ราคาหุ้นที่แท้จริง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Ronaldinho
Verified User
โพสต์: 3
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมถามใน pantip
ยังไม่มีคนตอบครับ ( หรือว่าเขาเล่นหุ้นโดยไม่ดูอันนี้กัน??? )
ขออนุญาติถามในนี้ด้วยนะครับ

ที่บอกว่า "หุ้นราคาสูงเกินจริง"
ผมอยากรู้ว่า ราคาหุ้นที่แท้จริง หรือที่ควรจะเป็น หรือไม่สูงเกินไป
สำหรับบริษัทหนึ่งๆ ดูจากอะไรครับ

ตีราคาจากทรัพย์สิน, cash flow, หรืออะไรครับ
ถ้าดูจบรายงานประจำปี จะสามารถหาข้อมูลมาคิดได้ไหมครับ

เหมือนกับการตีราคาที่ดินรึป่าว?
แล้วราคาที่ดินเขาประเมินกันยังไงครับ

มือใหม่ครับ ยังงง ๆ
รบกวนชี้แนะด้วยครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คงต้องถามก่อนนะครับว่า  เราซื้อหุ้น เพื่ออะไร
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
Ronaldinho
Verified User
โพสต์: 3
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หือ???
งง นะครับ ถามแบบนี้

ผมแ่ค่อยากรู้ว่าการประเมินราคาหุ้นของสักบริษัทนึง เขาประเมินราคากันยังไงเท่านั้นเองครับ

ดูจากอะไรบ้าง พิจารณาอะไรบ้าง

เหตุผลก็เพื่อ ใช้เทียบราคากับปัจจุบัน

ผมยังไม่ได้คิดจะซื้อหุ้นครับ
ผมเพียงแค่ต้องการรู้เรื่องเกี่ยวกับหุ้น เกี่ยวกับตลาด เกี่ยวกับารลงทุน เท่านั้นเองครับ

บางครั้งอาจจะเอาไปใช้ทดลองแนวคิดที่เขาว่ากัน
กับโปรแกรมจำลองหุ้นออนไลน์ อะไรแบบนี้ครับ

ผมชอบทดลองมากกว่า
แพ้บางก็ไม่เป็นไรครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ที่ผมถามเพราะ  หลายคนซื้อหุ้นเพื่อหวังจะไปขายต่อให้คนอื่นในราคาที่สูงกว่าที่ซื้อมา  ถ้าคิดแบบนี้  ผมก็ไม่รู้จะคิดราคาพื้นฐานอย่างไร

แต่ถ้าเราคิดว่าซื้อหุ้นเพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการ  หวังผลตอบแทนจากผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท

การคำนวณราคาพื้นฐานก็ต้องเริ่มคิดจาก  ประมาณการผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต  และความคาดหวังผลตอบแทนที่เราต้องการ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
phakphum
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 476
ผู้ติดตาม: 0

Re: ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 5

โพสต์

Ronaldinho เขียน:ที่บอกว่า "หุ้นราคาสูงเกินจริง"
ผมอยากรู้ว่า ราคาหุ้นที่แท้จริง หรือที่ควรจะเป็น หรือไม่สูงเกินไป
สำหรับบริษัทหนึ่งๆ ดูจากอะไรครับ
สามารถดูได้หลายวิธีครับ เช่นดูจาก P/E ,P/BV หรือให้ใกล้เคียงหน่อยก็ DCF ครับ
Ronaldinho เขียน:ตีราคาจากทรัพย์สิน, cash flow, หรืออะไรครับ
ถ้าดูจบรายงานประจำปี จะสามารถหาข้อมูลมาคิดได้ไหมครับ
ได้ครับ จากงบการเงินรายไตรมาส และรายปี แต่ต้องประเมิน Growth ในอนาคต จะต้องใช้ข้อมูลหลายๆปีครับ 5-10 ปีเป็นอย่างน้อย
Ronaldinho เขียน:เหมือนกับการตีราคาที่ดินรึป่าว?
แล้วราคาที่ดินเขาประเมินกันยังไงครับ

ไม่เหมือนซะทีเดียวครับ มูลค่าหุ้นจะต้องละเอียดกว่ามาก แนะนำให้หาหนังสือ "วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง" ของพี่สุมาอี้ ครับ
Ronaldinho เขียน:มือใหม่ครับ ยังงง ๆ
รบกวนชี้แนะด้วยครับ
ยินดีครับ
KriangL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1487
ผู้ติดตาม: 0

