วันหุ้นร้อน คืนฝนฉ่ำ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 14, 2009 7:41 pm
คุณเย่ เซียนหุ้นจากห้องสินธรไปขุดคุ้ยบทความเก่าแก่เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
แล้วก็โพสแปะให้เพื่อนๆอ่าน
กูรูไปช่วยพิมพ์ใหม่แล้วโพสให้อีกที
เลยมาโพสในเวปนี้บ้าง เดี๋ยวจะน้อยใจ..เอิงเงย
ลิงค์เวปนี้
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 72535.html
วันที่ 4 พฤษภาคม 2542
ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นวันดีของตลาดหุ้น
สืบเนื่องมาจากข่าวการปรับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
จากสถาบันจัดอันดับต่างชาติ
09.00 น. ณ ห้องค้าหลักทรัพย์ในตึกศูนย์การค้าใหญ่แถวลาดพร้าว
นักค้าหุ้นๆค่อยๆทะยอยออกจากลิฟท์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทักทายกันอย่างแจ่มใส
พร้อมพนันขันต่อว่า ตลาดวันนี้จะทะลุ 500 จุดหรือไม่
ถ้าทะลุจะลงขันเลี้ยงโต๊ะจีนให้เอิกเกริกมื้อหนึ่ง
อีกเสียงท้วงขึ้น อย่ากระนั้นเลย
ขอเป็นแค่เลี้ยงโต๊ะเหลาพออิ่มเก็บทุนไว้ซื้อหุ้นต่อกันดีกว่า
09.30 น.ห้องค้าหลักทรัพย์เริ่มเนืองแน่นด้วยผู้คนหลากตา
ทั้งที่เคยเข้ามาประจำและผู้ที่เพิ่งเข้ามา
ทุกคนดูเหมือนจะไม่อยากเสียเวลาเจรจาปราศรัยกับใคร
ต่างรี่ตรงเข้าไปจับจองโต๊ะพร้อมเปิดดูคอมพิวเตอร์ดูราคาหน้าจอ
บางคนถือโอกาสจองคอมพิวเตอร์ถึง 2 เครื่อง
เพื่อดูทั้งระดับดัชนีและดูเส้นกราฟเฉลี่ย
เขาหรือเธอจะชักสีหน้าขวางๆอย่างไม่พอใจ
เมื่อถูกใครคนหนึ่งขอนั่งใกล้ๆเพื่อร่วมใช้คอมพิวเตอร์ด้วยกัน
เชิญครับ แต่อย่าเปลี่ยนหน้าจอ ผมต้องใช้ดูตลอดเวลา
เจอคำตอบอย่างนี้ ใครล่ะจะกล้าเข้ามาขีดเส้นทางทำมาหากินของอีกฝ่ายได้
ผู้ที่มาทีหลังก็ต้องกระมิดกระเมี้ยนนั่งถอยออกมาดูกระดานตัวเลขแทน
หากเป็นผู้หญิงก็คงส่งค้อนไปหนึ่งตลบก่อนจะเดินหน้าคว่ำไปรอนั่งเก้าอี้ตัวอื่นแทน
09.45 น. เสียงโทรศัพท์รัวไม่ขาดสาย
เหล่าพนักงานการตลาดคว้าสายพันกันจ้าละหวั่น
คำสั่งสั่งซื้อตลอดทุกนาทีทั้งที่ตลาดยังไม่เปิด
ดาวโจนส์ทะลุ 11,000 จุดแล้วครับพี่ ตลาดทั่วเอเชียขึ้นหมดเลย
พี่จะเล่นอะไรดี วันนี้
พนักงานหนุ่มส่งเสียงตามสายอย่างกระตือรือร้น
พลางนึกถึงคอมมิชชั่นก้อนใหญ่ที่ได้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว
ถ้าบวกกับของวันนี้ คงพอจะไปดาวน์รถป้ายแดงใหม่เอี่ยม
เย้ยเพื่อนฝูงที่กำลังฝืดเคืองกันเป็นแถวๆ
มู้ดดี้ปรับเกรดความน่าเชื่อถือของเงินฝากกับหนี้ระยะยาวค่ะ
หุ้นคงขึ้นต่ออีกสักพัก
ฝ่ายพนักงานสาวก็ไม่ยอมน้อยหน้า
รีบรายงานสภาวะตลาดกระทิงให้ลูกค้าฟังด้วยหน้าตาครื้นเครงเกินปกติ
09.55 น. ช่วยด้วยค่ะที่นั่งประจำถูกแย่ง
เปล่า...ไม่มีใครส่งเสียงร้องฟ้อง ออกมา
เพียงแต่ลูกค้าที่เคยมาทุกวันกำลังงงงันจะหาที่นั่งตรงไหนดีเพราะถูกแย่งชิงไปหมด
และดูเหมือนพนักงานของบริษัทเองก็ช่วยอะไรไม่ได้
เพราะกำลังพะวงแต่คำสั่งสั่งซื้อหุ้นทางโทรศัพท์
ผู้มาทีหลังต้องรีบกระวีกระวาดช่วยตัวเองเป็นการใหญ่
ตลาดกำลังจะเปิดในไม่ช้า
10.00 น. ตลาดเปิดแล้ว ตัวเลขในกระดานปรับตัวเขียวพรึบ
ดันดัชนีพุ่งพรวดทีเดียว 30 กว่าจุด หลายคนอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า
ราคาหุ้นแต่ละตัวเบื้องหน้าคือความจริง ไม่ใช่ความฝันในอดีตครั้งฟองสบู่ลอยล่อง
เสียงอุทาน ว้าว...อู้หูดังกระหึ่ม ทุกคนในห้องค้าอยู่ในสภาพลืมตัวชั่วขณะ
ต่อเมื่อดัชนีทะยานขึ้นไปอีกจึงไม่รอช้ารีบจิ้มตัวเลขหน้าจอเป็นการใหญ่
10.30 น. ดัชนีขึ้นไปต่ออีกสักพัก แล้วหยุดนิ่ง
พอให้คนเล่นได้หยุดหายใจชั่วครู่ เสียงบ่นพึมพำว่าน่ากลัวๆได้ยินไปทั่ว
ไม่เคยเจอหุ้นร้อนถึงขนาดนี้เลย
หญิงวัยกลางคนนั่งเฝ้ามองความเคลื่อนไหวบนหน้าจอด้วยสายตาหวาดหวั่น
ดูซิ หุ้นตัวนี้ในกระดานต่างประเทศ สงสัยขึ้นถึง 70 แน่ ไม่น่าเลย ขายไปตอน 40 กว่าบาทเอง
เธอหมายถึงหุ้นของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ที่เพิ่งประสบความสำเร็จจากการเพิ่มทุนด้วยการโรดโชว์ต่างประเทศ
พร้อมรับความช่วยเหลือจากกองทุนขั้นที่หนึ่งของรัฐ
หุ้นตัวนี้ไปไม่ถึงไหนหรอก เพราะคนหันมาเล่นตัวที่ถูกกว่า
เธอหมายถึงหุ้นแบงก์ใหญ่ที่มีสัญลักษณ์รูปรวงข้าว
11.00 น. สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเตรียมอุปกรณ์เครื่องส่งหน้าห้องค้าหลักทรัพย์
พร้อมจะสัมภาษณ์และสังเกตการณ์บรรยากาศห้องค้าอย่างขมีขมัน
ลูกค้าหุ้นหุ่นเถ้าแก่ถูกขัดจังหวะการลงทุนชั่วคราว
เมื่อนักข่าวคนหนึ่งขอรบกวนสอบถามความรู้สึก
เขาได้แต่หัวเราะฮ่า ฮ่าอย่างอารมณ์ดี
อยากให้ทะลุ 1,000 จุดเร็วๆ
11.30 น. เนี่ยดูซิ พี่เพิ่งขายหุ้นตัวนี้ไปได้
อดีตข้าราชการบำนาญวัยเกษียณแต่ดูทันสมัยไปทั้งตัว
หันมายิ้มย่องอย่างผ่องแผ้วพร้อมชูนิ้วขึ้นมา 6 นิ้ว
หมายถึงผลกำไรที่ได้ถึง 6 หมื่นบาท
เล่นหุ้นตามข่าวแหละดี ไม่ต้องสนใจหรอกเรื่องพื้นฐานตามทฤษฎีทั้งหลาย
ก็ดูซิหุ้นที่พื้นฐานดีๆอย่าง...
เธอเอ่ยถึงบริษัทที่รับสัมปทานผลิตน้ำในเขตตะวันออก
ไปได้ที่ไหน ไม่มีใครเล่นเล้ย
แถมเธอยังกล่าวสำทับให้คนฟังอิจฉานิดๆอีกว่า
ทำงานทั้งเดือนยังไม่ได้เท่าเล่นหุ้น 2 วันมานี้เอง
ทำเอาคนทำงานใกล้ๆ ต้องกะพริบตาปริบๆและกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
เถอะน่าขอให้มีเงินนั่งกินนอนกินตลอดชาติบ้างเหอะ
จะมากวาดซื้อหุ้นให้หมดตลาดเลย
12.00 น. สาวต้อมพนักงานการตลาดส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
พี่ หุ้นกำลังขึ้น ซื้อตัวไหนก็ได้กำไรทั้งนั้น อย่ารอช้า
เธอกำลังเชิญชวนลูกค้าที่กำลังพลาดรถไฟขบวนร้อนนี้อย่างขะมักเขม้น
แสนหนึ่งนะพี่ ซื้อแบงก์นะ.เออ เออ จะดูให้จ้ะ แค่นี้นะ
เธอรีบสรุปเหมือนกับจะรู้ว่าหุ้นธนาคารกำลังจะถูกซื้อเก็บหมดตลาด
12.30 น. ตลาดปิดครึ่งเช้า พร้อมเสียงหายใจโล่งอก
น่าจะแตะ 500 จุดได้สักที ค้างๆเติ่งๆอยู่นั่นแหละ
เสียงชายสูงอายุพูดราวกับตลาดหุ้นเป็นเครื่องจักรอะไรสักอย่างที่สามารถสั่งการได้
แต่จำนวนซื้อขายตั้งหมื่นกว่าล้าน นี่แค่ภาคเช้าเท่านั้นนะ ไม่เคยเห็นมาเป็นปีๆแล้ว
ผมว่า ตอนบ่ายต้องชะลอล่ะ ชักไม่ไหว กลัวก้นไหม้
หลายคนทะยอยลงลิฟท์ไป
หากผู้คนที่เหลือยังนั่งมองตัวเลขความมหัศจรรย์อย่างไม่เชื่อสายตา
อุณหภูมิของตลาดหุ้นค่อยๆลดความร้อนรนลงเพื่อปรับสภาพบรรยากาศให้สมดุลชั่วขณะ
แต่จะสงบได้นานแค่ไหน...
แล้วก็โพสแปะให้เพื่อนๆอ่าน
กูรูไปช่วยพิมพ์ใหม่แล้วโพสให้อีกที
เลยมาโพสในเวปนี้บ้าง เดี๋ยวจะน้อยใจ..เอิงเงย
ลิงค์เวปนี้
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 72535.html
วันที่ 4 พฤษภาคม 2542
ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นวันดีของตลาดหุ้น
สืบเนื่องมาจากข่าวการปรับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
จากสถาบันจัดอันดับต่างชาติ
09.00 น. ณ ห้องค้าหลักทรัพย์ในตึกศูนย์การค้าใหญ่แถวลาดพร้าว
นักค้าหุ้นๆค่อยๆทะยอยออกจากลิฟท์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทักทายกันอย่างแจ่มใส
พร้อมพนันขันต่อว่า ตลาดวันนี้จะทะลุ 500 จุดหรือไม่
ถ้าทะลุจะลงขันเลี้ยงโต๊ะจีนให้เอิกเกริกมื้อหนึ่ง
อีกเสียงท้วงขึ้น อย่ากระนั้นเลย
ขอเป็นแค่เลี้ยงโต๊ะเหลาพออิ่มเก็บทุนไว้ซื้อหุ้นต่อกันดีกว่า
09.30 น.ห้องค้าหลักทรัพย์เริ่มเนืองแน่นด้วยผู้คนหลากตา
ทั้งที่เคยเข้ามาประจำและผู้ที่เพิ่งเข้ามา
ทุกคนดูเหมือนจะไม่อยากเสียเวลาเจรจาปราศรัยกับใคร
ต่างรี่ตรงเข้าไปจับจองโต๊ะพร้อมเปิดดูคอมพิวเตอร์ดูราคาหน้าจอ
บางคนถือโอกาสจองคอมพิวเตอร์ถึง 2 เครื่อง
เพื่อดูทั้งระดับดัชนีและดูเส้นกราฟเฉลี่ย
เขาหรือเธอจะชักสีหน้าขวางๆอย่างไม่พอใจ
เมื่อถูกใครคนหนึ่งขอนั่งใกล้ๆเพื่อร่วมใช้คอมพิวเตอร์ด้วยกัน
เชิญครับ แต่อย่าเปลี่ยนหน้าจอ ผมต้องใช้ดูตลอดเวลา
เจอคำตอบอย่างนี้ ใครล่ะจะกล้าเข้ามาขีดเส้นทางทำมาหากินของอีกฝ่ายได้
ผู้ที่มาทีหลังก็ต้องกระมิดกระเมี้ยนนั่งถอยออกมาดูกระดานตัวเลขแทน
หากเป็นผู้หญิงก็คงส่งค้อนไปหนึ่งตลบก่อนจะเดินหน้าคว่ำไปรอนั่งเก้าอี้ตัวอื่นแทน
09.45 น. เสียงโทรศัพท์รัวไม่ขาดสาย
เหล่าพนักงานการตลาดคว้าสายพันกันจ้าละหวั่น
คำสั่งสั่งซื้อตลอดทุกนาทีทั้งที่ตลาดยังไม่เปิด
ดาวโจนส์ทะลุ 11,000 จุดแล้วครับพี่ ตลาดทั่วเอเชียขึ้นหมดเลย
พี่จะเล่นอะไรดี วันนี้
พนักงานหนุ่มส่งเสียงตามสายอย่างกระตือรือร้น
พลางนึกถึงคอมมิชชั่นก้อนใหญ่ที่ได้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว
ถ้าบวกกับของวันนี้ คงพอจะไปดาวน์รถป้ายแดงใหม่เอี่ยม
เย้ยเพื่อนฝูงที่กำลังฝืดเคืองกันเป็นแถวๆ
มู้ดดี้ปรับเกรดความน่าเชื่อถือของเงินฝากกับหนี้ระยะยาวค่ะ
หุ้นคงขึ้นต่ออีกสักพัก
ฝ่ายพนักงานสาวก็ไม่ยอมน้อยหน้า
รีบรายงานสภาวะตลาดกระทิงให้ลูกค้าฟังด้วยหน้าตาครื้นเครงเกินปกติ
09.55 น. ช่วยด้วยค่ะที่นั่งประจำถูกแย่ง
เปล่า...ไม่มีใครส่งเสียงร้องฟ้อง ออกมา
เพียงแต่ลูกค้าที่เคยมาทุกวันกำลังงงงันจะหาที่นั่งตรงไหนดีเพราะถูกแย่งชิงไปหมด
และดูเหมือนพนักงานของบริษัทเองก็ช่วยอะไรไม่ได้
เพราะกำลังพะวงแต่คำสั่งสั่งซื้อหุ้นทางโทรศัพท์
ผู้มาทีหลังต้องรีบกระวีกระวาดช่วยตัวเองเป็นการใหญ่
ตลาดกำลังจะเปิดในไม่ช้า
10.00 น. ตลาดเปิดแล้ว ตัวเลขในกระดานปรับตัวเขียวพรึบ
ดันดัชนีพุ่งพรวดทีเดียว 30 กว่าจุด หลายคนอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า
ราคาหุ้นแต่ละตัวเบื้องหน้าคือความจริง ไม่ใช่ความฝันในอดีตครั้งฟองสบู่ลอยล่อง
เสียงอุทาน ว้าว...อู้หูดังกระหึ่ม ทุกคนในห้องค้าอยู่ในสภาพลืมตัวชั่วขณะ
ต่อเมื่อดัชนีทะยานขึ้นไปอีกจึงไม่รอช้ารีบจิ้มตัวเลขหน้าจอเป็นการใหญ่
10.30 น. ดัชนีขึ้นไปต่ออีกสักพัก แล้วหยุดนิ่ง
พอให้คนเล่นได้หยุดหายใจชั่วครู่ เสียงบ่นพึมพำว่าน่ากลัวๆได้ยินไปทั่ว
ไม่เคยเจอหุ้นร้อนถึงขนาดนี้เลย
หญิงวัยกลางคนนั่งเฝ้ามองความเคลื่อนไหวบนหน้าจอด้วยสายตาหวาดหวั่น
ดูซิ หุ้นตัวนี้ในกระดานต่างประเทศ สงสัยขึ้นถึง 70 แน่ ไม่น่าเลย ขายไปตอน 40 กว่าบาทเอง
เธอหมายถึงหุ้นของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ที่เพิ่งประสบความสำเร็จจากการเพิ่มทุนด้วยการโรดโชว์ต่างประเทศ
พร้อมรับความช่วยเหลือจากกองทุนขั้นที่หนึ่งของรัฐ
หุ้นตัวนี้ไปไม่ถึงไหนหรอก เพราะคนหันมาเล่นตัวที่ถูกกว่า
เธอหมายถึงหุ้นแบงก์ใหญ่ที่มีสัญลักษณ์รูปรวงข้าว
11.00 น. สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเตรียมอุปกรณ์เครื่องส่งหน้าห้องค้าหลักทรัพย์
พร้อมจะสัมภาษณ์และสังเกตการณ์บรรยากาศห้องค้าอย่างขมีขมัน
ลูกค้าหุ้นหุ่นเถ้าแก่ถูกขัดจังหวะการลงทุนชั่วคราว
เมื่อนักข่าวคนหนึ่งขอรบกวนสอบถามความรู้สึก
เขาได้แต่หัวเราะฮ่า ฮ่าอย่างอารมณ์ดี
อยากให้ทะลุ 1,000 จุดเร็วๆ
11.30 น. เนี่ยดูซิ พี่เพิ่งขายหุ้นตัวนี้ไปได้
อดีตข้าราชการบำนาญวัยเกษียณแต่ดูทันสมัยไปทั้งตัว
หันมายิ้มย่องอย่างผ่องแผ้วพร้อมชูนิ้วขึ้นมา 6 นิ้ว
หมายถึงผลกำไรที่ได้ถึง 6 หมื่นบาท
เล่นหุ้นตามข่าวแหละดี ไม่ต้องสนใจหรอกเรื่องพื้นฐานตามทฤษฎีทั้งหลาย
ก็ดูซิหุ้นที่พื้นฐานดีๆอย่าง...
เธอเอ่ยถึงบริษัทที่รับสัมปทานผลิตน้ำในเขตตะวันออก
ไปได้ที่ไหน ไม่มีใครเล่นเล้ย
แถมเธอยังกล่าวสำทับให้คนฟังอิจฉานิดๆอีกว่า
ทำงานทั้งเดือนยังไม่ได้เท่าเล่นหุ้น 2 วันมานี้เอง
ทำเอาคนทำงานใกล้ๆ ต้องกะพริบตาปริบๆและกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
เถอะน่าขอให้มีเงินนั่งกินนอนกินตลอดชาติบ้างเหอะ
จะมากวาดซื้อหุ้นให้หมดตลาดเลย
12.00 น. สาวต้อมพนักงานการตลาดส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
พี่ หุ้นกำลังขึ้น ซื้อตัวไหนก็ได้กำไรทั้งนั้น อย่ารอช้า
เธอกำลังเชิญชวนลูกค้าที่กำลังพลาดรถไฟขบวนร้อนนี้อย่างขะมักเขม้น
แสนหนึ่งนะพี่ ซื้อแบงก์นะ.เออ เออ จะดูให้จ้ะ แค่นี้นะ
เธอรีบสรุปเหมือนกับจะรู้ว่าหุ้นธนาคารกำลังจะถูกซื้อเก็บหมดตลาด
12.30 น. ตลาดปิดครึ่งเช้า พร้อมเสียงหายใจโล่งอก
น่าจะแตะ 500 จุดได้สักที ค้างๆเติ่งๆอยู่นั่นแหละ
เสียงชายสูงอายุพูดราวกับตลาดหุ้นเป็นเครื่องจักรอะไรสักอย่างที่สามารถสั่งการได้
แต่จำนวนซื้อขายตั้งหมื่นกว่าล้าน นี่แค่ภาคเช้าเท่านั้นนะ ไม่เคยเห็นมาเป็นปีๆแล้ว
ผมว่า ตอนบ่ายต้องชะลอล่ะ ชักไม่ไหว กลัวก้นไหม้
หลายคนทะยอยลงลิฟท์ไป
หากผู้คนที่เหลือยังนั่งมองตัวเลขความมหัศจรรย์อย่างไม่เชื่อสายตา
อุณหภูมิของตลาดหุ้นค่อยๆลดความร้อนรนลงเพื่อปรับสภาพบรรยากาศให้สมดุลชั่วขณะ
แต่จะสงบได้นานแค่ไหน...