หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 11:04 am
โดย yoyo
อ่านกระทู้เวปนี้มาก็นานมาก เคยถามหลายคำถามที่ดูเหมือนง่ายๆ แต่ตัวเองก็ไม่รู้ แม้เวลาผ่านไปก็ยังคงเห็นกระทู้ถามเรื่องเล็กๆน้อยๆซ้ำอยู่เรื่อยๆ ถ้ามีการรวบรวมเรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้เอาไว้ มือใหม่ หรือแม้แต่มือเก่าที่อาจจะตกหล่นบางประเด็นไป คงจะได้ประโยชน์กันพอสมควร

เอาเป็นข้อๆ กระชับ และได้ใจความนะครับ ไม่ถึงกับต้องอธิบายกันยาวเหยียด ถ้าใครอยากรู้ประเด็นไหนให้ลึกขึ้นให้มาตั้งเป็นกระทู้ใหม่เอาเอง เวลามือใหม่มาอ่าน จะได้ไม่ต้อง load กันมากเกินไป

ผมเริ่มก่อน
1. งบการเงินออกหลังจากปิดงบภายใน 45 วัน (เดือนครึ่ง) ยกเว้นงบปีจะออกภายใน 60 วัน (2 เดือน) หลังปิดงบ
2. บริษัทส่วนใหญ่ปิดงบปี ณ สิ้นเดือน ธ.ค. แต่มีบางส่วนที่ปิดไม่ตรง ต้องดูดีๆ
3. งบการเงินมันแบ่งเป็น งบเฉพาะกิจการกับ งบรวม (หรือเรียกว่างบ conso) เวลาวิเคราะห์ให้ดูเอาจากงบรวมเป็นหลัก
4. 56-1 เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีลำดับต้นๆของหุ้น หา load ได้จาก www.sec.or.th มีย้อนหลังไปหลายๆปี
5. งบการเงินก็เหมือนกัน load จาก www.sec.or.th จะได้ครบถ้วน และย้อนหลังไปได้ไกลกว่าเวปอื่นๆ
6. ตัวเลขทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น รายได้ กำไร ฯลฯ ในเวป www.set.or.th และ www.settrade.com ไม่จำเป็นต้องถูกต้อง มันมีผิดๆอยู่ประจำ โดยเฉพาะพวก ratio เช่น p/e เนี่ย มั่วประจำ ถ้าจะลงทุนจริงๆต้องคำนวณเอง
7. ราคาเป้าหมาย กำไร ฯลฯ ในส่วนของ Analyst consensus ในเวป settrade ก็ผิดประจำ จะใช้ก็ต้อง recheck อีกที
8. ถือหุ้นจำนวนเท่าไหร่ก็เข้าประชุมบริษัทได้ แต่ต้องถือให้ข้ามวัน xm
9. เวลาบริษัทประกาศที่มีการปิดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันไหนก็ตาม ให้นับเร็วขึ้น 3 วันทำการเป็นวัน x เช่น หุ้น A ปิดทะเบียนวันที่ 26 ต.ค. 2552 วัน XD จะเป็นวันที่ 21 ต.ค. 2552

ช่วยกันต่อด้วยครับ

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 11:12 am
โดย Dekfaifah
:bow: :bow: :bow:

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 11:20 am
โดย c
ขอบคุณมากครับ พีโย

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 12:08 pm
โดย por_jai
10. เวลาหวดให้หมุนไหล่ ไม่ใช่หมุนแขน

เอ่อ...ใช่เบสิคกอล์ฟหรือเปล่าครับ กระทู้นี้...ฮ่า...

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 12:12 pm
โดย นักดูดาว
ดีครับ ขอช่วยด้วยคน


10. ในตลาดมีหลักทรัพย์หลายอย่างที่ไม่ใช่หุ้น แต่หลายคนเรียกรวมๆว่าหุ้นจงทำความรู้จักมันให้ดีก่อนซื้อ
10. หลักทรัพย์ของคุณไม่ได้เก็บอยู่ที่บริษัทหลักทรัพย์ แต่ฝากไว้ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
11. สำหรับกองทุนนั้นก็ไม่ได้อยู่ที่บริษัทจัดการกองทุน แต่ฝากไว้ที่ผู้ดูแลผลประโยชน์
12. ข่าวประกาศของ SET เป็นข่าวที่ช้าที่สุด แต่ก็ไม่ควรพลาดที่จะอ่าน
13. ชื่อหุ้นบางทีก็สร้างความสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเรางงๆรีบๆ :drink:  SCC SSC SSSC SCG SC SCCC ให้ระวังดีๆกับชื่อหุ้นกลุ่มนี้

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 12:18 pm
โดย สามัญชน
14. ซื้อหุ้นให้ได้กำไร ต้องเลือกตัวที่ undervalue  ไม่ใช่เลือกแค่หุ้นดี
เพราะหุ้นดีแต่ราคา overvalue ก็ขาดทุนได้
หุ้นแย่ๆแต่ under มากๆ ก็กำไรได้  :lol:

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 1:08 pm
โดย Eka
15. ไม่มีหุ้นVI  มีแต่การลงทุนแนว VI
ดังนั้นการที่คุณซื้อหุ้นตามคนใน board นี้ โดยที่ไม่ได้ศึกษาหรือหาข้อมูลมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นVI

16. เป็น VI กับการถือหุ้นยาวๆ  เป็นคนละเรื่องกัน

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 1:09 pm
โดย Eka
[quote="Eka"]
16. เป็น VI กับการถือหุ้นยาวๆ

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 1:26 pm
โดย HI.ผมเอง
15.งบการเงินไม่ใช่ดัชนีชี้นำราคา เป็นแค่สิ่งมี่ใช้confirmสมมุติฐานความคิดของเรา เช่นเดียวกับpattern ราคาของกร๊าฟ
16.บมจ.ไม่เคยเจ๊งเพราะขาดทุน แต่เจ๊งเพราะขาดสภาพคล่อง ดังนั้น งบกระแสเงินสด สำคัญมาก อย่าดูแต่ตัวเลขกำไร
17.การมีหนี้มาก นอกจากจะทำให้บมจ.มีกำไรน้อยลง มักจะมาควบคุ่กับความหวังว่าจะเติบโต และทำให้การประเมินมูลค่าหุ้นผิดเพี้ยนไปมาก
18.หุ้นที่ราคาขึ้นได้นาน มักมีstoryมากจากพื้นฐานกิจการที่มาจากการเพิ่มของกำไร ซึ่งตอนเริ่มขึ้น งบการเงินตอนนั้นมักไม่ค่อยดูดี
19.งบที่ดูดีมากๆมักมาตอนราคาใกล้จุดสูงสุดของรอบนั้นๆ
20.การได้กำไรหลายๆเด้งหรือขาดทุนมากๆ มักมาจากการเปลี่ยนbusiness model  
21. ดูงบการเงินอย่างเดียวหา problem child ที่ก้าวข้ามมาเป็น starไม่ได้  ต้องสังเกตุการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนหมู่มาก

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 1:41 pm
โดย HI.ผมเอง
24.การดูความสามารถในการจ่ายปันผลปีถัดไป ต้องดูกำไรจากงบเฉพาะกิจการ ไม่ใช่งบรวม

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 3:16 pm
โดย Baby Genius
25. ข้อมูลผู้บริหารซื้อ - ขายหุ้นหาดูได้จาก http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin2/daily59.php
บางครั้งเห็นเจ้าของขายเยอะ ๆ แต่เป็นการขายหมูก็มี หรือเจ้าของซื้อเยอะ ๆ แต่กลายเป็นติดดอยก็เคยเจอ (เคสตัวอย่างอมตะก็ คือ AMATA :lol: )

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 4:02 pm
โดย krisy
26. เลิกตัดสินว่าหุ้นดีไม่ดี จาก financial ratio ตัวสองเดียว ให้ดูทุก ratio รวมกัน

27. ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย หรือ minority interest หรือ MI เกิดก็ต่อเมื่อ บริษัทแม่มีการลงทุนในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม ส่วนที่บ.แม่ไม่ได้ถือหุ้น นั่นแหละเรียกว่า MI ดังนั้นถ้าแม่ลงทุนในลูก 99.99% ก็แทบจะไม่มี MI ในงบ

28. รายการพิเศษมีไว้ให้ดึงออกจากงบเวลาคิด ratio ถ้าอัตราส่วนเหวี่ยงมากๆลองดูว่ามีรายการแปลกๆปนอยู่ไหม หรืออาจต้องใช้ยอดต้นปีปลายปีมาเฉลี่ยก็ได้ หรือดูว่าสูตรผิดไหม

29. ตรวจสุขภาพงบการเงินบ่อยแค่ไหน ทุกไตรมาส หรือ ทุกปี ขึ้นอยู่กับความขยันและเนื้อหาของกิจการที่ลงทุน เสี่ยงมากก็ดูบ่อย อันนี้ไม่ต้องถามใครที่ไหน ถามใจก็พอว่ารับได้ไหม ถ้าดูแค่ปีละหน

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 4:22 pm
โดย นกน้อย
HI.ผมเอง เขียน:24.การดูความสามารถในการจ่ายปันผลปีถัดไป ต้องดูกำไรจากงบเฉพาะกิจการ ไม่ใช่งบรวม
พี่ช่วยอธิบายข้อนี้หน่อยได้ไหมครับ
แบบว่า..มือใหม่ไม่เข้าใจครับ
ขอบคุณครับ
:bow:

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 4:41 pm
โดย watermusic
เข้ามาเก็บความรู้เิพิ่มเติม

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 4:48 pm
โดย killyz
[quote="Eka"][quote="Eka"]
16. เป็น VI กับการถือหุ้นยาวๆ

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 6:06 pm
โดย Paul VI
30. ก่อนจะกด คีย์ ซื้อหรือขายใดๆ กรุณาดูให้ดีๆ ก่อน ว่ากดซื้อ หรือ ขายจริง มิฉะนั้นจะเกิดเหตุการณืที่ไม่คาดฝันเช่น ตั้งใจขายที่ราคาสูงลิ่วดันกดซื้อ พี่ท่านซื้อให้ทุกราคาเลย แทบจุกอกตายเลย

ยิ่งกว่านั้น กำลัง ตั้งใจเก็บหุ้นอยู่ รอตั้งซื้อราคาถูก โดยมีหุ้นอยู่เดิมแล้ว ต้องการซื้อราคาถูก กลับกดผิดขาย พบว่า ขายยันราคาแทบจะติดฟลอร์ก็มี

คนโชคดี ก็คือ คนที่ตั้งไว้ แบบสูงๆ เผื่อๆ ดันมีคนมาสอยไปเฉยๆ แบบ งงๆ หรือ ตั้งซื้อถูกแสนถูก ปรากฎว่าได้ของเฉยเลย

ผมว่า ในที่นี้ เคยมา หลายคนแล้วล่ะ ผมคนนึง มีทั้งเป็นคนได้รับโชคดี และก็เป็นคนที่ แทบจุกอกตาย... :8)

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 7:15 pm
โดย Diablo
ยอดมากเลยครับ เป็นกำลังใจให้
เพิ่มให้หน่อย
31.อยากมีพอร์ตหุ้นของตัวเอง อย่ามัวแต่เกรงกลัว อยากทำอะไรก็รีบทำ
ทุกวันนี้มีหลายโบรกเกอร์ที่สามารถให้คุณเปิดบัญชีได้โดยใช้เงินไม่กี่พันบาท
32.เศรษฐกิจไม่ได้เดินทางไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเสมอไป

มือใหม่ครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 7:47 pm
โดย teeraphon
33.ซื้อขายช่องเดียว ถ้าเป็นราคาช่วงต้นสเปรดคุ้มค่าต๋งครับ  เช่า ราคา 2 บาท ขาย 2.02หรือ ราคา 5 บาท ขาย 5.05 แต่ถ้าเป็นปลายบางที่ไม่คุ้มครับ เหมาะสำหรับเลือกหุ้นที่เราไม่คิดว่าจะถือนาน หรือยังไม่ใจเต็มที่จะได้ออกได้ไว

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 8:07 pm
โดย investment biker
นกน้อย เขียน: พี่ช่วยอธิบายข้อนี้หน่อยได้ไหมครับ
แบบว่า..มือใหม่ไม่เข้าใจครับ
ขอบคุณครับ
:bow:
เวลาจ่ายปันผลต้องมีกำไรสะสมถึงจ่ายได้ กำไรสะสมที่ว่าต้องดูที่งบเฉพาะ (งบเดี่ยว)

เช่น ถ้างบรวมมีกำไรสะสมเป็นบวก แต่งบเดี่ยวยังติดลบ ก็ยังปันผลไม่ได้
ในทางกลับกัน ถ้างบเดี่ยวมีกำไรสะสมเป็นบวก ถึงงบรวมจะติดลบ ก็สามารถจ่ายปันผลได้
Case Study น่าลองติดตามดู PM ว่าจะจ่ายปันผล เท่าไหร่ อย่างไร

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 11:44 pm
โดย miracle
34. ดูตาม้าตาเรือ อ่านแล้วทำการบ้าน
อย่ามัวแต่ลอกการบ้านเดี๋ยว นอนดอย

35. ลงทุนช้าเร็วไม่สำคัญ ขอให้ผลลัพธ์ ออกมากำไรก็พอแล้ว

36. ขาดทุน-กำไรเป็นเรื่องของเรา คนอื่นไม่เกี่ยว
:)

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 8:10 am
โดย pippoman
ข้อ 22-23 โดนข้ามไปครับ

ปล.ขอบคุณทุกท่านครับ

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 8:44 am
โดย LppJ
37 ดูราคาหุ้นย้อนหลังได้ที่ http://www.bloomberg.com/apps/cbuilder?ticker1=ptt:TB
38 ควรติดตาม ราคาน้ำมัน กับ ดัชนี DOW JONES บ้างก็ดีเพราะมันกระทบตลาดหุ้นไทย

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 8:58 am
โดย yoyo
39. คำสั่ง ATC และ ATO เป็นคำสั่งที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการลงทุนได้ง่ายมากๆ โดยเฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ .. เพราะฉะนั้นอย่าไปใช้มันเด็ดขาด ถ้าอยากซื้อราคาปิด ให้ตั้งราคาซื้อสูงๆไว้เดี๋ยวได้เอง

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 9:04 am
โดย HI.ผมเอง
pippoman เขียน:ข้อ 22-23 โดนข้ามไปครับ

ปล.ขอบคุณทุกท่านครับ
ผมทดตัวเลขจากข้อที่คุณEka postอีกทีครับ

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 9:05 am
โดย HI.ผมเอง
investment biker เขียน: เวลาจ่ายปันผลต้องมีกำไรสะสมถึงจ่ายได้ กำไรสะสมที่ว่าต้องดูที่งบเฉพาะ (งบเดี่ยว)

เช่น ถ้างบรวมมีกำไรสะสมเป็นบวก แต่งบเดี่ยวยังติดลบ ก็ยังปันผลไม่ได้
ในทางกลับกัน ถ้างบเดี่ยวมีกำไรสะสมเป็นบวก ถึงงบรวมจะติดลบ ก็สามารถจ่ายปันผลได้
Case Study น่าลองติดตามดู PM ว่าจะจ่ายปันผล เท่าไหร่ อย่างไร
ขอบคุณครับ

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 9:10 am
โดย uncleBE
Paul VI เขียน:30. ก่อนจะกด คีย์ ซื้อหรือขายใดๆ กรุณาดูให้ดีๆ ก่อน ว่ากดซื้อ หรือ ขายจริง มิฉะนั้นจะเกิดเหตุการณืที่ไม่คาดฝันเช่น ตั้งใจขายที่ราคาสูงลิ่วดันกดซื้อ พี่ท่านซื้อให้ทุกราคาเลย แทบจุกอกตายเลย

ยิ่งกว่านั้น กำลัง ตั้งใจเก็บหุ้นอยู่ รอตั้งซื้อราคาถูก โดยมีหุ้นอยู่เดิมแล้ว ต้องการซื้อราคาถูก กลับกดผิดขาย พบว่า ขายยันราคาแทบจะติดฟลอร์ก็มี

คนโชคดี ก็คือ คนที่ตั้งไว้ แบบสูงๆ เผื่อๆ ดันมีคนมาสอยไปเฉยๆ แบบ งงๆ หรือ ตั้งซื้อถูกแสนถูก ปรากฎว่าได้ของเฉยเลย

ผมว่า ในที่นี้ เคยมา หลายคนแล้วล่ะ ผมคนนึง มีทั้งเป็นคนได้รับโชคดี และก็เป็นคนที่ แทบจุกอกตาย... :8)
โดนใจ
:shock:

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 9:52 am
โดย นกน้อย
investment biker เขียน: เวลาจ่ายปันผลต้องมีกำไรสะสมถึงจ่ายได้ กำไรสะสมที่ว่าต้องดูที่งบเฉพาะ (งบเดี่ยว)