Re: ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Ronaldinho เขียน:ผมถามใน pantip
ยังไม่มีคนตอบครับ ( หรือว่าเขาเล่นหุ้นโดยไม่ดูอันนี้กัน??? )
ขออนุญาติถามในนี้ด้วยนะครับ

ที่บอกว่า "หุ้นราคาสูงเกินจริง"
ผมอยากรู้ว่า ราคาหุ้นที่แท้จริง หรือที่ควรจะเป็น หรือไม่สูงเกินไป
สำหรับบริษัทหนึ่งๆ ดูจากอะไรครับ

ตีราคาจากทรัพย์สิน, cash flow, หรืออะไรครับ
ถ้าดูจบรายงานประจำปี จะสามารถหาข้อมูลมาคิดได้ไหมครับ

เหมือนกับการตีราคาที่ดินรึป่าว?
แล้วราคาที่ดินเขาประเมินกันยังไงครับ

มือใหม่ครับ ยังงง ๆ
รบกวนชี้แนะด้วยครับ
มูลค่าหุ้นมันมีส่วนที่ต้องเดา หรือตีความเยอะครับ ไม่เหมือนที่ดินสามารถเดินทางไปดูสภาพหรือทำเลได้ แต่หุ้นมันขึ้นอยู่กับบริษัทจะเดินเข้าไปบริษัทไปค้นเอกสารทางบัญชี โดน รปภ.จับส่งตำรวจได้ครับ  :D

เลยมีหลายจะหลายวิธีให้เลือกแล้วแต่แนวทาง ถ้าสนใจซื้อเพื่อเก็บปันผลก็ดูที่ dividend yield ถ้าซื้อเพื่อหวังราคาหุ้นขึ้นก็ดูการเติบโต ซึ่งอาจคิดจากการเติบโต cash flow (ซึ่งเป็นรายได้ที่ได้มาเป็นเงินสด) หรือดูค่า PE ปัจจุบัน (หุ้นที่คนคาดหวังในอนาคตมากจะมี PE สูง) ถ้าหวัง takeover กิจการ หรือ ซื้อดักกรณีที่บริษัทมีโอกาสจะถูก takeover ก็ดูที่ทรัพย์สินทางบัญชีหรือ book value

รายงานประจำปีมีส่วนสำคัญในการเข้าใจกิจการบริษัทมากครับ แต่มันเป็นข้อมูลอดีต ผลประกอบการในอนาคตก็ต้องเดาเอาครับ อยู่ที่ความเข้าใจในธุรกิจกับประสบการณ์ว่าสามารถเดาได้ใกล้เคียงความเป็นจริงแค่ไหนครับ
chavanakorn
Verified User
โพสต์: 191
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เสริมเรื่องการประเมิน Growth โดยใช้ข้อมูลจากอดีต ซึ่งเป็นที่นิยมในการใช้มากแต่มีข้อเสียเรื่องของความใกล้เคียงซึ่งบางทีแล้วก็ผิดพลาดไปมากได้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าคุณเข้าใจในสภาพของธุรกิจนั้นๆที่คุณประเมินจะเป็นการง่ายที่คุณจะประเมิน Growth โดยวิธีการประเมินศักยภาพของตลาดที่บริษัทนั้นทำการค้าอยู่ และ ความสามารถในการแข่งขันของบริษัท ซึ่งหากใช้วิธีนี้จะทำให้เราสามารถประเมิน Growth ของกิจการได้อย่างใกล้เคียงมากขึ้น และเมื่อนำมาใช้ในการประเมินมูลค่าหุ้น เราก็จะมีความผิดพลาดน้อยทำให้การตัดสินใจลงทุนมีความเสี่ยงน้อยลงด้วยครับ
         ดังนั้นจึงเป็นที่มาของความเข้าใจในธุรกิจนั้นที่เราเข้าไปลงทุน ส่วนตัวผมคิดว่าการลงทุนไม่ว่าจะซื้อเพื่อขายต่อ หรือซื้อเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ ก็สมควรที่จะรู้จักธุรกิจนั้นๆอย่างแท้จริงเสมือนเราเป็นคนบริหารเอง เพราะถ้าเราประเมินทุกอย่างผิด เราก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนซึ่งเป็นเงินจริงของเรา และในบางคนอาจเป็นเงินที่หามาได้ทั้งชีวิต
ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีของคุณ และขอให้คุณมีวันที่ดีตลอดไป
อย่าเชื่อสิ่งที่พระเจ้าบอก แต่จงคิดและเลือกที่จะเชื่อด้วยตัวท่านเอง !!
Ronaldinho
Verified User
โพสต์: 3
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
nop_th
Verified User
โพสต์: 2
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 9

โพสต์

น่าจะคิดยากนะ
nun08
Verified User
โพสต์: 558
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="chatchai"]ที่ผมถามเพราะ
chavanakorn
Verified User
โพสต์: 191
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 11

โพสต์

การประเมินอนาคตของกิจการโดยใช้ข้อมูลที่มีในปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจอุตสาหกรรมที่บริษัททำธุรกิจอยู่ และ ศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกิจการในปัจจุบันครับ ซึ่งปัจจัยต่อมาที่เราจะประเมินก็คือความเสี่ยงในด้านต่างๆ ที่จะกระทบกับอุตสาหกรรม และบริษัท เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมองให้ครบทุกด้าน เพื่อที่เมื่อเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นเราจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นก็ขอย้ำวลีเดิมๆที่หลายท่านอาจจะอ่านและฟังจนคุ้นหูแล้วว่า "การลงทุนในบริษัทใดๆนั้นเราควรเข้าใจธุรกิจนั้นอย่างดี" ถ้าคุณทำได้อย่างผมว่า ผมคิดว่าคุณจะสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างมากเลยครับลองศึกษาดูนะครับ
ขอให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่ดี และขอให้วันที่ดีจงเกิดกับคุณตลอดไป
อย่าเชื่อสิ่งที่พระเจ้าบอก แต่จงคิดและเลือกที่จะเชื่อด้วยตัวท่านเอง !!
winkung
Verified User
โพสต์: 1036
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 12

โพสต์

chavanakorn เขียน:การประเมินอนาคตของกิจการโดยใช้ข้อมูลที่มีในปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจอุตสาหกรรมที่บริษัททำธุรกิจอยู่ และ ศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกิจการในปัจจุบันครับ ซึ่งปัจจัยต่อมาที่เราจะประเมินก็คือความเสี่ยงในด้านต่างๆ ที่จะกระทบกับอุตสาหกรรม และบริษัท เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมองให้ครบทุกด้าน เพื่อที่เมื่อเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นเราจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นก็ขอย้ำวลีเดิมๆที่หลายท่านอาจจะอ่านและฟังจนคุ้นหูแล้วว่า "การลงทุนในบริษัทใดๆนั้นเราควรเข้าใจธุรกิจนั้นอย่างดี" ถ้าคุณทำได้อย่างผมว่า ผมคิดว่าคุณจะสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างมากเลยครับลองศึกษาดูนะครับ
ขอให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่ดี และขอให้วันที่ดีจงเกิดกับคุณตลอดไป
ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ  :wink:
อย่าโลภเกินความรู้ความสามารถของตัวเราเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
tmadoka
Verified User
โพสต์: 6
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอแจมด้วยคนครับ มือใหม่เหมือนกัน
ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าเวลาที่เราบอกว่าหุ้นตัวไหนราคาสูงหรือต่ำเราจะเอาอะไรไปวัด จากการอ่านกระูทู้หลายๆ ส่วนก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ถ้าเป็นผมก็จะประเมินจากบริษัทฯ ที่ประกอบกิจการแบบเดียวกับที่เราสนใจ แล้วเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐานของบริษัทฯ นั้นเทียบกัน แล้วเฉลี่ยราคาของหุ้นดูผมว่าน่าจะช่วยได้ เราก็จะประเมินได้ว่าบริษัทฯ ที่เราสนใจ ควรจะมีราคาหุ้นที่ควรจะเป็นเท่าไร
ไม่รู้ว่าใกล้เคียงไหมครับ ถ้าไม่ใช่รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ   :oops:
chavanakorn
Verified User
โพสต์: 191
ผู้ติดตาม: 0

