Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อยากรู้ว่ามันใช้ได้จริงหรือเปล่าครับ อยู่ๆก็บวกยิกๆ

ซื้อและปล่อยไปนานละครับ

เพราะงานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลามาดูเลย

ขายหมูไปเรียบร้อย  :8)

ซื้อและปล่อยไปนานละครับ

เพราะงานไม่ยุ่ง เลยมีเวลามาดูเยอะเกินนน

ก็เลยขายหมูไปเรียบร้อย  เช่นกัน  :8)


อ้าว....เค้าถามเจ้าพ่อฟันธงเอ้ยฟันโฟว์(มด?) นี่นาาาา ผมไม่ใช่อะครับ เดี๋วไปจุดธูปเรียกให้ครับ   :lol:

newbie_12 เขียน:อยากรู้ว่ามันใช้ได้จริงหรือเปล่าครับ อยู่ๆก็บวกยิกๆ

คุณ newbie_12 อธิบายให้ผมฟังหน่อย ยิก ๆ นี่ศัพท์ใหม่หรอครับ แปลว่าอะไรอ่ะ

Linzhi เขียน:

 

ยิกๆ คงเหมือนกับ ถี่ ๆ  มั้ง  :lol:  

ปล. แซวเขาไปทั่ว 5555

[quote="AuI_a VI"]ซื้อและปล่อยไปนานละครับ

เพราะงานไม่ยุ่ง เลยมีเวลามาดูเยอะเกินนน

ก็เลยขายหมูไปเรียบร้อย

ผมยังถืออยู่นะ ตอนนี้ถืออยู่ตัวเดียวเลย

80% ของ port ถือหุ้นกลุ่มพลังงาน

ผมคิดว่า set ที่ระดับ 520 ขึ้นไป

มันน่าหวาดเสี้ยวพอสมควรเลยนะ

ปล่อยไปแล้วครึ่งนึง

ที่เหลือรอดูอีกหน่อยครับ :lol:

  เข้ามาดู

น้องฮงถือตัวเดียวเลยหรือเนี่ย  :roll:  

ก่อนหน้านี้ผมเห็นว่า มันถูกมาก เก็บมานานแล้ว
ไปๆมาๆ เก็บไปเกือบ 15 ตัวได้มั้งครับ

ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อ แต่ว่า ชอบโฟร์ มด เพราะเพลงเค้าเพราะอ่ะ  :lol:

ตอบคำถามดีกว่า...

- ถ้าเรายึดถือที่ value
เมื่อ under value ก็แค่ซื้อ
ส่วนราคาต่อรอง(MOS.) จะเท่าไหร่ ก็แล้วแต่คนครับ

- อ่านจาก คัมภีร์หุ้น
เค้าบอกว่า ส่วนใหญ่ แนะนำให้ซื้อตอนขาขึ้น

แต่จริงๆแล้วคงไม่มีใครบอกได้มั้งครับว่า ขาขึ้นจริงหรือไม่ จนกว่า เวลาจะผ่านไป

แต่ตอนนี้ volume ก็เยอะ
ต่างกับก่อนๆ volume บางวัน 6 พันล้านบาทเองครับ
ตอนนี้ 3 หมื่นล้านบาท

ต่างชาติ ก็ short หุ้นน้อยลง และมา long หลายสัญญา
(นานๆมีคนpost ให้อ่านที )

ถ้าจะซื้อ ก็ลองค่อยๆซื้อดูก็ได้มั้งครับ
และเลือกหุ้นให้เหมาะสมกับ live style ของ จขกท.นะครับ

ผมชอบประโยคนี้ ของพี่ MPRANDY ครับ
ขออนุญาตินำมาลงอีกทีครับ

เป็นข้อความทาง pm ...
ผมเคยขออนุญาติพี่เค้าแล้ว
และเคย post ไว้หลายครั้งครับ

เดือน พย. 2008
noooon010 wrote:
p'mparnady สวัสดีครับ

อยากทราบว่า จริงๆพี่ทราบว่าเศรษฐกิจที่อเมริกามันแย่ คนตกงานเยอะ สถิติอะไรก็แย่หมด

