Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

- ซื้อหุ้น มา ปีกว่าๆคับ
- หุ้นบลูชิพ ผมเล่นสั้นๆ นะคับ

มีคำแนะนำอย่างไรแนะนำด้วยนะคับ

โห มีหุ้นเยอะมากเลยครับ - -" ขอถามก่อนเลยครับว่ามีเวลาดูหุ้นแค่ไหน ติดตามข่าวได้ทุกตัวรึป่าวคับ ถ้ายังไงปรับลดจำนวนหุ้นก่อนดีไหมครับ

สุดยอดเลยครับมีเยอะมากเลย นับถือๆๆ

น่าจะสัก 10-15 ตัว ก็พอมั๊งครับ ถ้าพอร์ตไม่เยอะมาก

แต่ก็สู้เค้าครับ ไม่กล้าวิจารณ์ อิอิๆๆๆๆ

เกือบได้ set 50 แน่ะขาดอีกไม่กี่ตัว ยังไงแนะนำบ้างนะครับว่าซื้อตัวนั้น ตัวนี้

เพราะมองเห็นอะไร เผื่อจะได้เป็นความรู้ในการไปศึกษาเพิ่มเติม

ยังไงก็สู้ๆ นะครับ

 :shock:

เลือกหุ้นตัวที่เรารู้และเข้าใจมากที่สุดเรียงลำดับลงมาสัก 7 ตัวสิครับ
แล้วลองบอกเหตุผลที่เลือก ข้อดีและข้อเสียของแต่ล่ะตัว

นึกว่าไม่มีใครถือมากกว่าผมแล้วล่ะเนี่ยใน TVI
อืมๆๆ ยังมีคนถือมากกว่าผมตั้งเท่าตัวแหละ
นับถือว่า อ่านหนังสือรายงานประจำปีหมดหรือครับ

แนะนำว่า ถ้าดูไม่ไหว หรือไม่มีเวลาเอาใจใส่มันมาก
ก็ปรับลดลงครับ
เอาเป็นอุตสาหกรรมละตัวก็พอ หรือน้อยกว่านั้นก็จะดี

นึกว่าไม่มีใครถือมากกว่าผมแล้วล่ะเนี่ยใน TVI
อืมๆๆ ยังมีคนถือมากกว่าผมตั้งเท่าตัวแหละ
นับถือว่า อ่านหนังสือรายงานประจำปีหมดหรือครับ

แนะนำว่า ถ้าดูไม่ไหว หรือไม่มีเวลาเอาใจใส่มันมาก
ก็ปรับลดลงครับ
เอาเป็นอุตสาหกรรมละตัวก็พอ หรือน้อยกว่านั้นก็จะดี

น่าจะลองโฟกัส แต่น้อยดูก่อนน่ะครับ มากมายเกินไป
แต่ก็สู้ๆน่ะครับ

หุหุหุ คิดแล้วคับว่าต้องบอกว่าหุ้นเยอะ

ผมลงทุนอย่างนี้ครับ

1. ดึงหุ้นจาก TVI ออกมา + หุ้น ปันผลสูง  ได้ประมาณ 25-30 ตัว
2. ซื้อหุ้นทุกตัวเท่าๆกัน
3. ไม่ขาย ถือยาว เพราะเชื่อว่าหุ้นที่มากจาก TVI มีคนช่วยกรองแล้ว
4. ถ้าหุ้นตัวไหนลงมากสุดก็ซื้อเพิ่ม โดยระวังไม่ผิดกฎข้อ 2

ผลก็ออกมาอย่างที่เห็นนะคับ
ผมคำนวณคร่าวๆ ได้ 7% (เฉพาะราคาหุ้น ไม่เกี่ยวกับปันผล)
ซึ่งคิดว่าน่าจะคำนวณผิด

ปล. ไม่เคยอ่านงบ และอ่านข่าว เลยครับ แว๊วดูบ้างตอนที่มันขึ้นแรงๆ หรือลงแรงๆ แล้วก็อ่านทั่วๆไปใน thaivi.com

คำถาม
1. คิดอย่างไรกับผลประการนี้คับ
2. ขายตอนไหนดีครับ
3. คิดว่าผมถูกทางไหมครับ

MYBIZ เขียน:เพราะมองเห็นอะไร เผื่อจะได้เป็นความรู้ในการไปศึกษาเพิ่มเติม

เนื่องจากเป็นหุ้นที่ TVI เล่นกัน แต่หาไม่ไ้ด้แกะงบ เลยมองไม่เห็นอะไร ก็เลยกระจายความเสี่ยง หว่านซื้อไปซะทุกตัวเลย

ยัง งง งง อยู่เลยว่าทำไมหุ้นบางตัวมันขึ้นเอาขึ้นเอา

toro เขียน:ขอถามก่อนเลยครับว่ามีเวลาดูหุ้นแค่ไหน ติดตามข่าวได้ทุกตัวรึป่าวคับ

ช่วงนี้มีธุรกิจส่วนตัว ไม่ค่อยมีเวลาดูหุ้นครับ

แต่เห็นเซียน VI บางคนบอกประมาณว่า
"เล่นหุ้น VI ไม่ต้องติดตามข่าว ไม่ต้องแคร์เศรษฐกิจ ไม่ต้องหวั่นราคาหุ้นก็ได้"

ผมก็กำลังพยายามทำความเข้าใจกับคำพูดนี้อยู่ครับ
ก็เลยทำตัว ไม่ติดตามข่าว บ้าง (ฮาาา)

ถ้าคิดถือยาว แล้วดูgrowthด้วย ผมว่ามีหลายตัวพอจะตัดทิ้งได้นะครับ

บางตัวเท่าที่ดูราคาซื้อค่อนข้างสูงทีเดียวครับ ถ้าใช้วิธีกรองจากปันผลสูง ผมเชื่อว่าปรับพอร์ตได้อีกเยอะ และสามารถตัดหุ้นในlistออกไปได้ค่อนข้างมากเลยครับ อาจจะเหลือ 10 กว่าตัวให้่พอโฟกัสลงไปได้ด้วย ทีนี้ถ้าจะมองในเรื่องปันผลสูง ระวังพวกกลุ่มคอนเซาว์หรือรับเหมาบางตัวที่อิงกับbacklogค่อนข้างมากด้วยนะครับ เพราะยังไงพวกนี้รายได้แต่ละปีไม่ค่อยแน่นอนอยู่แล้ว

ปล.เท่าที่ดูราคา มีหลายตัวซื้่อเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้อยู่พอสมควรเลยหรือเปล่าครับ ผมว่าถ้าจะถือยาว ไหนๆกรองตัดออกมาได้แล้ว เช็คตามพื้นฐานมันสักนิด สละเวลาสักวันน่าจะดูได้หมดนะครับ แล้วทำให้โฟกัสลงไปเหลือหุ้นน้อยกว่านี้สักครึ่ง  เพราะบางตัวในพอร์ตผมมองว่าตัวธุรกิจมันดีจริง แต่มันสะท้อนเข้าไปในราคาหมดแล้ว และgrowthในอนาคตไม่รู้จะโตไวหรือเปล่า (ในความคิดผม ถ้าเอาราคาตอนที่ซื้่อ เทียบเป็นDiv Yieldที่ได้แล้ว ยังมีหลายตัวที่ switchเป็นตัวอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าได้นะ)

ผมว่า........
พี่ซื้อกองทุนset50 indexไปเลยดีป่าวง่า

ผมว่าไม่เลวนะครับ ตั้งกองทุนของตัวเอง เล่นเองเลย ไม่ต้องอาศัยผู้จัดการกองทุน

เคสนี้ผมว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าเค้าเข้าซื้อถูกเวลา ดังนั้นต่อให้ซื้อแบบหว่าน แต่ถ้าซื้อช่วงต้นของเศรษฐกิจที่เชื่อกันว่าจะเป็นขาขึ้นใหม่ หุ้นทั้งหลายก็จะกำไรเป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่เลวนะครับ จับภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก

นอกจากนี้คุณยังมีความอดทน ถือจริงจัง เพราะในช่วงปีมานี้ก็มีการขยักขย่อน ขึ้นแล้วลงๆ อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ขาย ทำให้ได้กำไรมาจนวันนี้ หรือไม่ก็คือไม่ได้อดทนหรอก อยากขายเหมือนกันแต่ยังขายไม่ค่อยคล่อง ตัวขาดทุนก็ยังตัดใจตัดขายไม่ได้ทั้งๆ ที่ตัวเองบอกว่าสมควรขาย อย่างใดอย่างหนึ่ง

แต่ว่าถ้าจะใช้กลยุทธ์นี้ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัวเต็มที่ แล้วมีความเสี่ยงที่จะเป็นขาลงใหม่ ผลลัพธ์อาจจะตรงกันข้าม กรณีนั้นเลือกเป็นรายตัวอาจจะให้ผลดีกว่าก็ได้

