Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเป็นมือใหม่มาก ๆ เพิ่งลงทุนในหุ้นครบเดือนกับอีก 4 วัน ได้รู้จักและศึกษาจากพี่ ๆ ที่เป็นนักเล่นหุ้นรุ่นบิ๊ก ๆ ก็จากหลายเว็บไซต์และคนรู้จัก รวมถึงอ่านหนังสืออีก ซึ่งแน่นอนมีทั้งสไตล์ VI สไตล์ Technical สไตล์ day trade รวมถึงสไตล์ลูกผสม ซึ่งผมชอบหลักการของ VI มาก ๆ แต่คนรอบข้างผมที่รู้จักมักเป็นสไตล์ตรงกันข้ามกับผมทั้งนั้น มันทำให้ใจเราหวั่น ๆ ว่า ถ้าเราถือนานเป็นปีอย่างนี้มันถูกต้องหรือเปล่า เพราะคนที่ผมรู้จักเขาได้กำไรไปหลาย % ซึ่งต่างกับผม ไม่ถึง 10% เลยอ่ะ (หรือว่าเราเลือกหุ้นผิดหว่า) แค่ 1 เดือนนิ เสีย self มาก ๆ เลยอ่ะพี่ ๆ ดังนั้น นี่เป็นที่มาของกระทู้นี้น่ะครับว่า พี่ ๆ ยังคงเป็น VI ที่ผมเคารพและเชื่อมั่น ผมชอบกระทู้ในเว็บนี้มาก อ่านทีไรต้อง save ทุกครั้งไปคิด แต่พอมาคุยกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ สไตล์ตรงกันข้ามมันทำให้ผมอึ้ง แต่ก็ยินดีกับพี่เขาเหมือนกัน ดังนั้นผมขอถามว่า พี่ ๆ ในเว็บนี้ที่ตั้งกระทู้เมื่อปี 2005, 2006 จนถึง 2009 ก็ 4 ปีแล้ว อยากทราบว่าผลตอบแทนที่พี่ได้รับเป็นที่น่าพอใจหรือไม่ครับ สักกี่% ครับ
(ขอโทษที่ถามอาจจะล่วงเกินความเป็นส่วนตัวไปนิ๊ดดดด) อยากได้ความมั่นใจหน่อยครับ

ขอบคุณล่วงหน้าเลยล่ะกันครับ สำหรับคำตอบไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีครับป๋ม

ผมเพิ่งลงทุนไม่นานครับ คงจะตอบให้คุณมั่นใจไม่ได้

แต่อยากจะบอกว่าอย่าใจร้อนครับ

เรื่องผลตอบแทนลองดูกระทู้สรุปตอนสิ้นปีดีกว่าครับ หรือดูในหนังสือเล่มล่าสุดของ ดร.นิเวศน์ก็ได้ หรือดูในรายงานประจำปีของ วอร์เรน

ว่าแต่มีข้อเสนอแนะ

1.การลงทุนแบบ vi กว่าจะให้ดอกผลต้องรอคอยหลายๆปี 30-40 ปีเพราะต้องอาศัยการทบต้น นี่เพิ่งลงทุนแค่ 1 เดือนเอง

2.เราจะถูกเพราะเหตุผลเราถูก ไม่ใช่ฝูงชนบอกว่าเราถูก คนส่วนใหญ่ไม่รวยสักที เพราะมัวแต่ฟังคนอื่น แทนที่จะเชื่อเหตผลที่ถูกต้องของตัวเราเอง

3.หลักการ vi ได้รับการพิสูจน์จากทั่วโลก รวมถึงเมืองไทย คนที่รวยสุดในโลกก็ใช้หลักการนี้ ในขณะที่แนวทางอื่นๆ ยังเป็นคำถาม ถามว่าเราควรจะเชื่อแบบไหน

4.แนวทาง vi เป็นหลักการลงทุนที่สวนทางกับสัญชาติญานของมนุษย์ ดังนั้นคนที่ควบคุมสัญชาติญานได้จะเหมาะกับแนวทางนี้  นี่เป็นเหตผลที่เราจะเห็นว่าคนส่วนใหญ่แม้เจอแนวทาง vi แต่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกคน

หวังว่าคงมีประโยชน์บ้าง

อยากดูผลงานของพวกพี่วีไอ ไว้รอดูปลายปีนะ
เพราะ จะสรุปผลงานกันทุก ๆ ปี
ปีนี้ได้อึ้งกิมกี่ หลายคนแน่นอน

หากอยากดูของเก่า ลิงค์นี้เลยครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... &start=150