เช่น ถ้างบรวมมีกำไรสะสมเป็นบวก แต่งบเดี่ยวยังติดลบ ก็ยังปันผลไม่ได้
ในทางกลับกัน ถ้างบเดี่ยวมีกำไรสะสมเป็นบวก ถึงงบรวมจะติดลบ ก็สามารถจ่ายปันผลได้
Case Study น่าลองติดตามดู PM ว่าจะจ่ายปันผล เท่าไหร่ อย่างไร
ขอบคุณพี่นักบิดครับ
 :D

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 10:08 am
โดย sathaporne
[quote="killyz"][quote="Eka"][quote="Eka"]
16. เป็น VI กับการถือหุ้นยาวๆ

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 10:27 am
โดย moonchild
ขอแจมด้วยคนครับ
แต่เป็นข้อความดีๆจากคุณ Invisible Hand เืผื่อใครยังไม่ได้อ่านนะครับ

ข้อ 40. สิ่งที่เราได้เรียนรู้หลังเหตุการณ์หุ้นลงอันเนื่องจากปัญหา subprime โดยคุณ Invisible Hand ครับ

40.1 เวลาหุ้นลงก็จะมีข่าวร้ายเต็มตลาด แต่ถ้าหุ้นขึ้นกลับมานักลงทุนก็พร้อมจะลืมข่าวร้ายนั้นไป


40.2 นักลงทุนต่างชาติ แม้ว่าจะมี volume ซื้อขาย 30-40% ของตลาด แต่ก็สามารถกำหนดทิศทางตลาดได้
ตัวเลขการซื้อขายต่างชาติครึ่งวันเป็นตัวเลขที่สำคัญกว่าตัวเลข GDP ตัวเลขเศรษฐกิจ ธปท. ทุกสิ้นเดือน
หรือการเพิ่มขึ้นการส่งออกของประเทศในแต่ละเดือนไปเสียแล้ว เพราะอย่างหลังมันไม่เคยทำให้หุ้นขึ้นหรือลงได้แต่อย่างไร
การซื้อขายอย่างหนักของนักลงทุนต่างชาติ ก็ทำให้เราซื้อหุ้นบางตัวได้ถูกกว่าที่คิดได้ หรือขายหุ้นบางตัวแพงกว่าที่คิดได้


40.3 การซื้อหรือขายหุ้นแบบแบ่งไม้หรือหลายๆ order ก็ลดผลกระทบของโชคชะตาได้
เพราะมีบ่อยครั้งที่เราอาจจะพลาดการซื้อหรือขายหุ้นเพราะตั้งซื้อหรือต่ำไปหรือขายสูงไปเพียง 1 step โดยไม่ได้กระจาย order
แล้วบอกว่าโชคไม่ดี ผมคิดว่าเราสามารถเอาชนะโชคชะตาในเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก การตั้งซื้อหรือขายที่เลขกลมๆ
เช่น 0 5 อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก หลายๆ ครั้งที่เสื้อตัวละ 99 บาทจะขายดีกว่าเสื้อตัวละ 100 บาททั้งๆ ที่ราคาต่างกันเพียง 1 บาท


40.4 การตั้งซื้อหุ้นไว้พอหุ้นใกล้ลงมาถึงแล้วถอน หรือตั้งขายไว้พอหุ้นขึ้นใกล้ถึงแล้วถอน ให้ลองถามตัวเองว่า
ตอน นี้เรามีเวลาในชีวิตมากเกินไปที่จะทำเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์เช่นนี้เชียว หรือ หรือกำลังฝึกทักษะการ key คอมฯ ของเราหรือ marketing
ถ้าเราทำเช่นนี้ประจำก็อย่าไปต่อว่าคนดูละครน้ำเน่าตอนกลางคืนว่าไร้สาระเพราะเรากำลังทำเรื่องไร้สาระยิ่งกว่าเสียอีก


40.5 การดู bid offer นานเกินไปบางครั้งอาจจะทำให้เราไม่กล้าซื้อหรือขายได้ หุ้นขาลง bid-offer
และการเคาะแต่ละไม้ชวนให้เคาะขายตามอย่างยิ่ง
ในทางกลับกัน ในหุ้นขาขึ้นก็เช่นกัน


40.6 หุ้นบางตัวเมื่อตลาดปรับลงมา เมื่อตลาดขึ้นกลับอาจจะขึ้นได้สูงกว่าเดิม แต่หุ้นบางตัวลงแล้วลงเลยไม่กลับมา
การเลือกซื้อหุ้นในตลาดขาลงนอกจากจะพิจารณาหุ้นที่ลงมาเยอะเป็นพิเศษ แต่เราจะต้องเลือกพื้นฐานของหุ้นด้วย
ถ้ายังไม่ชำนาญหรือเกรงว่าทำได้ไม่ดี การซื้อ TDEX ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า


40.7 บางครั้งความคิดที่รอต่างชาติหยุดขายแล้วค่อยซื้อหุ้นนั้นอาจจะไม่ได้ผลทุกครั้งไป
หลายๆ ครั้งหุ้นจะใกล้ๆ จุดต่ำสุดเมื่อต่างชาติเพลาการขายลง


40.8 นักลงทุนในประเทศหลายๆ คนที่ขายหุ้นเพราะกลัว subprime จริงๆ แล้วไม่ค่อยรู้รายละเอียดหรอกว่า
ปัญหา subprime มันเป็นยังไง แต่การบอกคนอื่นๆ ว่าขายหุ้นเพราะ subprime นั้นย่อมดูดีกว่าการขายหุ้นเพราะตกใจกลัวแน่นอน


40.9 FED มีการลดดอกเบี้ยเป็นพิเศษที่ไม่ต้องรอวาระการประชุมครั้งต่อไป แต่ธนาคารกลางบางประเทศไม่ค่อยมีความคิดจะทำเช่นนั้น
ธนาคารกลางสหรัฐสามารถลดแรงกระแทกจากปัจจัยร้ายๆ ได้หลายต่อหลายครั้งแต่ธนาคารกลางบางประเทศหลายๆ ครั้ง
เพิ่มแรงกระแทกให้กับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจในประเทศ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมเงินเดือนผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐและคณะกรรมการ FED
สูงกว่าผู้ว่าธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ


40.10 อย่าเผลอไปถามใครแม้ว่าจะคิดว่าคนนั้นมีประสบการณ์การลงทุนมาก ว่าพรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือลงต่อ เพราะถ้าคำตอบที่ได้นั้นแม่นยำ
หมอดูชื่อดังคงมานั่งห้องค้ากันหมดแล้ว คงจะไม่ต้องเหนื่อยไปทำนายว่าดาราเค้าจะเลิกกันให้ถูกดาราเหล่านั้นด่ากลับออกหน้าหนังสือพิมพ์
และไม่ควรถามว่าทำไมหุ้นตัวนั้นๆ ถึงลงหรือหุ้นที่เค้าแนะนำให้เราลงทุนนั้นจะขึ้นไปถึงเป้าหมายเมื่อไหร่
เว้นเสียว่าเราเชื่อได้ว่าเค้าจะเป็นผู้ทำราคาหรือเราอยากช่วยฝึกความอดทนและการข่มจิตข่มใจของเค้า


40.11 หมอดูนั้นขายได้ทุกสถานการณ์จริงๆ เพราะผมเคยเห็นรายการ TV ที่เชิญหมอดูมาดูดวงให้สุนัขของดารา


40.12 การที่เราฟังนักวิเคราะห์ที่บอกว่า ถ้าหลุด 10 บาทจะมีสิทธิลงไป 9.5 บาท ถ้ายืนเหนือ 10 บาทได้แปลว่าจะไม่ลงแล้ว
หรือถ้าทะลุ 5 บาทมีสิทธิไปทดสอบ 5.5 บาทนั้น เป็นคำอธิบายที่ถูกต้องตามหลักความน่าจะเป็นและดูเหมือนจะเป็นสัจธรรมหรือ
fact มากกว่าการคาดการณ์


40.13 นักวิเคราะห์บางคนเริ่มบทวิเคราะห์หุ้นตัวหนึ่งครั้งแรกโดยแนะนำว่า sell เมื่อพื้นฐานดีขึ้นจึงปรับเป็น hold
แต่ลืมคิดไปว่าเมื่อนักลงทุนขายหุ้นหมดไปแล้วตามคำแนะนำจะเอาหุ้นที่ไหนมาถือ ดังนั้นการปรับจาก sell เป็น hold
แปลว่าให้หาหุ้นมาถือ ก็คือให้ซื้อนั่นเอง แต่การปรับจาก sell เป็น buy นั้นจะทำให้โดนเจ้านายและลูกค้าด่า
ในทางกลับกัน การปรับจาก strong buy เป็น hold ก็มีนัยคล้ายๆ กัน


