Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

 นั้นแหละครับ ทะลุแสนเอง แสนบาทครับไม่ใช่แสนล้านบาท  :twisted:  เงินมันน้อย แต่ผมก็ภูมิใจกับมันมากเพราะนี่คือก้อนที่ผมหาได้จากน้ำพักน้ำแรงของผมเองทั้งสิ้น

ผมเริ่มลุงทุนในหุ้นรายตัวครั้งแรกเมื่อราวเดือนกันยายนปีที่แล้วครับ เปิดพอร์ตครั้งแรก ถอนเงินเก็บมา 20000 บาทใส่เข้าไป ทุก ๆ เดือนจะแบ่งเงินที่เสี่ยงได้เก็บใส่พอร์ตเฉลี่ยแล้ว 4,000 บาท ออมก่อนใช้ บอกตัวเองว่ายังไงก็ต้องออม ตอนปลายปีมีโบนัสนิดหน่อยเลยใส่เข้าพอร์ตรา10,000 บาท รวม ๆ แล้ว เงินต้นของผมจะอยู่ที่ราว ๆ 70,000 - 80,000 บาท

ณ วันนี้ ผมมีเงินสดอยู่ในพอร์ตรอลงทุน 44,000 บาท มีหุ้นในพอร์ตมูลค่า 95,000 บาท ในจำนวนนี้มีกำไรที่ยังไม่ได้ Realize อยู่ 29,000 บาท รวมแล้วเกือบ 140,000 บาท

มันเพิ่มขึ้นมาเกือบเท่านึง ผมกลับไปคิดแล้วยังตื่นเต้นเลยว่า นี่เรามีเงินเก็บแสนเลยเหรอเนี๊ย ทั้ง ๆ เริ่มที่เราทำงานมาได้แค่สองปีกว่า เก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศก็หลายครั้ง :lol:

ผมมาขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านในที่นี้ครับ เพราะผมแอบอ่าน thaivi แบบไม่สมัครสมาชิกมาหลายเดือนก่อนที่จะเปิดพอร์ต จากคนที่กลัวการลงทุนในหุ้น อ่านจนมั่นใจว่า นี่คือแนวทางของเราจริง ๆ และถ้าเราศึกษามามากพอ ตลาดหุ้นก็ไม่ใช่บ่อนพนัน จึงตัดสินใจเปิดพอร์ต ซึ่งได้แนวทางการลงทุนจากการอ่านกระทู้ที่ตั้งมาในนี้นับแล้วเป็นพัน ๆ กระทู้  :D

ผมจำได้ว่า หุ้นตัวแรกที่ผมซื้อคือการบินไทย เหตุผลเพราะว่าผมชอบเครื่องบินฮะ เลยคิดว่าในตลาดเราน่าจะรู้เรื่องเครื่องบินดีที่สุด ซื้อตอนแรกทุน 17 บาท  :lol:  มันร่วงกราวรูดลงมาสนั่นหวั่นไหวพร้อมข่าวว่าจะเจ้ง ๆ ๆ พร้อมกับพอร์ตของผมที่ลบไปเกือบ 50% ผมเลยตัดสินใจ short against port เสียสองรอบ (ตื่นเต้นมากตอนกดปุ่มสั่งขาย  :roll: ) ครั้งสุดท้ายเมื่อราวปลายปีที่แล้วทุนอยู่ที่ 7 บาทกว่า ๆ มีอยู่ 1,500 หุ้น ซึ่งเกิดจากการจิ้มซื้อทีละ 100 หุ้นเพื่อเฉลี่ยต้นทุนและผมไม่มีเงินมาก  :lol:

ผมมาขายยกแรกที่ 14 บาท ซึ่งคือการขายหมูครั้งแรกในชีวิต โยนหมดเล้าเพราะมันวิ่งไปที่ 19 บาท ครั้งที่สองผมขายที่ 20.80 บาทคือเมื่อไม่กี่วันมานี้ที่ทุน 13 บาทกว่า แต่สรุปแล้ว ผมขายเพราะคิดว่ามันขึ้นมาเยอะเกินไปแล้ว และอยากจะ Realize เงินมาลงทุนต่อไปเรื่อย ๆ เพราะผมเชื่อว่ารัฐไม่มีทางปล่อยให้สายการบินแห่งชาติเจ๊งเด็ดขาด

ผมทำแบบนี้อย่างเดียวกับที่ทำกับ CPN เก็บได้ทุนเฉลี่ย 7 บาทกว่า เพราะผมเดิน Central World บ่อย ๆ มั่นใจว่าห้างนี้จะต้องมีอะไรดีแน่นอนถึงยิ่งใหญ่มาจนทุกวันนี้ได้ ขายไปหลายรอบ ได้เงินมาเยอะทีเดียวครับ

นอกนั้นผมเริ่มเก็บหุ้น LPN ตอนสองบาท เก็บเพราะผมนั่งรถไปทำงาน เห็นคอนโด LPN ประกอบกับเคยเข้าไปดูตัวคอนโดแล้วใช้ได้เลยครับ แล้วมั่นใจในตัวบริษัท เก็บมาเรื่อย ๆ จนทุนมาอยู่ที่ 3.23 บาท ตอนแรกกะจะรอให้ตกต่อแล้วเก็บ ที่ไหนได้มันวิ่งกระจายยยย แต่ตัวนี้ไม่ได้ขายออกไปเลย ตอนนี้มีอยู่ 3,500 หุ้นฮะ :lol:

อีกตัวคือ MINT เก็บเพราะผมเห็นคนกิน The Pizza กับ Sizzler เยอะมาก และผมก็เชื่อว่าการท่องเที่ยวไทยไม่มีวันตายแน่นอน วัดจากการที่เคยเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศ เก็บมาเรื่อย ๆ ตอนนี้ทุนอยู่ที่ 6.72 มี 2,900 หุ้น ไม่ขายออกไป รอเก็บเพิ่ม แต่มันหนีผมไปแล้วอ่ะ  :lol:

นอกนั้นผมเก็บ SPF ไว้เป็นการออม เริ่มเก็บตั้งแต่ 5 บาท ตอนนี้มีอยู่ 4,700 หุ้น ทุนเกือบ 6 บาท เพราะผมมั่นใจในการท่องเที่ยวของไทย และมันเกี่ยวกับเครื่องบินซึ่งผมมั่นใจในความรู้ของผม อีกทั้งมันยังอยู่ในเกาะสมุยและบริหารงานโดยสายการบินที่ดีที่สุดสายการบินหนึ่งของเอเชีย ถ้ากองทุนจะเจ้งก็ให้มันรู้ไป

ที่พูดนี่ ไม่ได้จะอวดนะครับ เพระเงินน้อยนิดแค่นี้ ไม่รู้จะไปอวดใคร  :lol:  แม้ว่าผมจะไม่ค่อยได้กระจายกลุ่มของหุ้นที่ผมถืออยู่ออกไป คือค่อนข้างกระจุกตัวอยู่กับอสังหา-การขนส่ง-การท่องเที่ยว แต่ผมไม่เข้าใจวัฎจักรของพลังงาน ผมตามการทำธุรกิจของธนาคารไม่เป็น ผมรู้อยู่แค่นี้ ก็ถือเฉพาะที่รู้พอ

ผมได้ความรู้ จากที่นี้เยอะมาก ๆ อยากรู้อะไร ก็ไปอ่านร้อยคนร้อยหุ้น จะรู้ถึงวิวัฒนาการของหุ้นตัวนั้น เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะหลุดออกจากแนวทางของตัวเองไปหาหุ้นปั่น กลับมาอ่านบทความและกระทู้ที่นี่ก็ช่วยเตือนสติตัวเองว่า นี่คือแนวทางของเรา นอกนั้นเราไม่ถนัด ตลาดมีคนเก่งมากมาย เรายังไม่เก่ง อย่าเสี่ยงดีกว่า

ผมอยากขอบคุณทุกท่าน ที่สละเวลามาโพสกระทู้และบทความเพื่อให้ผมได้แอบเรียนรู้จนเริ่มมีความรู้และจัดการกับการเงินส่วนบุคคลของตัวเองได้ ที่โพสจำนวนหุ้นและชื่อหุ้น (ไม่รู้ผิดกติกาหรือเปล่า  :oops: ) เพราะอยากให้พี่ ๆ ทุกท่านภูมิใจว่า อย่างน้อยสิ่งที่พี่ ๆ ทุกท่านโพสลงไป ไม่สูญเปล่าครับ มันทำให้เด็กใหม่อย่างผมที่แม้จะทำได้แค่จิ้มซื้อทีละร้อยหุ้น มีเงินเก็บเอาไว้สำหรับอนาคตได้มากขนาดนี้ (สำหรับผมมันเยอะมากครับ  :lol: )

ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ  

ลืมไปว่า ผมมีเงินอีก 1 แสนบาทซึ่งพ่อผมให้มาตอนเรียนจบ พ่อบอกว่าจะเอาไปทำอะไรก็ได้ แต่ผมตั้งใจว่าจะเป็นจะตายหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่ใช่เด็ดขาด พ่อเป็นหนี้ส่งผมเรียน ผมเอาไปใช้ที่ไหนไม่ได้หรอก เลยจะให้พ่อกลับตอนพ่อเกษียณพร้อมดอกเบี้ยด้วย นอกนั้นอยู่ในกองทุนอีกส่วนที่เป็นเงินเก็บส่วนตัวอีกราว 40,000 บาท อันนี้เก็บเอาไว้เป็นสภาพคล่อง+ไปเที่ยวฮะ  :lol:  :lol:  :lol:

ยินดีด้วยครับ

เริ่มลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้เปรียบในตัวแปรที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งในการลงทุนก็คือเวลาหล่ะครับ อย่างน้อยเวลาเรามีเวลามากกว่า

อีกอย่างชื่นชมในความกตัญญูครับ

การจะยืนหยัดในตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างยั่งยืน ผมว่า

ความสำเร็จที่ได้มา ต้องมาจากความสามารถเป็นส่วนใหญ่

ยังไงก็อย่าประมาทแล้วกันครับ  ยินดีด้วยครับ  :cheers:

ได้อ่านได้ฟังแล้วรู้สึกดีครับขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ อดทนต่อไปนะครับจุดหมายที่ฝันต้องถึงแน่ๆครับ

อย่าประมาท   ช่วงนี้เป็นช่วงขาขึ้นหุ้นเกือบทุกตัวขึ้นมาเกือบ 100%
ของราคาเมื่อตอนต้นปี  แม้แต่หุ้นที่ผลประกอบการขาดทุนในQ2 ก็ยัง
ขึ้นมา 100% ขึ้นมาด้วยความคาดหวังแท้ๆว่าจะดีในอนาคต

ยินดีด้วยครับ
คิดถึงสมัยผมเด็กๆเริ่มลงทุน
เคสคล้ายๆกันครับ ค่อยๆขึ้นหลัก 2 แสน 5 แสน

ขอให้น้องนักธรรม อดทน อย่าท้อทอย อย่าออกนอกลู่นอกทาง

ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ

ขอให้โชคดี

มาขอบคุณด้วยละกันครับ...แต่ของผมจากสองแสน เหลือแสนเดียวนะ ในช่วงต้นปี     :lol:

แต่ตอนนี้ ก็กลับมาได้แล้ว แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตามนะ..

เพราะกำลังใจและอ่านความเ็ห็นของแต่ละท่านในเวบนี้ ณ ช่วงตลาดแย่สุดๆ แหละครับ...ทำให้ผมไม่ถอดใจหนีหมด ตอนพอร์ตแดงต่ำสุด  

เข้าตลาดพร้อมๆกันเลย พอตใกล้เคียงกัน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันได้

อ่านแล้วคล้ายผมเลย แต่ผมไม่ได้ลงหุ้นอสังหา ท่องเที่ยวกับขนส่งสักตัว  

ขอบคุณ TVI เช่นกันคร้าบ

เป็นตัวอย่างนักลงทุนที่ดี ดีใจด้วยจริงๆ ครับ
เงินมากเงินน้อย ไม่สำคัญครับ ขึ้นอยู่กับความพอเพียงครับ

แต่อย่าประมาท และ หลงไหลกับมันมาก
หมั่นหาความรู้ศึกษาหุ้นเพิ่มเติมตลาดเวลา
ผมก็โดนเตือนมาว่า "เราเก่งจริง หรือว่าโชคดี"

ขอชื่นชม ความกตัญญููครับ
จุดนี้ ผม "เชื่อ "เสมอว่า การ"ให้"บุคคลที่มีบุญคุณ
อย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีสิ้นสุด
เราจะ"เจริญก้าวหน้า" ไม่มีวันสิ้นสุดเหมือนกันครับ

แสดงความยินดีด้วยครับ

มายินดีเหมือนด้วยคน นึกถึงตอนที่ผมเริ่มทำงานใหม่ ๆ ครับ กว่าจะเก็บเงินได้ครบ 1 ล้านบาทแรกด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองนี่ยากสุด ๆ เลยครับ