ขอบคุณมาก ๆ ครับ ที่พวกพี่ ๆ อุตส่าห์ตอบกัน ถึงแม้จะดูเป็นคำถามโง่ ๆ สักหน่อย ตอนนี้เรียกความมั่นใจผมกลับมา เกิน 100% แล้วครับ ยิ่งพี่ลูกอิสาน (ได้ข่าวว่าพี่เป็นโคตรเซียน VI) อุตส่าห์ช่วยตอบ ผมยิ่งมีกำลังใจมากยิ่งขึ้นอีก รวมถึงพี่ ๆ  Devil Cupid, Happiness ด้วย พี่ ๆ VI นี่ต้องขอเคราพด้วยความจริงใจมาก นอกจากให้ความรู้แล้วยังให้กำลังใจกับน้อง ๆ มือใหม่อย่างพวกผมด้วย

ขอบคุณครับ

อ้อ ลืมไปครับ พี่ ๆ คนใดทราบหรือไม่ว่าจะจัดงาน VI ครั้งที่ 2เมื่อไรอ่ะ เห็นเคยเปิดเจอแว๊บ ๆ ๆ แล้วจำไม่ได้อ่ะ ส่ง link มาให้หน่อยได้มั๊ยครับ

ขอบคุณคร๊าบบ

ปีที่แล้ว( ปี 51)ผมเชื่อว่า port ของชาว VI ส่วนใหญ่ติดลบเกือบ 50%
แต่พอถึงตอนนี้ผมเชื่อว่า Port ของชาว VI กลับมาเท่าเดิมแถมด้วยกำไร
อีกไม่น้อย (คือ Port โตกว่าปี 51 ตอนต้นปีก่อนเกิดวิกฤตการ)

โดยส่วนตัวผมคิดว่า ระยะเวลาในการถือหลักทรัพย์ไม่ใช่เหตุที่จะบอกว่าเราเป็น VI เพราะการเป็น VI นั้นสำคัญที่หลักคิด และการประเมินมูลค่าหุ้นไม่ใช่ว่าเราจะบอกว่าเราถือหุ้นเป็นเวลายาวนานแล้วเราคือ VI การเป็น VI นั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะพูด แต่เป็นเรื่องยากที่จะทำ ซึ่งความเข้าใจของคนก็ไม่เหมือนกันด้วย แต่ผมมีความเชื่ออยู่อย่างนึงว่า เราไม่สามารถใช้การลงทุนแบบเทคนิค ที่ไม่มีการประเมินมูลค่าเลย กับพอร์ตที่มีมูลค่าเยอะๆได้ แต่แนวทางการลงทุนแบบ VI สามารถทำได้ ทุกวันนี้มีคนมากมายที่ได้กำไรจากการเล่นแบบเทคนิคอล แต่ผมอยากจะถามว่ามีสักกี่คนที่สามารถทำกำไรกับตลาดหุ้นด้วยวิธีนี้ได้อย่างยาวนาน ถ้าเราลองเทียบผลตอบแทน 10 ปี ผมก็เชื่อว่าคงมีไม่กี่คนที่สามารถทำพอร์ตให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 เท่าได้ แต่แนวทาง VI สามารถทำให้คุณได้ ผมจึงเชื่อถือแนวทางนี้ แต่ความเชื่อก็ต้องเชื่ออย่างถูกต้องว่าเราจะขายหุ้นในราคาที่มันควรจะเป็น และซื้อในราคาที่มันต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แล้วเราจะไม่หวั่นไหวหากปัจจัยที่เราใช้คำนวณมูลค่าของมันยังไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเกิดคุณเข้าใจหลักการของ VI และสามารถใช้ได้อย่างถูกวิธี ผมเชื่อว่าผลตอบแทนของคุณในระยะยาวจะมากกว่าคนรอบข้างคุณที่ใช้การลงทุนแบบเทคนิคอลแน่นอนครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ

ถามผม ..

ความเชื่อมั่นของผมตอนนี้ อยู่ในช่วง "กำลังสร้าง"
เหตุเพราะพึ่งเริ่มลงทุนครับ

บททดสอบแรกเลยคือ รอดูผลประกอบการที่จะถึงนี้ ว่าเป็นไปตามที่เรา "คาดการณ์" หรือไม่
หากถูกต้อง ... ก็จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้นครับ
ในทางกลับกัน ....................  :(

ผมว่าผมก็ยังไม่เคยรู้ว่าคนเล่นหุ้นคนไหนรวยกว่าวอเรนบัฟเฟรตนะครับ

เพราะฉนั้น จงเชื่อมั่น หุหุ  :lol: