Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หนังสือเกี่ยวกับ Buffet พูดถึงแต่หลักการซื้อหุ้นของ value investor แต่ไม่มีการพูดถึงการขายทำกำไรเลย ทั้งๆที่ความจริงแล้ว warren ขายหุ้นเพื่อทำกำไรอยู่เรื่อยๆ ไม่ทราบใครมีความเห็นตรงนี้บ้างครับ?

Palm เขียน:หนังสือเกี่ยวกับ Buffet พูดถึงแต่หลักการซื้อหุ้นของ value investor แต่ไม่มีการพูดถึงการขายทำกำไรเลย ทั้งๆที่ความจริงแล้ว warren ขายหุ้นเพื่อทำกำไรอยู่เรื่อยๆ ไม่ทราบใครมีความเห็นตรงนี้บ้างครับ?

ถ้าเป็น warren เค้าจะบอกว่า อยากจะเก็บหุ้นดีๆ ที่ซื้อมาถูกๆ ไว้ตลอดไปครับ

- ขายเมื่อหุ้น over value
- ขายเมื่อเห็นโอกาสการลงทุนขายหุ้นตัวนี้เพื่อนำมาซื้อหุ้นตัวอื่นที่ "คิดว่า"
ผลตอบแทนจะดีกว่าตัวเดิม

ซึ่งคำว่า คิดว่า นี่แล้วแต่คนคิดนะครับ
โดยมาก เรามัก bias ครับ(สำหรับผมนะ)

- ขายเมื่อบางครั้งซื้อหุ้นเกินไป จนไม่มีเงินมาซื้อข้าว(ผมเคยเป็น :lol: )

มีความสุขกับการลงทุนหุ้นคุณค่านะครับผม

ขายหุ้นเมื่อความสบายใจทางการลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  :D

[quote="กุหลาบงามหลังฝน"]ขายหุ้นเมื่อความสบายใจทางการลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ขายตอนมีกำไร   ขาดทุนซื้อเพิ่ม
กำไรแล้วขาย   ขึ้นอยู่กับความพอใจ
กำไรแล้วไม่ขาย   โลภ

"สิ่งที่ดีที่สุดในการลงทุน คือการที่ได้ถือหุ้นดี ๆ ตลอดไป"

ผมไม่เคยเข้าใจคำพูดนี้เลยตลอด 9-10 ปีที่ลงทุนมา
จนมาเมื่อไม่นานมานี้ ... จึงเข้าใจได้ ว่าถ้าเรามีหุ้นดี ๆ
และมันยังเป็นหุ้นที่ดีตลอดไป ...

เราก็สบาย .. ไม่ต้องขาย กินผลตอบแทนไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องหาหุ้นใหม่ ไม่ต้องเหนื่อย
มันดีอย่างนี้นี่เอง

Palm เขียน:หนังสือเกี่ยวกับ Buffet พูดถึงแต่หลักการซื้อหุ้นของ value investor แต่ไม่มีการพูดถึงการขายทำกำไรเลย ทั้งๆที่ความจริงแล้ว warren ขายหุ้นเพื่อทำกำไรอยู่เรื่อยๆ ไม่ทราบใครมีความเห็นตรงนี้บ้างครับ?

Our favorite holding period is forever. -- Warren Buffet

http://www.berkshirehathaway.com/letters/1988.html

[quote="yoko"]ขายตอนมีกำไร

ขายเมื่อต้องการใช้เงินครับ :lol:

ตอนที่ตัวธุรกิจเริ่มไม่สดใส ระยะยาว
ตอนที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมา 20% ถึงจะพิจารณาขาย
ตอนที่หุ้นขึ้นมา 100% ตัดสินใจขายก็เคยมี
ตอนที่ผู้ถือหุ้นขาย เมือราคาเริ่ม over
ตอนที่มีหุ้นที่ดีกว่า ก็จำเป็นต้องขายที่ถืออยู่เพื่อเปลี่ยนตัวถือ

สรุป : ตามแต่สถานะการณ์ครับ

[quote="yoko"]ขายตอนมีกำไร

akekarat เขียน:"สิ่งที่ดีที่สุดในการลงทุน คือการที่ได้ถือหุ้นดี ๆ ตลอดไป"

ผมไม่เคยเข้าใจคำพูดนี้เลยตลอด 9-10 ปีที่ลงทุนมา
จนมาเมื่อไม่นานมานี้ ... จึงเข้าใจได้ ว่าถ้าเรามีหุ้นดี ๆ
และมันยังเป็นหุ้นที่ดีตลอดไป ...

เราก็สบาย .. ไม่ต้องขาย กินผลตอบแทนไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องหาหุ้นใหม่ ไม่ต้องเหนื่อย
มันดีอย่างนี้นี่เอง

คิดคล้ายๆ กันครับ
ถ้าผมต้องขายหุ้นกบกระโดดออกไป
ประเด็นคือ...
ผมต้องพยายามหากบที่เตรียมจะกระโดดตัวใหม่ตัวต่อไป :lol:
รู้ตัวครับว่าไม่ถนัด และผมกลับชอบหุ้นเต่ามากกว่า
ค่อยๆ คลาน กำไรแน่นอน คาดการณ์ได้ ถือทานปันผลไปเรื่อยๆ
เฮ้อ.. มีความสุขจะตาย ...

บัฟเฟตต์  ซื้อแล้วมักจะไม่ขาย  เก็บยาวตลอดจนหว่าพื้นฐานหุ้นนั้นจะเปลี่ยน  ความได้เปรียบในหุ้นตัวนั้นๆเปลี่ยนไปในทางแย่ หรือหุ้นนั้นโตจนเกินมูลค่าไปมากๆแล้วหรือมีตัวอื่นที่น่าลงทุนมากกว่า
คือพูดง่ายๆบัฟเฟตต์คัดสรรหุ้นนั้นๆมาเป็นอย่างดีก่อนการลงทุน  จึงค่อนข้างผิดพลาดน้อย เลยไม่ต้องขายทิ้งถือไว้ยาวๆตลอดไป  และปัจจัยที่เกื้อหนุนทำให้บัฟเฟตต์ไม่ต้องขายหุ้น  แถมยังซื้อเพิ่มได้เรื่อยๆ  ซึ่งพวกเราอาจทำแบบเค้าไม่ได้ เพราะบัฟเฟตต์มีเงินมาลงทุนเรื่อยๆจากธุรกิจประกันภัยของเค้า  ทำให้มีกระแสเงินสดมาลงทุนเพิ่มในหุ้น+กับปันผลจากหุ้นที่ได้มาแต่ละปี    :8)

ขออนุญาต

ผมมองการลงทุนหุ้นเป็นการลงทุนเพื่อชีวิตหลังเกษียณหรือเพื่อถึงอิสรภาพทางการเงิน เหมือนฝากเงินกับแบงก์หรือประกันชีวิตแบบ 70/20 อะไรแบบนั้น แต่ลงทุนหุ้นให้ผลตอบแทนมากกว่า (เงินทำงานเก่งกว่าตัวผม)

เลยไม่มีปัญหาว่าจะทำกำไรที่ 10% หรือ 20%หรือ 30% หรือ 100% จะคัทที่ 5% หรือ10% ฯลฯ
ผมจะขายหุ้น(บางส่วน)เมื่อจำเป็นต้องใช้เงินเท่านั้น
..............................................
มีความสุขเมื่อเห็นพอร์ตโตขึ้น

ผมว่าส่วนมากขายแล้วจะขึ้นต่อกันเยอะนะคับ  :lol:
ผมจะขายในเวลาที่คนต้องการนะคับ เพราะจะได้ขายในราคาดีหน่อยคับ
ขายในเวลาที่คนไม่ต้องการ ราคามันตกคับ  
เมื่อก่อนซื้อแบบกั๊ก คือเก็งกำไรด้วย
เวลาข่าวมันร้าย มาก ๆ ก้ขายขาดทุนคับ
เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เรื่องซื้อเก็งกำไร
เดี๋ยวนี้ซื้อแล้วถ้าตลาดปิดก็ช่างมัน ครับ
ถือไปเรื่อย ๆ  :lol:  
ส่วนมาก vi ขายหุ้นไม่ค่อยเก่งกันนะ
ไม่รู้ผมคิดถึงป่าว เพราะไม่ได้คิดว่าซื้อเพื่อขายแต่แรกนะครับ
สวนมากถ้าราคาหุ้นไม่อยู่ในระดับที่พอใจขาย
ก็จะถือกันไปเรื่อย ๆ มากกว่า

เอาวิชาเรื่องการขายหุ้นของปู่บัฟยากหน่อยครับ

ถ้าปรมาจารย์อีกคนก็ของ Peter Lynch จาก One up Wall street ครับ

ส่วนตัวผมเองไม่ค่อยให้ความสำคัญกับตอนขายนะ คือไม่ค่อย Serious ว่างั้น
แต่จะให้ความสำคัญกับตอนซื้อมากๆ บางตัวเราซื้อได้ถูกปันผลดีต่อเนื่องทุกงวดๆ ก็เลยถือมานานนมยังไม่ขายเลยครับ