขยายธุรกิจสร้างโรงงงานผลิตแห่งใหม่ ตรงนี้คุณก็ควรพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลที่ บจ. ให้ไว้ด้วยค่ะ
น่าเสียดายที่มาถึงตรงนี้เนื้อที่สัมปทานหมดแล้วค่ะ ขอยกยอดไปว่ากันต่อในครั้งต่อไปกับคำแนะนำเด็ด ๆ ชิลชิล ในการเตรียมตัวเข้าประชุมผู้ถือหุ้นนะคะ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
ของฝากสำหรับผู้ถือหุ้น
ในการพิจารณาวาระรับรองงบการเงินประจำปี และวาระการจ่ายเงินปันผลนั้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีแนวทางตัดสินใจออกเสียงได้ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเข้าประชุมด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจ (proxy) ก็ตาม ขอหยิบยกแนวทางการออกเสียง (voting guidelines) ซึ่งจัดทำขึ้นโดย 2 หน่วยงาน คือ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) มาฝากกันดังนี้
วาระรับรองงบการเงินประจำปี
AIMC ระบุว่า บริษัทจัดการซึ่งเป็นสมาชิก AIMC จะออกเสียง ไม่เห็นด้วย กรณีที่ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นในลักษณะมีเงื่อนไขในสาระสำคัญต่องบการเงิน เช่นเดียวกับ TIA ระบุว่า หากผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขหรือมีข้อสังเกตต่องบการเงิน ผู้ถือหุ้นควรตั้งคำถามให้คณะกรรมการบริษัทอธิบายอย่างชัดเจน หากคำอธิบายคลุมเครือ ไม่สมเหตุผล ควรออกเสียง ไม่เห็นด้วย
วาระการจ่ายเงินปันผล
AIMC ระบุว่า บริษัทจัดการจะออกเสียง ไม่เห็นด้วย กรณีที่มีการจ่ายเงินปันผลไม่สอดคล้องกับนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัทโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ขณะที่ TIA ระบุว่า ผู้ถือหุ้นควรออกเสียง ไม่เห็นด้วย กรณีที่พบความไม่สมเหตุผล หรือความผิดปกติในการจ่ายเงินปันผล เช่น มีการงดจ่ายปันผล หรือจ่ายต่ำกว่านโยบายที่ประกาศ แต่กลับมีการจ่ายค่าตอบแทนเพื่อจูงใจพิเศษแก่ผู้บริหาร เช่น ออกหุ้น ESOP (Employee Stock Options Plans) หรือมีการกู้เงินมาเพื่อจ่ายปันผล เป็นต้น
ประชุมผู้ถือหุ้น: มีสิทธิควรไปใช้ ไปไม่ได้...มอบอำนาจก.ล.ต. สนับสนุนผู้ลงทุนใช้สิทธิเข้าร่วมประชุม หรือ มอบอำนาจในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2552
http://www.ryt9.com/s/prg/545982/
www.ThaiPR.net -- พุธที่ 25 มีนาคม 2009 14:59:33 น.
กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ก.ล.ต.
ไหน ๆ ก็อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพราะตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นเดือนเมษายนเป็นช่วงแห่งเทศกาลการจัดประชุมผู้ถือหุ้น ดิฉันเลยจะขอถือโอกาสนี้ บอกเล่าถึงคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนเข้าประชุม AGM แบบที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ชิลชิล เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณ ๆ ผู้ถือหุ้นที่ไม่ต้องการอะไรซับซ้อน เรียกว่าเป็นคำแนะนำเวอร์ชั่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แล้วกันนะคะ คือ ทำได้เร็ว ทำได้ง่าย ทำได้จริง รับรองค่ะว่าไม่ยุ่งยากและยังเหมาะกับผู้ที่ไม่มีความรู้และเวลามากพอที่จะศึกษาเอกสารการประชุมทั้งปึก แถมยังใช้ได้ทั้งสองกรณีไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเข้าประชุมด้วยตัวเอง หรือมอบ proxy ให้คนอื่นเข้าประชุมแทน โดยขอเริ่มที่วิธีอ่านเอกสารการประชุม
ลำดับแรกที่คุณควรดูคือวาระพิจารณางบการเงินค่ะ แม้หลายท่านจะไม่ได้จบบัญชีมา ดูงบการเงินไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ไม่ต้องวอรี่แล้วค่ะ ดูไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร เราข้ามช็อตไปมองกันที่ข้อความสำคัญของงบการเงินเลยดีกว่า นั่นคือ รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ตรงนี้ท่านผู้รู้ที่ดิฉันเคารพท่านหนึ่ง เคยให้ทริคไว้ว่า วิธีดูที่ง่ายที่สุดว่างบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีปัญหาหรือไม่ คือพลิกไปที่หน้ารายงานของผู้สอบบัญชี แล้วกางมือของท่านตามแนวนอน เหยียดนิ้วทุกนิ้วออกไปจนสุดแล้ววางทาบลงบนหน้านั้น ถ้าข้อความในรายงานของผู้สอบบัญชีไม่ยาวเกินกว่าฝ่ามือท่าน ถือว่างบนั้น OK ค่ะ โดยข้อความที่จะช่วยเสริมตรงนี้ให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้น คือข้อความในย่อหน้าที่ 3 ของผู้สอบบัญชีที่ว่า ...ข้าพเจ้าเห็นว่างบการเงินข้างต้นนี้ แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ... ของบริษัท ... โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป...
แต่ถ้าเกิดว่าคุณใช้เทคนิคกางฝ่ามือแล้วข้อความเกิดยาวเกินฝ่ามือขึ้นมา ซึ่งในเนื้อความนั้นผู้สอบบัญชีอาจระบุว่า ไม่สามารถปฏิบัติงานหรือตรวจสอบได้ตามมาตรฐานการสอบบัญชี จึงไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินนั้น หรืออาจแสดงความเห็นว่างบการเงินนั้นไม่ถูกต้อง รวมทั้งบางกรณีผู้สอบบัญชีอาจให้ความเห็นว่างบการเงินดังกล่าวถูกต้องแบบมีเงื่อนไข คือ ระบุว่ายกเว้นรายการนั้นรายการนี้ งบการเงินนี้จึงถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นอันใดอันหนึ่ง ก็ขอให้คุณเพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาวาระนี้ค่ะ
ถัดมา ยังคงเป็นเรื่องสำคัญเพราะเกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ ของคุณ ก็คือวาระการจ่ายเงินปันผล ตรงนี้ดูง่าย ๆ ค่ะว่า บจ. ที่คุณถือหุ้นอยู่มีการจ่ายเงินปันผลหรือไม่ หากไม่มีการจ่ายปันผลเนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุนในรอบปีที่ผ่านมา คุณก็ควรพิจารณาเหตุผลของ บจ. ด้วยนะคะ
ในกรณีที่มีการจ่ายเงินปันผล ให้ดูว่าการจ่ายเงินปันผลนั้นเป็นไปตามนโยบายที่ บจ. ประกาศหรือไม่ เช่นประกาศว่าจะจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ ถึงเวลาก็จ่ายตามนั้น ในอัตราหุ้นละกี่บาทกี่สตางค์ก็ว่ากันไป
หรือหากมีการจ่ายปันผลแต่ไม่เป็นไปตามนโยบายบริษัท เช่นนโยบายบอกว่าจะจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ แต่ถึงเวลาจะจ่ายจริงเพียงอัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ โดยให้เหตุผลว่าต้องการกันเงินสำรองเพื่อขยายธุรกิจสร้างโรงงงานผลิตแห่งใหม่ ตรงนี้คุณก็ควรพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลที่ บจ. ให้ไว้ด้วยค่ะ
น่าเสียดายที่มาถึงตรงนี้เนื้อที่สัมปทานหมดแล้วค่ะ ขอยกยอดไปว่ากันต่อในครั้งต่อไปกับคำแนะนำเด็ด ๆ ชิลชิล ในการเตรียมตัวเข้าประชุมผู้ถือหุ้นนะคะ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
ของฝากสำหรับผู้ถือหุ้น
ในการพิจารณาวาระรับรองงบการเงินประจำปี และวาระการจ่ายเงินปันผลนั้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีแนวทางตัดสินใจออกเสียงได้ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเข้าประชุมด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจ (proxy) ก็ตาม ขอหยิบยกแนวทางการออกเสียง (voting guidelines) ซึ่งจัดทำขึ้นโดย 2 หน่วยงาน คือ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) มาฝากกันดังนี้
วาระรับรองงบการเงินประจำปี
AIMC ระบุว่า บริษัทจัดการซึ่งเป็นสมาชิก AIMC จะออกเสียง ไม่เห็นด้วย กรณีที่ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นในลักษณะมีเงื่อนไขในสาระสำคัญต่องบการเงิน เช่นเดียวกับ TIA ระบุว่า หากผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขหรือมีข้อสังเกตต่องบการเงิน ผู้ถือหุ้นควรตั้งคำถามให้คณะกรรมการบริษัทอธิบายอย่างชัดเจน หากคำอธิบายคลุมเครือ ไม่สมเหตุผล ควรออกเสียง ไม่เห็นด้วย
วาระการจ่ายเงินปันผล
AIMC ระบุว่า บริษัทจัดการจะออกเสียง ไม่เห็นด้วย กรณีที่มีการจ่ายเงินปันผลไม่สอดคล้องกับนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัทโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ขณะที่ TIA ระบุว่า ผู้ถือหุ้นควรออกเสียง ไม่เห็นด้วย กรณีที่พบความไม่สมเหตุผล หรือความผิดปกติในการจ่ายเงินปันผล เช่น มีการงดจ่ายปันผล หรือจ่ายต่ำกว่านโยบายที่ประกาศ แต่กลับมีการจ่ายค่าตอบแทนเพื่อจูงใจพิเศษแก่ผู้บริหาร เช่น ออกหุ้น ESOP (Employee Stock Options Plans) หรือมีการกู้เงินมาเพื่อจ่ายปันผล เป็นต้น
ประชุมผู้ถือหุ้น: มีสิทธิควรไปใช้ ไปไม่ได้...มอบอำนาจก.ล.ต. สนับสนุนผู้ลงทุนใช้สิทธิเข้าร่วมประชุม หรือ มอบอำนาจในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2552
http://www.ryt9.com/s/prg/545982/
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
ชวนผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคต
โพสต์ที่ 4
อิอิ ท่านประธานแอบเชียร์เวปนพ.บำรุง ศรีงาน ผู้ได้รับรางวัล ผู้ถือหุ้นคุณภาพปี 2550 กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นที่มีคุณภาพจะต้องคัดเลือกบริษัทที่ทำธุรกิจหรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มที่กิจการจะสามารถทำกำไรได้ในอนาคตก่อนที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากผู้ถือหุ้นคุณภาพมีความเชื่อว่าราคาหุ้นบริษัทนั้น ๆ จะปรับเพิ่มขึ้นได้เมื่อบริษัทมีผลการดำเนินงานดี นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นจะต้องติดตามพฤติกรรมของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ทั้งการอ่านจากหนังสือพิมพ์ หรือในหน้าเว็บไซต์ อาทิ www.thaivi.com นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องตรวจสอบงบการเงิน และความเห็นของผู้สอบบัญชีที่มีต่องบการเงินนั้นด้วย เพราะจะทำให้ทราบถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่แท้จริง
นพ.บำรุงกล่าวอีกว่า การเข้าประชุมผู้ถือหุ้น จะทำให้บริษัทจดทะเบียนตื่นตัว ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ทราบว่าผู้ถือหุ้นจับตามองการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งเชื่อว่าหากผู้ถือหุ้นเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นมากพอ ก็จะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลที่ดีได้
ส่วนอันนี้นี่อย่างฮา กินน้ำอยู่สำลักน้ำเลย :lol:
ลำดับแรกที่คุณควรดูคือวาระพิจารณางบการเงินค่ะ แม้หลายท่านจะไม่ได้จบบัญชีมา ดูงบการเงินไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ไม่ต้องวอรี่แล้วค่ะ ดูไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร เราข้ามช็อตไปมองกันที่ข้อความสำคัญของงบการเงินเลยดีกว่า นั่นคือ รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ตรงนี้ท่านผู้รู้ที่ดิฉันเคารพท่านหนึ่ง เคยให้ทริคไว้ว่า วิธีดูที่ง่ายที่สุดว่างบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีปัญหาหรือไม่ คือพลิกไปที่หน้ารายงานของผู้สอบบัญชี แล้วกางมือของท่านตามแนวนอน เหยียดนิ้วทุกนิ้วออกไปจนสุดแล้ววางทาบลงบนหน้านั้น ถ้าข้อความในรายงานของผู้สอบบัญชีไม่ยาวเกินกว่าฝ่ามือท่าน ถือว่างบนั้น OK ค่ะ
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
ชวนผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคต
โพสต์ที่ 5
ดูรูปน้อง stop เพลินจนไม่ได้อ่านเนื้อหาเลยครับ
เธองามจริงๆ
เธองามจริงๆ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี