Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

พอดีได้กลับมาอ่าน One Up on Wall Street ของ Peter Lynch อีกรอบ เลยอยากขอมุมมองของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในเวบ ThaiVI ถึงหุ้นที่ท่านคิดว่าเข้าข่ายหุ้น 6 แบบของPeter Lynch มากที่สุดในตอนนี้ ขอให้เลือกตัวเดียวในแต่ละแบบนะคับ ขอเป็นตัวที่ท่านชื่นชอบที่สุด และเหตุผลสั้นด้วยครับ  ผมเป็นมือใหม่อยากได้มุมมองจากเพื่อนๆมาศึกษาต่อครับ  ขอบคุณมากๆครับ


ส่วนตัวผมเอง ผมมองอย่างนี้ครับ

1.หุ้นโตเร็ว - HMPRO จากการขยายสาขาต่อเนื่องและความได้เปรียบเรืองต้นทุน
2.หุ้นโตช้า - ADVANC จากการขยายเครือข่ายที่ครอบคลุมหมดแล้ว และจำนวน Subscriber ที่เริ่มอิ่มตัว อนาคตการโตต้องมาจาก Contents media และ เครือข่าย3G
3.หุ้นแข็งแกร่ง - EGCO จากเงื่อนไขสัมปทานและGovernance ของผู้บริหาร
4.หุ้นวัฎจักร - PSL จากงบการเงินที่แข็งแกร่ง และผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์และสัญชาตญานการเอาตัวรอดที่ดีกว่าคู่แข่ง
5.หุ้นฟื้นตัว - THCOM จากโอกาสกลับมามีกำไรอีกครั้งกับ IpStar
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - CK จากลูกๆกตัญญูทั้งหลาย แต่ไม่ได้คิดหนี้สินนะครับ

ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาเชียร์หุ้นตัวใดโดยเฉพาะนะครับ เพราะไม่ได้ถือหุ้นเหล่านี้ แต่อยากแลกเปลี่ยนมุมมองมาศึกษาเพิ่มเติมเท่านั้น  ถ้าWebMaster คิดว่าไม่เหมาะสมจะย้ายหรือลบกระทู้ก็ได้นะครับ  ขอบคุณครับ

Peter Lynch        

สนุกดี..ลองบ้างดีกว่า

1.หุ้นโตเร็ว - CPALL ขยายสาขาไปเรื่อย มีแถบทุกปากซอย ต่อไปคงมีสาขากลางซอย ท้ายซอย ในแบงค์ โรงหนัง ม่านรูด บราๆๆๆ
2.หุ้นโตช้า - OISHI เพราะ ตัน (มันตันแล้วจะโตได้ไงอ่ะ..ล้อเล่น)
3.หุ้นแข็งแกร่ง - SGP หลายคนต้องการพัฒนาตนเองให้หลุดพ้นจากคำว่า "ไม่เอาถ่าน" เลยหันมาใช้แก๊สในการหุงต้มมากขึ้น รวมถึงแก๊สยานยนต์ (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ยะ)
4.หุ้นวัฎจักร - STPI หุ้นอะไรจะงานเข้าขนาดน๊านนนน..ของเค้าดีจริงๆ
5.หุ้นฟื้นตัว - SEAFCO หลังจากโดนมรสุมชุดใหญ่ ช่วงนี้เริ่มมีข่าวรับงานแล้ว
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - BROCK สินทรัพย์ที่มีเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันแล้วรู้สึกสวนทางกันจริงๆ..เฮ้อ..

ปล.ผมไม่มีหุ้นเหล่านี้ เพราะผมลงทุนในพอร์ทแฟน อิอิ

cpall นี่ผมไม่รู้ว่าจะเรียกหุ้นโตเร็วหรือเปล่า เพราะมันโตไปเรื่อยๆ ก็น่าจะเรียกว่าหุ้นโตไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
ผมว่าจากการขยายสาขาเท่าๆกันในแต่ละปีนั้นจะทำให้อัตราการเติบโตในปีหลังๆเริ่มน้อยลงหรือเปล่าครับ (แต่ก็โตเรื่อยๆ)
ส่วนตัวอื่นๆ ไม่มีความรู้ครับ

[quote]cpall นี่ผมไม่รู้ว่าจะเรียกหุ้นโตเร็วหรือเปล่า เพราะมันโตไปเรื่อยๆ ก็น่าจะเรียกว่าหุ้นโตไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
ผมว่าจากการขยายสาขาเท่าๆกันในแต่ละปีนั้นจะทำให้อัตราการเติบโตในปีหลังๆเริ่มน้อยลงหรือเปล่าครับ (แต่ก็โตเรื่อยๆ)
[/quote]

ถ้าโตไปเรื่อยๆ พอๆกับ GDP ผมเข้าใจว่า Lynch เรียกว่า หุ้นแข็งแกร่งนะครับ

ถ้าพูดเหมือนกันทุกคนนี่ เป็นหุ้นที่ต้องระวังด้วยรึป่าว ว่าราคาเกินพื้นฐานแล้ว

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มาแชร๋ครับ

หุ้นโตเร็ว - หุ้นส่วนชีวิต โตเอาโตเอา  :lol:  :lol:

[quote="กุหลาบงามหลังฝน"]หุ้นโตเร็ว - หุ้นส่วนชีวิต โตเอาโตเอา

[quote="sai"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"]หุ้นโตเร็ว - หุ้นส่วนชีวิต โตเอาโตเอา

1.หุ้นโตเร็ว - มันหมายความว่า โตแบบก้าวกระโดด จากยอดการขาย ส่งผลทำให้กำไรโต หากมองคือ บริษัทได้เป็นผู้นำในการเปิดตลาดใหม่ (Blue Ocean)
2.หุ้นโตช้า - อันนตอบไม่ค่อยได้ว่าเกิดจากอะไร เกิดจากสินค้าบริการนั้นยังไม่เป็น mass product ผู้คนเข้าถึงไม่ได้ หรือ เป็นกิจการที่กำลังอยู่ใน S ส่งท้ายๆ แล้ว
3.หุ้นแข็งแกร่ง - เจออะไรก็รอดตายหมด ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเป็นอย่างไง
4.หุ้นวัฎจักร - ไปตามสภาพของเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
5.หุ้นฟื้นตัว - อันนี้เป็น RED OCEAN แบบสมบูรณ์แบบ ฆ่าฟันกันจนไม่เหลือกำไร มีบริษัทล้มตายกันมาก จนสุดท้ายต้องทำสนธิสัญญาว่า ลดราคาไปก็เป็นผู้ประโยชน์แก่ลูกค้า ก็จับมือกันให้ราคานิ่งอยู่แถวนี้ล่ะดีที่สุด
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - ขอผ่าน เพราะมีมากแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ก็ไม่เกิดผลอะไร

miracle เขียน:1.หุ้นโตเร็ว - มันหมายความว่า โตแบบก้าวกระโดด จากยอดการขาย ส่งผลทำให้กำไรโต หากมองคือ บริษัทได้เป็นผู้นำในการเปิดตลาดใหม่ (Blue Ocean)
2.หุ้นโตช้า - อันนตอบไม่ค่อยได้ว่าเกิดจากอะไร เกิดจากสินค้าบริการนั้นยังไม่เป็น mass product ผู้คนเข้าถึงไม่ได้ หรือ เป็นกิจการที่กำลังอยู่ใน S ส่งท้ายๆ แล้ว
3.หุ้นแข็งแกร่ง - เจออะไรก็รอดตายหมด ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเป็นอย่างไง
4.หุ้นวัฎจักร - ไปตามสภาพของเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
5.หุ้นฟื้นตัว - อันนี้เป็น RED OCEAN แบบสมบูรณ์แบบ ฆ่าฟันกันจนไม่เหลือกำไร มีบริษัทล้มตายกันมาก จนสุดท้ายต้องทำสนธิสัญญาว่า ลดราคาไปก็เป็นผู้ประโยชน์แก่ลูกค้า ก็จับมือกันให้ราคานิ่งอยู่แถวนี้ล่ะดีที่สุด
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - ขอผ่าน เพราะมีมากแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ก็ไม่เกิดผลอะไร

อย่างหุ้นโรงพยาบาลที่ไม่ยึดติดกับลูกค้าต่างชาติบางตัวจะเป็นหุ้นแข็งแกร่งได้มั๊ยเอ่ย  :)

เล่นมั้งครับ พื้นฐานบริษัทอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับราคา  :D

1.หุ้นโตเร็ว - HMPRO BOL TNH SCNYL ผลประกอบ 3-4 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างโดเด่น
2.หุ้นโตช้า - ADVANC SAUCE TF เป็นผู้นำที่โดดเด่นแต่ธุรกิจอิ่มตัวแล้ว
3.หุ้นแข็งแกร่ง - CPALL ไม่มีใครทาบได้
4.หุ้นวัฎจักร - TTA PSL PTT BANPU รอแค่เวลาเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
5.หุ้นฟื้นตัว - AKR รอการทำกำไรของ Ekarat Solar
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - BROCK AYUD ลองดูงบก็จะรู้เอง

โห้ะ ะ  นึกว่าจาไม่มีคัยพูดถึง AYUD สะแล้ววว ฮ่าาๆ

จิงๆก้อสนใจอยุ่แต่ยังไม่ได้ไปอ่านรายละเอียดเลยไม่รุ้ว่า เค้าถือหุ้นอะไรบ้างๆ

[quote="atsu"][quote="sai"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"]หุ้นโตเร็ว - หุ้นส่วนชีวิต โตเอาโตเอา

1.หุ้นโตเร็ว - HMPRO BOL TNH SCNYL ผลประกอบ 3-4 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างโดเด่น
2.หุ้นโตช้า - ADVANC SAUCE TF เป็นผู้นำที่โดดเด่นแต่ธุรกิจอิ่มตัวแล้ว
3.หุ้นแข็งแกร่ง - CPALL ไม่มีใครทาบได้
4.หุ้นวัฎจักร - TTA PSL PTT BANPU รอแค่เวลาเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
5.หุ้นฟื้นตัว - AKR รอการทำกำไรของ Ekarat Solar
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - BROCK AYUD ลองดูงบก็จะรู้เอง


น่าสนใจครับ ผมลืม AYUD ไปได้ยังไงนี่

[quote="IWILLBEVI"]1.หุ้นโตเร็ว - HMPRO BOL TNH SCNYL ผลประกอบ 3-4 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างโดเด่น
2.หุ้นโตช้า - ADVANC SAUCE TF เป็นผู้นำที่โดดเด่นแต่ธุรกิจอิ่มตัวแล้ว
3.หุ้นแข็งแกร่ง - CPALL ไม่มีใครทาบได้
4.หุ้นวัฎจักร - TTA PSL PTT BANPU รอแค่เวลาเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
5.หุ้นฟื้นตัว - AKR รอการทำกำไรของ Ekarat Solar
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - BROCK AYUD ลองดูงบก็จะรู้เอง


ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน  :P  ขำๆครับซื้อมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าปีนี้จะได้เห็นหรือป่าว เห็นผู้บริหารให้ข่าวมาตั้งนานแล้ว วัดดวง

n-park น่าจะเป็นหุ้นฟื้นตัวได้ไหมครับ

piggyman007 เขียน:n-park น่าจะเป็นหุ้นฟื้นตัวได้ไหมครับ

:lol:  :lol:  :lol:

Calcio 8 เขียน:

IWILLBEVI เขียน:1.หุ้นโตเร็ว - HMPRO BOL TNH SCNYL ผลประกอบ 3-4 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างโดเด่น
2.หุ้นโตช้า - ADVANC SAUCE TF เป็นผู้นำที่โดดเด่นแต่ธุรกิจอิ่มตัวแล้ว
3.หุ้นแข็งแกร่ง - CPALL ไม่มีใครทาบได้
4.หุ้นวัฎจักร - TTA PSL PTT BANPU รอแค่เวลาเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
5.หุ้นฟื้นตัว - AKR รอการทำกำไรของ Ekarat Solar
6.หุ้นสินทรัพย์มาก - BROCK AYUD ลองดูงบก็จะรู้เอง


ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน  :P  ขำๆครับซื้อมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าปีนี้จะได้เห็นหรือป่าว เห็นผู้บริหารให้ข่าวมาตั้งนานแล้ว วัดดวง

บางครั้ง "โอกาส" ก็เปลี่ยนโฉมหน้าเป็น "วิกฤติ" ไปซะอย่างนั้น
แต่วางใจไม่ได้ครับ!!!
เพราะ "สองคนนี้"...มันชอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้อ่ะนะขอรับ ^ ^

จากชื่อกระทู้ หุ้นในดวงใจ 6 แบบของPeter Lynch ผมว่าอาจจะไม่ตรงนัก ผมเข้าว่าPeter Lynchไม่ได้ชอบหุ้นทั้ง6แบบ แต่แบ่งหุ้นเป็น6แบบมากกว่า ซึ่งแบบที่Peter Lynchชอบลงทุนผมเดาว่าน่าจะเป็น หุ้นโตเร็ว มากกว่านะครับ^^(ไม่ชัวร์ผิดถูกช่วยแชร์ด้วยนะครับ)

ซึ่งผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ หากจะให้เพื่อนๆช่วยแชร์มุมมองว่าหุ้นแต่ละกลุ่ม ต้องดูอะไรบ้างถึงจะSucessในการลงทุนในหุ้นแต่ละกลุ่ม^^
1.หุ้นโตเร็ว//ผมว่าน่าจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือโตเร็วถาวร กับโตเร็วชั่วคราว
โตเร็วถาวรก็น่าจะเป็นหุ้นกลุ่มค้าปลีก ประกันชีวิต หรือหุ้นที่รายได้มั่นคงสามารถโตได้ปีละกว่า30% ถ้าepsเพิ่ม ยังโตต่อเนื่องPEก็คงที่ ดังนั้นPriceก็จะFollowไปตามการโตของกำไรเลย^^(+Divอีก)
ส่วนโตเร็วชั่วคราวน่าจะเป็นพวกที่ได้งานประมูล หรือได้Orderสั่งผลิต ซึ่งอันนี้คงต้องตามข่าว
2.หุ้นโตช้า//ผมว่าน่าจะเป็นพวกที่อิ่มตัวแล้ว เน้นปันผลกัน ซึ่งความคิดเห็นส่วนตัวผมว่าถ้าเล่นหุ้นแล้วได้กำไรต่ำกว่า12%น่าจะแบ่งพอร์ทไปลงทุนทองคำดีกว่านะครับเพราะทองก็return12%เหมือนกันแต่ไม่เสี่ยงเหมือนหุ้นครับ^^น่าจะคุ้มกว่านะ
3.หุ้นแข็งแกร่ง//น่าจะพวกได้สัมปาน หรือเป็นNo.1ของธุรกิจ ผมว่าkeyคือสมมุติเจอหุ้นที่มีUpsideเท่ากัน แต่ตัวหนึ่งไม่ใช่หุ้นแข็งแกร่ง อีกตัวเป็นหุ้นแข็งแกร่ง เราก็น่าจะเลือกได้ไม่ยาก หรือในช่วงที่ศก.ดูสุ่มเสี่ยงจะเกิดPanicใหญ่ๆการเล่นหุ้นแข็งแร่งแม้นupsideน้อยกว่าอาจจะคุุ้มกว่า
4.หุ้นวัฎจักร//ผมไม่รู้ต้องถามคุณHongvalueเทพหุ้นวัฎจักร
5.หุ้นฟื้นตัว//อันนี้ต้องถามพี่Pakเทพหุ้นเทินอะราว
6.หุ้นสินทรัพย์มาก//อันนี้Keyน่าจะเป็น 1)สินทรัพย์จริงมีมูลค่ากว่าBVที่มี 2)ต้องไม่ขาดทุนเพราะถ้าขาดทุนBVก็ต่อลง PBVเท่าเดิม Priceก็ต่ำลงFollowไปตามBV 3)มีตัวปลดล็อกเพราะการปิดประตูแพ้อาจจะมาพร้อมกับการปิดประตูชนะก็ได้ แบบว่าถือไป10ปียังBVต่ำเสมอมา

สรุปการแชร์Ideaการลงทุนในแต่ละแนวน่าจะได้ประโยชน์มากๆ รอเพื่อนๆมาช่วยกันแชร์ในมุมมองแต่ละคนนะครับ^^
ปล.ยิ่งถ้าเป็น พี่กุหลาบ พี่SAI พี่PAK หรือพี่ท่านอื่นๆที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนมาแชร์น่าจะดีสุดๆๆๆเลยครับ^^

หุ้นของขาพเจ้า เป็นประเภท 7 ไม่รู้ว่าอยู่กลุ่มไหน...เฮ้อ...

