Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ดีครับ
ผมเพิ่งโพสท์วันนี้วันแรก
แต่ติดตามเวปนี้มาประมาณ 2 เดือนแล้วครับ ได้รับประโยชน์จากเวปนี้มากมาย
ผมคิดว่าพี่ๆในเวปนี้มาความรู้เยอะมาก
อืม วันนี้ตั้งใจเข้ามาโพสท์เรื่องสัปดาห์หนังสือ
แล้วอยากชวนให้เพื่อนๆในเวปไปดูกัน ครับ อยู่ข้าง ตลาดหลักทรัพย์ด้วยครับ
ด้านหน้าของ ตลาดหลักทรัพย์ ก็มีหนังสือของ set ไว้ขายในราคาที่มีส่วนลด
ผมเลยซื้อมาหลายเล่ม แต่เล่มที่ตอนนี้อ่านแล้วชอบมากก็คือ หนังสือ วิถีแห่งเซียน หุ้นห่านทองคำ ซึ่งเป็นภาคต่อของหนังสือหุ้นห่านทองคำเล่มแรก ผู้เขียนชื่อเทพ รุ่งธนาภิรมย์ ครับ
คิดว่าผู้เขียนคงเป็น VI ด้วยคน หนึ่งซึ่งศึกษาหนังสือ Warren และ Peter Leych อย่างพอสมควรครับ แล้ว ก็รู้จัก ดร.นิเวศ ด้วย แนวทางในการเขียนผมว่ามาจากประสพการ์ท่านโดยตรงครับ ยังไงขอให้ผู้เริ่มศึกษาแนวทางนี้เริ่มศึกษาจากเล่มนี้ก่อนก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องมาโพสต์ถามความหมายต่างๆ (อันนี้ไม่ได้เสียดสีใครนะครับ แต่เป็นข้อแนะนำครับ)
ลืมบอกไปว่า ผมทำงานมา เกือบ 4 แล้วครับ จบวิศวะ มาครับ
แล้วทำงานเกี่ยวกับ โรงไฟฟ้า และได้ศึกษาธุรกิจไฟฟ้าและน้ำมันมาพอสมควรครับ รวมถึงเรื่องการแปรรูปด้วยครับ ถ้าผู้ใดอยากได้ข้อคิดเห็นหรือความรู้ด้านนี้ ก็ถามได้ครับ (ตอนนี้มีหุ้น รฟ. อยู่บ้างครับ 555)
ท้ายนี้ไปเห็นกิจการของ SE-ED มาครับ น่าเป็นเจ้าของมากครับ ราคาไม่แพง
P/E P/V ต่ำ d/y พอสมควร ที่สำคัญผมว่าตอนนี้ ค่อนข้างเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ครับ
ขอบคุณมากสำหรับคนที่อ่านครับ

อย่าลืมแวะซุ้มของร้านนายอินทร์และสำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์ครับ น้องๆ ที่ซุ้มให้บริการอย่างขันแข็ง จนลืมทานข้าวทานปลา (จากที่คุยด้วย) เยี่ยมจริงๆ ครับ

ไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับบ้าน ท่องเที่ยวและ หนังสือ "รู้ทันทักษิณ" มาด้วย แถมด้วยเสื้อที่สวยมากของ Lord of The Ring ซื้อแล้วแถมแหวน LOTR ด้วยครับ

ซีเอ็ด คนเยอะเหมือนกันครับ แต่หนังสือออกจะเหมือนที่ร้านและไม่ค่อยมี โปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ เท่าไหร่

อ้อ ใครชอบอ่านการ์ตูนต้องไป นะครับ เพียบเลย แต่ผมไปดึกไปหน่อยเลยไม่ค่อยมีเวลาดู

ว่าจะไปเหมือนกันค่ะ เห็นพี่บอกว่ามี กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ ภาค 2 ด้วยเหรอ อืม น่าสน แต่ว่าเรื่อง se-ed เป็นผู้นำทางธุรกิจนี้ก็จริง แต่ว่าคู่แข่งค่อนข้างเยอะนะคะ อีกอย่างคิดว่า se-ed ยังไม่ครอบคลุมทั่วถึงประชาชนทั่วไปนะคะเพราะว่าเห็นบางจังหวัดก็ยังไม่มี se-ed บางคนก็เลยยังไม่รู้จัก และเห็นว่าการขยายงานของ se-ed ค่อนข้างเสี่ยงน่ะค่ะเพราะว่าขยายงานไปในส่วนที่ตัวเองไม่ถนัดและไม่เคยทำมาก่อน อย่างเช่น โรงเรียนอนุบาล
แต่ส่วนตัวแล้วเท่าที่ได้ไป se-ed มา บริการดีค่ะ หนังสือหลากหลาย มีห่อปกให้ด้วย จัดโปรโมชั่นบ่อย และลดราคาค่อนข้างมาก ประทับใจค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากซื้อเก็บเหมือนกัน

ปล. งานหนังสือมีถึงวันไหนอ่ะคะ

โพสต์แล้ว: **จันทร์ มี.ค. 29, 2004 9:36 pm**

ในความคิดของผมแบบที่มองเห็นโดนตาเลยนะครับ
ผมมองว่า APRINT กับ SE-ED นั้น ดูดูไปน่าจะเก่งกันคนละอย่างนะครับ

SE-ED ออกจะดูเด่นตรงที่มีสาขาร้านหนังสือมากมาย ตาม SuperStore และต่างจังหวัด กับเป็นเจ้าของหนังสือเชิงวิชาการคอมพ์ที่ขายดีมากมายดีนะครับ
ส่วน APRINT ดูจะเด่นทางด้านโรงพิมพ์และวารสารรายเดือน รายปักษ์ ที่มียอดโฆษณาระดับ Top5 กับหนังสือแปล หรือเรื่องสั้น ที่ออกมาเดือนละมากมายหลายปก

ถ้าไปที่งานสัปดาห์หนังสือ จะเห็นความแตกต่างในสไตล์หนังสือที่มาวางชัดเจนเลยครับ

ปล. แนะนำให้เลือกลงทุน ณ ระดับราคาที่เหมาะสมทั้ง 2 ตัวเลยครับ

โพสต์แล้ว: **จันทร์ มี.ค. 29, 2004 9:43 pm**

เอ้อ มีหนังสือบางปกที่เกี่ยวกับหุ้นของ SE-ED ที่ลดราคา 15%
แต่ไปลด 20% ที่ Tohome.com นะครับ
เผื่อว่า เพื่อนๆ ที่บังเอิญ สนใจจะได้ซื้อหาไปอ่านได้ที่ราคาถูกหน่อย
โชคดีนะครับ

ยินดีต้อนรับครับ คุณ new investor

แล้วทำงานเกี่ยวกับ โรงไฟฟ้า และได้ศึกษาธุรกิจไฟฟ้าและน้ำมันมาพอสมควรครับ รวมถึงเรื่องการแปรรูปด้วยครับ ถ้าผู้ใดอยากได้ข้อคิดเห็นหรือความรู้ด้านนี้ ก็ถามได้ครับ (ตอนนี้มีหุ้น รฟ. อยู่บ้างครับ 555)

พอดีเลยครับ เพื่อนๆที่นี่สงสัยกันมากว่าทำไม egcomp เทรดกันที่พีอี 5-6 เท่า ซึ่งต่ำมาก อาจจะเป็นเพราะความกังวลเกี่ยวกับสัญญา PPA ที่ว่ารายได้จะเป็นรูประฆังคว่ำ คือสุงสุดช่วงกลางๆ คือปีที่แล้ว และจะค่อยๆ ลดลง (ผู้บริหารก็ให้สัมภาษณ์ว่าปีนี้รายได้จะลดลง เนื่องจากสัญญานี้) ไม่ทราบคุณ new investor พอจะมีความรู้เืรื่องสัญญา PPA นี้ไหมครับ....

ส่วน se-ed ผมช้ำใจทุกครั้งที่ต้องซื้อหนังสือที่นี่
เพราะไม่เคยลดราคา หรือทำโปรโมชั่น บัตรสมาชิกเลยครับ
ดูจะไม่ง้อลูกค้าเลยครับ เร็วๆนี้ผมก็เลยไปซื้อที่ B2S ซะเลย
เอ...หรือว่าหากผมถือหุ้น se-ed อาจจะรู้สึกดีก็ได้ครับ
แต่ราคานี้ ต้องขอต่อหน่อยครับ เพราะพีอี fully dilute ค่อนข้างสูงครับ
แม้จะมี growth แต่ก็ยังรู้สึกว่าแพงครับ..

แจ้งข่าวครับ
แม้จะอยู่บ้านนอกอย่างผม
และไม่มีโอกาสมาเที่ยวงานสัปดาห์หนังสืออย่างคนบางกอก
แต่ที่se-edทุกสาขาเค้าจัดลดราคาทางอ้อม
คือซื้อหนังสือครบ200บาท
เค้าให้จับสลาก ซื้อหนังสือเล่มต่อไปลดราคาตั้งแต่10-20%
ได้ทุกเล่มครับ
หมดเขต6เมย47(วันสุดท้ายของงานสัปดาห์หนังสือพอดี)
ผมเลยถือโอกาสซื้อหนังสือคุณweb ลดไป15%ซะเลย

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ส่วน se-ed ผมช้ำใจทุกครั้งที่ต้องซื้อหนังสือที่นี่ 
เพราะไม่เคยลดราคา หรือทำโปรโมชั่น บัตรสมาชิกเลยครับ 
ดูจะไม่ง้อลูกค้าเลยครับ

ผมไปที่สาขาสุขาภิบาล 3 ซื้อครบ 6 ร้อยบาทก็ได้เป็นสมาชิกเลย ครับ พอดีบัตรหาย

คุณ ayethebing ช่วยดูการ์ตูนเรื่อง boy ครบชุดเลยมีขายหรือเปล่า

โพสต์แล้ว: **อังคาร มี.ค. 30, 2004 8:19 am**

หนังสือหุ้นของ se-ed
ซื้อพร้อมกัน 2 เล่ม (วอเรนบัฟเฟต กับ บทเรียนจากการลงทุน)
ลดพิเศษครับ

ซื้อเล่มเดียว ลด 15%

ไม่รับบัตรสมาชิกแบบที่คุณเจ๋งว่านั่นแหละครับ

ส่วนอีกบูตรข้างๆ se-ed เป็นสำนักพิมพ์ ผีเสื้อครับ คิดว่าน่าจะมาจากเชียงใหม่
เพราะนักเขียนมาจากเชียงใหม่ค่อนข้างมากครับ มี 2 เล่ม
แต่ไม่ใช่แนว VI ครับ

ส่วนมติชน น่าผิดหวังครับ โซรอสที่กะว่าจะไปซื้อ ไม่มีสักเล่มเลย

อยากไปบ้างจังฟังแล้วอิจฉาจังครับ
กลับไปไม่ทัน.... เจอหนังสือดีเอามา post บอกกันบ้างนะครับ
กลับไปจะตามอ่านครับ...

โพสต์แล้ว: **อังคาร มี.ค. 30, 2004 4:50 pm**

ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ new investor ( น่าจะแก่กว่าผมนะ เพราะ ผมเพิ่งจบมาปีเดียวเอง ถ้างั้นขอเรียกพี่นะครับ) คือจะขอความรู้ เกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าหน่อยนะครับ เพราะเห็น egcomp ตกลงมาจนเหลือ p/e 5-6 เท่าเอง ทำให้ผมสงสัยว่าทำไมรายได้ปีนี้ถึงมากครับ และเป็นกำไรที่ปกติรึเปล่า หรือว่าจะมีเพียงปีนี้ปีเดียวที่กำไรสูงผิดปกติ รวมทั้งเห็นกำไรตั้งมากมายแต่ทำไมปันผลแค่นิดเดียวละครับ หรือว่า egcompจะมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ครับ ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง ratch กับ egcomp อะไรดีกว่า ถ้ามองแค่ศักยภาพการผลิตและการเติบโตของบริษัทนะครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
ปล. ผมว่า se-ed จริงๆ แล้ว p/e ไม่ได้ต่ำนะครับ พี่ต้องอย่าลืม เอา warrant เข้าไปคิดด้วยครับ

โพสต์แล้ว: **อังคาร มี.ค. 30, 2004 7:46 pm**

ตอบคุณ toon เลยศักยภาพการผลิต ratch เหนือกว่าเยอะ

ส่วนเรื่องโปรเจ็กของ egcomp มีอีก 2 ที่ครับ

โพสต์แล้ว: **พุธ มี.ค. 31, 2004 12:26 am**

พอดีเลยครับ เพื่อนๆที่นี่สงสัยกันมากว่าทำไม egcomp เทรดกันที่พีอี 5-6 เท่า ซึ่งต่ำมาก อาจจะเป็นเพราะความกังวลเกี่ยวกับสัญญา PPA ที่ว่ารายได้จะเป็นรูประฆังคว่ำ คือสุงสุดช่วงกลางๆ คือปีที่แล้ว และจะค่อยๆ ลดลง (ผู้บริหารก็ให้สัมภาษณ์ว่าปีนี้รายได้จะลดลง เนื่องจากสัญญานี้) ไม่ทราบคุณ new investor พอจะมีความรู้เืรื่องสัญญา PPA นี้ไหมครับ....

โทษทีนะครับ ที่เข้ามาตอบช้า
ตอบคุณลูกอีสานนะครับ
ว่าเรื่อง PPA นี่เป็นยังไง และตอนนี้ใครได้ประโยชน์
PPA = Power Purchase Agreement
เป็นสัญญาข้อตกลงในการซื้อไฟฟ้าระหว่างโรงไฟฟ้า IPP กับ EGAT
ซึ่งสัญญานี้สัก 7-8 ปีก่อนที่ระบบไฟฟ้าขาดไฟมาก แต่ทาง EGAT และทางรัฐบาล ไม่ต้องการลงทุนเอง (แต่จริงๆได้ลงทุนไปแล้ว คือ บริษัท EGCO
และ รฟ. IPP อีกหลายแห่ง) แต่ที่เป็นบริษัทลูกของ EGAT มีแค่ EGCO
บริษัทเดียวในตอนนั้น
รัฐต้องการได้เงินในส่วนนี้เข้ามา จึงออกระดมทุนผ่านตลาดฯ

โดยมี EGAT ถือหุ้น มากกว่า 50%
แต่หลังๆ ได้ลดสัดส่วนในการถือหุ้นลงมาเหลือ 25%
ก่อนที่จะมีเรื่องการ SWOP หุ้นนะครับ

ตอนนี้เรื่อง SWOP หุ้นยกเลิกไปแล้ว (คิดว่าอย่างถาวรนะ)
อืม ผมยังพูดไม่หมดเลย บริษัท EGCOMP มีบริษัทลูกอีกนะครับ
คือ รฟ.ระยอง และ รฟ.ขนอม เป็นตัวผลิตไฟฟ้าให้บริษัท
และมีบริษัทบริการเกี่ยวกับงานบำรุงรักษาด้วย (ตรงนี้สำคัญมากนะ ในอนาคต)
และยังได้ไปลงทุนในต่างประเทศอีก อย่างเช่น ในอินโดนีเซีย
ยังนั้นถ้าจะบอกว่าธุรกิจนี้เป็นระฆัง คว่ำผมว่าคิดผิดนะ

เพราะว่า EGCOMP มีบริษัทบ้านปู ถือหุ้นอยู่ด้วย ตรงส่วนนี้ในอนาคนคงได้มีโอกาสทำเกี่ยวกับ รฟ.ถ่านหิน ในต่างประเทศแน่ๆ

ตัวนี้ผมรู้จักเป็นตัวแรก เกี่ยวกับหุ้นเลยนะ เพราะว่ามีพี่ๆที่ office มาเสนอขายให้ในตอนแรก ประมาณ 30 บาท และต่อมาได้ขึ้นมาถึง 120 บาท ก่อนจะลงมาอีกครั้งประมาณ 35 แล้วจึงขึ้นถึง 90 กว่าบาท (สาเหตุที่ตกลงมาคงเนื่องจากฟองสบู่ จึงมีผลกระทบเรื่องน้ำมันและค่าเงินบาท)

ผมคิดว่า EGCOMP นี่ลงมาในระดับที่ถือว่าต่ำแล้วครับ

ส่วนพี่ๆที่ถามว่า RATCH ดีกว่าไหม ขอตอบแบบกลางๆละกัน
ตอนนี้ RATCH ถือว่าเป็นบริษัทเอกชนยังไม่เต็มตัวนัก เนื่องจากมี EGAT เป็นผู้ให้นโยบายโดยส่วนใหญ่
เรื่องความคล่องตัวในเรื่องธุรกิจจึง
น้อยกว่ามาก

แต่ข้อได้เปรียบของ RATCH คือในอนาคตโครงการ รฟ. ใหญ่ๆ คิดว่า RATCH จะมีส่วนมากกว่า EGCOMP ในประเทศครับ
ส่วนต่างประเทศ ว่ากันตามฝีมือ

