หน้า 1 จากทั้งหมด 1

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 20, 2009 6:06 pm
โดย canman34222
คือผมสงสัยว่า :roll:  ถ้าผมไปซื้อหุ้นของบริษัทA จำนวน1ใน2ของหุ้นทั้งหมด

ถ้ามันเป็นหลักอุปสง กับอุปทาน หุ้นจะเหลือน้อยลง ทำให้ราคามันสูงขึ้น

และความต้องการซื้อของหุ้นยังคงที่ ทำให้ราคามันต้องขึ้นใช้ไหมครับ

ถึงตอนนั้นผมก็ขายหุ้นAในราคาที่สูงขึ้น กำไรเห็นๆ :twisted:  

แต่ผมว่ามันคงไม่ง่ายยังนั้นใช่ไหมครับ

ใครมีความรู้ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ

:D ขอบคุณทีั่เข้ามาอ่านครับ :D

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 20, 2009 7:29 pm
โดย chowbe76
ถ้าคุณซื้อ1ใน2ของทั้งหมด
คุณก็จะเป็นประธานแล้วครับ

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 24, 2009 9:36 pm
โดย mandy
chowbe76 เขียน:ถ้าคุณซื้อ1ใน2ของทั้งหมด
คุณก็จะเป็นประธานแล้วครับ
ผมก็อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นเหมือนกันครับ เป็นคำถามที่ดีมากเลย รอคำถามจากพี่ๆอยู่เหมือนกันครับ  :D

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 24, 2009 11:08 pm
โดย krisy
จริงๆต้องถามว่า ทำไมถึงคิดว่าราคาหุ้นที่ขึ้นลงไม่ใช่กลไกตลาดหล่ะคะ

มันเป็นกลไกตลาดเพียวๆเลยนะ ดูที่ตัวสินค้า เป็นหลัก ผู้ซื้อผู้ขายมากรายไม่รู้จักกัน เงินมีก้อนเดียว และยังคุณสมบัติของการเป็นของขาดแคลน ทำให้ราคามีขึ้นมีลงจากความต้องการขายและความต้องการซื้อและเงินที่มีอยู่จำกัด

ถ้าบอกว่าความต้องการซื้อเท่าเดิม ของลดลง ราคาก็ต้องขยับ แต่จะเห็นว่าเงินมีจำกัดนะ ไม่ใช่พิมพ์เงินมาสนองความต้องการที่เท่าเดิมเท่าไหร่ก็พิมพ์ได้ เงิน 100 ซื้อหุ้นที่ 1 บาทกับ 5 บาทได้จำนวนไม่เท่ากันนะ พอเงินหมด ความต้องการขายก็เิริ่มมากกว่าแล้ว ถ้าไม่ขายเลย วงจรก็หยุด จนกว่าจะได้เงินใหม่มาใส่

และเรามีสัญชาตญาณที่อยากจะปล่อยในราคาที่สูงเพื่อกักกำไรไม่ทอนคืนตลาดไปเท่าทุน เมื่อไม่มีเงินใหม่ คุณจะต้องการขายที่ราคาสูงๆนั้นก่อนคนอื่น คิดแบบนี้เยอะๆ ราคาหุ้นก็ลงไง

demand supply ทั้งนั้น

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 25, 2009 12:17 am
โดย baby-investor
การจะซื้อหุ้นครึ่งหนึ่งของทั้งบริษัทไม่ใช่ทำได้ง่ายๆครับ เพราะใช่ว่าผู้ถือหุ้นครึ่งหนึ่งจะยอมขายหุ้นให้ ทุกคนจะต้องตั้งราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราต้องการหุ้นจริง เราต้องไล่ราคา ซึ่งอาจต้องไล่ราคาจนมันสูงเกินไป ซึ่งแน่นอนครับว่าจะไม่มีใครซื้อตามแน่นอน หรือเรายังซื้อไม่ครบก็ต้องถอดใจไปเอง แต่ถ้าจะซื้อจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ผมคิดว่าช่วงที่มีการออกข่าวว่ามีการขายหุ้นล๊อตใหญ่อาจทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น แต่โดยมากราคาจะไม่สูงไปกว่าราคาที่มีการเสนอซื้อหุ้นกันจริงกับผู้ถือหุ้นใหญ่ครับ สรุปคือไม่สามารถทำได้ง่ายๆครับ นอกเสียจากมีเงินมากๆแล้วไล่ราคาหุ้นไปเรื่อยๆจนคนอื่นเข้ามาร่วมวงด้วย ช่วงไหนคึกคักสุดก็ขายออกไป ไม่จำเป็นต้องเก็บหุ้นให้ถึงครึ่งหนึ่ง แต่เสี่ยงเหมือนกันครับถ้าไม่มีใครตาม มีแต่คนแห่ขาย ในท้ายที่สุดก็จะติดดอยซะเอง เหมือนหุ้นหลายๆตัวที่เจ้ามือไล่ราคาขึ้นมาแล้วออกของไม่ได้ครับ

