หน้า 1 จากทั้งหมด 1

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 10:41 am
โดย i_sarut
http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=49023

การฟื้นตัวของตลาดหุ้นรอบนี้จาก 440 จุด ต้นเดือนเม.ย. เพียงเดือนเศษวิ่งมาสูงสุดที่ 561.41 จุด (20 พ.ค.) เพิ่มขึ้นกว่า 120 จุด

เชื่อว่ามีนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่น้อยที่เกิดคำถามขึ้นในใจกับความไม่แน่ใจในดัชนีที่ขึ้นมา ทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่ได้รองรับแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขคนตกงาน การส่งออก ผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนยังสาหัสอยู่ ณ ดัชนีที่ระดับสูงสุดนี้ หากดูตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว 500 จุด น่าจะเหมาะสมเมื่อสิ้นปี 2552

จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าดัชนีราคาหุ้นที่หมุนปั่นทำกันขึ้นมาขนาดนี้ เป็นฝีมือของใคร ????

ถ้าไม่เป็นต่างชาติ แน่นอนต้องเป็นสถาบันไทย ไม่เป็นกองทุนรวม ก็กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือพอร์ตประกัน

ส่วนพอร์ตโบรกเกอร์ คิดไม่ถึงใช่มั้ยล่ะ !!!!!


ถ้าดูตัวเลขซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนที่ปรากฏออกมา จะช่วยให้ความสงสัยหมดไป และเข้าใจกันมากขึ้นว่ามาจากฝีมือใครกัน

ปัจจุบันกลุ่มผู้ลงทุนในตลาดหุ้นมีอยู่ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ (Local Institutions) 2.ผู้ลงทุนต่างประเทศ (Foreign Institutions) และ 3.ผู้ลงทุนทั่วไป ในประเทศ (Retail Investors) ซึ่งเป็นรายย่อยและรายใหญ่

สำหรับผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ แบ่งออกเป็น 1.การลงทุนเพื่อบัญชีสมาชิก หรือพอร์ตลงทุนโบรกเกอร์ และ 1.2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) 21 ราย บริษัทประกันภัย ประกันชีวิต กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

จากตัวเลขการลงทุนที่ผ่านมาพบว่า ปี 2544 พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 30,678.44 ล้านบาท หรือ 0.97% ของมูลค่าซื้อขายตลาดทั้งตลาดเท่านั้น และมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นของการซื้อขายขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2550 มีมูลค่าซื้อขายมากขึ้น 626,806.21 ล้านบาท หรือ 7.34%

หรือช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปี 2552 เดือนม.ค. เฉพาะพอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขายมากถึง 55,571.36 ล้านบาท หรือ 12.95% ขณะที่บลจ. 21 รายรวมกัน กบข.กองทุนส่วนบุคคล พอร์ตประกัน (สถาบันอื่น) มีมูลค่าซื้อขายเพียง 33,892.68 ล้านบาท หรือ 7.90%

เดือนก.พ. พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 31,971.62 ล้านบาท ส่วนสถาบันอื่นมีมูลค่าซื้อขาย 19,006.82 ล้านบาท

เดือนมี.ค. พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 51,190.78 ล้านบาท สถาบันอื่น 31,714.40 ล้านบาท

เดือนเม.ย. พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 69,841.40 สถาบันอื่นมีมูลค่าซื้อขาย 40,861.89 ล้านบาท

จากตัวเลขข้างต้นจะเห็นว่า ตัวเลขซื้อขายของพอร์ตโบรกเกอร์เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว หรือ 60-70% ของผู้ลงทุนสถาบันอื่น รวมกัน  

เรียกกันว่าพอร์ตโบรกเกอร์มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ นี่แค่โบรกเกอร์ไม่ถึงครึ่งของโบรกเกอร์ทั้งหมด 40 ราย ยังเทรดกันได้ขนาดนี้ ????

ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไร ต้องมีมูลเหตุและเหตุปัจจัยเอื้อ

รูปภาพ

แน่นอนว่าด่านแรกตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นผู้คุมกฎเกณฑ์หรือนโยบายต้องไฟเขียว มีอภิสิทธิ์เหนือชั้นอะไรบ้างที่พอร์ตโบรกเกอร์ทำแล้วได้เปรียบ ...

ข้อได้เปรียบที่ 1 เห็นกันชัดๆ คือ 1.ไม่มีต้นทุน ค่านายหน้าซื้อขาย (คอมมิชชัน) 0.25% ไปถึงกลับ 0.5%

ทุกๆ วัน พอร์ตโบรกเกอร์จะดูอารมณ์ตลาดก่อน ถ้าดีก็ซัดหุ้นนำก่อนทุกตัว ดูแล้วมีคนตามก็ไล่ต่อ ถ้าไม่มีคนถามก็โยนทิ้ง เพราะไม่มีต้นทุน ไม่เสียค่าคอมมิชชัน

ข้อได้เปรียบนี้ทำให้โบรกเกอร์มีวอลุมซื้อขายพองขึ้น หรือมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าเพื่อน

ข้อได้เปรียบที่ 2 การส่งคำสั่งถึงขาย ทำได้เหมือนลูกค้าทั่วไป คือ เคาะซื้อขายได้เลย หรือไล่ 1 ช่อง โยนได้ 2 ช่อง ทำกำไรได้ทันที ไม่ต้องตั้งเสนอถึงซื้อเข้าคิวรอ

ข้อได้เปรียบที่ 3 มีข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าอยู่ในมือจึงซื้อหรือขายก่อนลูกค้า ทำให้ลูกค้ารายย่อยถึงรายใหญ่ไปจนถึงบลจ.สถาบันอื่นๆ ต้องซื้อหุ้นแพงขึ้น หรือถูกกดขายไม่ได้ราคา

แหล่งข่าวนักลงทุนสถาบัน เปิดเผยว่า พอร์ตลงทุนโบรกเกอร์มีอิทธิพลสูงต่อตลาด หุ้นไทย เป็นพอร์ตไดนามิกที่หมุนตามอารมณ์ตลาด วันไหนที่อารมณ์ตลาดเสียพอร์ตไดนามิกจะหยุดทำหน้าที่ซื้อขายทันที หรือวันที่อารมณ์ตลาดดีไดนามิกจะหมุนวันละหลายรอบ เพราะฉะนั้นตลาดหลักทรัพย์ไม่ควรจะดีใจกับยอดซื้อขายสูงถึงวันละ 3 หมื่นล้านบาท

พอร์ตของบางโบรกเกอร์มีขนาดใหญ่ ใช้ทีมงาน 4-5 ทีม ไล่หุ้นได้ตามปกติเสมือนเป็นนักลงทุนรายใหญ่ มีวงเงินให้เล่น 40-50 ล้านบาท กำลังเงินเหนือรายใหญ่และเหนือบางกองทุน จึงได้เปรียบที่จะไล่ซื้อหุ้นในแต่ละวัน พฤติกรรมไล่หุ้นหรือทุบหุ้นเป็นการเอาเปรียบนักลงทุนปั่นหุ้นถูกกฎหมายไม่ถูกตรวจสอบ ที่สำคัญเป็นการสร้างความต้องการเทียม แล้วยังทำให้กองทุนต้องซื้อหุ้นแพงขึ้น ผลเสียหายก็ตกไปอยู่กับผู้ออมเงินผ่านมืออาชีพ แหล่งข่าวเปิดเผย

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า การแก้ไขปัญหานี้ดีที่สุดตลาดหลักทรัพย์ ควรเริ่มต้นวางกฎเกณฑ์การตั้งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เอาเปรียบนักลงทุน มีการบริหารจัดการโดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Chinese Wall) หรือเปิดเผยข้อมูลให้นักลงทุนรู้ว่า โบรกเกอร์ไหนที่มีพอร์ตเทรด เพื่อให้นักลงทุนระวังตัว

ถ้าตลาดไม่ปรามตอนนี้ แค่พอร์ตเทรดโบรกเกอร์ไม่ถึง 10 ราย ยังมีมูลค่าซื้อขายหนัก อนาคตโบรกเกอร์ทั้งหมดทำรายใหญ่ถึงรายย่อย และสถาบันจะลำบากต้องซื้อของแพงขึ้น และกองทุนรวมจะไม่ตกเป็นผู้ต้องหาทุบหุ้นอีกต่อไป แหล่งข่าวเปิดเผย

เพราะฉะนั้น ทางการที่รับผิดชอบควรจะออกกติกามาสร้างความเป็นธรรมในการซื้อให้กับนักลงทุนทุกกลุ่ม

http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=49023

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 11:28 am
โดย sattaya
i_sarut เขียน:แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า การแก้ไขปัญหานี้ดีที่สุดตลาดหลักทรัพย์ ควรเริ่มต้นวางกฎเกณฑ์การตั้งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เอาเปรียบนักลงทุน มีการบริหารจัดการโดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Chinese Wall) หรือเปิดเผยข้อมูลให้นักลงทุนรู้ว่า โบรกเกอร์ไหนที่มีพอร์ตเทรด เพื่อให้นักลงทุนระวังตัว
พอมีข้อมูลไหมครับว่าโบรกไหนบ้างที่ทำอย่างนี้ หรือว่าเป็นทุกโบรก

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 4:25 pm
โดย mrgoodtime
ข้อได้เปรียบที่ 2 การส่งคำสั่งถึงขาย ทำได้เหมือนลูกค้าทั่วไป คือ เคาะซื้อขายได้เลย หรือไล่ 1 ช่อง โยนได้ 2 ช่อง ทำกำไรได้ทันที ไม่ต้องตั้งเสนอถึงซื้อเข้าคิวรอ
งงตรงนี้หนะครับ หมายความว่ายังไงเหรอครับ

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 4:52 pm
โดย sai
ตกลงโบ๊รคเกอร์ เค้าไม่ต้องเสียค่าคอมเลยหรอครับ ผมล่ะเข้าใจว่าเค้าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมบางส่วนให้ตลาดหลักทรัพย์เสียอีกคับ  :lol:

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 4:59 pm
โดย Boring Stock Lover
เขียนข่าวแบบนี้ เป็นการกล่าวหาที่รุนแรงมาก นสพ.ควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ถ้าเทียบกับคนธรรมดา นี่เป็นการฟังเขามาว่า หรืออาจถึงขั้น พูดแบบมันปากมากกว่า

ไม่รู้บก.ปล่อยผ่านมาได้ไง

จริงๆถ้าจะทำข่าวแบบนี้ ก็น่าจะทำเชิงลึกมีการตรวจสอบข้อมูลให้ลึกกว่านี้

ภาพรวมๆผมว่ามั่วไปหน่อย ส่ง order แบบไม่รอคิวนี่ ถ้าทำได้จริง พวกเราต้องเลิกเทรดหุ้นแล้ว

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 8:55 pm
โดย Long road
มีแบบนี้ด้วยหรือครับ :?:

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 26, 2009 8:48 am
โดย MO101
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... 2&gblog=16
เรื่อง ไชนิสวอล์ แก้กฎตังกะปี 50 แล้ว :twisted:

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 26, 2009 11:57 am
โดย Boring Stock Lover
MO101 เขียน:http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... 2&gblog=16
เรื่อง ไชนิสวอล์ แก้กฎตังกะปี 50 แล้ว :twisted:
ผมว่าคนเขียนยังไม่รู้เลยว่า กำแพงเมืองจีน คืออะไร มีไว้เพื่ออะไร

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 26, 2009 7:12 pm
โดย i_sarut
http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=49212

กลต.-ตลาดเชียร์พอร์ตโบรกฯ  
วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์ ประสานเสียงพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อขายในกรอบ สร้างสภาพคล่อง ยันดูแลใกล้ชิด


นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ติดตามการลงทุนของพอร์ตโบรกเกอร์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการซื้อขายที่ผิดกฎเกณฑ์ และในทางปฏิบัติพอร์ตโบรกเกอร์ควรทำหน้าที่ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง เพื่อสร้างสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์  
นายประเวช กล่าวว่า ก.ล.ต.ยังตรวจสอบการซื้อขายอย่างใกล้ชิด ซึ่งการตรวจสอบพอร์ตโบรกเกอร์ ในฐานะที่ก.ล.ต.กำกับดูแลโดยตรง จะตรวจง่ายกว่าการลงทุนของรายใหญ่ โดยเฉพาะก.ล.ต.ได้ส่งทีมงานไปตรวจที่บริษัท และให้พอร์ต โบรกเกอร์ส่งรายงานการซื้อขายรายวันและรายเดือน