ราคาหุ้นที่แท้จริง

โพสต์ที่ 14

โพสต์

การประเมินมูลค่าหุ้นเรามีวิธีอยู่หลายวิธีเหมือนกันครับ
1.การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ ณ วันที่เราซื้อกิจการ อันนี้ขออธิบายแบบย่อเพราะพูดง่ายแต่ทำยากมากๆ ถ้าไม่มีข้อมูลเพียงพอเพราะเราต้องรู้ว่ากิจการมีิสินทรัพย์อะไรบ้างและมีมูลค่าเท่าไหร่ ส่วนมากเราก็จะทำแบบง่ายๆคือ discount สินทรัพย์หมุนเวียน และสินทรัพย์ถาวร แร้วเอามาลบกับ หนี้สินทั้งหมด หารด้วยจำนวนหุ้น แต่ถ้าเราสามารถประเมินราคาของสินทรัพย์ถาวรได้จะดีมากครับ เพราะเราจะประเมินได้ถูกต้องมากขึ้น
2.การประเมินกำไรในอนาคต อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ประเมินว่าจะเลือกใช้การประเมินออกไปเป็นระยะเวลากี่ปี ซึ่งมูลค่าของตัวกิจการก็จะขึ้นอยู่กับกำไรที่เค้าจะทำได้ในอนาคต แต่การประเมินแบบนี้ก็มีตัวแปรหลายอย่างที่เราควรจะเข้าใจ ซึ่งขออธิบายแบบพอสังเขปเพราะมีเวลาน้อยในการพิมตอนนี้
- เราจำเป็นต้องเข้าใจรายได้ของกิจการในอนาคต
- ความเสี่ยงของการลดลงของรายได้ และโอกาสที่รายได้จะเพิ่มขึ้น ข้อนี้ขออธิบายแบบง่ายๆคือ ความเสี่ยงที่ราคาขาย หรือความต้องการในสินค้าของบริษัทลดลง ส่วนโอกาสก็คือราคาขายเพิ่มขึ้น และความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น ตรงนี้จำเป็นต้องเข้าใจเพราะถ้าเกิดเหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นเราจะได้สามารถประเมินมูลค่าใหม่ได้อย่างทันเวลา
-ต้องรู้รายจ่ายของกิจการและมีสาเหตุใดบ้างที่จะเพิ่มขึ้น หรือลดลง
- ต้องเข้าใจอุตสาหกรรมที่ธุรกิจอยู่ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีอนาคตที่จะเติบโตไหม หรือว่าสามารถดำรงอยู่โดยไม่ถดถอยหรือไม่ หรือกำลังถดถอย
- ต้องเข้าใจว่าธุรกิจมีศักยภาพเพียงใดที่จะคงอยู่ในอุตสาหกรรมนั้น พูดตรงนี้ก็ต้องอธิบายว่าเช่นความแข็งแกร่งของแบรนด์ ยอดขายที่สูงกว่าจุดคุ้มทุนมากๆ ส่วนแบ่งทางการตลาดสูง มีมาร์จิ้นสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง พวกนี้เป็นศักยภาพการแข่งขัน ส่วนศักยภาพการเงินดูหนี้สินต่อทุน ความเพียงพอของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่จะสามารถชำระหนี้ หรือขยายงานในอนาคตได้หรือไม่ (ถ้าตรงนี้มีน้อยอาจจะทำให้มีการก่อหนี้มากขึ้นหรือเพิ่มทุนในอนาคต)
        พอเราทำความเข้าใจหัวข้อข้างต้นแล้วคุณก็มาประมาณการกำไร,กระแสเงินสดในอนาคตครับ ส่วนวิธีในการประเมินมูลค่าของผมใช้แบบง่ายๆดังนี้ครับ มูลค่าุหุ้น = ราคาหุ้นปีที่t  / 1+r^t
โดยที่
       ราคาหุ้นปีที่ t คือกำไรสุทธิปีที่ t*PEที่คาดหวัง (กำไรสุทธิในสูตรสามารถเปลี่ยนเป็น กำไรเงินสด กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หรือ FCF ได้ตามที่เราเลือก)        
       PE ที่คาดหวังมีวิธีคำนวณหลายวิธีดังนี้
1. PE เฉลี่ยในอดีต 5 ปี 7 ปี 10 ปีก็ได้ตามแต่ผู้ประเมินจะเลือกใช้
2. นำอัตราการเติบโตที่เราคาดหวัง /2 เช่นอัตราการเติบโตที่คาดหวังเท่ากับ 10% PE= 5
3. ใช้อัตราการเติบโตในอดีต / 2
4. ใช้อัตราการเติบโตเลย
       r ที่ใช้คืออัตราผลตอบแทนที่นำมาคิดลด ส่วนตัวผมใช้อัตราผลตอบแทนที่ผมต้องการต่อปี  โดยเมื่อเราได้มูลค่าหุ้นมาแล้วถ้าสูงกว่าก็คือแพงไป ต่ำกว่าก็คือถูกไป บางคนอาจนำมาคูณกับ 0.7 เพื่อเป็นส่วนต่างความปลอดภัยอีกทีนึงด้วยครับ
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ เวลาหมดแล้วขอให้โชคดีในการลงทุนนะครับ
อย่าเชื่อสิ่งที่พระเจ้าบอก แต่จงคิดและเลือกที่จะเชื่อด้วยตัวท่านเอง !!
โพสต์โพสต์