หน้า 1 จากทั้งหมด 2

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 10:42 am
โดย humdrum
ผมตั้งสมุมติฐาน เขาเล่นกันที่จิตวิทยา เขา trade จิตวิทยากับตลาด
 ผม trade my personality ครับ ตลาดจะเป็นอย่างไร หน้าที่ผมคือ ทำเงินให้ได้มากที่สุด
 ตอนนี้เขา trade psychology เราทันตัวเองหรือปล่าว เกมมันไปจี้ที่จิตใจของคน
  อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาในใจเรา
  ยิ่งเชื่อเท่าไหร่ ยิ่งแพ้ในเกมนี้ทั้งนั้น
   ถ้าเราเชื่อว่า หุ้นจะไม่ขึ้น แต่พอมันขึ้นมา
  มันจะทำให้เราเสียดายครับ เขาเล่นกันตรงนี้ เราต้องตามตัวเองให้ทัน
 ผมถึงบอกว่า ผมไมได้เทรดหุ้นแล้ว ผมเทรด personlity ของตัวเอง
 เมื่อเราทนไม่ได้ เมื่อเรามีอารมณ์ที่เสียดายขึ้นมา
  เราจะเข้าไปซื้อโดยไม่ยั้งคิด และจะติดกับดักนี้ทันทีครับ
 วันนี้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หลายตัวขึ้นมาค่อนข้างสูง
 สมมุติฐานผมคือกลุ่มนี้เป้นจุดสุดท้ายก่อนตลาดก่อนกลับหัวครับ

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 11:26 am
โดย KB
ซื้อของดีราคาถูกก็พอ ไม่ต้องคิดมาก

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 11:47 am
โดย Linzhi
ขอบคุณที่มาเตือนใจครับพี่ :) อ่านสนุกครับ ความคิดของพี่ น่าจะทำการทดลองด้วย

หุ้นไทยนี่เล่นกันสนุก ไม่เคยเปลี่ยน แบงค์ พลังงาน อสังหา

วนไปวนมา ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม (ทั้งทางลงและทางขึ้น  :lol: )

ทำให้เชื่อ ทำให้กลัว ทำให้มั่นใจ เกมส์นี้ไม่ถนัดจริง ๆ

ขนาดเอาแบบเห็นชัด ๆ อย่าง crisis ช่วงที่ผ่านมา

ยังไม่ค่อยรู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังกลัวมากอยู่ รู้สึกว่าตัวเองมีเหตุผลมาก

(และซื้อนิดเดียว)

ตอนนี้ผมถามใจตัวเอง ก็ไม่รู้อยู่ดี เอาคำคุณหมอสามัญชนมาพูด

ว่าทำเหมือนเดิมดีกว่า :D

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 6:41 am
โดย vivitawin
KB เขียน:ซื้อของดีราคาถูกก็พอ ไม่ต้องคิดมาก
มันมักมีถูกกว่าน่ะสิคุณKB อิอิ  :lol:

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 9:09 am
โดย Radio
ตราบใดที่ต่างชาติยังซื้ออยู่ SET จะไม่ลงอย่างดีก็ปรบฐานระหว่างวัน
และผมว่ากลุ่มสุดท้ายที่ SET จะกลับหัวคือ การขึ้นของหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์
และหุ้นตัวเล็ก

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 12:16 pm
โดย wr
"วันนี้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หลายตัวขึ้นมาค่อนข้างสูง
สมมุติฐานผมคือกลุ่มนี้เป้นจุดสุดท้ายก่อนตลาดก่อนกลับหัวครับ"

สมมติฐานนี้จะมีผลกับพี่ยังไงบ้างครับ
เฝ้าดูอย่างระวัง
แล้วรอสัญญานเพิ่มบางอย่างเพื่อล้างพอร์ตทั้งหมด
รึว่าต้องลงมือทำอะไรทันทีน่ะครับ
อยากทราบแนวคิดการจัดการของพี่น่ะครับ
ขอบคุณครับ

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2009 1:41 am
โดย Elessar
prop มาก่อนชัดๆ มาทีหลังยังไง งง

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2009 10:45 am
โดย Polar Bear
ซื้อเพิ่มเลยครับ ถ้าคิดว่าเริ่มนี้เพิ่งเริ่ม อนาคตตลาดไทยสดใสมากๆ ซื้อเลย ซื้อเลย  :lol:  :lol:

Re: จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2009 12:07 pm
โดย kmphol
[quote="humdrum"]

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2009 12:39 pm
โดย อะไรดีละ
กลุ่มที่มาคือ "รับเหมา" ซึ่ง P/E สูงมากๆ  
หมายถึงเป็นการเก็งกำไร...ไม่ใช่ลงทุน  
ผมเห็นด้วยว่าเป็นสัญญาณอันตรายครับ
:)

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2009 12:58 pm
โดย WinterWind
ตอนแรกคิดว่าจะจบตอน 660 แล้ว แต่ดันมีเงินฝรั่ง
เข้ามาหนุนให้เซตพุ่งต่อ คงอยู่ได้อีกสักพัก เล็กใหญ่ไม่รู้ต้องรอดู
แต่จะจบด้วยหุ้นเล็ก หุ้นปั่นครับ ตามสูตร

โชคดีกับการลงทุน

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 10:32 am
โดย กุหลาบงามหลังฝน
อยากจะเตือนพี่ๆเพื่อนๆให้ระวังไว้บ้าง เพราะหุ้นขึ้นมามากแล้วมากจนบ้างที่ผมว่าอาจจะเกินพื้นฐานกิจการไปไกล แต่กลัวพี่ๆว่าผมขัดลาภ

สุดท้ายขอให้พี่ๆเพื่อนๆทุกคนลงทุนอย่างมีสตินะคับ :P  :P

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 11:36 am
โดย marble
Radio เขียน:ตราบใดที่ต่างชาติยังซื้ออยู่ SET จะไม่ลงอย่างดีก็ปรบฐานระหว่างวัน
และผมว่ากลุ่มสุดท้ายที่ SET จะกลับหัวคือ การขึ้นของหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์
และหุ้นตัวเล็ก

อันนี้เคยเห็น ว่ามันเป็นแบบนั้น

ตอนนี้ ตัวเล็ก ก็เล่น ๆ กันไปแล้ว เหลือแต่ fin

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 10:56 am
โดย humdrum
wr เขียน:"วันนี้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หลายตัวขึ้นมาค่อนข้างสูง
สมมุติฐานผมคือกลุ่มนี้เป้นจุดสุดท้ายก่อนตลาดก่อนกลับหัวครับ"

สมมติฐานนี้จะมีผลกับพี่ยังไงบ้างครับ
เฝ้าดูอย่างระวัง
แล้วรอสัญญานเพิ่มบางอย่างเพื่อล้างพอร์ตทั้งหมด
รึว่าต้องลงมือทำอะไรทันทีน่ะครับ
อยากทราบแนวคิดการจัดการของพี่น่ะครับ
ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ ขอบคุณครับ ผมเข้าใจครับ
       ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเสือครับ
     นิสัยเสือขี้สงสัยครับ เวลามันจะล่าเหยื่อ
    มันจะตามเหยื่ออยู่รายวันครับ ตามจนรู้จักนิสัยเหยื่อของมันเป้นอย่างดีครับ
     ถ้ามันจะล่ากวาง มันจะตามกวางอย่างเดียวครับ
    พอมันไปเจอหมู่ป่าระหว่างทาง มันจะไม่สนใจเลยครับ
   พอมันตามกระทิง มันเจอกวาง  มันก็ไม่สนใจ
   พอมันตามช้าง  มันเจอกระทิง มันก็สนใจไม่
   นั่นละครับข้อดีของมันครับ focus  ในเป้าหมายของมันอย่างเดียวเท่านั้น
   งานอดิเรกของมัน คือ  มันจะชอบสะกดรอยดูพฤติกรรมสัตว์ต่างๆ ครับ
   มันจะตามศึกษาเรียนรู้นิสัยสัตว์ที่มันจะล่าอย่างกระตือรือร้น
   ตามจนมันแน่ใจว่า มันจู่โจมแล้วแล้วไม่พลาดแน่ มันถึงลงมือครับ
   แม้กระทั่งเสือยังคิดเป็น expected value ครับ  
   ถ้ามันไม่หิว มันจะตามดูเฉย ๆ ครับ
   เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
    ผมเคยเจอเสือว่ายน้ำข้ามฝากแม่น้ำในป่า
  มันว่ายกลับไปกลับมาอยู๋ 3 รอบครับ
 สังเกตว่ามันพยายาม ว่ายให้ตรงแนวกอไผ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
  แต่มันว่ายไปแล้ว กระแสน้ำพัดมันลอยไปตามน้ำ
  ทำให้มันว่ายไม่ตรงกอไผ่สักที  มันต้องลองถึง 3 รอบ มันถึงจะเผื่อระยะได้ถูกครับ
   เสือมันมี circle of competence มากขึ้นครับ


  เสือมัน invest first แล้ว investigate later
  เสือมีสมมุติฐาน แล้วมันลองทำดูครับ
 สมมุติฐาน มาก่อนคำพิพากษาครับ
 ส่วนสิ่งที่ก่อนสมมุติฐาน คือ สัณชาติญาณของเสือครับ
   ผมลองใช้กับ ticon  สร้างสมมุติฐานขั้นมา
   แล้ว  Invest first, investigate later
  ลงทุนทีละน้อย คอยดูว่าสมมุติฐานของเราถุกหรือผิด
 บางทีก็สร้างสัมผัสขึ้นมา ขายก่อนแล้วค่อยซื้อ ถ้ามีคนรับมาก ผมถึงจะซื้อ
  คือ ซื้อไปแล้ว มีคนมารอซื้อต่อแน่ๆ  
  การสร้างความรูสึกเกี่ยวตลาดขึ้นมานั้น ผมทำไม่บ่อยครับ
    ทำต่อเมื่อ ไม่แน่ใจเท่านั้น
 ถ้าอยากซื้อ ผมจะขายก่อน ถ้าอยากขาย ผมจะซื้อก่อน
ที่สำคัญ ต้องแยกอารมณ์และความรูสีกของตนออกจากตลาดให้ได้
 ไม่ปล่อยให้ตันหาต่างๆ เข้ามาปน
 ไม่ปล่อยให้อัตตามาปะปนกับการตัดสิน ใจทางการลงทุนอย่างเด็ดขาด
  การที่ปราศจากอารมณ์ความรูสึกในการลงทุนนั้น ต้องอาสัยความมีวินัยอย่างมาก
  ต้องอาสัยความมั่นใจในตัวเองอย่างมากด้วยครับ
  อีกทั้งต้องเข้าใจว่าตลาดมีทั้งด้านที่มีเหตุผล และไม่มีเหตุผล
 และยังต้องยอมรับด้วยว่า เราไม่สามารถตัดสินใจได้ถุกต้องตลอดเวลา
 หากมีโอกาส ต้องฉกฉวยให้เต็มที่
หากผิดพลาด  ก็ยอมรับผิด สำคัญที่ต้องรูว่าเมื่อผิดแล้ว ต้องทำอย่างไรให้อยู่รอด
  หวังว่า เรื่องเสือจะทำให้เข้าใจมากขึ้นครับ.....  

   
  วันนี้...เชื่อได้เลยว่าหลายท่านรอ Short
การที่หุ้นทำ new high แม้ว่าดัชนีชี้นำหลายๆตัวจะสูง
ยังวางใจไม่ได้ เราต้องเชื่อมั่นในราคามาก่อนอันดับแรก
เพราะราคาเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิด indicator
เรานำราคามาคำนวนเป็น indicator
สิ่งที่เราทำคือได้แต่รอราคาบอกเราว่ามันไปไม่ไหวแล้วเท่านั้น
อย่าด่วนตัดสินใจอะไรล่วงหน้า รอตลาดบอกคำตอบกับเราเอง
ไม่มีอะไรแน่นอน หากเหตุการณ์ยังมาไม่ถึง
เราจะเหนือกว่าผู้อื่นตรงหลักการบริหารความเสี่ยงนี่เอง
อย่าเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินกว่าเชื่อมั่นในคำตอบของตลาด
เรื่องนี้ ท่านมัดสอนผม ผมไม่ได้คิดเองครับ
http://mudleygroup.blogspot.com/search? ... results=20