(ส่วนตัวนี้ ผมได้หุ้นนี้มาในราคาพาร์เลยไม่คิดมาก กะจะเก็บไว้ประมาณ 20 ปีครับ ผมคิดว่าเป็นห่านทองคำตัวหนึ่งเลยครับ)
อ่อลืมบอกไปว่า Life Time ของ รฟ. นี่ประมาณ 25 ปีครับ

แล้วตัว PPA ที่บอกตั้งแต่ต้น ก็ครอบคลุมเวลาการรับซื้อไฟฟ้าจากทั้ง EGCOMP และ RATCH ประมาณ 25 ปีด้วยครับ
ดังนั้นคือ EGCOMP ทำสํญญามาแล้วประมาณ เกือบ 10 ปี
แต่ RATCH เพิ่งผ่านสัญญามาแค่ 5 ปีเอง

หวังว่าข้อมูลคงเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ
ส่วนข้อมูลทางเทคนิคลึกๆ ถ้าอยากรู้ก็ถามเป็นเรื่องๆได้

แต่ที่ได้ประโยชน์ที่สุดคือ PTTEP (555 เอาเปรียบกันหรือเปล่าหว่า บริษัทเนี้ย)

แต่เรื่องราคาที่เหมาะสม ของทั้งหมด อยู่ที่การตัดสินใจของทุกท่านครับ
ขอบคุณที่อ่านครับ

ส่วนเรื่องร้านหนังสือต้องไปศึกษาอีกกว่าจะรู้จริง

โพสต์แล้ว: **พุธ มี.ค. 31, 2004 12:59 am**

ขอเพิ่มอีกหน่อยนะครับ
ที่คุณลูกอีสานและคุณ toon ถามมานะครับ
รายได้ ที่ บริษัท EGCOMP และ RATCH ขึ้นอยู่กับสัญญา PPA อย่างมาก
คือถ้าได้ผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังก็จะได้รายได้ตาม กำลังผลิตของโรงไฟฟ้า ทั้งหมด ส่วนตอนที่นำเครื่อง ลงมาบำรุงรักษาตามกำหนดนั้น จะไม่ได้รายได้
ส่วนตอนที่มีกำลังผลิต พร้อมที่จะผลิต แต่ทาง EGAT ไม่ให้ผลิต จะได้ค่าความพร้อมจ่าย คือได้ทั้งขึ้น ทั้งร่องนะครับ ถ้าโรงไฟฟ้ามีความพร้อม
แต่ถ้านำเครื่องลงมาบำรุงรักษา จะไม่ได้รายได้ตรงส่วนนี้

ปีนี้ รฟ. ระยอง จะนำเครื่องลงมาบำรุงรักษาหลายเครื่อง เพราะผมต้องไปทำงานที่นั้นเองด้วย
ส่วน รฟ. ขนอม ก็ต้องลงมาตรวจเช็คสภาพเครื่อง ผมก็จะไปดูงานอีก

ส่วนปีนี้ RATCH คิดว่าคงเดินเต็มกำลังผลิต แต่ ที่ RATCH ส่วนใหญ่จะมีปัญหาที่ไม่ค่อยคาดคิดมาก่อนเพราะ ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่ทาง MHI ที่ญี่ปุ่น ก็ไม่ค่อยเคยเจอเหมือนกัน เลยมี Accident ที่ต้องเอาเครื่องลงมาดูปัญหานั้นๆบ่อย หน่อย แต่สั้นกว่า EGCOMP

ดังนั้นที่บอกว่ารายได้ปีนี้ของ EGCOMP จะลดลงมา จึงไม่ผิดเลยครับ
แต่ผมว่าคงลงมาไม่มาก เนื่องจากบริษัทได้ลงทุนใน ตปท. ไว้ด้วย รวมถึงส่งบริษัท ESCO ไปรับงานที่ประเทศซูดานไว้แล้ว อาจจะมีประเทศอื่นๆเร็วๆนี้

ขอบคุณครับ[/quote]

โพสต์แล้ว: **พุธ มี.ค. 31, 2004 2:58 pm**

คุณ New_Investor ครับ ผมสงสัยว่าทำไม EGAT หรือรัฐบาลถึงไม่ค่อยส่งเสริมโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ครับ ลงทุนสูงแต่ผมว่ามันจะคุ้มค่าในระยะยาววววววมากนะครับ ไม่ทราบมีข้อมูลไหมครับ