เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว ตอนที่ตลาดบูมยุคทักษิณ ปี 2003 ได้
ดัชนีเซต ขึ้นแบบไม่ลืมหูลืิมตา ภายใน 1 ปีดัชนีขึ้นเป็นเท่า ทั่วตลาดมีแต่ข่าวดี และมีหน้าใหม่กระโดดเข้ามาดูหุ้นเยอะมากๆ มากกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ เพราะเศรษฐกิจตอนนั้นดีด้วย คนมีตังเยอะมากๆ
ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ กำลังเรียน และมีเงินก้อนกลางๆเย็นๆ 1 ก้อน สนใจที่จะเข้าไปทำให้มันงอกเงยในตลาดหุ้น
ตั้งใจว่าจะเป็น VI เพราะได้อ่านหนังสือ new buffetology ของเพื่อนแล้วดูมีเหตุมีผลดี แต่จริงๆแล้วก็ยังไม่ประสีประสาสักเท่าไหร่ + ยังสนใจเกร็งกำไรราคาจากกราฟและข่าว
มีหุ้นตัวนึงที่ผมสนใจมากตอนนั้นก็คือพี่เทพนี่แหละ PTTEP ราคาตอนนั้น 200-300 ประมาณนี้แหละ แต่ par 5 นะคร้าบบบ
ที่สนใจตอนนั้นไม่ใช่เพราะอะไรดอก เพราะเห็นสภาพคล่องมันสูง เป็นบริษัทในเครือ ปตท. และสามารถทำกำไรได้ทุกๆปี
ที่สุดท้ายโชคและสมองไม่ทำงาน จึงทำให้ไปหลงใหลข่าวในหุ้น ck ที่ทั้งรายใหญ่ รายย่อยมะรุมมะตุ้มกันเชียร์ว่าดีโง้น ดีงี้
เหตุผลตอนนั้นที่ไม่ซื้อ PTTEP เพราะคิดแบบโง่ๆ ว่า ราคามันตั้ง 300 กว่าแล้ว คงอืด และไปได้อีกไม่ไกล ไปแบบช้าๆ ปันผลก็ได้ไม่เยอะมาก
6 ปีผ่านมาถ้ามี time machine ผมอยากจะไปกระโดดถึบขาคู่ผมเมื่อ 6 ปีก่อน
เพิ่งจะมาสำนึกได้ว่า มันเป็นบริษัทที่เทพสมชื่อ ที่ว่าเทพสมชื่อเพราะว่า มูลค่าของบริษัทมันสูงจนแทบจะประเมินไม่ได้ในความคิดของผม
หนึ่งคือมันเป็นบริษัทที่ผูกขาดสุดยอด ขอแค่ท่านเทพขุดน้ำมันมา มีพี่ปอของเรารับซื้อตลอด ถ้าไม่ยอมซื้อได้ข่าวว่าต้องจ่ายเงินชดเชยด้วย
ถึงมันจะผลิตสินค้า commodities แต่ความผูกขาดของมันสามารถชนกับความเฮงซวยของราคา commodities ได้ ดูได้จากการทำกำไรทุกปีของมัน
สองคือมันเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ ซึ่งก็เป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก และราคาของน้ำมันและก๊าซซึ่ง ยังมีอนาคตที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ตาม กฎของ demand-supply และ peak oil ซึ่งดูเหมือนมันจะเร่ง speed มาเร็วขึ้นเนื่องจาก การเติบโตของจึนส่วนหนึ่ง
อย่างน้อยๆ 10 ปีต่อไปนี้ น้ำมันยังคงไม่หมดโลก แต่ demand -supply ของน้ำมันมีแต่จะตึงตัวขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนกับคุณทำบริษัทที่ขายของที่คนต้องใช้ ต้องมาซื้อที่คุณทุกวัน แต่วันหนึ่งคุณบอกว่า " เอ่อ ของๆเรา วัตถุดิบใกล้จะหมดลงเรื่อยๆ แล้วนะครับ ผลิตได้น้อยลงเรื่อยๆ คงจะต้องขึ้นราคานิดแล้วหล่ะครับ ถ้าไม่ซื้อก็คงจะลำบากนะครับ แฮ่ะๆ"
สุดท้าย ขอให้ไปดูกราฟราคาของ pTTEP ตั้งแต่เริ่มเข้าตลาดหุ้นดู แล้วคุณจะรู้และเข้าใจ ว่า " Durable Competitive Aadventage " และบริษัทที่ขายสินค้าผูกขาด มันดีอย่างไร