พอถึงเส้นชัยที่หลักล้านนี่ โอ้ยดีใจสุด ๆ ครับ ขอเป็นกำลังใจให้ และที่สำคัญคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ใช่คนเก่ง หรือคนฉลาด แต่เป็นคนที่อดทน และมีความอึดสูง วันนึงในอนาคตข้างหน้าถ้าพลาดก็อย่าท้อนะครับ สู้ต่อไป

แล้วจงจดจำความรู้สึกดี ๆ อย่างนี้ไว้กับตัว เพราะพอมาตอนหลัง ๆ เวลาพอร์ตโตครบ 10 ล้าน 20 ล้าน ความรู้สึกดีใจมันจะไม่เท่ากับ 1 ล้านแรกที่ได้เลย นาน ๆ เข้าพอพอร์ตเริ่มใหญ่เลขในพอร์ตมันเป็นแค่ตัวเลข ความรู้สึกดีใจกลับไม่ค่อยมี ลักษณะคล้าย ๆ ว่าจะตายด้านประมาณนั้น  :lol:

[quote="investment biker"]มายินดีเหมือนด้วยคน นึกถึงตอนที่ผมเริ่มทำงานใหม่ ๆ ครับ กว่าจะเก็บเงินได้ครบ 1 ล้านบาทแรกด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองนี่ยากสุด ๆ เลยครับ

พอถึงเส้นชัยที่หลักล้านนี่ โอ้ยดีใจสุด ๆ ครับ ขอเป็นกำลังใจให้ และที่สำคัญคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ใช่คนเก่ง หรือคนฉลาด แต่เป็นคนที่อดทน และมีความอึดสูง วันนึงในอนาคตข้างหน้าถ้าพลาดก็อย่าท้อนะครับ สู้ต่อไป

แล้วจงจดจำความรู้สึกดี ๆ อย่างนี้ไว้กับตัว เพราะพอมาตอนหลัง ๆ เวลาพอร์ตโตครบ 10 ล้าน 20 ล้าน ความรู้สึกดีใจมันจะไม่เท่ากับ 1 ล้านแรกที่ได้เลย นาน ๆ เข้าพอพอร์ตเริ่มใหญ่เลขในพอร์ตมันเป็นแค่ตัวเลข ความรู้สึกดีใจกลับไม่ค่อยมี ลักษณะคล้าย ๆ ว่าจะตายด้านประมาณนั้น

แสดงความยินดีด้วยคับ

สู้ต่อไปนะคับ

[quote="investment biker"]มายินดีเหมือนด้วยคน นึกถึงตอนที่ผมเริ่มทำงานใหม่ ๆ ครับ กว่าจะเก็บเงินได้ครบ 1 ล้านบาทแรกด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองนี่ยากสุด ๆ เลยครับ

พอถึงเส้นชัยที่หลักล้านนี่ โอ้ยดีใจสุด ๆ ครับ ขอเป็นกำลังใจให้ และที่สำคัญคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ใช่คนเก่ง หรือคนฉลาด แต่เป็นคนที่อดทน และมีความอึดสูง วันนึงในอนาคตข้างหน้าถ้าพลาดก็อย่าท้อนะครับ สู้ต่อไป

แล้วจงจดจำความรู้สึกดี ๆ อย่างนี้ไว้กับตัว เพราะพอมาตอนหลัง ๆ เวลาพอร์ตโตครบ 10 ล้าน 20 ล้าน ความรู้สึกดีใจมันจะไม่เท่ากับ 1 ล้านแรกที่ได้เลย นาน ๆ เข้าพอพอร์ตเริ่มใหญ่เลขในพอร์ตมันเป็นแค่ตัวเลข ความรู้สึกดีใจกลับไม่ค่อยมี ลักษณะคล้าย ๆ ว่าจะตายด้านประมาณนั้น

ยินดีด้วยครับ แล้วก็เอาบทความที่มีกูรูท่านหนึ่งเคยเขียนไว้

ผู้คนที่เข้ามาลงทุนในตลาดระยะแรก แล้วได้กำไรงาม มักเป็นเหยื่ออันโอชะของตลาด เนื่องจากคนกลุ่มนี้มักติดกับดักของผลตอบแทนได้ง่าย ทำให้เกิดความมั่นใจ (ว่าข้าเก่ง หรือเป็นเซียน) และเมื่อเกิด overconfidence ก็จะนำเงินจำนวนมากกว่าเดิมมาลงทุนเพิ่มอีก เพื่อหวังผลตอบแทนให้มากขึ้น เมื่อเวลาตลาดหุ้นปรับฐาน (market correction) เพื่อปรับผลตอบแทนเฉลี่ยให้เข้าใกล้ค่าเฉลี่ยระยะยาว ตลาดหุ้นก็มักจะ "ทวงกำไร" ที่เคยมอบให้คืนกลับไปหมด และจำนวนไม่น้อยที่ทวงเอาต้นทุนส่วนหนึ่งของนักลงทุนติดไปด้วย

การลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนจึงไม่ควรคาดหวังผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริง เพราะทำให้ติดกับดักแห่งความมั่นใจ ถ้าทำกำไรได้มากกว่านั้น ถือเสียว่าเป็นกำไรชีวิต

ผมใช้เป็นเครื่องเตือนสติเสมอ  :8)

ยินดีด้วยครับ

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ แต่ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจนะครับ ต้องรอบคอบให้มากๆ ผมมองว่าปีนี้คล้ายๆปี 2546 ที่จับตัวอะไรก็ขึ้น เพื่อนผมหลายๆคนเข้ามาในช่วงนั้นก็ได้กำไรกันแบบไม่ยาก ซื้อวันนี้ขายพรุ่งนี้ พอทำกำไรได้ง่ายก็เริ่มใส่เงินเข้าไปมากขึ้น หลังจากนั้นก็คงทราบนะครับว่าปีต่อๆมาเป็นอย่างไร บางคนถอดใจออกจากตลาดไปเลย ผมว่าการหาเงินที่ว่ายากแล้ว การรักษาเงินให้เจริญงอกงามต่อๆไปก็ยากไม่แพ้กัน ปัจจัยที่สำคัญคือต้องขยัน อดทน เปิดรับมุมมองใหม่ๆตลอด วันนี้ได้เงินแสน วันหน้าจะได้กลายเป็นเงินล้านและมากกว่านั้น ผมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วและรู้ว่ามันยากขนาดไหนกว่าที่จะทำได้ ยังไงขออวยพรให้ประสบความสำเร็จนะครับ

ถ้าจะอยู่ในตลาดอีกนาน

อย่าประมาทล่ะกันครับ


เริ่มเข้าตลาดช่วง ที่กำลังขึ้น ตัวไหน ก็กำไรทั้งนั้นคับ

แต่ อนาคตอียาวไกล ใช้ความรอบคอบ ในการลงทุนครับ

ดีใจด้วยครับ เหมือนเห็นตัวเองตอนปีแรก
ยังไง ก็ขยันทำการบ้าน หาหนังสือแนววีไอมาเพิ่มความรู้ให้เยอะ ๆ

แล้วจะยิ่งรัก วีไอ
ยิ่งรัก ตลาดหุ้น เหมือนผม  :D

 ขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านอีกรอบครับสำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมฮะ  :D

ดัน enter ไปเสียก่อน โพสยังไม่จบ เหอ ๆ ผมก็จะพยายามไม่ประมาทครับ ยังไงผมก็ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ จะได้โชคดีน้อย ๆ ใช้ความสามารถมาก ๆ ฮะ

ขอบคุณพี่ทุกท่านครับผม  :D

ยินดีด้วยครับ  ฝากบทความนี้เป็นรางวัลครับ



Credit post by คุณ WEB

Warren Buffett ได้บรรยายที่ Stanford University ในปี 1978 ไว้ว่า
ความสำเร็จทางการลงทุนไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางตรงกับจำนวนชั่วโมงในการทำงานหรือความเฉลียวฉลาดเลย แต่ถ้าจะมี มันก็อาจจะเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะผกผันซะด้วยซ้ำ ( เช่น ทำงาน 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ + IQ 200 = 0 ) อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จทางการลงทุนจะมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับ แนวทางการลงทุนและภาวะจิตใจของนักลงทุน จากที่ผ่านมา มันชัดเจนว่า นักลงทุนจะสามารถสร้างความมั่งคั่งจากตลาดหุ้นได้ หาก:

1) พวกเขาสามารถยับยั้งชั่งใจที่จะไม่เข้าไปเล่นในทุกๆเกม ทุกๆเวลาได้
2) พวกเขามีภาวะจิตใจที่มั่นคง
3) พวกเขามีความสนใจและความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นในระดับที่สูงพอ
4) พวกเขามีวินัย
5) พวกเขาอยู่ห่างจากตลาดมากพอจนไม่ถูกภาวะตลาดครอบงำ

ยินดีด้วยครับ ผมเองก็เหมือนพี่เลย
แต่ของผมเป็น(ใกล้)ครึ่งแสนครับ
เข้าใจความรู้สึกครับ
แม้เราจะซื้อทีละไม่กี่ร้อยหุ้น
แต่การที่เราเป็นคนที่ลงทุนในหุ้นนั้น
มันสร้างความภูมิใจให้กับเรา ความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนร่วม(เล็กๆ)ในกิจการที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งความภูมิใจนี้ประเมินเป็นตัวเงินไม่ได้ครับ

มีแนวคิดที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
ยินดีด้วยครับ

ยินดีด้วยครับที่เจอแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง และเริ่มต้นในจังหวะที่ดี แต่ก็อย่าประมาทไปนะครับ ปีนี้หุ้นหลายๆ ตัวขึ้นมาเยอะๆ ทั้งนั้น ต่อไปยังต้องเจอกับด่านทดสอบสภาพจิตใจอีกเยอะครับ ดีจังที่เริ่มลงทุนได้เร็ว มีเวลาเก็บเกี่ยวอีกเยอะ

ถ้ามองให้แง่ดี ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ และอาจจะทำให้เรามั่นใจในแนวทางที่เราทำมาได้เป็นอย่างดี ถึงแม้เวลาเพียง 1 ปีอาจจะยังไม่วัดอะไรได้มากก็ตามที

ถ้าเริ่มเข้าตลาดตอนกันยาซึ่งถือเป็นชวงก่อนหายนะก่อนที่ตลาดจะกราวรูดในช่วงตุลา ซึ่งก็ต้องยอมรับครับว่าได้ผ่านช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดของตลาดหุ้นในรอบปี 10 มาได้เรียบร้อยแล้ว แถมยังทำกำไรคืนได้ถึง 2 เท่า ก็นับว่าเป็นการพิสูจน์"ใจ"ไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ผมมองว่าจุดนี้สำคัญกว่าผลกำไรที่ทำได้เสียอีก

ส่วนตัวผมเริ่มเข้าตลอดช่วงเมษาครับ เรียกได้ว่าโดนเต็มๆ โต้คลื่นขาลงมาโดนมีหุ้นอยู่ในport เฉลี่ย 80% มาตลอดปี 51 ครับ โดยโครงสร้า
เงินทุนที่ผมมีก็คล้ายๆของคุณนักธรรมเลยครับ คือเป็นเงินเก็บก้อนแรกรวมกับเงินเก็บที่โอนเข้า port ทุกๆเดือน (pay yourself first หลักการเดียวกันครับ )

ณ วันนี้กำไรรวมยังขาดทุนอยู่ที่ 1-2% ครับนับจาก เมษา51 ซึ่งผมมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมได้จากการลงทุนมา1ปีครึ่งนี้ ไม่ใช้ผลกำไร หรือขาดทุนที่ได้ครับ แต่เป็นประสบการณ์ที่สอน"ใจ"ที่ไม่สามารถหาได้หรือเรียนรู้กันได้ในตำราหรือการลงทุนในช่วงใดๆครับ

ผมเองก็กำลังฉลองมูลค่า Port รวมหลัก 0 กลมๆ อยู่เหมือนกันครับ (ขาดอีกนิดเดียว ><) ยังแอบหวังไว้ว่าต่อไปผมจะได้มีโอกาสชาชิน+ตายด้านกับ Port มูลค่าสิบๆ ล้านของตัวเองแบบพี่ IB ด้วยเหมือนกันครับ  :oops:

ยินดีด้วยครับ

ฝากไว้สองอย่างเพิ่มจากพี่ ๆ ครับ

1. อย่าประมาทนะครับ โดยเฉพาะเวลาจะเพิ่มตังค์ลงไป

2. ปีที่แล้ว หุ้นที่ดี มันถูกไปหมด แค่เราเลือกหุ้นดี ก็มีชัยแล้ว (จริง ๆ หุ้นไม่ดี มันก็กำไร :lol: )

แต่ตอนนี้ หุ้นดี มันก็แพงแล้ว ถ้าใช้แค่วิธีเลือกหุ้นดี อาจจะไม่ได้เป็นผู้ชนะเหมือนที่ผ่านมาก็ได้

ทะลุขึ้น  ก็  โอ...

ทะลุลง  ก็ต้องหาข้อแก้ไข

เยี่ยมครับ

ก้าวเดิน ไปข้างหน้า ต่อไป อย่างมั่นคงครับ

ยินดีด้วยครับ

แล้วอย่าลืมกฏข้อที่ 1   "อย่าขาดทุน"