การกำกับดูแลพอร์ตโบรกเกอร์เข้มข้นต่างกับการดูแลทั่วไป ซึ่งโบรกเกอร์ได้รับใบอนุญาตโดยตรง อยู่ในกรอบกำกับดูแลของก.ล.ต. นายประเวช กล่าว        

น.ส.โสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า พอร์ตการลงทุนของโบรกเกอร์ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ หรือเสียหาย แต่เป็นทิศทางที่โบรกเกอร์ต้องดำเนินไปตามพัฒนาการตลาดทุน ซึ่งโบรกเกอร์ในประเทศญี่ปุ่นมีสัดส่วนกำไรจากพอร์ตการลงทุนสูงถึง 40%

ทั้งนี้ ควรมีกรอบกติกาของการดูแล ทั้งในเรื่องของไชนิส วอลล์ โดยต้องแยกฝ่ายผู้ดูแลพอร์ตลงทุนของบริษัท กับฝ่ายที่รับคำสั่งซื้อของลูกค้าออกจากกัน เพื่อป้องกันการรู้ข้อมูลของลูกค้าและนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งประเด็นนี้ทางสำนักงานก.ล.ต. ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ พอร์ตลงทุนยังถือเป็นการกระจายสัดส่วนรายได้รองรับการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น (คอมมิชชัน) ซึ่งพอร์ตลงทุนนั้นถือเป็นแนวทางปรับตัวของ โบรกเกอร์ที่ใช้ระยะเวลาน้อยและง่ายกว่าการออกสินค้าใหม่ๆ เช่น อีทีเอฟ หรือเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW)

ปัจจุบันปริมาณการซื้อขายของโบรกเกอร์มีสัดส่วนเกินครึ่งของ ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่มีแนวคิดจะแยกข้อมูลการซื้อขายทั้งสองส่วนนี้ออกจากกัน เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายของกองทุนและของโบรกเกอร์ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก และไม่ต้องการให้ติดตามข้อมูลซื้อขายรายกลุ่มมากนัก ซึ่งเป็นข้อมูลในอดีตไปแล้ว แต่ควรทราบว่าสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบันในขณะนี้มาจากการซื้อขายของโบรกเกอร์มากถึง 50-60% ของมูลค่าซื้อขายของผู้ลงทุนสถาบัน

http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=49212

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 12:16 am
โดย CEO
mrgoodtime เขียน: งงตรงนี้หนะครับ หมายความว่ายังไงเหรอครับ
เพราะว่าโบรคซื้อขายเองจึงไม่มีต้นทุนในการซื้อขายหรือค่าคอมแบบพวกเรารายย่อยไงครับ
ถ้าพวกเราเล่นจะขายให้ได้กำไรก็ต้องรอหุ้นขึ้นไปสัก2-3 ช่อง ถึงจะขายแล้วได้กำไรคุ้มค่าคอม ซึ่งขึ้นกับหุ้นด้วยว่าราคาเท่าไหร่
ส่วนโบรคเองหุ้นขึ้นช่องเดียวก็ขายได้กำไรแล้ว ดังนั้นเขาจะมีอำนาจในหารควบคุมและสร้างราคาได้ง่ายกว่าเดิม

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 12:19 am
โดย CEO
เรื่องไชนิสวอลล์ นี่พูดกันมาตั้งแต่ครั้งปกป้องค่าเงินบาทกับเฮดจ์ฟันด์เมื่อครั้งก่อนฟองสบู่แตก มันเป็นเรื่องโจ๊กนะผมว่า คนฟังก็งงๆว่ามันคือไรหว่า กลายเป็นคนโง่ไป ตามคนพูดไม่ทัน

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 02, 2009 11:34 pm
โดย ROGER
ที่แน่ๆๆ เคจีไอ มี มีทั้งพอร์ตหุ้น และ ฟิวเจอร์ ค่าคอมก็ไม่เสีย  เทรดเดอร์ของโบรคดีนะ กำไรก็มีส่วนแบ่ง  ขาดทุนก็ไม่ต้องแชร์