เอ่อ จริงๆ ลินช์ ได้ผลตอบแทนจาก fannie mae สูงที่สุดคับ
หุ้นในดวงใจตลอดกาลของลินช์คือ s&l คับ


อ้างอิงจาก beating the street

picklife เขียน:6.หุ้นสินทรัพย์มาก//อันนี้Keyน่าจะเป็น 1)สินทรัพย์จริงมีมูลค่ากว่าBVที่มี 2)ต้องไม่ขาดทุนเพราะถ้าขาดทุนBVก็ต่อลง PBVเท่าเดิม Priceก็ต่ำลงFollowไปตามBV 3)มีตัวปลดล็อกเพราะการปิดประตูแพ้อาจจะมาพร้อมกับการปิดประตูชนะก็ได้ แบบว่าถือไป10ปียังBVต่ำเสมอมา

เวลาซื้อพวก asset play บางทีความโลภบังตามากๆ ผมลืมดูข้อ 2 ประจำ 55++
ทำให้เสีย ค่าเสียโอกาส ไปเยอะ เพราะดูข้อ 3 ไม่ขาด แต่ก็ไม่ค่อยเข็ด
อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าจะเล่นกลุ่มนี้ให้ได้ดีต้องทำยังไง
นอกจากติดตามข่าวอยู่เป็นประจำ + มีเงินเยอะ take over เลย
เพราะยังมีหุ้นแบบนี้ให้เล่นอยู่เยอะ (มั๊ง) แต่พี่ๆทั้งหลายก็มักเตือนว่า เล่นยาก หรือ ไปซื้อกลุ่มอื่นดีกว่า
http://dekisugi.net/archives/27 Asset Play จาก พี่สุมาอี้
http://bbznet.pukpik.com/scripts3/view. ... r=numtopic Asset Play จาก พี่ IH
แล้วก็จำได้ว่า เคยอ่านสรุป จาก VI Meeting ภาคใต้ว่า เล่นยาก ต้องคำนึงเรื่องปลดล็อกด้วย
แต่อาจารย์นิเวศน์ เจ๋งไปเลยเนาะครับ MBK (เข้าใจว่าจากบทความ ซื้อที่ผ่านหุ้น ... ประมาณนั้น)
ส่วนผม ก็ทำใจขายไม่ค่อยได้ซักที กับหุ้นกลุ่มนี้ เลยทำได้แค่ ลดสัดส่วนหุ้นกลุ่มนี้ลงแทน
อ้อ ตามกระทู้นี้ หุ้นกลุ่มนี้ ก็คงเป็นพวกมีที่มากๆ อย่างกลุ่มโรงแรม มั๊งครับ
(จริงๆ สินทรัพย์มากนอกจากที่ดิน ก็น่าจะมีอีกมั๊งครับ เช่น เงินสด หรือ หุ้น )

อันนี้ไม่เกี่ยวแล้วนะครับ อยากรู้ว่า Defensive Stock เนี่ย ลินซ์จัดให้อยู่กลุ่มไหนหรือเปล่า
หรือว่า เป็นคุณสมบัติพิเศษหว่า .... สงสัยต้องกลับไปอ่านใหม่อีกแล้ววววว

nut776 เขียน:เอ่อ จริงๆ ลินช์ ได้ผลตอบแทนจาก fannie mae สูงที่สุดคับ
หุ้นในดวงใจตลอดกาลของลินช์คือ s&l คับ


อ้างอิงจาก beating the street

คืออะไรหรอครับ รบกวนแชร์เพิ่มด้วยครับ ขอบคุณครับ

sipoonya เขียน:อยากรู้ว่า Defensive Stock เนี่ย ลินซ์จัดให้อยู่กลุ่มไหนหรือเปล่า
หรือว่า เป็นคุณสมบัติพิเศษหว่า .... สงสัยต้องกลับไปอ่านใหม่อีกแล้ววววว

ถือว่าเป็นเห็นแข็งแกร่งไหมครับ ถ้าจะเป็นแนวรับได้ ก็ต้องแกร่งพอที่แม้นเกิดภาวะวิกฏติก็ไม่กระทบปะครับ

pornchal เขียน:หุ้นของขาพเจ้า เป็นประเภท 7 ไม่รู้ว่าอยู่กลุ่มไหน...เฮ้อ...

ประเภทเดียวกับปะครับพี่ หุ้นตี(หัว)แตก สามารถพลิกกำไรเป็นขาดทุนได้!!

Defensive stock ก็น่าจะเป็นหุ้นที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คนก็ต้องกินต้องใช้ ต้องจับจ่ายสินค้าของเขา อาจจะลดการจับจ่ายบ้าง แต่ไม่ซื้อไม่ได้ เพราะป็นสิ่งจำเป็น รึป่าวครับ

Asset play รุ่นพี่บางท่านบอกว่า ถ้าไม่มีสัญญาณที่เขา (ผู้บริหาร) จะทำการปลดปล่อยหรือปลดล็อกทรัพย์สินออกมา โอกาสที่จะทำให้ราคาหุ้นขึ้นยาก ยกเว้นมีปัจจัยอื่นที่จะทำให้เขากลายร่างมาเป็นหุ้นแบบอื่น อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของบริษัท เช่น business model ดังนั้นการลงทุนกลุ่มนี้อาจจะทำให้เสียโอกาสก็เป็นได้

picklife เขียน: 6.หุ้นสินทรัพย์มาก//อันนี้Keyน่าจะเป็น 1)สินทรัพย์จริงมีมูลค่ากว่าBVที่มี 2)ต้องไม่ขาดทุนเพราะถ้าขาดทุนBVก็ต่อลง PBVเท่าเดิม Priceก็ต่ำลงFollowไปตามBV 3)มีตัวปลดล็อกเพราะการปิดประตูแพ้อาจจะมาพร้อมกับการปิดประตูชนะก็ได้ แบบว่าถือไป10ปียังBVต่ำเสมอมา

ถ้าพูดในรายละเอียดแล้ว Lynch เองจะไม่ค่อยดู Book Value นะครับ เพราะมันเป็นตัวเลขที่เชื่ออะไรไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะพวกสิ่งปลูกสร้างและสินค้ายังไม่ได้จำหน่าย สิ่งที่ Lynch ให้ความสนใจมากๆจะเป็นเงินสดที่บริษัทมีเสียมากกว่า รองมาคือที่ดินหรือบริษัทลูกที่ตัดขายได้ ซึ่งพวกนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เอามาคำนวน BV อีกที เขาไม่ค่อยได้พูดถึง Story การปลดล็อคเท่าไหร่อาจเป็นเพราะว่าการเป็นผู้จัดการกองทุนเองก็มีความสามารถในการโน้มน้าวให้ปลดล็อคในระดับหนึ่ง

picklife เขียน:

nut776 เขียน:เอ่อ จริงๆ ลินช์ ได้ผลตอบแทนจาก fannie mae สูงที่สุดคับ
หุ้นในดวงใจตลอดกาลของลินช์คือ s&l คับ


อ้างอิงจาก beating the street

คืออะไรหรอครับ รบกวนแชร์เพิ่มด้วยครับ ขอบคุณครับ

s&l คือ saving and loan คับ
มีรายใหญ่คือ fannie mae กะ feddie mac
สองตัวนี้ buffet เึคยถือด้วย

มีอยู่บางช่วง lynch กว้านซื้อ s&l น้ำดีกว่า ร้อยบ. (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ)
และ fannie mae เป็นหุ้นตัวเดียว ที่ ลินช์ แนะนำ
ใน นิตยสาร barron 6 ปีติดต่อกัน (ถ้าจำไม่ผิด แต่แน่ๆมากสุดในทุกตัวที่ลินช์แนะนำ)
หลายคนจะจดจำ ลินช์จาก หุ้นรถ หุ้นค้าปลีก
แต่น้อยคนจะจดจำว่าหุ้นตัวที่ทำกำไร เป็นเม็ดเงินให้แมคเจนแลนมากสุด
คือ fannie mae คับ

ลองหาอ่าน คำเยินยอ ซะแทบคลั่ง ของลินช์
ใน beating the street ได้คับ
ผมคิดว่า ส่วนตัวเล่มนี้ ดีสุด ของ ลินช์ คับ