สำหรับ VI ขนานแท้ และมือดี เค้าอาจจะมีกำไรมากกว่านี้ก็ได้ เพราะเค้าอาจจะถือเฉพาะตัวบนๆ ของคุณ ที่มีกำไรสูง ด้วยความตั้งใจ ขณะเดียวกันก็อาจจะมี VI อีกหลายๆ คนที่ขาดทุน หรือไม่ได้กำไรขนาดนี้ก็ได้

ส่วนตัวผมถือว่ารอบนี้คุณใช้กลยุทธ์ได้เหมาะสมกับช่วงเวลาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะตั้งใจหรือบังเอิญก็ตาม ยินดีด้วยเป็นการส่วนตัวด้วยความจริงใจครับ  

ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ

เล่าเพิ่มเติมว่าในพอร์ตของผมมีมากกว่าครึ่งที่ผมซื้อตั้งแต่ก่อนวิกฤต
ซึ่งทำให้ port หุ้น vi ตกไปกว่า 30%

แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อเพิ่มมากนัก
(เพราะไม่รู้ว่าตัวไหนราคาถูกบ้าง มันถูกไปซะทุกตัวเลยคร๊าบพี่น้อง แล้วก็หวั่นๆ เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองมาถูกทางหรือเปล่า)

และ ณ วันนี้ มันก็จาก -30% มันก็ิวิ่งกลับมาคืน

ดีใจครับ

ตอนนี้กำลังหาวิธี
1. ทำอย่างไรจะเลือกหุ้นได้ถูกตัว (อันนี้มีกำไรเยอะๆ)
2. กำลังหาจุดขายให้กับตัวเอง
3. กำลังหาจุดซื้อเพิ่ม สำหรับหุ้นที่ขึ้น (เนื่องจากราคามันขึ้นทำให้ไม่ได้ซื้อเพิ่มสักที)

sonnesaint เขียน: เนื่องจากเป็นหุ้นที่ TVI เล่นกัน แต่หาไม่ไ้ด้แกะงบ เลยมองไม่เห็นอะไร ก็เลยกระจายความเสี่ยง หว่านซื้อไปซะทุกตัวเลย

ยัง งง งง อยู่เลยว่าทำไมหุ้นบางตัวมันขึ้นเอาขึ้นเอา

อยู่ในร้อยคนร้อยหุ้น ก็ไม่ใช่ว่า เป็นหุ้นที่ เขาเล่นกันทุกตัวนะ
เหตุผลในการซื้อของคุณ ชวนผมปวดตับจริง ๆ

ออกแนว ซื้อแหลกเหมือนกันครับ ขอเอามาโชว์บ้างนะครับ
แต่ของผมจะต่างกันนิดหนึ่งคือ ถูกใจซื้อเลย, ดูหุ้นเองครับไม่ลอกใคร แต่เข้าไปอ่านใน ร้อยคนร้อยหุ้นบ่อย ๆ , ทิ้งน้ำหนักการลงทุนในแต่ละตัวไม่เท่ากัน แต่มีบางตัวที่ถือหนัก ๆ , ซื้อแล้วก็ปล่อยไปงั้น ไม่ค่อยไปยุ่งกับมัน แต่มี ปรับสัดส่วนบ้าน
ปี 51 พอร์ตลดไป 30% เหมือนกันครับ แต่ปีนี้ขึ้นมา ร้อยกว่า %
โดยรวม ปีครึ่งก็แถว ๆ 60-70 % ได้ครับ ผมตอบแทนรวมปันผล


[/img]

:lol:

happiness เขียน: อยู่ในร้อยคนร้อยหุ้น ก็ไม่ใช่ว่า เป็นหุ้นที่ เขาเล่นกันทุกตัวนะ
เหตุผลในการซื้อของคุณ ชวนผมปวดตับจริง ๆ

คริคริ ขอบคุณคับ

ผมเข้าไปอ่าน "การปรับพอร์ตของคุณลูกอิสาน" เห็นให้หุ้นมา 4-5 ตัว แ่ต่ไม่ได้บอกราคาซื้อ

ผมก็เลยทยอยซื้อเหมือนกันครับ

eastw ขึ้นมา 20%

รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

สบายใจซื้อเลยครับ ไม่ต้องสนใจใคร กำไรแบบ VI ศึกษาให้ทันเป็นพอ...

โห...

มีหุ้นมากตัวขนาดนั้น
ผมว่าเอาเวลาจัดพอร์ตซื้อๆ ขายๆ ไปกรองหุ้น
ชีวิตน่าจะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ

ถ้าผมเป็นพี่ ผมคงทำแบบนั้นเหมือนกัน เพราะมือใหม่ ไม่แน่ใจว่าตัวไหนดี
แต่ถ้าเราหาหนังสือดี ๆ สัก 2 -3 เล่มเช่น ดร.นิเวศน์และคนอื่นๆ บางที port พี่อาจมีน้อยตัวที่ดี จริง ๆ น่ะครับ

ยินดีด้วยนะครับ ที่คิดถูก อย่างน้อยซื้อ cover ตลาด

เอาเป็นว่า สำหรับผมนะครับ ณ ตอนนี้ปัญหาคือ port เราจะจัดการยังไงดี

พี่ ๆ หลายคนที่ให้คำแนะนำ เห็นด้วยน่ะครับ

ค่อย ๆ ศึกษาไปนะครับ อ่านหนังสือ อ่านกระทู้ในเว็บนี้บ่อย ๆ ก็เก่งขึ้นได้น่ะครับ ที่สำคัญผมอยากแนะนำให้หาหุ้นจากตัวเองน่ะครับ ไม่อยากให้ฟังจากคนอื่นน่ะครับ เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าจะดีจริงหรือเปล่า หรือบางทีฟังจากคนอื่น แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่าจริงหรือไม่ครับ มีเหตุผลอะไรมา support หรือไม่ครับ (ตามหลักพหูสูตร)

(ต้องขอโทษด้วยถ้าคำแนะนำข้างบน อาจทำให้รู้สึกไม่ดีครับ)

ยังมีเยอะกว่า 2 ท่านนี้ มั๊ยครับเนี่ย    :shock:  :shock:

ดูจากราคาหุ้น เข้าใจว่าคุณซื้อมาขายไป และช่วงแรกคุณกำไร หลังๆเริ่มขาดทุน ดังนั้น อยากให้คุณทำความเข้าใจในเรื่อง วีไอเล็กน้อย ดังนี้ครับ
หุ้นที่คุณถืออยู่มีมากบริษัทเกินไป ผมเชื่อว่าคุณไม่น่าจะเข้าใจบริษัทต่างๆมากนัก ดังนั้นเป็นการเสี่ยงมากครับที่คุณจะซื้อหุ้นตัวไหนโดยไม่เข้าใจมันดีพอ เวลาผมอธิบายเรื่องนี้ ผมให้เปรียบเทียบกับเพื่อนเก่าเราครับ ตอนผมเรียนมัธยมมีนักเรียนทั้งชั้น 600คน (พอๆกับตลาดหุ้นบ้านเรา) ผมจำชื่อได้ไม่เกิน300 คน เคยเรียนด้วยกันไม่เกิน 150คน รู้จักบ้านมัน รู้จักชื่อพ่อแม่ ไม่เกิน50 คน แล้วไอ้ที่สนิทมากๆและยังคบจนแก่ปูนนี้แล้วก็ไม่เกิน20คน ดังนั้นถ้าคุณอยากลงทุน คุณกล้าลงทุนกับคนที่คุณไม่รู้จักเหรอครับ หรือคุณจะลงทุนกับเพือนที่คุณรู้ไส้รู้พุงมันเป็นอย่างดีมากกว่ากัน ถ้าคุณรู้จักเพื่อนคุณดีพอ คุณก็จะรู้ว่าเราสามารถลงทุนกับเพื่อนคนนี้ได้หรือไม่ ผมเชื่อว่าคุณคงไม่กล้าลงทุนกับผมเพียงเพราะว่าเรารู้จักกันบนเว็บหรอกครับ เช่นกันคุณคงไม่อยากซื้อหุ้นที่คุณรู้จักชื่อมันแค่บนเว็บต่างๆเท่านั้น อันนี้คุณคงได้คำตอบนะครับ
การที่คุณกำไรในช่วงแรกๆที่ตลาดขึ้นมา และเริ่มขาดทุนเมื่อตลาดเริ่มนิ่งมากขึ้น ทำให้คุณเองคงพอเข้าใจว่า ที่ผ่านมามีอะไรบ้างอย่างที่ไม่ถูกใช่ไหมครับ ไม่มีอะไรที่สายครับ คุณสามารถทำกำไรได้อยู่เรื่อยๆเมื่อคุณเริ่มเข้าใจหลักการมากขึ้น ที่ผมเขียนมานี้แค่บันไดก้าวแรกครับ ยังมีอีกหลายขั้น แต่ว่าเขียนไม่ไหวหรอกครับ คุณคงต้องอ่านเอาเองจากหนังสือที่มีคุณค่ามากๆ 1ในนั้นแนะนำ "ตีแตก" ของดร.นิเวศน์ครับ ขอให้คุณร่ำรวยนะครับ

ผมเเนะนำอย่างงิ้ครับ  ลดจำนวนหุ้นก่อน ให้เหลือซักไม่เกิน 10 ตัว โดย

1. ขายเจ้าตัวที่เราไม่รู้ว่าเขาทำหรือบริการอะไร เเบบเห็นเเล้ว งง  :?: บอกไม่ถูก เพราะมันคือความเสี่ยงเมื่อเราไม่รู้ จงเอาความเสี่ยงส่งต่อให้ท่านอื่นไปซะ  

2. ขายตัวที่มันเเดงๆออกไปครับถ้าทำใจไม่ได้ จงบอกเหตุผล ว่าซื้อมาทำไม นอกจากดูรายชื่อในนี้ ถ้าบอกไม่ได้ เเสดงว่าตอนซื้อมาหวังกำไรใช่ไหมครับ ดังนั้นตอนนี้มันขาดทุน มันไม่เป็นไปตามคาดการ จงขายมันออกไปซะ (ตัดขาดทุน)  ถ้าบอกเหตุผลที่เอามันเข้ามาในพอร์ดได้ เเสดงว่ารู้จักมันเริ่มมีความหวังกับมันเเล้ว ข้ามไปอ่านข้อต่อไป

3.ลองบอกเหตุผลมาหลายๆข้อว่าเจ้าหุ้นที่เขียวๆหรือเเดงๆนะ ชอบตัวไหนที่สุด เรียงลำดับ 1-20 นั่นหมายความว่าอยากเป็นเจ้าของเเล้ว

4. ถ้าเป็นเจ้าของเเล้วลองบอกเหตุผลต่อว่า บริษัทจะเติบโตได้อย่างไรในอีก 1ปี - 5ปี - 10ปี ข้างหน้า ต้องทำกำไรเท่าไหร่ เเล้วจะต้องปันผลให้ผู้ถือหุ้นกี่เปอร์เซ็นดี   ถ้าตอบไม่ได้ ขายมันทิ้งไปซะ

5. จากข้อ 4 ผมเดาว่า คงเหลือหุ้นไม่มาก ถ้ายังเหลือมากกว่า 10 ตัว เเสดงว่าต้องไปอ่านในห้อง ร้อยหุ้นเพื่อทำความเข้าใจในตัวบริษัทเป็นเเน่เเท้    เพราะคำถามข้อที่ 4

6. เรียงลำดับตัวที่เขียวที่สุดจนเเดง จาก 1-10   อาจจะไม่ถึง 10 ตัวก็ได้นะครับ  เเล้วขายตัวอื่นๆให้หมดครับ ถือเป็นการ Take Profit ไปในตัว

7.  เอาเงินที่ได้ เก็บไว้คอยซื้อตัวที่เก็บไว้อีกทีเมื่อจังหวะดีดีมาถึงครับ เช่นราคาร่วงเเรงๆ หรือ ราคานิ่งๆ เเต่กำไรเอาเเต่ดีขึ้นๆ ทุกไตรมาส

8. ถ้าทำตาม 1-7 ไม่ได้ เเนะนำ ให้เก็บทุกตัวเอาไว้เหมือนเดิมครับเพราะผมว่าน่าจะเป็นเเนวทางที่ชอบอยู่เเล้ว  :D

ปล เเอบอิจฉาพอร์ดครับ เห็นบางตัวเก็บได้ในราคาดีทีเดียวครับ  :P

เห็นพอร์ทของคุณ sonnesaint บอกได้คำเดียวว่า อย่าเยอะ   :lol:

ลองตัดตัวที่เราไม่รู้ว่าธุรกิจเค้าทำอะไรออกไปก่อนดีกว่ามั๊ยครับ โดยไม่ต้องสนใจว่าจะกำไรหรือขาดทุนเท่าไร
ส่วนบางตัวที่มีธุรกิจที่เหมือนกัน ก็เลือกเอาซักตัวที่เป็น No. 1 หรือในตัวที่ธุรกิจ ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นที่อย่ในธุรกิจเดียวกัน

ตาลายคล้ายจะเป็นลม เยอะเจงๆๆมึนตึบ เหมือนกองทุนเลย อิอิ

เมื่อไหร่จะกล้าซื้อเยอะอย่างพี่เค้าบ้างหนอ แค่ไม่กี่ตัวก็วิเคราะห์กันนานแล้ว

แวะมาอัพเดทพอร์ตเชิงทดลองของผม

หากต้นทุนเปลี่ยนแสดงว่ามีการซื้อเพิ่มนะคับ ^_^

ขำๆ คับ