วันนี้เป้น seller Zone ครับ ไม่ใช่ buyer Zone
วันนี้เป็นวันของผู้ขายครับ ไม่ใช่วันของผู้ซื้อ

 ถ้าซื้อง่าย จะรีบซื้อทำไม ซื้อแล้วก็มีคนขายออกมาตลอดหรือไม่
ถ้าขายยาก จะรีบซื้อทำไม ซื้อแล้วไม่มีคนซื้อต่อหรือไม่
ถ้าซื้อยาก จะรีบขายทำไม ซื้อเพิ่มดีกว่าหรือไม่
ถ้าขายง่าย จะรีบขายทำไม รอให้ราคาขึ้นไปแล้วค่อยขายหรือไม่

 ผมอาจผิดครับ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 11:38 am
โดย sattaya
[quote="humdrum"]

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 12:50 pm
โดย CEO
สวัสดีครับท่านฮัม

พอดีได้อ่านเรื่องเห็นเสือแล้วทำให้ผมนึกถีงเรื่องหนึ่งขึ้นมาครับ
เมื่อราว20ปีก่อน ในหน้าหนาวอันหนาวเหน็บ วันหนึ่งผมกับรุ่นพี่มหาลัยไปเที่ยวที่คารุยซาว่า สถานที่พักตากอากาศชื่อดังของญี่ปุ่น แล้วก็เลยไปเดินเล่นกันที่เหนือเขื่อนเล็กๆแห่งหนึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก
เมื่อเดินๆไปก็เห็นเหมือนตีนหมีที่พื้นหิมะครับ ดูกันอยู่นานก็ลงความเห็นว่าน่าเป็นตีนหมี เพราะจากสภาพแวดล้อมแล้วไม่น่ามีสัตว์อื่นมาเพ่นพ่านบนนี้ได้ภายใต้อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาแบบนี้

และอีกสักพักก็เห็นนายพรานแบกปืนบนบ่าเดินมาพร้อมหมาล่าเนื้อตัวหนึ่ง  พวกผมก็เลยฟันธงว่าหมีแน่ๆ นี่ไงนายพรานกำลังไล่ล่าอยู่

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 12:58 pm
โดย CEO
ตอนนั้นผมก็กล้าๆกลัวๆหมีอยู่เหมือนกันครับ ถ้าเกิดเจอกันขึ้นมาจำทำไงดี จะหนีไปไหนได้
พอเห็นนายพรานเดินมาก็เลยใจชื้นขึ้นมาว่าไม่เป็นไรแล้วเรา ไปเล่นน้ำแข็งในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนกันดีกว่า

++++++++++++
จบเรื่องในวันนั้นครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็ไปเดินเล่นกันต่อ แล้วพอเย็นก็เดินทางกลับที่พัก

แต่มาถึงวันนี้เมื่อคิดถึงครั้งนั้นทำให้ผมคิดไปว่า เราทำผิดพลาดไปมากมายหลายอย่างเลย......

ทราบไหมครับ ผมผิดพลาดอะไร ใครรู้ช่วยออกความเห็นครับ  แล้วถ้าท่านๆเป็นผม จะทำอย่างไรครับ

ไปทานข้าวก่อนครับ ....

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 1:59 pm
โดย เสรี โอ
เป็นผม  ผมจะหันหลังกลับเข้าที่พัก
การมีนายพรานกับหมาล่าสัตว์ กับรอยเท้าหมีบนหิมะ
รวมกันเป็นยิ่งกว่า "สังหรณ์"
ถ้าเราไปต่อแล้วเผชิญกับหมีโดยที่ไม่มีนายพรานอยู่แถวนั้น   อะไรจะเกิดขึ้น
ถึงแม้นายพรานจะอยู่ใกล้ก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี
แล้วเรื่องนี้สอนเราเกี่ยวกับตลาดหุ้นตอนนี้ว่าอย่างไรล่ะครับ

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 3:21 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ช่วงนี้อาจเหมือนกับยามที่ตลาดเต็มไปด้วยผู้คนมากที่สุดพ่อค้าแม่ค้าจะเลือกที่จะนำของออกมาขายหรือจะออกจากร้านไปซื้อสินค้ามาตุนเอาไว้  :idea:

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 8:10 pm
โดย Gimini
ฮืม
ฮืม
ฮืม

แง่คิดมากมาย

:roll:
:roll:
:roll:

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 22, 2009 3:33 pm
โดย clarkfire
ผมว่าตลาดเพิ่งตั้งตัวนะ ทำไมกลัวฮีตกันจัง
ถ้าวอลุ่มไปซัก 4 หมื่น 5 หมื่นล้านว่าไปอย่าง
ผมอาจเป็นพวกเดินต่อไปเล่นทุ่งน้ำแข็งอีกคนก็ได้

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 12:43 pm
โดย gnomeller
ช่วงนี้วัดกันที่ ความเก๋า + สุขุม + รอบคอม

ตลาดเข้ายากครับช่วงนี้ เป็นช่วงเวลาของการ "ซื้ออนาคต"

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 12:59 pm
โดย nanchan
กลุ่มสุดท้ายก่อนกลับหัว ยังไงก็ไม่ใช่อสังหา สำหรับรอบนี้

บ่อยครั้งที่ผมเห็นว่ากลุ่มหลักทรัพย์จะเป็นกลุ่มสุดท้าย

และถ้าคุณไม่เคยเห็นวอลุ่ม6-7หมื่นล้านเป็นบุญตา

คุณอาจจะได้เห็นรอบนี้ก็ได้ไม่แน่ ไม่แน่ ผมใช้คำว่าไม่แน่ นะ

ปีที่แล้วตอนหุ้นลงมา5ร้อยกว่า ผมก็ว่าถูกแล้ว มันยังลงไป380ได้

ตอนนี้ผมว่า730 มันก็แพงไปนิด ดูซิจะไปเท่าไหร่ต่อ

อู๊ดอู๊ด

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 1:58 pm
โดย Elessar
ผิดพลาดเพราะ คิดว่า นายพรานใช้
หมาล่าเนื้อ "1" ตัว

ไปสู้กับหมี
ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่จะสู้หมีได้

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 2:16 pm
โดย kurapica
ถ้าบริษัทเราทำกำไรดี ปันผลดี แล้วเราจะต้องกังวลไปใยครับพี่้น้องคร้าบบบ... แถมหมีมันจะช่วยให้เราได้ซื้อของถูกอีกต่างหาก ก็เอาปันผลที่ได้นั่นแหละมาซื้อของถูก

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 3:15 pm
โดย Namtej
กำไรดี ปันผลดี ไม่ดีเสมอไปนิ
ซื้อของดี ที่ไม่มีส่วนลด สิ่งที่เสียไปคือโอกาส...

...ตลาดตอนนี้ต้องคุมสติให้อยู่จริงๆ :?

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 3:31 pm
โดย นักดูดาว
ฝรั่งมาตรงเวลาดีมาก วันนี้บ่ายสามครึ่ง ตื่นมาทุบ

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 6:02 pm
โดย pavilion
ถาบันทุบครับ

news

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 7:03 pm
โดย naijan
หากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นถึง 100% ยิ่งเสี่ยงที่จะปรับฐานครั้งใหญ่

Posted on Friday, September 25, 2009
สมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปรับเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ระดับ 380 จุดมาสู่ระดับ 730 จุดในปัจจุบันได้ภายในเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น และอาจกล่าวได้ว่า ราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นเกินมูลค่าที่แท้จริงไปมากแล้ว และน่าจะต้องมาถึงจุดที่ต้องมีการเตือนให้นักลงทุนคิดให้รอบคอบมากขึ้นก่อนที่จะเข้าลงทุน โดยเฉพาะหากดัชนีขึ้นไปแตะที่ระดับ 760 จุดได้ก็หมายความว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้นถึง 100% ซึ่งนับว่ามีความเสี่ยงอย่างมาก

ทั้งนี้อาจพิจารณาได้จากสถิติที่ผ่านมาในอดีตที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมักจะยุติความร้อนแรงลงเมื่อดัชนีพุ่งขึ้นไปได้ถึง 100% โดยในปี 2536 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 850 จุดในช่วงกลางปี แล้วขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่ 1,780 จุดในต้นเดือนมี.ค. 2537 และในปี 2546 ดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ปรับขึ้นจากระดับกว่า 300 จุด แล้วขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่ระดับ 800 จุด

นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนในตลาดหุ้นจีน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1,700 จุดในเดือนพ.ย. 51 แล้วขึ้นมาแตะจุดสูงสุดที่ 3,400 จุดในเดือนส.ค. 52 แต่ในขณะนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 2,700 จุด ซึ่งเท่ากับว่าลดลงถึงกว่า 20% ภายในเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น

สมบัติยังบอกอีกว่า ระยะเวลาการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับพฤติกรรมของราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยคือระยะปานกลาง หรือ 3-6 เดือน โดยสมบัติเตือนกลุ่มที่ลงทุนในลักษณะซื้อขายวันต่อวันว่า อย่าไปคิดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นได้ในระดับเดิมเสมอไป และควรรู้จักหุ้นที่เลือกลงทุนด้วยว่าทำธุรกิจอะไร

สำหรับหุ้นกลุ่มที่ยังเหมาะที่จะเข้าลงทุนในขณะนี้ เนื่องจากราคายังไม่เต็มมูลค่าคือ กลุ่มสาธารณูปโภค อย่างน้ำประปาและไฟฟ้า รวมไปถึงกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมาหุ้นเหล่านี้ได้รับความสนใจน้อยเนื่องจากราคาไม่หวือหวาและไม่เหมาะที่จะเล่นเป็นรายวัน

วรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) บอกว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่เล็กมีวงเงินลงทุนภายในค่อนข้างจำกัด จึงทำให้กระแสเงินลงทุนต่างชาติเข้ามามีอิทธิพลได้โดยง่าย และสามารถส่งผลกับการลงทุนได้มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ในปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไป 1.5 แสนล้านบาท และในปีนี้กลับมาซื้อสุทธิไปแล้ว 5 หมื่นล้านบาท โดยกระแสเงินทุนเริ่มเข้ามาตั้งแต่เดือนพ.ค. ซึ่งในระยะแรกเป็นกลุ่มกองทุนเพื่อการลงทุนระยะยาวอย่างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Pension Fund) แต่ในระยะต่อมาจนถึงขณะนี้เป็นกองทุนเพื่อการเก็งกำไร (Hedge Fund)

ทั้งนี้ เม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเอเชีย มาจากเงินส่วนเกินจากการที่ธนาคารพาณิชย์ของต่างชาติไม่สามารถปล่อยสินเชื่อได้คิดเป็นเม็ดเงินในระบบรวมกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และสถาบันการเงินและกองทุนต่าง ๆ มีความจำเป็นที่จะต้องดูแลให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้น และเมื่อเศรษฐกิจส่งสัญญาณผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จึงเริ่มมองหาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดทุนแถบประเทศตะวันออก
money channel hard topics

จุดสุดท้ายก่อนตลาดกลับหัว

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 8:18 pm
โดย นักดูดาว
จริงด้วยครับ กองทุบเป็นเจ้าภาพนี่เอง ซัดแบบไม่ยั้งเลย

หรือว่าหุ้นจะแพงไปจริงๆ เลยกดลงมากลัวคนไม่ซื้อหน่วยลงทุน?