แต่ทำไมพี่ถึงยังลงทุนอยู่ และยังซื้อเพิ่มครับ

...ตามความคิดผม :สำหรับตัวผมเอง ผมลงทุนเพราะว่า ราคาหุ้นตอนนี้มันถูกกว่าราคาพื้นฐานค่อนข้างมาก
หลายตัวก็เป็นหุ้นที่ดีที่ไม่มีใครมาดูแลราคา
และผมเองก็อยากร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นผมจึงลงทุนเท่าที่ผมพอใจ
(ผมจะแบ่งเงินไว้ใช้จ่าย และเหลือเก็บบ้าง แล้วจึงนำเงินส่วนที่เหลือมาลงทุนครับ)

ผมอ่านหนังสือ CEO ของ Buffett แล้ว ผมชอบลู ซิมสัน กับคุณนาย B มากๆครับพี่

ผมว่าเค้าทำให้รู้จักคำว่า "ลงทุนด้วยชีวิต"ครับ
ผมเบื่อที่จะตาม dow (ทั้งๆที่ผมก็ update ข่าว dow ที่ temple)

- พี่ mprandy แบ่งเวลาอย่างไรครับ
ไหนจะงานที่ รพ. ไหนจะดูแลสุขภาพ

พอดีกำลังพัฒนาตนเอง และแบ่งเวลาให้เป็นครับ
คิดว่า ดาราดีๆหลายคนเค้ายังแบ่งเวลาทำงาน เวลาเรียนได้เลยครับ
สู้ๆครับงานนี้

ไว้คุยกันใหม่ครับพี่ครับ ^^

พี่ MPRANDY ตอบมาครับว่า

เหตุที่ผมอาจจะมีลักษณะการลงทุนต่างจากสมาชิกท่านอื่นใน TVI ก็เพราะว่าผมไม่ใช่ full time investor หมายถึงว่าผมไม่ได้อาศัยรายได้หลักเลี้ยงปากท้องจากการลงทุน แถมเป้าหมายหลักของผมคือ financial freedom ที่ 14 ปีครับ

การมองเป้าหมายยาว หมายความว่าอย่างน้อย 5 ปีนี้ (หรือมากกว่า) ผมเป็น net buyer ครับ ไม่มีเจตนาจะขาย (ยกเว้นว่าพื้นฐานกิจการเปลี่ยน มองผิด วิเคราะห์ผิด) เมื่อเราเป็นผู้ืซื้อ ไม่ใช่ผู้ขาย ก็ควรจะดีใจที่ราคาหุ้นมันถูก ๆ (คนเสียใจที่หุ้นถูก คือคนที่ตั้งใจจะขายออก จริงไหม) ผมบอกไม่ได้ว่าหุ้นที่ผมถือจะราคาตกลงไปกว่านี้หรือไม่ในอีก 1 ปีหรือ 2 ปีจากนี้ แต่ผมบอกได้ว่ากิจการที่ผมถือแข็งแกร่งเพียงพอที่จะผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้แน่นอน และจะเติบโตไปเรื่อย ๆ และถ้ากิจการมันเติบโตไปเรื่อย ๆ 5 ปี 7 ปี หรือ 10 ปี ในที่สุดราคาหุ้นจะสะท้อนพื้นฐานของมันออกมาเอง

จริง ๆ คนรู้มาก มองโน่นวิเคราะห์นั่น ก็ไม่ได้ผลดีนักหรอก ไม่งั้นคงมีพวกเล่นรอบร่ำรวยน้อง ๆ Buffett ไปแล้ว แต่เท่าที่เห็นมาก็ยังไม่มีใครเทียบได้ (เทียบห่าง ๆ ก็ยังไม่ได้)

หรือตัวอย่างแม่ผมเอง ไม่มีความรู้เรื่องหุ้นอะไรทั้งนั้น แต่เขาอยากซื้อหุ้น BBL ตั้งแต่สมัยก่อนวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 อีก แล้วก็ถือมาเรื่อย ๆ แบบไม่เคยรู้เรื่อง ไม่สนใจ

จากหุ้นละ 307 บาท (พาร์ 100) แล้วก็ได้ลูกหุ้นเพิ่มทุนที่พาร์อีกหลายหน ตอนนี้ต้นทุนไม่มีแล้วครับ คืนทุนมาเป็นปันผลหมดแล้ว ณ ตอนนี้ตลาดให้ BBL ราคาเท่าไหร่ก็ไม่สนครับ ตราบใดที่มันยังไม่เจ๊ง ปันผลได้ทุกปีก็พอใจแ้ล้ว

แต่ผมก็ไม่ criticize คนที่ลงทุนแบบอื่นนะครับ จะเป็น VI แท้ VI เทียม เล่นรอบ หรือเด็กเทคนิค ผมเห็นว่าทุกคนคือนักลงทุนหมด แต่ละคนมีเป้าหมายและวิธีต่างกัน ตราบใดที่ไม่ทำชั่ว ทำผิด (แบบ SECC) ผมโอเคหมด และในเมื่อวิธีต่างกัน คงจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทน ที่เวลาใดเวลาหนึ่ง หรือแม้กระทั่งระดับความเครียด  

การเป็นหมอ แล้วเป็น part time investor นี่ดีหลายอย่างนะ ดูไปดูมาเหมือน Berkshire เลย เพราะบริษัทนี้มีรายได้สม่ำเสมอจากกิจการประกันภัย แต่สร้างความมั่งคั่งจากพอร์ทหลักทรัพย์ เหมือนหมอ มี constant cash flow จากการประกอบวิชาชีพ แล้วแบ่งเิิงินส่วนเหลือไปสร้างความมั่งคั่ง

เรื่องข่าวทั้งหลายแหล่ ก็ติดตามครับ แต่ผมไม่ใช้ข่าวมาเป็นปัจจัยหลักในการวิเคราะห์กิจการ ยกเว้นว่าข่าวนั้นมีผลกระทบจำเพาะกับกิจการที่เราลงทุน เพราะดูจากข่าวที่เห็น ๆ อยู่ มันมีผลกระทบไปทั่วทุกกิจการ ถือเป็นเรื่องที่ปกติ และเราควบคุมอะไรไม่ได้ กิจการที่ดีและแข็งแกร่งจะถือโอกาสนี้เป็นประโยชน์มากกว่า (ปรับปรุงระบบการทำงาน, ลดค่าใช้จ่าย, ระมัดระวังในการดำเนินกิจการ แล้วรอให้คู่แข่งล้มหายตายจาก)

เรื่องแบ่งเวลา ผมก็ไม่ได้แบ่งอะไรชัดเจน ก็ทำ ๆ ไปด้วยกันทั้งทำงาน วิชาการ บริการ ลงทุน ค้นคว้าหาความรู้ บำรุงรักษาสุขภาพ พักผ่อนหย่อนใจ (อันหลังนี่น้อยหน่อย) ดู ๆ ให้มันเหมาะสมครับ

นึกย้อนมาถึงวันนี้
ผมขอบคุณพี่เค้าที่เตือนสติ และตั้งแต่วันนั้น ผมเริ่มสนใจลงทุนโดยศึกษาแนวการลงทุน ของ Warren Buffett มากขึ้นครับ

อย่างน้อยกำไรที่ได้ ก็คือกำไรชีวิตครับ

...มีคนบอกว่า ไม่ว่า จะเป็นแมว ชนิดไหน
ถ้าจับหนูได้เหมือนกัน ก็ ok แล้วล่ะครับ

เลือกแมวที่คุณชอบนะครับ :lol:

Linzhi เขียน: คุณ newbie_12 อธิบายให้ผมฟังหน่อย ยิก ๆ นี่ศัพท์ใหม่หรอครับ แปลว่าอะไรอ่ะ

ยิกๆ เป็นศัพท์อดีตวัยรุ่น (ตอนนี้ไม่วัยรุ่นแล้ว)

บวกยิกๆ แปลว่า บวกแล้วบวกเล่าในเวลาอันสั้นครับ
(ถ้าศัพท์ผมกับคุณนิวบีตรงกันนะครับ )

Linzhi เขียน: คุณ newbie_12 อธิบายให้ผมฟังหน่อย ยิก ๆ นี่ศัพท์ใหม่หรอครับ แปลว่าอะไรอ่ะ

ยิกๆ จริงๆมันก็คือเหมือนกะเราทำอะไรยิกๆๆๆๆ

อิอิ งงไปกันใหญ่ คือมันประมาณว่า เร็วๆ เร่งทำแบบเร็วๆ

หุ้นบวกยิกๆ ประมาณว่าอยู่ๆมันก็ + เร็วมาก เร็วแบบไม่ปกติ แบบยิกๆนี่แหละครับ

ศัพท์สมัยตอนเรียนป ตรี ครับ ก็ไม่วัยรุ่นเท่าไหร่ละครับ

newbie_12 เขียน: ยิกๆ จริงๆมันก็คือเหมือนกะเราทำอะไรยิกๆๆๆๆ

อิอิ งงไปกันใหญ่ คือมันประมาณว่า เร็วๆ เร่งทำแบบเร็วๆ

หุ้นบวกยิกๆ ประมาณว่าอยู่ๆมันก็ + เร็วมาก เร็วแบบไม่ปกติ แบบยิกๆนี่แหละครับ

ศัพท์สมัยตอนเรียนป ตรี ครับ ก็ไม่วัยรุ่นเท่าไหร่ละครับ

ผมเริ่มฟื้นความจำและ กดรัวยิกๆๆๆ .. ได้มาจากเกมส์นะครับ ไม่ใช่แถวรัชดา  :lol:

ขอบคุณคุณ noooon010 กับคุณ Mr. Prandy มากครับ ผมหมูกิ๊กเ ก่า CPN ไปแล้วตัวนึง อุตส่าห์ซื้อได้ซะถูก

ผมก็ดำเนินรอยตามพี่ Mr. Prandy ครับ ซื้อมาตลอด ขายอยู่ครั้งเดียว ตอนช่วงหุ้นไหลเดือนต.ค. ไม่ไหวจริง ๆ แต่ก็แค่เดือนเดียว

เดือนถัดมาก็ซื้อกลับแล้วก็ซื้อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน

net cash flow ของผม ยังติดลบอยู่ตลอด เกือบทุกเดือนมาห้าปีแล้ว

ผมหวังว่าอีกซักห้าปี เวลาผมหยุดลงทุนแล้ว คงเป็นบวกยาว เหมือนกับพวก BIGC ที่ตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว 55555

เค้ารู้อายุหมดเลยพี่ :lol:

ว่าแต่เข้ามาดูเหมือนกันครับ

ยิกไม่น่าเป็นศัพท์วัยรุ่นหรืออะไรหรอกครับ
น่าเป็นภาษาใต้ ยิก ที่แปลว่า ไล่ อะครับ
 ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ครับ  (เวลาพูดล้อเลียน พูดทองแดงตลกๆ ครับ)ก็อาจนำมาใช้ได้

ลงทุนมาได้หนึ่งปี ไม่กำไรและไม่ขาดทุนครับ
ผลตอบแทน 0%    :shock:  :shock:  :shock:

ผมคนหนึ่งที่นับถือหมอแพรนดี้ ว่าแนวคิดบวกวิธีการของหมอว่าชั้นครูเลยครับหมอนุ่น

คนอะไรไม่รู้เล่นหุ้นมาไม่ทันไร เก่งยังกับโคตรเซียนมาเกิด

เท่าที่รู้มา เห็นว่าปีนี้เซียนฟัน...ฮง ซัดไป30กว่า%แล้ว

ส่วนผมเริ่มทะยอยปรับตัวเป็นเต่าตั้งแต่กลางปีที่แล้ว เพราะคิดว่าปีนี้คงซึมๆทั้งปี มาร์จิ้นตอนนี้ก็คืนไปเกลี้ยง ถึงแม้นจะถือเต็ม100ก็ตาม

แต่พอร์ตปีนี้มา4เดือนฟ่า ก็เป็นเต่าอย่างที่หวัง บวกไปราว18%ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ปีนี้จะเป็นปีแรกที่แพ้SETหล่ะคราวนี้ 555

noooon010 เขียน:...มีคนบอกว่า ไม่ว่า จะเป็นแมว ชนิดไหน
ถ้าจับหนูได้เหมือนกัน ก็ ok แล้วล่ะครับ

เลือกแมวที่คุณชอบนะครับ :lol:

ผมได้ยินประโยคนี้หลายครั้ง

ไม่รู้ว่าผมจะเข้าใจความหมายที่ถือต้องหรือเปล่า

ที่ผมเข้าใจก็คือว่า

ชงก็ใช้คำๆนี้บ่อยครับพี่ฉัตร

แต่ความหมายที่ชงคิดไว้คือ ทำแบบไหนก็ได้แต่อยู่ในกรอบของศิลธรรมและกฎหมาย

แต่พอพี่ฉัตรมาท้วง เมื่อปีที่แล้ว ก็เลยมาคิดได้ว่า ก็จริงแบบพี่ ที่การสื่อสารกว้างๆ คนอื่นเขาอาจคิดแบบอื่นได้

ตั้งแต่นั้นมาเลยระวังในคำๆนี้ แต่ชงเชื่อว่าหมอนุ่นเขาก็คิดแบบชงนั่นแหละครับ

chatchai เขียน:

ผมได้ยินประโยคนี้หลายครั้ง

ไม่รู้ว่าผมจะเข้าใจความหมายที่ถือต้องหรือเปล่า

ที่ผมเข้าใจก็คือว่า

naris เขียน:
เท่าที่รู้มา เห็นว่าปีนี้เซียนฟัน...ฮง ซัดไป30กว่า%แล้ว

พี่รู้ได้ไงอะ

:lol:

chatchai เขียน:

ผมชอบและเห็นด้วยกับคำว่า
จะเป็นแมว ชนิดไหน ถ้าจับหนูได้ก็เหมือนกัน
การที่คนเราจะทำอะไรจะต้องรู้จริตของตัวเองเป็นที่ตั้ง คนหนึ่งคนทำสำเร็จ
ไม่ได้เป็นตัวชี้บ่งว่า คนอีกคนต้องทำสำเร็จด้วย  ขอยกตัวอย่าง
เรื่องการทำสมาธิแล้วกันครับ การทำสมาธิมีวิธีการมากมาย  แต่วิธีการแต่
ล่ะวิธีไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน เพราะคนแต่ล่ะคนมีพื้นฐานจิต
สภาพแวดล้อม  อารมณ์ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราต้องเลือก วิหารธรรม
(เช่น ยุบ-หนอ , พุทธ-โท ) ไปตามสภาพของตัวเรา เพื่อให้ได้ผลที่ดี
ที่สุดสำหรับเรา  

ปล. เชื่อหลักการว่าหลักการแต่ล่ะการมีเหตุผลอันดีงามของมันอยู่ไม่ว่าจะ
เป็นเรื่องใด ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลที่หยิบขึ้นมาใช้ จะใช้ได้อย่างถูกต้องและ
ตรงตามวัตถุประสงค์ของมันหรือไม่

พึ่งดู DVD Tokyu drift จบครับ  หนังสนุกเหมือนเคย :lol:

ความหมายที่ผมเขียนที่พี่ฉัตรทัก รู้สึกว่า น้องฮงและเพื่อนๆน่าจะเข้าใจตรงกันมั้งครับ

