หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 22, 2009 12:02 pm
โดย net17
ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้ครอบครัวเข้าใจแล้วครับ

ผมพยายาม อธิบายให้ พ่อ-แม่ผม เข้าใจว่าสิ่งที่ผมทำเนี่ย ผมคิดแบบนักลงทุนนะ ไม่ใช่เก็งกำไร เค้าก็บอก มันเสี่ยงๆ เค้าอยากให้ผมทำงานประจำ ซึ้งอยู่ในความคิดผมในลำดับ สุดท้ายในหัวเลยครับ ตื่นแต่เช้า ไปทำงาน จนถึงเย็น

พอผมบอกว่า ผมจะซื้อ ที่ราคาต่ำ กว่ามูลค่าที่แท้จริง ที่ผมประเมิณได้ เค้าก็จะพูดแต่ว่า เป็นไปไม่ได้ๆ ผมรู้สึกเหมือนผมกับเค้าพูดกันคนละภาษา

ขอความคิดเห็นหน่อยเถอะครับ เป็น idea ไปอธิบาย ให้ ท่านฟัง

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 22, 2009 3:53 pm
โดย Renne
ส่วนหนึ่งคงต้องโฟกัสไปงานประจำแหละครับ อยู่ในวัยทำงานต้องทำงานให้หน้าที่การงานโตเร็วที่สุด เรื่องหุ้นเราก็เปรียบเทียบกับการฝากธนาคารได้ครับ บอกว่าที่ทำไปเหมอืนการออม เงินเหลือเก็บจากเงินเดือน10%แทนที่จะเอาไปฝากธนาคาร ได้ดอกเพียง1% เราสามารถทำให้ผลตอบแทน10%ต่อปีในระยะยาวได้

ผมเข้าใจความหวังดีของพ่อแม่นะ เข้าใจว่าต้องการให้เราให้ความสำคัญกับงานหลักก่อน ซึ่งมันก็ถูกต้องครับ ดร นิเวศน์เองก็แนะนำว่าให้ขยันในหน้าที่การงานหลักเป็นอันดับ1ก่อนครับ เรื่องการซื้อหุ้นให้เรามองเป็นการผ่อนส่งความรวย ทยอยสะสมไปเรื่อยๆครับ :) คงต้องใช้เวลาอธิบายกับหาข้อมูลมาให้ท่านดู เชื่อว่าถ้าเหตุผลดีแล้วเราตั้งหน้าตั้งตากับงานหลักจริงท่านจะเห็นด้วยครับ

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 22, 2009 8:46 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
จงทำตัวเป็นแสงสว่าง แล้วความมืดจะจ่างหายไปเอง

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 22, 2009 10:48 pm
โดย ส.สลึง
เงินลงทุนเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
การลงทุนเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
ชีวิตเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
แล้วก็งาน...
เป็นของคุณเองด้วยหรือเปล่า..?

ค่าของคนอยู่ที่การทำงานครับ และ...
วัดความสำเร็จจากงานของคุณ
ด้วยรอยยิ้มของคนรอบข้าง :D

ปล.
งานประจำมันไม่ได้แย่นักหรอกครับ
ประเด็น.. คือ คุณค่าของงานที่เราทำต่างหาก :wink: ...

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 23, 2009 8:16 am
โดย songwit
ทำงานไปด้วยลงทุนในหุ้นไปด้วยก็ได้นี่ครับ...
      เวลาเลิกงานคุณก็ประเมิณราคาหุ้น แล้วส่งคำสั่งซื้อ-ขายเวลาเช้า
เวลาเย็นเลิกงานก็กลับมาดู
     
     หรือว่าคุณเป็นแบบรายวัน
     หรือว่าคุณยืมเงินพ่อ-แม่มาเล่น

ผมทำงานไปด้วย-ลงทุนในหุ้นไปด้วย

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 23, 2009 3:05 pm
โดย noooon010
ขออนุญาติยืมคำตอบของพี่วิบูลย์มาตอบนะครับ

พี่วิบูลย์ตอบไว้ว่า

สวัสดีครับ

ผมแนะนำว่าอย่าไปคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นเลย
เขาไม่มีทางเข้าใจด้วยคำอธิบายหรอกครับ
เมื่อไหร่ที่เราประสบความสำเร็จ คนอื่นจะเข้าใจเอง

ผมเลิกคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นมาหลายปีแล้ว
คนส่วนใหญ่มาถามแค่
-ซื้อตัวไหนดี
-ราคานี้ขายได้หรือยัง
-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ถามกันอยู่แค่นี้

คำตอบผมส่วนใหญ่คนถามจะไม่กลับมาถามอีก
-ซื้อตัวไหนดี
ตอบ ซื้อหุ้นที่เข้าใจธุรกิจที่ราคาไม่แพง

-ราคานี้ขายได้หรือยัง
ตอบ พอใจก็ขายได้

-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ตอบ ไม่รู้ ไม่สนใจ ไม่ได้ดูตลาดมานานแล้ว

คุยกับคนที่เข้าใจเรื่องเดียวกันก็พอแล้วครับ
ส่วนคนอื่น ช่างมันเถอะ

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 23, 2009 9:37 pm
โดย sunrise
ตอบแบบ คนตอนนี้ลงทุนอย่างเดียว
ที่บ้านก็ยอมแล้ว  :lol:

แบไต๋ให้เค้าดูว่า พอร์ตเราเป็นอย่างไร ตอนเริ่มแล้วปลายปีเป็นไง
ผมใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีกว่าทีบ้านจะยอมรับแบบไม่บ่นแล้ว
พวกนี้ต้องใช้เวลาครับ กว่าจะปรับความเข้าใจกับที่บ้านได้
กว่าจะผ่านมาได้ก็หนักครับ

ถ้าพอร์ตเราเติบโต ไม่ว่าจะกำไรจากหุ้น หรือปันผล หรือ ทำงานแล้วเอาเงินเก็บมาเพิ่ม

bottom line คือ เรามีเงินเก็บ
แต่การที่จะออกมาลงทุนอย่างเดียวได้ ผมว่าต้องมีอย่างน้อยปันผล พอค่าใช้จ่ายนะ

ที่สำคัญ เราต้องทำได้จริงๆ ลงทุนเป็นจริงๆ ในระยะยาว
เพื่อนผมเก็งกำไร กำไรประมาณ 3 เดือนผลตอบแทนเกือบๆ 50 %
ผมก็บอกดีแล้วเก่ง แต่ในใจก็คิดเพียงอวยชัยให้เค้ารอดในระยะยาว
ตอนนี้ไม่เหลือแล้วครับ เพราะคิดว่าตัวเองเก่งจริง ใช้มาร์จิ้นเพิ่ม
สุดท้ายหมด

ผมว่าถ้า เราผลตอบแทนมากว่า SET index ทุกปี 3 ปีติด เชื่อว่าน่าจะพอไหวครับ

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 24, 2009 2:21 am
โดย Hughes
อยากลงทุนอย่างเดียวเหมือนกันแต่อย่างผมคงทำไม่ได้ครับ เพราะ

1. เงินต้นยังน้อยไม่พอกินอยู่

2. ฝีมือยังอ่อน... กำไรได้แต่ผลตอบแทนไม่สม่ำเสมอยังไม่รู้จริง ต้องสะสมวิชาและประสบการณ์มากกว่านี้

เคยลองทำ projection ดูรู้สึกว่าพอเงินเยอะถึงระดับหนึ่่งเงินเดือนที่อัดเข้าไปจะเริ่มไม่มีผลมากกับ Portfolio แล้ว จะช่วยให้พอร์ทโตเร็วมากก็เฉพาะช่วงแรกๆ

ตอนนี้ผมว่าจะพยายามเพิ่ม Cashflow เข้ามาช่วยให้พอร์ทโตเร็วขึ้น
จะย้ายออกจากคอนโดไปอยู่บ้านน้าแทนแล้วปล่อยคอนโดเช่าเพราะเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียวนี่เงินมันเพิ่มไม่ทันใจเลย

เดี๋ยวเร็วๆนี้อีกซัก 2-3 เดือนร้านอาหารที่ผมไปเข้าหุ้นด้วยจะเปิด
ไว้เปิดแล้วจะขอบัตรลดมาแจกเพื่อนๆให้ไปลองทานกันแล้วกันครับ หึๆ ถ้าขายดีคงจะช่วยได้มาก

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 27, 2009 11:24 am
โดย net17
ผมเล่นระยะกลางครับ ไม่ได้เล่นระยะสั้น เน้นที่การเติบโตของบริษัท สัก 5-10 ปี

*จำเป็นต้องขายเพิ่ม เงินต้นครับเงินต้่นยังน้อย หลังจากนั้นถ้าเงินต้นผมมีมากพอที่จะจ่ายปันผลให้ผมพอ ใช้จ่าย จะเปลี่ยนไปเล่นระยะยาวครับ [ตลอดชีพ]

ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากนะครับ ตอนนี้ผมเลือกที่จะยังไม่พูดดีกว่าครับรออีกสักพักดีกว่า

หรือท่านไหนมีประสพการณ์ ก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ ผมจะได้เอาไปพูดกับทางบ้านมั้ง  :oops:

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:24 pm
โดย noooon010
เป็นกำลังใจให้นะครับผม  :D

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 8:56 am
โดย siebelize
ตอนนี้ถ้ามีคนถามว่าทำอะไรอยู่
ผมบอกว่า ผมลงทุนขายของทางอินเตอร์เน็ต ครับ  :8)

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 8:38 pm
โดย konkaikong
คุณ net17 สิ่งที่ผมจะโพสท์นี้อาจไม่ตรงคำถามของคุณซะทีเดียว

ยังไงก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็แล้วกันนะครับ

ผมเองลงทุนในตลาดมาหลายปีตั้งแต่ผมอายุยังน้อย เริ่มซื้อขายครั้งแรกประมาณอายุสิบหก สิบเจ็ด

มีหลายครั้งที่ผมเองก็อยากมาเป็นนักลงทุนแบบ FULL TIME ตอนนี้ก็ล่วงมายี่สิบปีแล้ว

เป็นธรรมดาครับที่คุณพ่อ คุณแม่คงต้องเป็นห่วงเรา เพราะท่านเห็นว่าตลาดหุ้นเอาแน่เอานอนไม่ได้

คนที่เรียนด้านการเงินมา ผู้จัดการกองทุนเอย นายแบงค์เอย ก็เคยขาดทุนจากตลาดกันถ้วนหน้า

ผมไม่แน่ใจว่าคุณ net17 แต่งงานหรือยัง ถ้ายัง ผมว่าคุณยังมีอีกหลายคนที่คุณต้องอธิบายให้เขาฟัง

ลองนึกดูซิครับ ถ้าคุณไปขอลูกสาวเขา แล้วบอกว่า ผมลงเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ว่าที่พ่อตาแม่ยายคุณคงมีคำถามตามมายาวแน่

ผมขอแนะนำด้วยใจจริงครับว่าถ้าเรายังมีประสพการณ์ในวงการธุรกิจไม่มาก ขอให้ลองทำงานดู

การเป็นพนักงานบริษัทก็สามารถช่วยเสริม การลงทุนของเราได้ เพราะคุณจะได้มีโอกาสเป็นคนของวงการ นั้นๆ ได้รู้ข้อมูลเชิงลึกที่นักวิเคราะห์เข้าไม่ถึง

ทั้งยังได้เรียนรู้การบริหารงานทางธุรกิจ ได้เห็นของจริง ทำให้การลงทุนเกิดภาพที่ชัดเจนขึ้น

การลงทุนจริงๆ หากชำนาญแล้ว เจนสนามดีแล้ว ไม่ต้องใช้เวลามากหรอกครับ แต่อาจต้องอ่านมาก

ส่วนตัวแล้ว ผมอาศัยช่วงเลิกงาน และ วันหยุดในการหาข้อมูล

การเป็นพนักงาน ยังทำให้เราได้สังคม เจอคนหลากหลาย และด้วย Connection เหล่านั้นอีกแหละครับ

ที่ทำให้เราได้เข้าไปสัมผัสกับธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากที่เราทำอยู่ ได้ขยายCircle of Competence เหมือนที่ Warren Buffett ว่าไว้

ก็ขอฝากไว้เป็นแง่คิดหนึ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ

ขออวยพรให้คุณ NET17 ประสพโชคดีในการลงทุน

ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 11:57 pm
โดย vision
สงสัยจะมีมรดกเยอะ ได้ผลตอบแทนพอสมควรก็ถือว่าทำงานแล้ว