Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

คือตอนนี้เพิ่งเปิดบัญชีได้เรียบร้อยแล้ว และกะว่าจะลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยเล็งไว้ 3 ตัว คือ cpf  scb และdtac สอบถามว่า
1.หุ้นตอนนี้ 700 กว่าจุด โดยที่ผมกะว่าจะไม่เล่น daytrade แน่นอนเพราะไม่มีเวลา โดยในระหว่างเวลาทำงานจะไม่มีเวลาดูราคาหุ้น ฉะนั้นหากผมซื้อวันพรุ่งนี้ไปเลยและก็ไม่ต้องสนใจมันอีก อาจจะซัก 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน จะเป็นการลงทุนที่ถูกต้องไหมครับ

2.หลักการ vi ที่แท้จริงนั้นก็คือการลงทุนในขณะที่หุ้นตัวนั้นมีราคาไม่แพงจนเกินไป ถามว่า หากจะเล่นจริงก็ควรจะต้องรอให้หุ้นปรับฐานก่อนใช่ไหมครับ

3.ผมไม่ต้องการมานั่งดูหุ้นแบบจ้องตาไม่กะพริบ เพราะไม่ใช่สไตล์ผลและก็ไม่มีเวลาด้วย หากผมต้องการค่าเฉลี่ยในการเล่น แบบ vi นะครับ ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับคือ 15,000 บาทขึ้นไปนั้น ควรจะต้องลงทุนประมาณซักเท่าไหร่ดีครับ โดยมีทุนที่สามารถเล่นหุ้นอย่างเดียวได้เลยคือ 3 ล้านบาทไม่ทราบว่าจะสามารถเป็นไปได้ไหมครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาตอบเพราะเป็นมือใหม่ซิงๆเลยครับ

หากผมซื้อวันพรุ่งนี้ไปเลยและก็ไม่ต้องสนใจมันอีก อาจจะซัก 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน จะเป็นการลงทุนที่ถูกต้องไหมครับ

โดยส่วนตัวมองว่า "ไม่ถูก" ครับ
ไม่ถูกในที่นี้ไม่ใช่เพราะมันแพงนะ แต่หลักการที่บอกว่าซื้อแล้ว "ไม่สนใจ"
ผมว่ามันผิดตั้งแต่เริ่มคิดแล้วล่ะครับ

หากจะเล่นจริงก็ควรจะต้องรอให้หุ้นปรับฐานก่อนใช่ไหมครับ

ตามความเข้าใจของผม VI ไม่มีคำว่า "ปรับฐาน" นะครับ (มันเป็นศัพท์ของนักเทคนิค)
VI จะเข้าซื้อหุ้นที่น่าลงทุน เมื่อราคา "ต่ำ" กว่าราคาพื้นฐาน
อีกนัยนึงคือ ราคาที่ซื้อมีค่า margin of safety มากพอสมควร

ผมไม่ต้องการมานั่งดูหุ้นแบบจ้องตาไม่กะพริบ เพราะไม่ใช่สไตล์ผลและก็ไม่มีเวลาด้วย หากผมต้องการค่าเฉลี่ยในการเล่น แบบ vi นะครับ ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับคือ 15,000 บาทขึ้นไปนั้น ควรจะต้องลงทุนประมาณซักเท่าไหร่ดีครับ โดยมีทุนที่สามารถเล่นหุ้นอย่างเดียวได้เลยคือ 3 ล้านบาทไม่ทราบว่าจะสามารถเป็นไปได้ไหมครับ

ถึงจะเป็นนักลงทุน VI ก็สามารถนั่งจ้องราคาหุ้นได้ครับ ไม่ถือว่าผิด แค่อย่าจิตวอกแวะเป็นพอ  :wall:
ส่วนเรื่องผลตอบแทนกับเงินต้นที่ลงทุน ผมคงแนะนำอะไรให้ไม่ได้ เพราะมันเป็นเงินของคุณครับ
ช่วยได้แค่ "แนวคิด" เท่านั้นครับ  

[quote="por29471"]คือตอนนี้เพิ่งเปิดบัญชีได้เรียบร้อยแล้ว และกะว่าจะลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยเล็งไว้ 3 ตัว คือ cpf

[quote="por29471"]คือตอนนี้เพิ่งเปิดบัญชีได้เรียบร้อยแล้ว และกะว่าจะลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยเล็งไว้ 3 ตัว คือ cpf

นี่ก็ข้อคิดของ Wanrent Buffet อีกแล้ว
บทเรียนที่สำคัญที่สุดในการลงทุนก็คือการมองหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาด
เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ไม่ใช่สิ่งที่มีราคาขึ้นๆ ลงๆ

ผมชอบรวบรวมข้อคิดของคนเก่งๆ ใน ThaiVI บ้างหรือกูรู ดังๆ บางอย่างก็เขียนเอง เออ เอง จากประสบการณ์ที่อยู่ตลาดหุ้นมาระยะ นึง บางข้ออาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่มือใหม่ก็ลองอ่านดูครับ แฮะแฮะ

กฎข้อหนึ่งของการลงทุนคือห้ามขาดทุน
ก่อนซื้อต้องดูงบดุลก่อนเสมอ
ห้ามซื้อหุ้นที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐานระยะยาวอย่างเด็ดขาด
ต้องมองไปในอนาคตของหุ้น
ROA ROE Profit สูง Debt ต่ำ
ดูว่ามีผู้บริหารซื้อหรือขายหรือเปล่า 59-2
กำไรต่อหุ้นสม่ำเสมออ่ะเปล่า
นานๆ ถึงจะซื้อที , ต้องทำตัวเหมือนเหยี่ยวนานๆ จึงโฉบลงมากินเหยื่อสักที เมื่อเห็นโอกาสที่แน่นอน
ซื้อช่วง ก่อนสงกรานต์ ก่อนคริสมาสต์ ก่อนวันหยุดยาวอื่นๆ
Analysis consesus ให้ราคาอยู่ที่เท่าไหร่
เทียบ PE  PB ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน, ตลาดให้ PE หุ้นตัวนี้เท่าไหร่
สำหรับบริษัทที่เติบโต ต้องรู้ว่าโตแล้วจะเป็นยังไง
การออมนั้นเป็นการบวก  มันดีก็จริงแต่มันสู้การลงทุนไม่ได้  เพราะการลงทุนเป็นการคูณ  ผลในระยะยาวแล้วต่างกันราวฟ้ากับดินเลยครับ
หุ้นตัวนี้มีโฆษณาหรือเปล่า
มีหุ้นห่านกำลังจะบินอ่ะเปล่า หรือ ห่านกำลังจะร่อนลงอ่ะเปล่า
ในตลาดหุ้นไทย หุ้นวัฎจักรเป็นหุ้นที่ทำกำไรสูงสุด
ผมดูภาพรวมๆแล้ว จุดอ่อนอันหนึ่งก็คือว่า  พวกเราไปพูดแต่เรื่อง ที่เป็นคุณลักษณะ หรือเหตุการณ์อะไรบางอย่างของตัวกิจการ  ซึ่งบางทีมันไม่เข้าประเด็นใหญ่ว่า  บริษัทนี้ถ้ามองกันแบบมองทีเดียวแล้วเห็นเนี่ยนะ  คือจุดเด่นมันอยู่ตรงไหน  ตรงนี้เราก็จะจับความสำคัญได้ว่า  บริษัทนี้มีอะไรที่เด่นมาก ดูปั๊บก็รู้เลย"
มี Margin of Safty สูง
โครงสร้างรายได้ของหุ้นเป็นอย่างไร
หุ้นรับเหมา เป็นพวกปากกัดตีนถีบ PE อ่อนไหวสูงมาก
ให้กำหนดราคาที่จะซื้อ แทนการดูราคาก่อนซื้อ
เวลา set ขึ้น ตัวเล็กจะขึ้นช้า แต่เวลา set ลง ตัวเล็กๆจะลงเร็ว
อ่าน 56-1 บ่อยๆ และต้องอ่านก่อนซื้อ
เล่นหุ้นอยู่ 3 ประเภท Turn around, Growth, Cycle.
เลือกตัวที่ under value มากๆ
มี Story หรือเปล่า ซึ่งจะไปช่วยเสริมให้เกิดปัจจัยทางจิตวิทยามวลชน, Story มาจาก บทวิเคราะห์ของ Broker , หนังสือพิมพ์ , Story นั้นต้องมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต มากกว่า การโฆษณา
Due to Demand & Supply causing to The Cylical of Stock.
เป็นการลงทุนซื้อในสิ่งที่มีคุณค่า(ในอนาคต)มากกว่าราคาที่เราจ่าย(ในปัจจุบัน)
การซื้อหุ้น คือการลงทุนกับบริษัทนั้น
ต้องบอกได้หุ้นที่ซื้ออยู่ กำลังอยู่ใน ช่วงไหนของวัฎจักร  ขึ้น-ลง กำลังอยู่ในช่วงไหนของกราฟ
จงอย่าลืมความผิดพลาด หรือเจ็บปวด ที่ได้รับจากการ เห็นหุ้นตัวเองราคาตก ฉะนั้นจงตัดสินใจให้รอบคอบก่อนที่จะซื้อ รอดีกว่าซื้อผิดตัว ผิดจังหวะ
มีผลการคำนวณอ้างอิงเวลาจะซื้อ
ซื้อหุ้นเหมือนทำวิทยานิพนท์
ปัจจัยจิตวิทยานั้นมายา EPS นั่นสิของจริง
"คุณสมบัติในการเป็นวีไอสามข้อเหรอ
นี่เลย
ข้อที่หนึ่ง อดทน
ข้อที่สอง อดทน
ข้อที่สาม อดทน
ฮา ฮา
อดทนหาความรู้
อดทนตอนหุ้นตก อดทนไม่ขายตอนหุ้นขึ้น
และอดทนถือเงินสดไม่ซื้อหุ้น "
ในภาวะหุ้นฟื้นจากวิกฤษเศรษฐกิจ หุ้นตัวใหญ่จะขึ้นเร็วกว่าตัวเล็ก
จะขายหุ้นตัวเดิมเพื่อซื้อตัวใหม่ ต้องคิดก่อนว่าตัวใหม่มีดีกว่าตัวเดิมอย่างไร
ต้องการประเมินความเสี่ยงควบคู่การการประเมินกำไรที่จะได้
มองไปข้างหน้า
ถ้าไม่แน่ใจในพื้นฐาน อย่าถือหุ้นตัวใดตัวนึงมากจนเกินไป หลักง่ายๆของผม ถ้าถือหุ้นตัวใดตัวนึงจนรู้สึกเริ่มกังวล ผมจะหยุดซื้อเพิ่มทันที..
Mr market ฉลาดนา
ให้ระวังความเชื่อของตัวเอง
ต้องติดต้องหุ้นที่สนใจ แม้นบางครั้งราคามันขึ้นไปแล้ว ก็ควรจะตามต่อไป เพราะอาจจะขึ้นอีก กัดไม่ปล่อย
จุดประสงค์ของการไม่เล่นเก็งกำไรคือ ถ้าได้ขึ้นมา เสมือนได้รางวัล ก็คงเล่นครั้งต่อไปจนเสีย
มี list ที่จะซื้อ 1-3 ตัว
นั่งรอ story ไป เรื่อยๆ เดี๋ยวก็มา
บทเรียนที่สำคัญที่สุดในการลงทุนก็คือการมองหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ไม่ใช่สิ่งที่มีราคาขึ้นๆ ลงๆ  
ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจควรเล็งหุ้นตัวใหญ่และป็นดาวเด่นในอุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งราคาได้ลดลงอย่างมาก เพราะเวลาฟื้นตัวหุ้นตัวนี้จะฟื้นตัวเร็วที่สุด เพราะความเคยเป็นยักษ์มาก่อน...
หมั่นศึกษาข้อมูลหุ้นเยอะๆ ให้มากกว่าดูราคาหุ้น
ให้ความสำคัญกับทุกๆ ข่าว มีข่าวอะไรให้ศึกษา ไม่ทึกทัก เออเอง แล้วเสียโอกาสไป
เล่นหุ้นสไตล์ ลงทุนในธุรกิจนั้นอ่ะ

"ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และ ถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี"

หรือ ถือมันไว้จนกว่าจะพบตัวที่ดีกว่า (อันนี้ผมเติมเอง)

ตอนนี้เพิ่งเปิดบัญชีได้เรียบร้อยแล้ว และกะว่าจะลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยเล็งไว้ 3 ตัว คือ cpf  scb และdtac

มีคำถามที่ต้องถามตัวเองเยอะครับ หุ้นที่เลือกนั้น พื้นฐานดียังไง  ดีกว่าตัวอื่นในกลุ่มยังไง  ทำไมราคาปัจจุบันมันถึงมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น (อื่นๆ อีกมากมาย ...)

ระหว่างนี้ซื้อ LTF (แบบตราสารทุน)  ให้เต็มก่อนดีไหมครับ  ถ้าเหลือก็ลงใน RMF หรือ กองทุนหุ้นตัวอื่น  เหลือแบ่งเอาไว้สัก 3-5 แสน ลงทุนเองเปรียบเทียบกับกองทุน

พอมั่นใจ หาแนวทางของตัวเองเจอแล้ว ก็เพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ  
เงินต้น 3 ล้าน  เดือนละ 15,000  ผลตอบแทนเฉลี่ย 6% ต่อปีไม่ยากเกินไปครับ
แต่อย่าไปยึดติดมาก  หาหลักและแนวทางของตัวเองให้เจอก่อนครับ ผลตอบแทนเป็นเรื่องรอง