ผมคิดว่า ตัวเงิน ไม่ได้สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นๆ
เช่น ชีวิตประจำวัน เพื่อนๆ การช่วยเหลือสังคม ฯลฯ

และ ผมเชื่อที่พระมหาสมปองเคยบอกไว้ครับ
 
ทำดี >> ดี
ทำไม่ดี >> ไม่ดี

ไม่ต้องหวังว่า เวลาหลังจากเราทำกรรมดี / ไม่ดี
แล้วจะได้ผลตอบแทนอะไร

เมื่อเราคิดจะทำสิ่งดี
แค่นั้นก็สุขใจแล้วล่ะครับ

ประโยคที่ผมพูดถึง ตอนนั้น ผมอ่าน คัมภีร์หุ้น และคุยกับ ชิ
(เพื่อนผมที่ดู fundflow มา6 +ปีแล้ว)

นานๆผมถึงเจอเพื่อนผมสักครั้ง

ชิ จะบอกว่า ไม่ว่า เราจะใช้หลักอะไร
ขอให้เรา คงไว้ซึ่งหลักการนั้น
ถ้าเราเขวเมื่อไหร่
หลักการจะกลายเป็นหลักเกิน

ถ้าดูกราฟ แล้ว กราฟ บอกให้ขาย
สุดท้าย ขายหมูไป

แต่เราต้องยอมรับ เครื่องมือในการลงทุนที่เราใช้
มีบางคนมาบ่นกับผมว่า เค้าใช้เครื่องมือของเค้า แล้วเค้ารู้สึกว่า ได้กำรน้อย

แต่จริงๆแล้ว
เครื่องมือนั้นๆ เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับเรา และเราชอบเครื่องมือนั้นหรือไม่

ถ้ามันเข้ากับเราได้

แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ
เพราะการลงทุนเป็นศิลปะครับ

...โดยที่ ลงทุนแบบขาวสะอาดนะครับ ...ผมก็รู้สึกไม่ดีกับการทำผิดศีลธรรมเช่นกันครับ

เกิดมาทั้งที ชีวิตนี้สั้นนัก
ทำสิ่งดีๆกันดีกว่าครับ

มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม  :D

ผมก็คิดว่าคุณนุ่นคงหมายถึงอย่างที่น้องฮงว่าไว้

hongvalue เขียน:
พี่รู้ได้ไงอะ

:lol:

ผมว่าน่าจะมากกว่านี้นะ เห็นยิกๆอยู่
:lol:


555

     เข้ามาฟังครับ

เป็นมุมมมองมีประโยชน์มากๆเลย กับนักลงทุนกินเงินเดือนอย่างผม

     ขอบคุณครับ

เข้ามาอ่าน :lol:   ยิกๆ :lol:

ผมก็นักลงทุน เงินเดือนเหมือนกันครับ  :D  
ผมว่า การแบ่งเงิน จัดสรรค์เงินเพื่อการใช้จ่าย และลงทุน เป็นสิ่งสำคัญนะครับ

ขอบคุณพี่ฉัตรอีกครั้งที่ช่วยชี้แนะนะครับผม
นึกถึงพี่เสมอ
โดยเฉพาะทุกครั้งที่เห็น liverpool ครับ(ขอแซวนิดหน่อยนะครับพี่ครับ )

พี่เป็นนักลงทุนในอุดมคติของผมคนหนึ่งเลยครับ
มีความสุขกับวันพักผ่อนนะครับผม  :D

เฉียบคม :lol:

หุ้นขาขึ้นจนมันเริ่มแพง

อย่าซื้อหุ้นให้ทันเลยครับ

ขอให้เราขายทันมันจะดีกว่าไหมครับ

:lol: แซว เล่นนะครับ

ใคร  ใคร่ ซื้อ......ซื้อ ซื้อแล้วก็ขายให้ทัน
ใคร  ใคร่  ขาย......ขาย ขายแล้วก็อย่าเพิ่งรีบเข้าไปซื้อ ไม่งั้นอาจได้อยู่ดอย