40.14 การซื้อขายทาง internet เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกและเข้าถึง internet ได้เกือบตลอดเวลา
แต่ถ้าจุดประสงค์เพื่อประหยัดค่าคอมฯ บางครั้งการเติม 0 เกินไป 1 ตัวหรือ ซื้อเป็นขาย ขายเป็นซื้อ
มันอาจจะมากกว่าค่าคอมฯ ที่ประหยัดได้ทั้งปี คล้ายๆ กับการซื้อบริการอะไรล่วงหน้าได้ส่วนลดเยอะแต่ท้ายสุดแล้วไม่ค่อยได้ไป


40.15 นักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์ถูก 100% ทุกครั้งนั้นไม่มีแน่นอน ที่เห็นส่วนมากนั้นถูกครึ่งผิดครึ่งซึ่งไม่ช่วยอะไรได้มากนักเหมือนเล่นปั่น แปะ
แต่คนที่มี value add ที่สุดคือคนที่ผิดเกือบทุกครั้งเพราะเราเพียงแค่ทำตรงข้ามก็ถูกแล้ว
จึงเป็นเหตุให้บางคนจึงมีชื่อเสียงเพราะตลาดรู้ว่าคนนี้ออกมาฟันธงว่าเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่ต้องให้ขายหุ้นทุกทีไป


40.16 บางครั้งผมเคยสงสัยว่าหุ้นเอเชียลงตามดาวโจนส์หรือดาวโจนส์ลงตามเรากันแน่ เพราะครั้งที่ผ่านมาหุ้นบ้านเราลงเยอะกว่าเค้าเสียอีก


40.17 หุ้นลงมากๆ หรือขึ้นมากๆ ไม่ใช่ว่า VI จะต้องไม่กลัวหรือเสียดายไม่เป็นเพราะเรายังมีชีวิตจิตใจ ทุกครั้งที่ซื้อกลัวลงต่อมั้ยผมคิดว่า
คงต้องมีความรู้สึกนี้กันบ้าง หรือหุ้นขึ้นแรงๆ ขายแล้วกลัวขึ้นต่อมั้ย ก็กลัวเพราะมันก็เกิดประจำ
การซื้อแล้วลงหรือขายแล้วขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเกิดแน่ๆ หากเรายังเลือกที่จะลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องทำใจยอมรับ
ดังนั้นการซื้อหรือขายแต่ละครั้งต้องคิดให้ถี่ถ้วนและวินัยการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน


40.18 pop up คุณมี 1 งานใหม่ ของ greenbull นั้นมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ที่แย่อยู่หน่อยคือถ้ากดกากบาทสีแดงก็เป็นการเปิดหน้า web เค้า แต่ปุ่มปิดจริงๆ นั้นเขียนว่า close สีจางๆ อยู่บนกากบาทสีแดง
อย่าไปโกรธหรือหงุดหงิดเลยครับหากมันช่วยให้ web นั้นมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่มีวิธีให้มันไม่อยู่กลางจอได้ไหมครับ


40.19 ในตลาดที่ผันผวนช่วง 1-2 ปีนี้ การถือเงินสดในพอร์ตไว้เสียหน่อย หรือหาหุ้นที่คล้ายๆ การถือเงินสดไว้บ้าง
ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี การที่หุ้นผันผวนนั้นเรื่องภาวะจิตใจในการลงทุนนั้นมีความสำคัญมากขึ้น
ตามบางส่วนของโคลง 4 สุภาพที่ว่าไว้ว่า ฝูงชนกำเนิด คล้าย คลึงกัน ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ ฤาไหว  :oops:  :oops:  :oops:  :P

เรื่องเล็กๆน้อยๆที่นักลงทุน VI ควรจะรู้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 10:32 am
โดย Blueblood
41. ตลาดหุ้นเป็น leading indicator คือตลาดคาดการณ์ไปข้างหน้าเสมอ ไม่ต้องงงเวลาหุ้นขึ้นเยอะแต่เศรษฐกิจปัจจุบันยังแย่ หรือเศรษฐกิจปัจจุบันดีแต่หุ้นลงเยอะ ตลาดมักถูกเป็นส่วนใหญ่ในเรื่องสภาพเศรษฐกิจในอนาคต