ค่า growth

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
chanon.r
Verified User
โพสต์: 3
ผู้ติดตาม: 0

ค่า growth

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ไม่ทราบว่า วิธีหา ค่า G นั้น หาได้อย่างไรครับ
ถ้ามีวิธี เเบบ สามารถscan ง่ายๆได้ ต้องทำอย่างไรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3750
ผู้ติดตาม: 1

ค่า growth

โพสต์ที่ 2

โพสต์

หา scan ง่ายๆ ไม่ทราบครับ
แต่ที่ผมใช้อยู่
คือดูจากงบหลายๆ ปี :roll:
gold saint
Verified User
โพสต์: 60
ผู้ติดตาม: 0

ค่า growth

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เหมือนกันกับที่พี่ ส.สลึงใช้เลยครับ
ดูจากข้อมูลย้อนหลังหลาย ๆ ปีน่ะครับ ถ้าใช้ข้อมูลแค่ปีเดียว มันจะมองไม่เห็นภาพ ทั้งนี้ เราควรดูภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า และก็ตลาดของอุตสาหกรรมที่เราลงทุนด้วยน่ะครับ ว่ามันจะ support มากน้อยเพียงใด
Live to learn to live.
ภาพประจำตัวสมาชิก
หมักเตา
Verified User
โพสต์: 232
ผู้ติดตาม: 0

ค่า growth

โพสต์ที่ 4

โพสต์

วิธีสแกนเพื่อหาบริษัทที่มี growth สูงๆ อาจจะกรองจากบริษัทที่มี ROE สูงๆ ก่อน แล้วค่อยดูย้อนหลังว่า ROE สูงติดต่อกันหลายปีหรือเปล่า
แต่ต้องระวังความเสี่ยงเรื่องการเติบโตที่ได้มาจากการกู้ยืมเงินด้วย ฉะนั้น บริษัทควรมี ROA สูงตามไปด้วย

ขออนุญาตเอาเนื้อหาบางส่วนจากบทความของคุณสุมาอี้มาแปะให้ดู คลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเขียนไว้ในบล็อกส่วนตัวหรือใน settrade
วิธีที่จะตรวจสอบว่าการนำกำไรสะสมของบริษัทไปลงทุนเพิ่มนั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ตามสูตรดังนี้ g = RR x ROE โดยที่  g หมายถึง อัตราการเติบโตของกำไร  RR หมายถึง สัดส่วนกำไรสะสมต่อกำไรทั้งหมด   ROE หมายถึง อัตราส่วนผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีนโยบายจ่ายปันผล 40% ของกำไรสุทธิ แสดงว่าเก็บกำไรไว้ในบริษัท 60% ของกำไรสุทธิหรือ RR = 60% ถ้าบริษัทมี ROE 20% บริษัทควรทำให้กำไรเติบโตได้ในอัตรา 60%x20% หรือ 12% ต่อปีในระยะยาว (โดยไม่ต้องกู้เงินเพิ่มหรือเพิ่มทุน) เป็นต้น
นักลงทุนที่ชอบบริษัทที่จ่ายเงินปันผลต่อกำไรสูงๆ เช่น 80% แสดงว่าเก็บกำไรไว้ในบริษัท 20% ถ้าบริษัทนั้นมี ROE 10% บริษัทก็ควรโตให้ได้อย่างน้อย 2% ต่อปีในระยะยาว แต่ถ้าบริษัทโตได้น้อยกว่านั้นหรือไม่โตเลย แม้จะปันผลออกมามากก็ไม่ถือว่าเป็นบริษัทที่ดี

ข้อสังเกตอย่างหนึ่งของสูตรนี้ก็คือว่า สมมติว่าบริษัทไม่จ่ายปันผลเลยหรือ RR=100% จะพบว่า g = ROE ดังนั้น ทุกบริษัทจึงโตได้มากที่สุด (โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนจากภายนอก) ได้แค่ไม่เกิน ROE ของบริษัทเองเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ถ้าเราได้ยินผู้บริหาร "โม้" ว่าจะโตเฉลี่ยให้ได้ 25% ต่อปีในห้าปี แต่ถ้าเราดูแล้วบริษัทมี ROE แค่ 10% และมีหนี้สูงอยู่แล้วก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าบริษัทคงต้องมีการเพิ่มทุนเกิดขึ้นในไม่ช้า ในทำนองเดียวกัน บริษัทที่มี ROE ต่ำมาก เช่น 5% บริษัทพวกนี้กำลัง "ป่วย" เพราะถ้ากำไรจะโตก็ต้องมีการเพิ่มทุนด้วยหรือถ้าไม่อยากเพิ่มทุนก็ต้องไม่โต ใครคิดจะลงทุนในบริษัทพวกนี้ก็ต้องเตรียมเงินสดสำรองไว้สำหรับเพิ่มทุนด้วยนะครับ
กาละมัง
Verified User
โพสต์: 1230
ผู้ติดตาม: 0

Re: ค่า growth

โพสต์ที่ 5

โพสต์

chanon.r เขียน:ไม่ทราบว่า วิธีหา ค่า G นั้น หาได้อย่างไรครับ
ถ้ามีวิธี เเบบ สามารถscan ง่ายๆได้ ต้องทำอย่างไรครับ
วิธีคำนวน Growth  นั้นง่ายครับ  เพราะว่าเป็นการคำนวนเชิงคณิตศาสตร์ที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร  ใช้หลักของการ compounding

แต่หากข้อมูล 2-3 ปี ผมขอแนะนำให้ทำง่าย ๆ  โดยเอายอดขายปีท้าย ลบด้วยปีต้น  แล้วหารด้วยจำนวนปี ก็น่าจะพอถูไถได้  เพราะว่าง่ายดี  ผิดเพี้ยนไม่มาก

ถามว่าทำไม....ก็เพราะการเติบโตในอดีต  ไม่ได้หรืออาจมีส่วนสัมพันธ์ใด ๆ ในอนาคตน้อย  ในเชิงลงทุนเราควรหาคาดการณ์การเติบโตจริงในอนาคตมากกว่าจาก Qualitative analysis...โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของกำไร
โพสต์โพสต์