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 25, 2009 8:52 pm
โดย chowbe76
baby-investor เขียน:การจะซื้อหุ้นครึ่งหนึ่งของทั้งบริษัทไม่ใช่ทำได้ง่ายๆครับ เพราะใช่ว่าผู้ถือหุ้นครึ่งหนึ่งจะยอมขายหุ้นให้ ทุกคนจะต้องตั้งราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราต้องการหุ้นจริง เราต้องไล่ราคา ซึ่งอาจต้องไล่ราคาจนมันสูงเกินไป ซึ่งแน่นอนครับว่าจะไม่มีใครซื้อตามแน่นอน หรือเรายังซื้อไม่ครบก็ต้องถอดใจไปเอง แต่ถ้าจะซื้อจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ผมคิดว่าช่วงที่มีการออกข่าวว่ามีการขายหุ้นล๊อตใหญ่อาจทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น แต่โดยมากราคาจะไม่สูงไปกว่าราคาที่มีการเสนอซื้อหุ้นกันจริงกับผู้ถือหุ้นใหญ่ครับ สรุปคือไม่สามารถทำได้ง่ายๆครับ นอกเสียจากมีเงินมากๆแล้วไล่ราคาหุ้นไปเรื่อยๆจนคนอื่นเข้ามาร่วมวงด้วย ช่วงไหนคึกคักสุดก็ขายออกไป ไม่จำเป็นต้องเก็บหุ้นให้ถึงครึ่งหนึ่ง แต่เสี่ยงเหมือนกันครับถ้าไม่มีใครตาม มีแต่คนแห่ขาย ในท้ายที่สุดก็จะติดดอยซะเอง เหมือนหุ้นหลายๆตัวที่เจ้ามือไล่ราคาขึ้นมาแล้วออกของไม่ได้ครับ
และวิธีนี้ก็คือการเรียกจดหมายจาก ก.ล.ต.ให้ไปส่งที่บ้านไงครับ
ปั่นหุ้น

อ้อ
ที่ผมบอกว่าคุณซื้อ1ใน2แล้วจะได้เป็นประธาน
นั่นก็เรื่องจริงไม่ใช่หรือครับ
และถ้าคุณมี1ใน2แล้ว เป็นประธานแล้ว จะขายทำไมครับ
:D  :D

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 25, 2009 9:15 pm
โดย Hughes
ถ้าซื้อขนาดนั้นต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ก่อนแล้วทำ tender offer ครับ

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 01, 2009 7:57 am
โดย sattaya
เข้าใจว่าพี่ canman คงหมายถึงครึ่งนึงของ freefloat หรือเปล่าครับ ถ้าใช่มันก็มองได้หลายมุมนะครับ
1. เป็นไปตามหลัก demand supply ตามที่พี่canman บอก ถ้าคนยังต้องการหุ้นนั้นอยู่แน่นอนราคาต้องสูงแน่ ถ้าคนไม่แล ราคาก็นิ่งอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าคนไม่เอาราคาร่วงเอานะครับ
2. ในกรณีเป็นหุ้นที่เจ้าของเล่นด้วยอาจมีคนทุบราคาเพื่อให้พี่ไม่กล้าถือต่อก็เป็นได้

ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าพี่จะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นตัวนี้มี demand สาเหตุที่คนอยากได้หุ้นตัวใดตัวนึงหรือไม่ เป็นเพราะการคาดการผลประกอบการเป็นหลัก หรือไม่ก็มีข่าวบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 30, 2009 11:39 pm
โดย canman34222
อยากทราบ การสาเหตุเกิดดีมาน กับ ซับพราย  อ่ะครับว่ามีความแตกต่างกับราคาของสินค้าทั่วไปยังไง

กูรูช่วยแนะนำหน่อยครับ

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 31, 2009 1:46 am
โดย สวนหย่อม
ผมไม่ใช่กูรูนะครับ
แต่พอบอกได้อย่างนึงว่า
demand supply ของหุ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจน. หุ้นที่มีขาย
(ไม่เหมือนกับ ข้าวมีน้อย ราคาเลยแพง)

demand ของหุ้นเกิดจาก 1) ความต้องการเป็นเจ้าของบริษัท
ซึ่งเกิดจากคนเริ่มคิดว่าเป็นบริษัทที่ดี (เช่น งบออกมาดี จ่ายปันผลเยอะ) หรือ
2) ความต้องการเก็งกำไร มีข่าวลือ มีการปั่นหุ้น ล่อแมงเม่าให้มีความต้องการ
จะเข้าไปซื้อหุ้น

supply ของหุ้น เกิดจาก คนที่มีหุ้นอยู่รู้สึกว่าราคาปัจจุบันไม่เหมาะสมแล้ว ไม่ต้องการถือต่อแล้ว

อยากรู้กลไกการขึ้นลงของราคาหุ้นอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 01, 2009 2:39 am
โดย dome@perth
สวนหย่อม เขียน: supply ของหุ้น เกิดจาก คนที่มีหุ้นอยู่รู้สึกว่าราคาปัจจุบันไม่เหมาะสมแล้ว ไม่ต้องการถือต่อแล้ว
ไม่ใช่กูณุเหมือนครับ แต่ อยากเสริม Supply
เกิดจาการต้องการขายด้วยเหตุผลอีกนานับประการครับ
-จำเป็นต้องใช้เงิน วื้อบ้าย ซื้อรถ ป่วย
-เห็นตัวอื่นถูกว่า
-ได้กำไรพอใจแล้ว
-ปรับพอร์ตถือเงินสด
-เหตุผลทางภาษี
-ความสนุก สะใจ อารมย์ชั่วคราว ( สะกดอย่างงี้หรือเปล่าวหวา)
-ฯลฯ

:lol: